บทที่ 5 นางมารร้าย 100%

1191 Words
“ปะ...ปล่อย” เสียงหล่อนเริ่มขาดห้วง ใบหน้าเริ่มแดง “อยากสวยนักใช่ไหม อย่างเธอไม่คู่ควรกับเครื่องสำอางราคาแพงของแก้วตาหรอก” เขาเปิดน้ำในอ่างล้างหน้า กดใบหน้าหล่อนลงไปในอ้าง ควักน้ำมาถูหน้าณัฐรวีแรงๆ มือใหญ่ยังบีบคอหล่อนอยู่เช่นกัน “อย่างเธอดักดานอยู่ที่นี่น่ะดีแล้ว” “คุณเมฆ...แค่กๆ พะ...พอค่ะ” ณัฐรวีสำลักน้ำ พูดขาดๆ หายๆ “พอเหรอ ฉันจะพอต่อเมื่อฉันอยากพอ อยากหาที่หมายใหม่งั้นเหรอ อย่าหวังเลย” เมฆาไม่รู้ตัวเลยว่า การกระทำของตนเองมีความหึงหวงเป็นตัวชักนำ ยิ่งเขานึกถึงคำพูดของเพื่อนรัก และสายตาของชายอื่น เขารู้สึกทนไม่ได้ หล่อนไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น ณัฐรวีจะอยู่หรือไปจากที่นี่ เขาคือคนกำหนดเพียงคนเดียว ในขณะที่ณัฐรวีกำลังถูกลงโทษ เนาวรัตน์ได้เดินมายังห้องนอนของบุตรชาย นางสาวเท้าเร็วขึ้นเมื่อได้ยินเสียงณัฐรวีดังออกมาจากในห้อง แต่จับใจความไม่ได้ว่า หล่อนพูดว่าอะไร แต่เป็นเสียงที่ทำให้เนาวรัตน์อยู่นิ่งไม่ได้ นางรีบผลักประตูห้องนอนที่เปิดแย้ม เร่งฝีเท้าไปยังต้นเสียง และภาพที่นางเห็นเรียกความตกใจและสงสาร “เมฆ! หยุดนะ หยุด เป็นบ้าอะไร” เนาวรัตน์ตะเบ็งเสียงพูด โดยไม่กลัวว่าใครจะได้ยิน เพราะคนรับใช้และคนในบ้านอยู่ในงาน ซึ่งในงานก็กำลังมีดนตรีสร้างความครื้นเครง กลบเสียงของตนไปในที “แม่บอกให้หยุดไงล่ะ” เนาวรัตน์คิดว่า แค่พูดห้ามเมฆาคงไม่ฟังและไม่ทำตามแน่นอน นางจึงปรี่ไปหาลูกชาย ดึงแขนกำยำของเมฆาด้วยแรงทั้งหมดที่มี เมฆาหันมามองมารดาและยอมถอยห่างร่างณัฐรวีที่รูดตัวลงไปนั่งกับพื้น ไอแค่กๆ จากการสำลักน้ำและหายใจไม่ออก “แม่บอกให้หยุด เป็นบ้าอะไรถึงทำกับรวีแบบนี้” “รวีใส่ชุดที่ผมตัดให้แก้วตาใส่ครับ” เมฆาตอบ ทันทีที่เขาตอบจบ ฝ่ามือเนาวรัตน์ตบลงบนแก้มลูกชายราวกับตบเตือนสติ “ผมก็เลยฉีกเสื้อผ้าตัวนี้ออก ในเมื่อแก้วตาไม่ใส่ รวีก็ไม่มีสิทธิ์ใส่” “แกจะบ้าเหรอ เรื่องแค่นี้ถึงต้องทำอย่างนี้เชียวเหรอ ภาพที่แม่เห็น แกกำลังจะฆ่ารวีนะ” เนาวรัตน์ไม่คิดว่า จะด้วยเหตุผลเพียงแค่นี้ที่ทำให้เมฆาขาดสติ ลงไม้ลงมือกับณัฐรวีราวกับฆ่าแกง หาใช่สั่งสอน “คุณแม่ไม่รู้อะไร ที่รวีแต่งหน้าแต่งตัวสวยเพราะอยากให้ผู้ชายมอง จะได้มาขอทำเมีย” “แล้วไงล่ะ ไม่ดีหรือไง มันจะได้ไปจากที่นี่ ไม่อยู่ให้เราเจ็บใจและแค้น แกเองก็ลงโทษรวีมาตั้งหลายปี มันทั้งทุกข์ทั้งเจ็บตัวมาก็เยอะ ถ้ามันจะไปเป็นเมียคนอื่นก็ไม่เห็นต้องแคร์ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้าผู้ชายคนนั้นรู้ว่า รวีเป็นนางบำเรอของแก เขาอาจไม่จริงใจกับรวีก็ได้ ของเหลือเดนไม่มีใครเขาอยากได้หรอก มันสวยก็จริงแต่สวยไม่รูปจูบไม่หอม แกจะเดือดร้อนทำไม” จริงด้วย...เขาจะเดือดร้อนไปทำไม คำพูดของมารดาทำให้เมฆานิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง เขาเพิ่งรู้ตัวเองว่า แรงโทสะของตนเกินครึ่งหนึ่งมาจากความไม่พอใจที่มีชายหลายคนพุ่งความสนใจไปที่ณัฐรวี หาใช่เรื่องเสื้อผ้าชุดเรือนหมื่น เนาวรัตน์ดึงร่างบุตรชายให้ออกมาจากห้องน้ำ มองเมฆาด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนหันไปมองณัฐรวีที่ยังร้องไห้ตัวโยน นางเห็นรอยนิ้วเมฆาอยู่ตรงบริเวณลำคอณัฐรวี ซึ่งนางก็รู้ว่า รอยนั้นเกิดจากอะไร ถ้าหากนางมาช้า เมฆาอาจพลั้งมือฆ่าณัฐรวีก็เป็นได้ “แม่ก็เกลียดมันนะ แต่แม่ไม่คิดจะทำร้ายมันแบบนี้ เพราะคิดว่ามันโดนเมฆกระทำก็สาสมพอแล้ว ลูกเป็นผู้ชายแม่ไม่เคยสอนให้ทำร้ายผู้หญิง แม่บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่า แม่ไม่พอใจมากที่ลูกทำตัวเหมือนหน้าตัวเมีย ครั้งนี้แม่ขอเป็นครั้งสุดท้ายนะที่เมฆทำอย่างนี้กับรวี ถ้าแม่รู้และเห็นอีกล่ะก็ เจอดีแน่” เป็นครั้งแรกที่เนาวรัตน์ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของลูกชาย “ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัยเอา ไปสิ” ในใจเมฆายังคงมีความเดือดอยู่ แต่ก็ต้องเดินออกจากห้องนอนของตนตามคำสั่งมารดา ทว่ามิวายส่งสายตาพิฆาตให้นางบำเรอส่วนตัว “ลุกขึ้นรวี” เนาวรัตน์บอกคนกำลังร้องไห้ที่เงยหน้ามองคนสั่ง ใบหน้าณัฐรวีตอนนี้เรียกความสงสารได้มากโข คราบเครื่องสำอางถูกลบล้าง แต่ยังมีให้เห็นตรงริมฝีปาก ส่วนชุดเดรสราคาหลายหมื่น ตอนนี้หาค่าของมันไม่ได้เลย ขาดวิ่นจนเห็นชุดชั้นใน “กลับห้องไปซะ แล้วไม่ต้องออกมาอีก ในงานไม่มีใครต้องการแกหรอก ขาดแกสักคนงานก็เดินต่อไปได้” เหมือนจะเป็นคำพูดเห็นใจ แต่แฝงไว้ซึ่งคำพูดทำร้ายจิตใจ ทำให้ณัฐรวีรู้สึกว่า ตนเองไม่มีค่าสำหรับใครที่นี่สักคน อากาศธาตุยังมีคุณค่ามากกว่าตนเสียอีก “แล้วทีหลังก็อย่าสะเออะใส่ชุดของแก้วตาล่ะ เมฆสั่งตัดชุดนี้ให้แก้วตาใส่ ไม่ใช่แก แกโดนอย่างนี้ก็ถือว่าสมควร คงเห็นล่ะสิว่าสวยเลยขอแก้วตาใส่” ไม่วายต่อว่าไปหนึ่งชุด “กะ...แก้วตา...ฮือ...ให้รวีใส่...ใส่ชุดนี้....อะ...เองค่ะ” แม้ว่าประโยคจะขาดท่อน แต่ก็พอฟังให้เข้าใจได้ “รวี...ไม่...ไม่ได้ขอแก้วตา” นิสัยอย่างหนึ่งของณัฐรวีที่เนาวรัตน์รู้คือ ณัฐรวีไม่มีนิสัยโกหก ทว่าคำพูดของอีกฝ่ายครั้งนี้ นางไม่อยากเชื่อ แก้วตาจะให้ณัฐรวีใส่ชุดนี้ทำไม ในเมื่อก็รู้ดีว่า เมฆาตั้งใจให้แก้วตาใส่ชุดนี้ในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดกิ่งโพยม “แก้วตาไม่มีวันให้แกใส่ชุดนี้หรอก” เนาวรัตน์มั่นใจตามคำกล่าว “แกไปได้แล้ว ถ้าไม่รีบไปเผื่อเมฆกลับมา บางทีฉันอาจช่วยแกไม่ได้นะ” ณัฐรวีรีบนำพาร่างตนเองออกจากห้องนอนของเมฆาตามคำสั่งเนาวรัตน์ เท้าเดินสมองก็คิดว่า ไม่มีใครช่วยตนจากเมฆาได้ ต่อให้เข้าไปอยู่ในห้องปิดประตูล็อกลูกบิด เขาก็สามารถเข้ามาในห้องตนได้ง่ายได้เพียงใช้ลูกกุญแจไข มีทางเดียวที่ตนจะรอดพ้นจากเงื้อมมือเมฆา และหนีจากความเจ็บปวดทั้งปวงคือ ต้องไปจากที่นี่ ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะหนีพ้น ทางไหนล่ะที่จะไปจากที่นี่ เวลานี้ณัฐรวีเริ่มมีความคิด...คิดหนีอสูรร้ายในคราบเทพบุตร  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD