บทที่ 7 เด็กเหลือขอ

1610 Words
หลายวันต่อมา... ความรู้สึกอกหักนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอเลยสักครั้ง อิงลดากับสถานที่เดิม คาเฟ่ไม่ไกลจากหมู่บ้านที่เธออยู่ ร้านกาแฟขนาดกลางสไตล์ลอท์ฟนี้ ทำให้หนุ่มบาริสต้าคนนี้เท่ระเบิดเพิ่มเป็นเท่าตัว ไม่แปลกที่เพื่อนสาวจะคอยแวะเวียนมาหา วันนี้ก็เป็นอีกวันที่อีกฝ่ายมาหาการันต์ มาหาบ่อยจนได้เป็นลูกค้าวีไอพี รู้จักกับเจ้าของร้านเป็นที่เรียบร้อย “ฉันบอกให้แกมานั่งเป็นเพื่อนคุยนะ ไม่ได้ให้มามองผู้ชาย” “หึ โนค่ะ...เพราะฉันพูดเรื่องนี้มาร้อยรอบแล้วแต่แกก็ยังกลับไปจุดเดิม ก็ไม่รู้ว่าจะพูดจะบอกยังไงแล้ว” ภริตาโมโห เริ่มมีน้ำเสียงไม่พอใจเพื่อนสาว อิงลดานัดเจอทีไรก็บ่นแต่เรื่องของผู้ชายไม่ได้เรื่องคนนั้น “ก็มัน...” เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากันเมื่อภริตายกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปาก “แกจะพูดว่าเพราะแกรักเขาสินะ” อิงลดาพูดไม่ออก ก็ตั้งแต่วันที่สารภาพความรู้สึกไปอีกฝ่ายก็เงียบไป ไม่เข้ามาใกล้เธอเลยแม้แต่ปลายนิ้ว หน้าก็แทบไม่อยากมอง “ก็มันเป็นความจริงนี่นา” “ความจริงแล้วไง ความจริงอีกข้อก็คือเขาไม่ได้รักแก” คำนี้เล่นเอาจุกอกเลยทีเดียว “สิ่งที่แกต้องทำคือปล่อยวาง อีกไม่กี่เดือนทุกอย่างก็จบ...เขาก็จะได้ไปแต่งงานกับคนที่เขารัก” “_” “แล้วแกก็จะได้มาทำงานกับฉันไง” ประโยคหลังเธอเริ่มไม่ค่อยได้ยินแล้ว คำพูดของภริตาทำให้ฉุกคิดได้ว่า ถ้าเขาไปแต่งงานก็เท่ากับว่าครอบครัวนั้นทำสำเร็จ “แก ฟังอยู่ป้ะเนี่ย!” ภริตาเริ่มขึ้นเสียง บอกเท่าไรไม่เคยจำ ไม่เคยเชื่อกัน ทว่า “ริตา...ฉันมีเรื่องจะปรึกษา” “หือ?” “คืองี้...คุณลุงณวัฒน์บอกว่าอุบัติเหตุรถคว่ำตอนนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุ” อิงลดาพูดเสียงเบาราวกระซิบ ใจจริงไม่อยากเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะเรื่องนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ก็อยากได้คำปรึกษา “หืม แกหมายถึงรถของคุณอาน่ะเหรอ” “ใช่ พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตตอนนั้นมันมีเงื่อนงำ” ภริตาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ จะมีเงื่อนขำได้อย่างไรก็ในเมื่อตำรวจสรุปสำนวนว่าเป็นอุบัติเหตุ “ทำไมแกคิดงั้นอ่ะ นี่มันก็ผ่านมาห้าปีแล้วนะ” “ฉันไม่ได้เป็นคนคิด แต่ลุงณวัตน์คิด คุณลุงบอกว่าครอบครัวของนิสาอยู่เบื้องหลังทั้งหมด” “ห๊า!!” “...ยะอย่าเสียงดังสิ” อิงลดายื่นมือไปตะบปปิดริมฝีปากของคนเป็นเพื่อนไว้ ทำให้เธอต้องรีบยกมือขึ้นดึงออก “แก! ลิปดิออร์ฉันเปื้อนหมด!” ภริตารีบยกกระจกขึ้นมาส่องทันทีหลังจากดึงมือของคนเป็นเพื่อนออกได้ ก่อนจะรีบค้นกระเป๋าสะพายข้างหาลิปสติกแท่งโปรด จะให้ใบหน้าซีดเซียวไร้สีสันไม่ได้ เธอเติมลิปสติกเสร็จก็แอบชำเลืองมองหนุ่มบาริสต้า เกรงว่าเขาจะเห็นเธอตอนที่หน้าซีด แน่นอนว่ามันไม่น่าดูเท่าไรนัก “เฮ้อ...