บทที่ 2 ทาสในเรือนเบี้ย 20%

1247 Words
หญิงสาววัยย่างยี่สิบสองปีโปรยยิ้มหวานให้คนงานและสาวใช้ที่ทำงานอยู่หน้าบ้าน แก้วตาแวะทักทายตามประสาคนเพิ่งกลับมาบ้าน ก่อนเดินเข้าไปในบ้านเพื่อหาเจ้าของบ้านที่รอการกลับมาของตน           “คุณป้าขา” แก้วตาคือเจ้าของเสียง หล่อนโผกอดร่างเนาวรัตน์ที่กอดตอบร่างเล็กด้วยความรักและคิดถึง “คิดถึงคุณป้าที่สุดเลยค่ะ”           คำคิดถึงมาพร้อมกับปลายจมูกกดลงบนแก้มของเนาวรัตน์ทั้งซ้ายและขวา           “ปากหวานเหมือนเดิมนะเราเนี่ย”           “ปากหวานที่ไหนกันคะ คิดถึงคุณป้าจริงๆ ค่ะ พอว่างปุ๊บก็รีบมาหาคุณป้าเลยค่ะ”           ตอนนี้แก้วตากำลังศึกษาแพทยศาสตร์ชั้นปีที่สาม หล่อนจึงไม่ได้กลับบ้านบ่อยนัก เนื่องจากเรียนหนักและต้องทำกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัยอีกด้วย ซึ่งเนาวรัตน์ก็รู้ถึงเหตุผล           “คิดถึงแต่แม่ ไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอ พี่น้อยใจนะ” เมฆาที่เดินถือกระเป๋าเดินทางแก้วตาเข้ามาในบ้านพูดขึ้น ก่อนไปทรุดกายนั่งข้างมารดา แก้วตารีบลุกมานั่งข้างพี่ชายนอกสายเลือด กอดและหอมพี่ชายอย่างเอาใจ           “คิดถึงพี่เมฆเหมือนกันค่ะ รักพี่เมฆด้วยค่ะ” เมฆามองหน้าสาวสวยตรงหน้าที่ตนปักใจรักมานานหลายปีด้วยรอยยิ้ม มือใหญ่วางลงบนศีรษะหล่อนแล้วโยกเบาๆ           “อย่าไปรักใครล่ะ พี่หวง” เมฆาใช้ความเป็นพี่ชายกันชายหนุ่มที่มักแวะมาขายขนมจีบให้แก้วตาเนืองๆ ทุกคนคิดว่า เขาหวงแก้วตาตามประสาพี่ชายหวงน้องสาว แต่แท้จริงแล้ว เขาหวงไว้เพื่อตัวเองต่างหาก เมฆาเคยคิดเล่นๆ ว่า หากแก้วตามีคนรักและแต่งงานมีครอบครัว เขาคงใจสลาย อยู่อย่างเจ็บปวดหัวใจไปตลอดชีวิตแน่นอน “ถ้าพี่เมฆไม่อนุมัติ แก้วตาก็จะไม่มีใครค่ะ แก้วตาอยู่กับพี่เมฆกับคุณป้าไปตลอดชีวิตได้ค่ะ” แก้วตาพูดด้วยรอยยิ้ม “รวีไปไหนคะคุณป้า แก้วตาซื้อของมาฝากรวีหลายอย่างเลยค่ะ” แก้วตาถามถึงณัฐรวี คนถามไม่ได้เกลียดชังณัฐรวีตามคนในบ้าน หล่อนกลับสงสารที่อีกฝ่ายถูกมารดาทิ้งให้อยู่กับคนไม่ชอบหน้า แก้วตารู้ว่าเนาวรัตน์ กิ่งโพยมและเมฆาชิงชังณัฐรวีเข้าไส้ แต่ไม่รู้ว่า ณัฐรวีต้องเจอกับอะไรบ้างตอนที่ตัวเองไม่อยู่บ้านหลังนี้ “จะซื้อมาฝากรวีทำไมให้สิ้นเปลือง พี่ว่าเก็บเงินไว้ใช้ดีกว่า รวีอยู่ที่นี่ไม่ต้องใช้อะไรมาก มีข้าวให้กิน มีที่ซุกหัวนอนก็พอแล้ว” เจ้าของเสียงคือเมฆา “แก้วตาสงสารรวีนี่คะ รวีใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ มาตั้งหลายปีแล้ว แก้วตากลับมาบ้านทีไรก็เห็นใส่แต่ชุดเดิมๆ บางตัวก็หมองและเก่า เงินที่ซื้อเสื้อผ้าให้รวีก็ไม่ได้มากด้วย ไม่ถึงพันค่ะ” เมื่อก่อนตอนเชษฐายังมีชีวิตอยู่ เรื่องเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว ณัฐรวีมีมากกว่าแก้วตาหลายเท่า เป็นเพราะเชษฐารักและเอ็นดูณัฐรวีในฐานะลูกเลี้ยงมาก ซื้อให้มากกว่าลูกตัวเองเสียอีก เสื้อผ้ามีถึงสี่ตู้ แต่พอเชษฐาจากโลกนี้ไป ทุกอย่างตรงกันข้าม เมฆานำเสื้อผ้าของณัฐรวีไปบริจาคเหลือเพียงสิบชุด ไม่รวมชุดชั้นในที่เหลือเพียงห้าชุดเท่านั้น และนับแต่นั้นจนมาถึงวันนี้สามปีเศษ ณัฐรวีไม่เคยได้เสื้อผ้าใหม่อีกเลย ต่างกับแก้วตาที่ได้ทุกอย่างที่ณัฐรวีไม่ได้ ส่วนเรื่องเงินและเครื่องประดับที่เชษฐาซื้อให้ เมฆาก็ริบไว้จนหมด พูดได้ว่าณัฐรวีเหลือแต่ตัวกับเสื้อผ้าเก่าๆ เท่านั้น  “แม่ว่า แค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุดคงไม่เป็นไรมั้ง ให้มันมีใหม่ๆ บ้างก็ได้ ที่มันใส่อยู่ก็เก่ายิ่งกว่าคนใช้ในบ้านใส่ซะอีก” เนาวรัตน์นึกเวทนาณัฐรวีในบางครั้ง แต่พอนึกถึงการกระทำของรุ่งวดี ความเกลียดชังก็พุ่งใส่ใจทันที และนั่นทำให้นางมาลงกับณัฐรวี “ใช่ค่ะพี่เมฆ แค่เสื้อผ้าไม่กี่ชุดเองค่ะ” แก้วตาบอกเมฆาที่อารมณ์ตึงขึ้นมาทันใด “ว่าแต่รวีไปไหนคะคุณป้า” “ไปไร่เพียงฟ้า” เนาวรัตน์ตอบ “ก่อนหน้าที่เมฆกับแก้วตาจะมาถึงบ้าน ภูเอาผลไม้และรังนกมาให้แม่น่ะ บอกว่าสมสมรฝากมาให้ แล้วที่ไม่ได้มาด้วยตัวเองเพราะปวดเมื่อยตัว แล้วก็ปวดขาลุกเดินไม่สะดวก บ่นๆ ว่าหมอนวดที่ไหนก็นวดไม่ถูกใจ แม่ก็เห็นว่าสมสมรมีน้ำใจกับแม่ก็เลยให้รวีไปนวดให้สมสมรน่ะ รวีนวดเก่ง แม่คิดว่าคงถูกในสมสมร เย็นๆ ภูจะมาส่งที่บ้าน” เรื่องการนวด ณัฐรวีถือว่ามีฝีมือมาก หล่อนมักนวดให้เนาวรัตน์และกิ่งโพยมบ่อยๆ นวดทีไรกล้ามเนื้อรู้สึกคลาย ผ่อนคลายร่างมาก “ดีจังค่ะ รวีจะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง เผื่อไปเจอหนุ่มๆ หล่อๆ รวยๆ รับไปเลี้ยงดู คุณป้ากับพี่เมฆจะได้ไม่ต้องทนขัดตา” แก้วตาไม่ได้พูดประชด หล่อนมีความคิดว่า หากณัฐรวีไม่อยู่ในบ้านหลังนี้ หรือออกไปจากชีวิตเนาวรัตน์กับเมฆา ทุกคนจะมีความสุข ไม่เว้นแต่ณัฐรวีก็จะได้เป็นอิสระ ไม่ต้องทนถูกกดขี่ ต่อว่า และถูกใช้งานยิ่งกว่าทาส คำพูดประโยคนี้ของแก้วตา ทำให้เมฆาถึงกับหูผึ่ง ฉับพลันภาพณัฐรวีตกอยู่ในอ้อมกอดชายอื่นฉายขึ้นมาในหัว รู้สึกผิดแปลกใจอกขึ้นมาทันใด แต่ก็พยายามเก็บความรู้สึกนั้นไว้สุดกำลัง “พี่กลัวว่าจะไม่มีผู้ชายคนไหนเหลียวมองมากกว่า หน้าตาก็งั้นๆ แต่งตัวก็โทรม ใครจะมามอง” เมฆาพูดขึ้น “อีกอย่างนึงนะ...” เมฆารีบระงับเสียงที่กำลังจะเอ่ยออกมา หากเขาพูดประโยคนี้ไป รับรองได้ว่า แก้วตาคงรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนกับณัฐรวดี ‘ดีนะที่หยุดพูดได้ทัน ไม่งั้นความแตกแน่’ เมฆาพูดกับตัวเองในใจ “อีกอย่างอะไรคะ” แก้วตารีบถาม “อีกอย่างนึงก็คือ พี่ไม่อยากให้รวีไปจากที่นี่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม จนกว่าพี่จะตามหาตัวแม่ของรวีเจอ” เขาหาคำแก้ตัวได้อย่างหวุดหวิด “พี่ว่าแก้วตาขึ้นไปพักที่ห้องดีกว่านะ มาเหนื่อยๆ อย่าพูดเรื่องรวีให้หงุดหงิดรำคาญใจเลย เดี๋ยวเย็นนี้เราจะได้กินอาหารฝีมือคุณแม่กัน คุณแม่เตรียมทำกับของโปรดให้น้องสาวพี่เพียบเลยนะ” “เมฆพูดถูก อย่าพูดถึงรวีมากนักเลย แค่เห็นหน้ามันทุกวันก็เต็มกลืนแล้ว” เนาวรัตน์เห็นด้วยกับคำพูดบุตรชาย “ค่ะคุณป้า” แก้วตาทำตามอย่างว่าง่าย หล่อนเดินขึ้นไปชั้นบนโดยถือกระเป๋าเดินทางของตนขึ้นไปด้วย คล้อยหลังแก้วตาขึ้นไปชั้นบน การสนทนาของสองแม่ลูกก็เริ่มขึ้น “ดูท่าทางลูกจะไม่ชอบใจที่รวีไปไร่เพียงฟ้า” คนเป็นแม่ดูปฏิกิริยาลูกชายออก แม้ว่าอีกฝ่ายจะเก็บไว้มิดชิดก็ตามที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD