ตอนที่ 5 ใช้ผัวร่วมกัน
มีนาตัวสั่นเทานั่งพับเพียบต่อหน้าเจ้านาย ใบหน้าเรียบนิ่งกับสายตาเฉยชาทำเอามือชื้นเหงื่อ เสียงเหมือนจะงมหาไม่เจอ ขบเม้มริมฝีปากไว้แน่น เหงื่อแตกพลั่ก ๆ ทั้งที่ในห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำ
“แม่บ้านที่ทำงานช่วยเธอฉันสั่งให้คนพาไปว่ายน้ำเล่นที่ทะเลแล้ว” พันแสนเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ ในมือยังควงแก้วเหล้าไปมา
“อึก!” มีนาขบเม้มริมฝีปากแรงขึ้นไปอีก เบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้เพราะความกลัวบวกกับความอึดอัด
“พูดมาสองนาที!”
“คือดิฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ ดิฉันชมชอบท่านประธานมานานยอมรับว่ามักใหญ่ใฝ่สูงและอยากเอาชนะคุณหนูเวียงพิงค์ อยากเห็นหล่อนเจ็บปวดบ้าง ขอโทษนะคะ อย่าฆ่าดิฉันเลย ดิฉันยังอยากมีชีวิตอยู่”
“เวียงพิงค์...ชื่อนี้ฉันทรมานได้คนเดียว คนอื่นอย่าเสือก เก็บความรู้สึกมานานถึงสองปีทำไมวันนี้ความร่านมันถึงพาก่อเหตุ ฉันไม่ฆ่าเธอหรอกมีอะไรที่ตื่นเต้นสำหรับคนที่หักหลังฉันให้ทำเยอะเชียวล่ะ หึ!” พันแสนสะบัดมือเล็กน้อยชายชุดดำสองคนก็เดินเข้ามาพร้อมกับถุงสีดำ คลุมศีรษะผู้หญิงในห้องก่อนจะลากออกไปเลย
“นาย! นาย! อย่าฆ่าดิฉันเลย ฮรึก! ปล่อยนะ ปล่อยนะ! กรี๊ดปล่อยนะ”
“นายครับคนของเรารายงานว่าคุณเวียงพิงค์ถูกตายายเก็บขยะเจอที่ข้างถนนพากลับไปนอนที่ข้างทางจนเช้า ไอ้สมิงโยนเธอลงมาจากรถโชคดีที่มันไม่ทำร้ายเพศแม่รถคันนั้นวิ่งไม่เร็วมากครับ หลังจากนั้นคุณเวียงพิงค์ก็เดินไปขอชาร์จโทรศัพท์กับวัยรุ่นแถวนั้น ตายายบอกคนของเราว่าคุณหนูเวียงพิงค์จะซื้อบ้านให้ใหม่ครับ”
“กูไม่อยากรู้”
“แต่นายให้นักสืบมือดีของเราออกไปค้นหาคุณหนูเองนะครับ”
“ไม่ได้ขอความคิดเห็น”
“หึ”
พันแสนเงยหน้ามองมือขวาตัวเองมันหัวเราะ ‘หึ’ ใส่หน้าเขาแล้วเดินออกไป หมายความว่ายังไง?
“ไอ้บ้าพันแสน ไอ้ผัวเส็งเคร็ง!”
ถามว่าเธอเสียใจไหม แน่นอนว่าเสียใจ แต่มันไม่ใช่พึ่งเคยเสียใจแต่เป็น 2 ปี ที่เธออ้อนวอนร้องขอความรักจากผู้ชายคนนั้น ทำไมเธอยังอยู่ตรงนี้เพราะเธอไม่ได้อยากมีสามีใหม่ ความดีและวิมานที่เขาสร้างให้อยู่มันทำให้เธอตัดใจไม่ได้และอยากทำให้เขารักเธอจริง ๆ เหมือนจะมีโอกาสสุดท้ายก็แค่เหมือน มันเจ็บแต่มันไม่ได้เหมือนจะตายอย่างที่คิด สิ่งที่รับไม่ได้เลยก็คือการนอกกายนอกใจ แต่ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำและไม่ให้คำตอบ เธอก็จะหาคำตอบสุดท้ายให้ตัวเองก่อนจะจากไปตลอดกาล
เขามองดูเธอเจ็บเจียนตายด้วยแววตาว่างเปล่า อิสระที่อยากได้ เธอจะยืดออกไป หวังว่าจะมีความสุขงั้นเหรอ ฝันไปก่อนนะพันแสน!
มีนามองดูคนเดินมาหยุดยืนข้างหน้าห้องขังใต้ดินด้วยแววตาสั่นไหวอย่างปิดไม่มิด เธอไม่คิดว่าพันแสนจะเหี้ยมโหดถึงขนาดจับผู้หญิงขังจริง ๆ หล่อนเริ่มถอยหลังเมื่อเมียแต่งเดินเข้ามาใกล้ โดยมีชายชุดดำเปิดประตูห้องขังให้
“ซ่อนความร่านไว้ได้ดี อันนี้ชื่นชม คนที่ฉันระแวงน้อยที่สุดกลับเป็นคนที่อยากได้ผัวฉันมากที่สุด มีนา” เวียงพิงค์เอ่ยเรียกคนตรงหน้าพร้อมกับยื่นมือไปจัดชุดนอนของตัวเองให้อีกฝ่าย “เธอยิ้มเหมือนรู้สึกว่าตัวเองสวย คิดอย่างนั้นจริงเหรอ ผู้หญิงที่สวยคือผู้หญิงที่มีผัวเป็นของตัวเองนะ”
แววตาคนฟังไหววูบลมหายใจติดขัดก่อนจะสะบัดมืออีกคนออกแล้วก้าวถอยหลัง สงบกว่าที่คิด ไม่โวยวาย ไม่แหกปากลั่นบ้าน ไหนว่านางนี่ต้องใจขาดตายตอนที่เห็นว่าเธอกับผัวนางนอนอยู่รวมเตียงกันไง ทำไมยังดูมีสติอยู่ได้ น่าหงุดหงิดใจจริง ๆ
เธอใจกล้าลงมือวางยาพันแสนหลังจากที่เขาเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องทำงานจนกระทั่งเกือบเช้า หลังจากที่มีชายชุดดำเดินเข้าไปในห้องแล้วกลับออกมา เธอจำได้ว่านั่นคือนักสืบมือดี จากนั้นพันแสนก็ออกมาเธอจึงใช้โอกาสนั้นยกชาไปให้เขาหลังจากอาสาอยู่ช่วยงานทั้งคืนเพื่อตอบแทนพันแสน
“อีกอย่าง เป็นเมียพันแสนไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”
ยื่นมือไปลูบไล้ใบหน้าของผู้หญิงตรงหน้าอีกครั้ง ตัวสั่นเหมือนลูกนกเปียกน้ำขนยังไม่แห้งดี ริอาจมาแย่งผัวเธอ อยากใช้ผัวร่วมกันงั้นเหรอ หึ!
“ผู้ชายที่ผู้หญิงง่าย ๆ ได้ไปแล้วฉันไม่อยากได้คืน แต่ก็ไม่รู้สินะ คนอย่างพันแสนไม่มีทางยกเธอมาเป็นเมีย ไม่ต่างกับผู้หญิงที่เขาเคยได้ผ่าน ๆ มาหรอก ทำตัวง่ายขนาดนี้อย่าหวังสูงนัก”
พรึ่บ! มือข้างขวายกขึ้นมาตั้งรับฝ่ามือที่กำลังเตรียมหวดลงมาใส่หน้าตัวเอง เวียงพิงค์เหยียดยิ้มจ้องมองผู้หญิงเจ้าเล่ห์เพทุบายตรงหน้า อยากเล่นสงครามกับเธองั้นเหรอ ไปหัดร้ายกว่านี้ก่อน อยากตบหน้าเธอนั่นไม่ใช่ปัญหาแต่ผู้หญิงตรงหน้าไม่มีปัญญาต่างหาก!
“อยากตบฉัน?” เวียงพิงค์สะบัดมือนั่นออกราวกับต้องของร้อน แน่ล่ะ มันเป็นของง่ายแสนน่ารังเกียจ “หล่อนไม่คู่ควร!”
“มีนา คุณมือขวาเรียก!” การ์ดเดินเข้ามาในห้องขัง เป้าหมายคือหญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดนอนเนื้อผ้าบางเบาเห็นถึงไหนต่อไหน
“อย่ามาจับ ฉันเดินออกไปเองได้!”
หลังจากที่มีนาเดินออกไปแล้วคนที่แสร้งเข้มแข็งทรุดลงไปนั่งกับพื้นอีกรอบ ยกมือขึ้นมาทุบที่ตำแหน่งหัวใจ แม่งโคตรหน้าชา เสียหลัก ถูกหักหลัง ต้องใช้ผัวร่วมกับหญิงอื่น แต่เธอยังมีหน้าปากดีต่อได้อีกทั้งที่แข้งขาอ่อนแรงแทบยืนไม่อยู่ ไม่ได้พักผ่อนมากี่ชั่วโมงนับไม่ได้
เดินโซซัดโซเซมาถึงบ้านทรุดตัวลงที่พื้นห้องรับแขกอีกครั้งเพราะสมองมึนตึ้บ จนต้องยกมือมาทุบตรงขมับแรง ๆ
“ลุกขึ้นมา มีเรื่องจะคุย”
เสียงนี้แหละหล่อนจำได้ เป็นเสียงของผู้ชายสารเลว พาผู้หญิงคนอื่นมานอนกกถึงในห้องหอ บัดซบเหลือแสน!
“...” จะแถยังไง หลักฐานตำตา หรือจะบอกว่าถูกวางยาทั้งที่ลูกน้องตัวเองเต็มบ้านอย่างนั้นเหรอ
“ฉันกลับมาถึงที่นี่ตอนตีห้า จากนั้นไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่า ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง ส่วนเรื่องนั้น...ไม่ได้รู้สึกว่าถูกทำและฉันไม่ได้ทำ แค่บอกไว้” พันแสนไม่รู้ทำไมต้องเดินมาอธิบายทั้งที่รถวิ่งมาจอดรอรับอยู่ด้านหน้าแล้ว “จะเชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของเธอ”
เวียงพิงค์ไม่ตอบตอนนี้เธออยากบีบคอคนใบหน้าจองหองให้ตาย ๆ ไปซะ พูดง่ายซะเหลือเกิน บอกให้เชื่อหล่อนก็ต้องเชื่องี้เหรอ หึ!
จะเอาแบบนี้ใช่ไหมพันแสน!
เวียงพิงค์เดินกลับมาที่ห้องนอนเจ้าปัญหา มุมปากหยัดยิ้มอีกครั้งก่อนจะยืนหัวเราะอยู่คนเดียวกลางห้อง
ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาก่อนที่จะเดินไปยังมุมห้องแหวกดอกไม้ปลอมออกจากกัน ขอบคุณที่ตัวเองระแวง โรคจิตแอบติดกล้องแล้วกัน ว่าจะเอาไว้ดูผัวไม่คิดว่าจะได้เอาไว้ดูชู้ผัวด้วย
พรึ่บ! ร่างบางเซล้มลงเมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้าย สายตามองไว้แล้วว่ามีสาวรับใช้อยู่ใกล้ ๆ
“ว้าย คุณหนูคะ ป้าแย้มคะ คุณหนูเป็นลมตกบันไดลงมาค่ะ!” สาวใช้ตะลีตะลานทิ้งทุกอย่างในมือวิ่งเข้าไปช่วยพยุงเมียเจ้าของบ้านขึ้นจากพื้น หลังจากนั้นสาวใช้อีกหลายชีวิตก็พากันวิ่งมาชุมนุม
“ไป ๆ ช่วยกันอุ้มคุณหนูไปนอนที่โซฟาก่อน”
สาวใช้พากันแบกหามเวียงพิงค์ไปนอนที่โซฟา คนสลบสะลืมสะลือราวกับละเมอความในใจออกมาเพราะพิษไข้ แต่ความจริงคือจงใจ...
“ฮรึก ทำไมคุณต้องเล่นชู้กับเลขาฯ ตัวเอง พันแสนคุณนอกใจเวียง ฮรือ ๆ”
สาวใช้ต่างพากันตาโตหันมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย แน่นอนว่าถ้าเรื่องใหญ่ขนาดนี้หลุดออกไปก็เหมือนหัวพวกเราที่จะหลุดออกไปด้วย
“นั่นไง คุณเวียงมีไข้จริง ๆ ด้วย ละเมอแหละ” ป้าแย้มคือป้าแม่บ้านทำงานที่นี่มานาน สิ่งที่คุณหนูเวียงพูดออกมาไม่สามารถหลุดออกไปจากที่นี่ได้ ต้องเหยียบให้มิด “ทำเหมือนไม่ได้ยินไปนะพวกเอ็ง ถ้าเรื่องหลุดหัวพวกเอ็งก็หลุดออกจากบ่าเหมือนกัน ไป ๆ นางชมพู่ไปเอากะละมังกับผ้าเช็ดตัวมา ส่วนพวกเอ็งแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง ไปไป๊”
สาวใช้หน้าม่านไม่เกินจริง แต่ละคนคันปากยุบยิบตามประสาคนช่างเมาท์อยากพูดใจแทบขาด ต่างคนต่างวิ่งออกไปแล้ว สรุปคือมาเจอหน้ากันในห้องครัวโดยไม่ได้นัดหมายอีกครั้ง
“เฮ่ย! พวกแกมารวมตัวกันทำไม”
“แหม ป้าแย้ม ป้ามาทำไมล่ะคะ” ชมพู่กวักมือเรียกหัวหน้าแม่บ้านมาร่วมวง “ฉันว่าแล้วนายไม่เคยตื่นสายเลยสักวัน เมื่อคืนเลขาฯ ก็ไม่กลับ ซื้อไม่ถูกแค่หวยจริง ๆ”
“ไม่คิดเลยว่านายจะเป็นคนแบบนี้เนอะ”
“นั่นสิ ถึงคุณเวียงจะเหมือนอสรพิษร้ายแต่ไม่เคยทำเรื่องคาว ๆ แบบนี้นะป้า และคุณเวียงก็รักนายจริง ๆ ผู้หญิงด้วยกันดูออก ใช่ไหมป้า”
“นั่นสิ แต่คนรวยอะเนอะ ยิ่งนายต่อให้มีเมียสิบก็ไม่แปลก อยู่ดีกินอิ่มทุกคนแน่ เฮ่ย! หยุดเลยนะพวกเอ็ง ไป ๆ แยกย้ายกันไปทำงาน ชมพู่แกไปดูคุณเวียงสิ”
“ค่ะป้า” ชมพู่วิ่งออกไปพร้อมน้ำในกะละมัง แต่มิวายวิ่งกลับมาหน้าตื่น “ป้า!”
“อะไรของเอ็ง ตกใจหมด!”
“คุณเวียงนั่งถ่ายรูปอยู่สวนหลังบ้านนู่นค่ะ ไม่เหมือนคนป่วยเลย”
“ฮะ จริงเหรอ?”
“จริงสิป้า ฉันเห็นแต่หลังไว ๆ เดินถ่ายรูปไปทางนู้นแน่ะ!”
“ไม่ได้ป่วยหรอกเหรอ?”
“อ้าว ฉันจะรู้ไหมป้า”
อีกฝั่งคนที่ไม่เคยแม้แต่จะเดินมาบริเวณสวนหลังบ้านเพราะเหตุผลหลาย ๆ อย่างวันนี้เดินมาด้วยทีท่าเหมือนแมวย่อง เหลือบตาไปเห็นคนสวนผู้ชายจึงขยับเข้าไปประชิดอีกนิดแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู มุมปากจุดยิ้มร้าย
“ใช่แก ฉันไม่คิดว่ากลับมาจะเจอเขานอนกอดอยู่กับแม่เลขาฯ เนื้อตัวล่อนจ้อน ฮรึก! ใช่แก ฉันเสียใจ แต่เขามีเงินมีอำนาจไม่เป็นข่าวหรอก ขู่ฉันให้เหยียบข่าวให้มิดไม่อย่างนั้น...แก ช่วยฉันด้วยสามีฉันนอนกับผู้หญิงคนอื่น ฮรึก”
เฮือก!...นั่นเป็นเสียงคนตกใจ เวียงพิงค์เหล่ตาไปมองตามแผนหลัง เดินออกไปไว ๆ จากจุดตัดหญ้า มุมปากแต้มยิ้มสะใจ ดึงโทรศัพท์ออกจากหู หล่อนมีเพื่อนที่ไหนกัน หึ!
2 ปีที่เป็นนางโง่ยอมรับการกระทำดิบเถื่อน ไม่แคร์ ไม่ไว้หน้า ทำเหมือนเธอเป็นกาฝากในบ้านทั้งที่เป็นเมียแต่ง เริ่มเชื่อในประโยคที่คนว่า เจ็บให้สุดมันถึงจะออกมาได้ วันนี้เธอก็ยังเจ็บแถมยังเจ็บมากด้วย แต่การนอนร้องไห้น้อยเนื้อต่ำใจในห้องมืด ๆ ทำมาถึง 2 ปีแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมิสู้ลุกขึ้นมาทำให้เขารู้ว่าเธอมันก็ลูกเจ้าคนนายคน เรียนจบมหาลัยดัง ไม่ใช่คนที่เขาจะเอาไปยัดไว้ในตำแหน่งไหนก็ได้ อยากได้เป็นเมียก็พูดดี หมดประโยชน์ก็กลายเป็นซาตานร้าย
ความคิดชั่ว ๆ ไม่เคยมีในหัวจนกระทั่งมารู้จักพันแสน ก็ดี เขาจะได้รู้ว่าลูกศิษย์ของเขาคนนี้มันน่าภูมิใจแค่ไหน หึ!