เขาไม่ได้สนใจเสียด้วยซ้ำ” เธอผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ภริตาหน้ามุ่ย ก่อนจะหันมามองเพื่อนรักอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้รับสายตาใด ๆ จากการันต์ “แล้วสรุปแกมีหลักฐานหรือไง” “ไม่มีน่ะสิ...คุณลุงณวัฒน์พยายามสืบมาตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุนี่มันก็ห้าปีแล้วอะ ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย” “จริงเหรอ...” “อือ” อิงลดาก้มหน้าลงมองฝ่ามือของตัวเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิด ทำไมตอนนั้นถึงไม่ฉุกคิดเลยสักนิดว่ามันอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ ทำไมถึงปล่อยให้ผู้มีพระคุณไม่ได้รับความยุติธรรมมานานถึงห้าปี ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นนักกฎหมายแท้ ๆ “เฮ้อ...แล้วคุณลุงได้จ้างนักสืบไหม มีข้อมูลอะไรบ้าง ให้ฉันช่วยไหม” ด้วยความที่เธอเป็นทนายความ ไม่แปลกที่จะอยากช่วย “เดี๋ยวฉันเคลียร์คดีนี้เสร็จแล้วจะช่วยหาความจริง” “เกรงใจอะ” อิงลดารู้สึกอย่างที่พูดจริง ๆ ด้วยความที่อีกฝ่ายต้องทำงานของตัวเองด้วย อิงลดาก็เกรงใจ “ทำไงได้ แกก็ไม่ไปทำงานอะ” ภริตาส่ายหน้า หลังจากที่แต่งงานคนเป็นเพื่อนก็ถูกสั่งไม่ให้ทำงาน ทั้ง ๆ ที่ยังสอบตั๋วทนายไม่ผ่านเสียด้วยซ้ำ “เฮ้อ...ก็เขาไม่ให้ทำ จนฉันจะเป็นง่อยอยู่แล้ว” “นั่นสิ เป็นถึงขนาดนี้แกยังบอกว่ารักเขาเหรอ” ภริตาไม่อยากจะเชื่อว่าอิงลดาจะไปตกหลุมรักผู้ชายเผด็จการคนนั้น นอกจากเงินและหน้าตาก็ไม่มีอะไรดีอีกเลย “ก็ไม่รู้สิ เฮ้อ...แกอย่าถามได้ไหม” อิงลดาให้คำตอบไม่ได้ เธอรู้สึกขาดเขาไม่ได้ แต่ถ้าถามว่ารักเขาตรงไหน ก็ให้คำตอบไม่ได้เช่นกัน “เฮ้อ...ฉันก็ให้คำตอบไม่ได้เหมือนกัน” เธอหันไปมองหนุ่มบาริสต้าที่กำลังคุยกับลูกค้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่พอสายตาคมเหลือบเห็นเธอ ใบหน้าหล่อเหลาก็หุบยิ้มทันที “ชิ...” ภริตาย่นจมูกใส่อีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนสาว “โอเค เดี๋ยวฉันจะติดต่อนักสืบที่บริษัทให้ก็แล้วกัน แกไปเอาข้อมูลจากลุงณวัฒน์มาว่าสืบถึงไหนแล้ว” “โอเค...” “เราต้องสืบให้ได้ก่อนที่จะหมดสัญญา ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เท่ากับว่าครอบครัวนั้นจ้องจะฮุบสมบัติของเขา ถูกไหม” “ใช่ ต้องไม่ให้พี่ดนย์แต่งงานกับนิสา” อิงลดาพูดขึ้นทำให้คนเป็นเพื่อนชะงักไป มองดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่แค่เรื่องสมบัติ แต่เป็นความหึงหวงที่แม้นแต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัว... แม้นไม่มีสิทธิ์หึงหวง ทำตามสัญญาที่สัญญากันไว้สองคน ว่าจะไม่เข้าใกล้ ไม่รัก ไม่หึงหวง ไม่แตะเนื้อต้องตัวกัน ทว่ากลับเป็นเขาที่ละเมิดกฎนี้ แล้วทำไมเธอถึงจะรู้สึกหึงหวงเขาไม่ได้ อิงลดายืนมองคนเป็นสามีกับผู้หญิงคนนั้น แรงดึงดูดบางอย่างเร่งเร้าให้เธอเดินเข้าหา ร่างบางที่เดินออกมาหน้าบ้านนั้นทำให้นิสามองเห็นก่อน ก่อนจะเป็นพันธดนย์ที่หันมามอง “ฉันมาเอาของแล้วจะกลับ” “กลับ?” เขาพูดอย่างกับว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของเขา ซึ่งท่าทีของอิงลดาทำให้นิสาไม่พอใจเท่าไรนัก ยัยเด็กเหลือขอคนนี้ทำอย่างกับว่าหึงหวงแฟนหนุ่มของเธอ “กลับไปไหนคะ นี่ก็บ้านพี่นี่” “อะไรของเธอเนี่ย...” พันธดนย์หันมามองสาวเจ้าเต็มตา ไม่ได้เอียงใบหน้ามองเหมือนก่อนหน้านี้ อยากจะเห็นหน้าของหล่อนแบบชัด ๆ มองให้แน่ว่าอิงลดากำลังรู้สึกอะไรอยู่ “ทำไม เธอกำลังคิดไม่ให้ฉันไปหรือไง ปกติฉันก็ไปนอนที่โรงแรมกับนิสาเป็นประจำ” “อึก...” เธอกลืนน้ำลายลงคอ อิงลดาไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่าเผลอทำน้ำเสียงไม่พอใจใส่เขา “ฉะฉันแค่สงสัย” “เธอไม่ต้องสงสัยอะไรทั้งนั้นยัยเด็กเหลือขอ” เป็นนิสาที่ทนไม่ไหว เธอเกลียดอิงลดาเข้าไส้ หากไม่มีนางนี่ก็คงไม่ต้องรอเขาคนนี้จนเหงือกแห้ง “เธอน่ะสิเด็กเหลือขอ!” อิงลดาเองก็โมโห เอะอะก็ล้อปมในใจของเธอ นิสามักล้อว่าเธอเป็นเด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ เป็นเด็กเหลือขอที่ถูกเก็บมาเลี้ยง “อิง! เธอตะคอกใส่นิสาทำไม” น้ำเสียงของพันธดนย์ดึงความสนใจได้เป็นอย่างดี อิงลดาหันขวับไปมองเขาน้ำตาคลอ “ทำไมคะ แล้วทำไมเธอคนนั้นถึงตะคอกใส่ฉันได้ ฮึก ทำไมพอฉันตะคอกบ้างต้องโกรธด้วย!” หญิงสาวน้อยใจ เขายกยอปอปั้นผู้หญิงคนนี้เหนือภรรยาของเขา “เธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง!” “ฮึก ไม่ได้บ้า...” อิงลดาร้องไห้ฟูมฟาย ทำเอานิสาส่ายหน้า ไม่รู้ว่าหล่อนเป็นบ้าอะไร “ไม่ต้องไปสนใจหรอกค่ะ พี่เข้าไปเอาของแล้วออกมาเลยดีกว่า” นิสาไม่ได้สนใจ หันไปบอกแฟนหนุ่มให้อีกฝ่ายทำตาม ทว่า “ไม่! ฉันไม่ให้ไป” อิงลดากลับคว้าต้นแขนของเขาไว้เสียอย่างนั้น “ฮึก บ้านพี่อยู่นี่ก็ต้องนอนนี่ ในสัญญาบอกไว้แล้วนี่ว่าพี่ต้องนอนบ้าน อยู่บ้านหลังนี้จนครบห้าปี” “อะไรของเธอวะเนี่ย...เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ไม่หึงไม่หวง แล้วเธอเป็นบ้าอะไร!” พันธดนย์แกะฝ่ามือเจ้าปัญหานี้ออกอย่างแรง ๆ เขาส่ายหน้าเบา ๆ อย่างคนเอือมระอา ยิ่งทำให้อิงลดาเกิดอาการน้อยใจมากกว่าเดิม จนอดไม่ได้ที่จะพูดบางอย่าง “อึก แล้วทีพี่ล่ะ พี่ขืนใจฉันมันรักษาสัญญาตรงไหน!!” ไม่ใช่แค่พันธดนย์ที่ตกใจ นิสาเองก็เบิกตากว้างพร้อมกับอ้าปากค้างเหวอ “มะหมายความว่าไงคะ อึก พะพี่นอกกายฉันเหรอ” นิสาหันขวับไปมองคนรัก เธอตกใจหัวใจหล่นวูบ เช่นเดียวกับพันธดนย์ที่กัดฟันกรอด อิงลดาพูดอย่างนี้ก็เท่ากับว่าจงใจให้เขามีปัญหากับคนรัก…เธอต้องการอะไรจากเขากันแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD