1

1080 Words
“เจ้าสาวหายตัวไป” “อะไรนะ!?” กลายเป็นเสียงถามเคร่งเครียด เพราะพิธีกำลังจะเริ่มอยู่แล้วในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า เจ้าบ่าวกับแขกเหรื่อกำลังนั่งรอ ล้วนแล้วแต่เป็นคนสำคัญที่ทางพ่อเลี้ยงเชิญมาด้วยตัวเอง นี่เป็นงานแต่งที่ต้องเรียกว่า รวบรัด แต่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะมีพิธีอีกครั้งเป็นการเป็นงานหลังจากนี้ “เกิดปัญหาอะไร ฮึ ทรงฤทธิ์” พ่อเลี้ยงรณชัยหันมาทางลูกชาย ในชุดสูท ชายหนุ่มหลบสายตาผู้เป็นพ่อนิดหนึ่ง “เราทะเลาะกันครับ” “แค่นั้นเหรอ” ชายหนุ่มก้มหน้างุด เวลานี้คงจะรู้แล้วว่า ว่าที่เจ้าสาวของเขาทำอย่างที่พูดจริง ๆ นั่นคือ ไม่คิดจะร่วมหัวจมท้ายใด ๆ กับเขาอีกแล้ว หล่อนไม่ได้ขู่ “ผมทำร้ายเธอ” ทรงฤทธิ์หลุดปากออกมา พ่อเลี้ยงรณชัยมีสีหน้าเคร่งเครียด ทว่า...ไม่มีคำพูดใด ๆ เล็ดลอดออกมา และท่าทีแบบนี้นั่นเองที่ทำให้ทรงฤทธิ์นึกหวาดหวั่น เพราะมันแปลความหมายได้ว่า พ่อกำลังโกรธสุด ๆ “พ่อเลี้ยงครับ” คนสนิทก้าวเข้ามากระซิบ “เพื่อให้พิธีดำเนินต่อไปได้ หาเจ้าสาวซักคนมาแทนไปก่อนสิครับ” “อืม...” พ่อเลี้ยงรณชัยเสียเวลาคิดเพียงแค่ชั่วครู่ ก่อนจะหลุดปากออกมาอย่างรวดเร็ว “รีบไปจัดการมา” “ได้ครับพ่อเลี้ยง” คนของพ่อเลี้ยงรณชัย ทำงานรับใช้มานาน สามารถจัดการปัญหาทุกอย่างให้กับเจ้านายได้ ไม่ว่าเรื่องยากเย็นแค่ไหนก็ตาม การหาผู้หญิงสักคนมาทำหน้าที่เป็นเจ้าสาวแทน ภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง อาจดูเหมือนเป็นงานยาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถ เพราะที่ยากกว่านี้ยังทำมาแล้ว ทรงฤทธิ์ ผู้สร้างปัญหา ได้แค่ก้มหน้างุด ความกล้าหาญที่เคยมีและมักแสดงออกกับผู้หญิงเวลานี้ไม่ได้มีหลงเหลืออยู่อีกเลย พ่อเลี้ยงรณชัยสามารถเก็บอารมณ์เอาไว้ได้อย่างดี จะว่าไป... โทษใครไม่ได้ ทรงฤทธิ์เป็นสายเลือดของเขา เป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียว เพราะฉะนั้นการเลี้ยงดูแต่เด็กก็มีส่วนทำให้เขากลายเป็นคนแบบนี้ การเลี้ยงลูกให้เติบโตมาเป็นคนดี มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย พ่อเลี้ยงรณชัยไม่เคยโทษคนอื่น นอกจากตัวเอง เมื่อก่อนทุ่มเททุกอย่างอยู่ที่งาน ยิ่งประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ เขาก็ใช้เวลาทั้งหมดให้กับการงานมากเท่านั้น คิดเพียงอย่างเดียวว่า ทำเพื่อลูก เพราะทั้งหมดที่มีอยู่ คนที่จะสืบทอดต่อก็คือ ทรงฤทธิ์ แต่เพียงผู้เดียว ตั้งแต่สูญเสียภรรยา ขณะที่ทรงฤทธิ์เพิ่งอยู่ ม. ต้น พ่อเลี้ยงรณชัยก็ยิ่งตามใจลูกชายคนนี้ เพราะสงสารที่ลูกกำพร้าแม่ พ่อเลี้ยงรณชัย ไม่คิดจะมีใครอีกคนเข้ามาในชีวิตอย่างจริงจัง เพราะไม่เคยเชื่อเลยว่าจะมีผู้หญิงคนไหนรักทรงฤทธิ์เหมือนที่แม่ของเขาเคยรัก แต่ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นผลร้ายหล่อหลอมนิสัยใจคอของทรงฤทธิ์ให้กลายเป็นชายหนุ่มแบดบอย ไม่เห็นค่าของผู้หญิงซักคน กี่รายมาแล้วที่ผ่านเข้ามาในชีวิต กับหญิงสาวคนล่าสุด พ่อเลี้ยงรณชัยต้องการให้ทรงฤทธิ์เป็นฝั่งเป็นฝา เขาเองก็ดูจริงจัง ประคบประหงมประคับประคองความรักผ่านพ้นมาเกือบปี จนตัดสินใจเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง ทุกอย่างอาจจะฉุกละหุกไปบ้าง แต่ไม่คิดว่ามันจะลงเอยแบบนี้อีกครั้งหนึ่ง ใบหน้ารูปไข่พริ้มเพราเหมือนตุ๊กตา ถ้าหากไม่กะพริบตาแทบจะดูไม่ออกด้วยซ้ำว่ามีชีวิต รูปร่างเพรียวบาง ส่วนสูงประมาณ 168 ต้องเรียกว่าสูงมากสำหรับสาวไทยด้วยกัน ผิวขาว ในชุดเดรสคลุมเข่า ข้างกายมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หล่อนมาถึงที่นี่ตามนัดหมาย สำนักงานใหญ่ของบริษัทส่งออกแรงงานมีฝีมือไปยังต่างประเทศ เน้นเฉพาะตะวันออกกลาง หล่อนรู้ดีว่า เมื่อไปถึงต่างประเทศนั้น งานจะเป็นแบบใด ที่นี่ไม่มีการหลอกลวง ทุกคนที่เข้ามา หมายถึงว่าได้เตรียมแล้วว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง วาวไหม ความรู้แค่มัธยมปลาย กับภาระที่หญิงสาวต้องแบกเอาไว้ คือ หนี้สินของครอบครัว หลังพ่อเสียชีวิตด้วยโรคเครียด มรสุมรุมเร้า เหลือแม่กับพี่ชายที่ยังไม่พร้อมจะช่วยเหลืออะไรได้มาก เพราะเขาเองก็มีครอบครัวต้องดูแล เพื่อนของเพื่อน เป็นคนแนะนำวาวไหมให้รู้จักกับบริษัทที่จัดส่งแรงงานหญิงไทยไปต่างประเทศ ด้วยเจตนาซ่อนเร้น ซึ่งรู้ ๆ อยู่ว่างานอะไร “น้องวาวไหม” เสียงทุ้มนั้นทำให้หญิงสาวไหวตัว หันไปมอง รอยยิ้มผุดขึ้น “คะ” “เราต้องคุยกันหน่อยนะ พอดีมีเรื่องยุ่ง ๆ” เห็นท่าทางร้อนรนของชายหนุ่มร่างท้วม คนที่พาเธอมาที่นี่ ทำให้สีหน้าของวาวไหมเปลี่ยนไป “มีปัญหาเหรอคะ” “ก็ไม่เชิงปัญหา แต่เอ้อ...มีคนต้องการตัววาวไหม เขาพร้อมจ่ายให้ทันทีแสนนึง เอ้อ...จริง ๆ แสนห้าแหละ แต่เป็นในส่วนของพี่ห้าหมื่น” “ตั้งแสน!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้น เห็นชัดว่าสีหน้าของหญิงสาวดูตื่นเต้น “ใช่” “แล้วปัญหาคืออะไรคะ” “วาวไหมไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศไง แต่อยู่ที่เมืองไทยนี่แหละ คนที่ต้องการตัววาวไหมคือพ่อเลี้ยงรณชัย... คืองี้นะ ถ้าวาวไหมตกลง เราจะไปกันเดี๋ยวนี้เลย” “ไม่ต้องไปต่างประเทศ...เงินแสนนึง...” “ใช่ครับ จ่ายสด แค่ตกลงเท่านั้น” หญิงสาวแทบไม่เสียเวลาคิด... “ทำไมพี่คิดว่าหนูจะไม่ตกลงล่ะคะ” “โอย ดีใจมาก ๆ ห้าหมื่นของพี่ เอ๊ย...ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ รถมารอแล้ว” “เร็วขนาดนี้เลยเหรอคะพี่” “ใช่สิ งานด่วน” “งานด่วน...” “ใช่ครับ ถ้าไม่รีบด่วน คงไม่ได้ พี่ว่าอาจจะเป็นโชคดีของวาวไหมด้วยแหละ” “พ่อเลี้ยงรณชัยคือใครกันคะ” “พ่อเลี้ยงทางเหนือ เจ้าของธุรกิจโรงแรม มีสาขาอยู่ในชานกรุงเทพฯ เราจะไปที่นั่น” สำหรับวาวไหมแล้ว เวลานี้ไม่มีอะไรจะเสีย เพราะนับตั้งแต่ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ โดยมอบหมายให้ เอก หนุ่มร่างท้วมเป็นคนดำเนินการให้ทุกอย่าง มันก็ต้องเรียกว่าเกินเสี่ยงแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD