“รู้แล้วน่า” เขาทำเสียงคล้ายรำคาญ “ทางคลินิกโทรมาหาฉันเมื่อวานนี้ ให้พาเธอไปฉีดยาคุมมะรืนนี้ ฉันไม่ลืมพาเธอไปแน่ เพราะฉันไม่อยากมีลูกกับเธอ มีลูกกับเธอ มีกับหมาดีกว่า”
โอ้...เป็นคำพูดที่เปรียบเสมือนคมหอกคมดาบฟาดฟันลงมาในความรู้สึกและจิตใจอันบอบช้ำของณัฐรวีเหลือเกิน เจ็บจุกจนพูดไม่ออก
“เอาแต่ร้องไห้น่ารำคาญ จะร้องหาพระแสงอะไร น้ำตาเธอไม่ได้ช่วยอะไรหรอก สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นอีตัวของฉันอยู่ดี” เขาพูดเมื่อเห็นน้ำตาสาว “มานี่ ไปทำหน้าที่อีตัวเธอต่อในห้องน้ำ”
เขาไม่พูดเปล่า ยังกระชากแขนณัฐรวีเต็มแรง เพื่อให้หล่อนลุกขึ้นเดินตามตนไปยังห้องน้ำ สถานที่บำเรอสวาท
ณัฐรวีเจ็บแน่นในอกขึ้นมาทันใด หัวใจหล่อนชอกช้ำเป็นที่สุด หล่อนรู้ดีว่า ตนอยู่ในฐานะอะไร เขาชิงชังตนมากแค่ไหน ณัฐรวีอยู่อย่างเจียมตัวและเจียมหัวใจ น้ำตาเป็นสิ่งเดียวที่เป็นเพื่อนอันซื่อสัตย์ อยู่คู่กับตนมาตลอดหลายปี...เพื่อนที่ไม่เคยทิ้งหล่อนสักวัน
15.05 น. วันเดียวกัน
หลังจากทำหน้าที่นางบำเรอจนเมฆาพอใจ หน้าที่ทำงานบ้านก็เป็นลำดับต่อไปที่ณัฐรวีต้องทำ แม้ว่าบ้านหลังนี้จะมีคนรับใช้ก็ตามที่ หล่อนก็ต้องทำงานแลกข้าวแลกน้ำและที่พักอาศัย ซึ่งหล่อนก็ทำหน้าที่ทุกอย่างได้อย่างดีเยี่ยม
เสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้าบ้าน ไม่นานนักคนในรถมินิแวนก็เดินเข้ามาในบ้าน กิ่งโพยมทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา คลี่พัดในมือโบกไปมาขับไล่ความร้อน ที่นั่งด้านข้างถูกเนาวรัตน์ครอบครอง โซฟาตัวเล็กมีแก้วตาจับจอง ส่วนอิ่มนั่งอยู่บนพื้นข้างเจ้านาย
“น้ำส้มเย็นๆ ค่ะคุณย่า” นุ่มนำน้ำส้มคั้นแช่เย็นมาให้เจ้านายทั้งสาม
“นังรวีไปไหน” เสียงเรียบเย็นของกิ่งโพยมเอ่ยถามนุ่ม
“นั่งเล่นอยู่หลังบ้านค่ะ” นุ่มตอบ
“หนอย เป็นกาฝากแท้ๆ กลับไปนั่งเล่นหลังบ้าน แทนที่จะช่วยงานในไร่” กิ่งโพยมแสดงความไม่พอใจออกมาทันที “ไปตามมันมาหาฉันเดี๋ยวนี้”
“ค่ะคุณย่า” นุ่มรีบทำตามคำสั่ง ไม่นานเกินรอ ณัฐรวีก็เดินมาหากิ่งโพยม
“คุณย่าเรียกรวี มีอะไรให้รวีรับใช้คะ”
“แกนี่จะสบายมากเกินไปแล้วนะ งานในไร่มีออกเยอะแยะ ดันไปนั่งเล่นหลังบ้านสบายใจเฉิบ แกนี่สันดานเลวเหมือนแม่แกไม่มีผิด” กิ่งโพยมไม่ออมคำพูด นางต่อว่าณัฐรวีโดยไม่ถามไถ่อะไร
“รวีทำงานเสร็จแล้วค่ะ เลยไปนั่งเล่น”
“แกไม่ต้องมาแก้ตัว สันดานแก ฉันรู้ดี” กิ่งโพยมเสียงเขียว “มานั่งใกล้ๆ ฉันสิ”
ณัฐรวีคลานไปนั่งแทนที่อิ่มที่ขยับตัวไปนั่งข้างเนาวรัตน์ กิ่งโพยมมองหน้าณัฐรวี ไล่สายตาไปยังเสื้อผ้าที่หล่อนสวมใส่ ความเกลียดชังที่มีเป็นทุนเดิม มาบวกกับความหมั่นไส้ที่ณัฐรวีทำตัวราวกับเป็นเจ้าของบ้าน ไม่ทำงานทำการ เอาแต่นั่งเล่นไปวันๆ อีกทั้งคำพูดของแก้วตาที่ว่า ณัฐรวีไม่สนใจเสื้อผ้าที่ตนซื้อให้ พุ่งความสนใจไปที่เสื้อผ้าของปิ่นประภา เหมือนกับกิ่งโพยมคุมสติไม่ได้ มือเหี่ยวย่นตามวัยจับตรงคอเสื้อที่ณัฐรวีสวมใส่ นางกระชากแรงๆ สองสามครั้งจนคอเสื้อแยกขาด การกระทำของกิ่งโพยมสร้างความตกใจให้กับทุกคนที่อยู่ในห้องโถง
“ว้าย! คุณย่า คุณย่ากระชากคอเสื้อรวีทำไมคะ” ณัฐรวีถาม ขณะมือจับมือกิ่งโพยมไว้
“แกอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนก็ไม่มีสิทธิ์ใส่ชุดที่ปิ่นให้ แกต้องใส่เสื้อผ้าเก่าๆ เน่าๆ ของแกเท่านั้น ถ้าแกไม่เชื่อฉันล่ะก็ ฉันจะเอาเสื้อผ้าพวกนั้นไปเผาทิ้งให้หมด เพี้ยะ...แควก”
กิ่งโพยมตบหน้าณัฐรวี ก่อนกระชากคอเสื้อหลายครั้งติดกันเพื่อให้เสื้อตัวนี้สวมใส่ไม่ได้ ตรงบริเวณคอมีรอยแดงจากการเสียดสีของเนื้อผ้ากับผิวเนื้อ ณัฐรวีทั้งเจ็บและแสบร้อนตรงบริเวณนั้น
เนาวรัตน์ได้แต่มอง ใจหนึ่งก็สงสาร ใจหนึ่งก็สะใจ จะมีเพียงคนเดียวที่มีความสะใจเต็มที่ ยิ้มเยาะในใจ คนนั้นคือแก้วตา ภายใต้ใบหน้าที่แสดงความสงสาร เห็นใจ ซุกซ่อนความริษยาและสาแก่ใจไว้เต็มพิกัด
“คุณย่าขา พอแล้วค่ะคุณย่า” แก้วตาทำตัวราวกับเป็นนางฟ้า ร้องห้ามกิ่งโพยม ไม่เพียงแค่พูด ยังลุกขึ้นไปหานางอีกด้วย “คุณย่าพอนะคะ เดี๋ยวความดันขึ้นนะคะคุณย่า”
แก้วตาดึงมือกิ่งโพยมออกจากเสื้อตัวสวยของณัฐรวี พูดในใจว่า ‘สมน้ำหน้า’
“รวีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป” ก่อนบอกณัฐรวีที่นั่งร้องไห้บนพื้น “ใส่ชุดเก่านะ คุณย่าจะได้ไม่โกรธ”
ณัฐรวีปาดน้ำตาราวกับเด็ก ลุกขึ้นยืนเดินไปยังชั้นบนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตามความต้องการของเจ้าของบ้าน โดยมีสายตาหยามเหยียด ชิงชังของกิ่งโพยมมองตามไป
“มันยโสเหลือเกิน ไม่น่าเลี้ยงมันไว้เลย ให้มันชูคอเป็นกิ้งก่าอยู่ได้ เห็นหน้ามันทีไร ฉันอดใจไม่ไหวทุกที” กิ่งโพยมไม่ออมความเกลียดชัง นางมีให้ณัฐรวีมากขึ้นทุกวัน
“เอาเถอะค่ะคุณแม่ ไหนๆ ก็ให้มันอยู่ที่นี่แล้ว ก็ให้มันอยู่ต่อไป อีกอย่างเราก็ไม่ใช่ว่าจะเลี้ยงดูปูเสื่อมันดี ทำราวกับมันเป็นขี้ข้าคนนึง แต่แค่ให้มันอยู่ร่วมบ้านเดียวกับเรา เพื่อจะได้โขกสับมันได้สะดวก แก้แค้นแม่มันไม่ได้ก็ลงที่ลูกนี่แหละค่ะ” เนาวรัตน์พูดกับแม่สามี “รัตน์ว่า คุณแม่ขึ้นไปพักข้างบนดีกว่าค่ะ พอถึงเวลาอาหารเย็น รัตน์จะให้นุ่มขึ้นไปตามค่ะ”
“ไปค่ะคุณย่า ขึ้นไปพักบนห้องนะคะ คุณย่าบ่นว่าปวดขา แก้วตานวดให้นะคะคุณย่า”
แก้วตาได้ทีเอาใจกิ่งโพยมเต็มที่ คนสูงวัยที่อารมณ์เย็นลงส่งยิ้มบางให้หลานสาวนอกสายเลือดที่ประคองร่างนางขึ้นไปชั้นบนของบ้าน