ไร่ดุจตะวัน
ราวบ่ายสามโกงรถมินิแวนคันหรูแล่นมาจอดหน้าบ้านไม้สักทองหลังงามของไร่ สตรีวัยเจ็ดสิบเอ็ดปีก้าวลงมาจากรถ โดยมีอิ่ม วัยห้าสิบสองปี คนรับใช้ส่วนตัวก้าวตามลงมา สายตาเย่อหยิ่งของกิ่งโพยมมองไปยังหน้าประตูบ้าน นางยิ้มกว้างเมื่อเห็นร่างแก้วตาเดินออกมา แล้วโผกอดนาง
“คุณย่าขา คิดถึงคุณย่าที่สุดเลยค่ะ” แก้วตากอดร่างกิ่งโพยม เอ่ยบอกความคิดถึงให้ฟัง
“ย่าก็คิดถึงแก้วตา” แม้ว่าแก้วตาจะไม่ใช่หลานในสายเลือด ทว่าความรักความเมตตากลับมีให้แก้วตาเต็มเปี่ยม ต่างกับอีกคนที่มีแต่ความเกลียดชัง แค้นเคือง “รอบนี้มาอยู่กี่วันลูก”
“หนึ่งอาทิตย์ค่ะ กลับหลังงานวันคล้ายวันเกิดคุณย่าสองวันค่ะ” แก้วตาตอบ “แก้วตาจ้างแม่ครัวจากร้านศรีวรางค์มาทำกับข้าวเลี้ยงแขกในงานนะคะ ทางร้านส่งรายชื่ออาหารมาให้แก้วตาเมื่อเช้านี้ แก้วตาจะให้คุณย่าเป็นคนเลือกนะคะว่าต้องการอาหารอะไรบ้าง”
“ขอบใจนะลูกที่เป็นธุระให้ย่า”
“คุณย่ามาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักบนห้องดีกว่านะคะ อาบน้ำให้สดชื่น อาบเสร็จแก้วตาจะนวดให้คุณย่าค่ะ นั่งรถมาไกลๆ คงเมื่อยน่าดู” กิ่งโพยมไม่ชอบนั่งเครื่องบิน ทุกครั้งที่มาไร่ดุจตะวัน ยานพาหนะที่นำนางมาไร่แห่งนี้คือรถยนต์
“ก็ดีเหมือนกัน ย่าเมื่อยขามากเลย”
“คุณย่ากับป้าอิ่มขึ้นไปบนห้องเลยค่ะ เดี๋ยวแก้วตาจะไปเอาน้ำส้มคั้นเย็นๆ ขึ้นไปให้ดื่มค่ะ” แก้วตาเอาใจกิ่งโพยมเต็มที่ กิ่งโพยมพยักหน้ารับรู้ ก้าวเดินเข้าไปในบ้านพร้อมอิ่ม ส่วนกระเป๋าเดินทางเป็นหน้าที่ของสมปอง คนขับรถ
แก้วน้ำส้มคั้นถูกวางลงบนโต๊ะตัวเตี้ยตรงหน้ากิ่งโพยม ส่วนอีกแก้ว แก้วตาส่งให้อิ่มที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างเจียมตัว เจียมฐานะ ทั้งสองดื่มน้ำส้มคั้นไปครึ่งแก้ว ก่อนว่างมันลงบนจานรองแก้ว
“ชื่นใจดีจัง” กิ่งโพยมพูดขึ้น
“ส้มจากไร่เราเองค่ะคุณย่า ทั้งหวานและปลอดภัยจากสารเคมี” แก้วตาว่า “คุณย่าจะอาบน้ำเลยไหมคะ ถ้าอาบเลยแก้วตาจะได้จัดเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้คุณย่าผลัดเปลี่ยน”
“ให้อิ่มทำหน้าที่เองดีกว่าค่ะ อิ่มจะตกงานเอานะคะ คุณแก้วตาเล่นแย่งหน้าที่ดูแลคุณท่านแบบนี้ อิ่มก็แย่สิคะ” อิ่มรีบพูด
“แก้วตามีคุณย่าคนเดียวนี่คะ นานๆ ที่จะได้เจอคุณย่าด้วย แก้วตาก็อยากดูแลคุณย่า”
“น่ารักจริงๆ เลยหลานย่า” กิ่งโพยมยิ้มแป้นกับประโยคที่ได้ยิน “นังอิ่ม แกก็กลัวไม่เข้าเรื่อง แกคงจะดีใจน่าจะถูกที่ไม่ต้องเหนื่อยดูแลฉัน”
“แหมคุณท่านก็ อิ่มก็กลัวตกกระป๋องน่ะสิคะ” แก้วตายิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับคำพูดโต้ไปมาของคนสูงวัยทั้งคู่
“งั้นแกช่วยไปจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ด้วย ฉันหางานให้แกแล้ว แกก็อย่าบ่น”
“เจ้าค่ะคุณท่าน” อิ่มรับคำสั่ง เดินไปยังกระเป๋าเดินทางหน้าตู้เสื้อผ้า เปิดกระเป๋าออกแล้วจัดการแขวนเสื้อผ้าไว้ในตู้
“บ้านช่องเงียบเชียว ไปไหนกันหมดล่ะ” กิ่งโพยมถาม เมื่อมาถึงบ้านแล้วไม่เจอใคร
“คุณป้าออกไปทำผมค่ะ พี่เมฆเข้าไปดูงานในไร่ ส่วนรวีไปไร่เพียงฟ้าค่ะ”
“นังรวีไปไร่เพียงฟ้าทำไม ใครให้มันออกนอกไร่” กิ่งโพยมหูผึ่ง รีบถามทันควัน
“รวีไปไร่โน่นสองวันแล้วค่ะ เมื่อวานไปนวดให้คุณป้าสมสมร กลับมาบ้านได้ทั้งเงินและเสื้อผ้าจากพี่ปิ่นมาเยอะเลยค่ะ รวีดีใจมากเลยนะคะคุณย่าที่ได้ชุดสวยๆ แก้วตาซื้อเสื้อผ้ามาฝากรวี รวีไม่สนใจเสื้อผ้าของแก้วตาเลยค่ะ วันนี้ก็ใส่ชุดที่พี่ปิ่นให้ไปไร่โน้นด้วยค่ะ” แก้วตาพูดเสียงเรียบ มองดูท่าทีของกิ่งโพยมแล้วลอบยิ้ม
“มันจะมากไปแล้วนังรวี แกไม่สนใจของที่แก้วตาซื้อให้ได้ยังไง ทีหลังไม่ต้องเปลืองเงินซื้อให้มันนะ เสียดายเงินเปล่าๆ” กิ่งโพยมโกรธแทนแก้วตา ที่ณัฐรวีไม่สนใจสิ่งของที่แก้วตาซื้อให้ แต่กลับไปสนใจของของคนอื่น
“แก้วตาสงสารรวีน่ะค่ะคุณย่า เห็นใส่แต่เสื้อผ้าเก่าๆ โทรมๆ คนอื่นเห็นจะว่าพวกเราได้นะคะที่ให้รวีใส่แต่เสื้อผ้าราวกับเป็นคนใช้ แก้วตากลัวคุณย่า คุณป้าและพี่เมฆถูกนินทามากกว่าค่ะ ถึงได้เสื้อผ้าให้รวี” แก้วตาพูดเอาดีใส่ตัว “คุณย่าต้องเห็นสายตาของรวีที่มองเสื้อผ้าที่แก้วตาซื้อให้ค่ะ รวีเหมือนไม่ชอบ อาจเป็นเพราะราคาเสื้อผ้าที่แก้วตาซื้อถูกกว่าที่พี่ปิ่นให้ค่ะ คุณย่าก็รู้ว่า ฐานะบ้านพี่ปิ่นรวย เสื้อผ้าแต่ละตัวเป็นพันๆ รวีก็ต้องเลือกใส่ของแพง”
“นังรวีนี่มันร้ายนะ ร้ายเหมือนแม่มันไม่มีผิด” กิ่งโพยมยิ่งได้ฟัง ยิ่งโมโห เชื่อคำพูดแก้วตาทุกคำ ไม่ได้คิดเลยว่า แก้วตาใส่สีตีไข่
“คุณย่าอย่าโกรธรวีเลยค่ะ คนเราก็อยากเลือกสิ่งดีๆ ให้ตัวเอง อีกอย่างรวีไม่เคยมีเสื้อผ้าดีๆ สวยๆ แบบนี้ พอมีก็อดตื่นเต้นไม่ได้ อยากหยิบขึ้นมาใส่ เลยไม่สนใจเสื้อผ้าหลักร้อยที่แก้วตาให้ค่ะ” แก้วตายังหยอดคำพูดที่สร้างความเกลียดชังในใจกิ่งโพยม
“งั้นไปกับย่า”
“ไปไหนคะคุณย่า”
“ก็ไปห้องมันน่ะสิ ย่าจะเอาเสื้อผ้าของปิ่นที่ให้มันไปทิ้งให้หมด”
“พี่เมฆจัดการแล้วค่ะ” แก้วตาบอกให้กิ่งโพยมเข้าใจต่อ “เมื่อเช้าพี่เมฆไปที่ห้องรวี ไปเอาเสื้อผ้าตัวใหม่ของรวีไปเผาค่ะ แต่เอาไปแค่ครึ่งเดียวเพราะคุณป้าให้เหตุผลว่า ถ้าเอาไปเผาทิ้งทั้งหมด ไร่โน้นอาจสงสัยว่า ทำไมรวีถึงได้ใส่แต่ชุดเก่า ทั้งที่ให้ชุดใหม่ก็หลายตัว คุณป้าไม่อยากผิดใจกับไร่โน้นเพราะรวีเป็นต้นเหตุค่ะ เดี๋ยวได้ถามกันยืดยาว คร้านจะโกหกไม่ทัน” เหตุผลที่แก้วตาบอก ทำให้กิ่งโพยมใจเย็นลง
“มันก็จริง” และเห็นด้วยกับความคิดของเนาวรัตน์ “ย่าล่ะเกลียดมันจริงๆ เมื่อไหร่มันจะไปจากที่นี่สักทีก็ไม่รู้”
“คุณย่าอย่าโมโหนะคะ เดี๋ยวความดันขึ้น แก้วตาว่า คุณย่าไปอาบน้ำดีกว่าค่ะ จะได้สดชื่น อารมณ์เย็นลงด้วย อาบเสร็จแก้วตาจะได้นวดให้คุณย่า” แก้วตาพูดเอาใจ
“ก็ดีเหมือนกัน พูดถึงมันทีไรอารมณ์เสียทุกที” พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำ
แก้วตากระตุกยิ้มพอใจที่เพิ่มความชิงชังในจิตใจกิ่งโพยมที่มีต่อณัฐรวี ไม่มีใครรู้เลยว่า ภายใต้ใบหน้าสวยงาม กิริยามารยาทเรียบร้อย พูดจาอ่อนหวาน จิตใจอ่อนโยน การศึกษาดีจะซุกซ่อนความริษยาไว้เต็มจิตใจ และคิดกำจัดณัฐรวีออกไปจากที่นี่อย่างเงียบๆ
เป็นความร้ายกาจอันแยบยล...