เวลาหมุนเวียน เข็มนาฬิกาที่เดินไม่หยุดนั้นทำให้อิงลดาต้องหันไปมองบ่อยครั้ง สลับสับเปลี่ยนกับมองไปที่หน้าประตู เธอพ่นลมหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากที่คุณลุงณวัฒน์ขับรถไปรับเขาคนนั้น ผ่านไปสองชั่วโมงก็ยังไม่กลับมา
“อะไรมันจะขนาดนี้ก็ไม่รู้” เธอบ่นงึมงำคนเดียว ใจของคนเป็นห่วงมันจะขาดรอมร่อ แต่ก่อนไม่ได้เป็นถึงขนาดนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเวลาที่ผ่านมาความรู้สึกของเธอเปลี่ยนไป มันค่อย ๆ กัดกินจิตใจ กัดเซาะความรู้สึกให้หลงลืมไปว่าเขาไม่ได้รักเธอ แถมยังมีแฟนอยู่แล้วด้วย
“คุณผู้หญิงคะ นอนรอก่อนก็ได้นะคะถ้าคุณผู้ชายกลับมาแล้วเดี๋ยวป้าจะปลุกค่ะ” ป้าปิ่นนั่งอยู่บนพื้น เธอแอบงีบไปแล้วหลายหน แต่ก็ไม่อยากทิ้งให้คุณผู้หญิงของบ้านนั่งอยู่คนเดียว
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ อิงว่าป้าไปนอนก่อนดีกว่า”
“เอ่อ จะดีเหรอคะ” อันที่จริงก็ง่วงมากแล้ว แถมพรุ่งนี้ต้องตื่นมาเตรียมอาหารตั้งแต่เช้าด้วย
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ นี่ว่าจะรออีกหน่อยก็จะไปนอนแล้วเหมือนกัน บางทีเขาอาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่ก็ได้” ท้ายประโยคนั้นเสียงอ่อนจนคนได้ยินจับสังเกตได้ อิงลดากำลังน้อยใจ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนก็ไม่เห็นจะเคยรู้สึกเช่นนี้
“งั้น...ป้าขอไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาทำกับข้าวให้คุณผู้หญิงใส่บาตรด้วย”
“โอเคค่ะ” เธอยิ้มกว้าง ใจจริงก็อยากทำอาหารเอง แต่ว่าเขาคนน่ะสิไม่ให้เธอแตะหรือทำอะไรเลยสักอย่าง เขามันคนเผด็จการ ถ้าเธอแอบทำเขาก็จะมาบ่นว่าเธอไม่เชื่อฟังสิ่งที่เขาบอก
...ความเงียบสงบของเวลากลางคืนเข้าปกคลุม บรรยากาศเย็นยะเยือกนี้ทำเอาหัวใจคนรอรู้สึกเปล่าเปลี่ยวมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว เธอหันไปมองนาฬิกาอีกหน เข็มนาฬิกาที่บอกวันใหม่นั้นทำให้เธอลุกขึ้นยืน หมุนตัวหันหลังเตรียมกลับขึ้นห้องนอน ทว่า
เสียงรถของเขาก็ดังขึ้นเสียอย่างนั้น
“ให้มันได้อย่างนี้สิ” เกือบจะถอดใจอยู่แล้วเชียว อิงลดาหมุนตัวกลับ เดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน เห็นคุณลุงณวัฒน์ลงจากรถพร้อมกับหิ้วปีกคนตัวโตลงมาด้วย
“อิงช่วยค่ะ!” เธอรีบวิ่งไปช่วยคุณลุงณวัฒน์ ด้วยความที่พันธดนย์นั้นตัวใหญ่มาก ทำให้ยากต่อการพยุงมากพอสมควร แต่ก็ไม่ยากเกินกำลังของคนสองคนที่ช่วยกันพยุงอย่างทุลักทุเลขึ้นมายังห้องนอนของเขาได้สำเร็จ
พรึ่บ!
“เฮ้อ...” ณวัฒน์พ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ตัวคุณผู้ชายไม่ใช่เล็ก ๆ แถมเขาก็อายุห้าสิบห้าแล้วด้วย อีกไม่กี่ปีก็เกษียณอยู่แล้ว
“ขอบคุณนะคะ” อิงลดาเองก็หอบหายใจเหนื่อย หันไปมองคนที่นอนแผ่หลาบนที่นอนแล้วก็ได้แต่รู้สึกละเหี่ยใจ เขานี่ดื่มไม่เคยรู้จักตัวเอง ดื่มจนคอพับอย่างนี้ทุกที
“ไม่เป็นไรเลยครับ หน้าที่ผมอยู่แล้ว” ณวัฒน์ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะขอตัวกลับ ปล่อยให้อิงลดายืนมองร่างหนาของสามีหนุ่มเพียงลำพัง ใบหน้าเล็กส่ายเบา ๆ อยากตีตัวเองให้ตายที่ไปรู้สึกหวั่นไหวกับคนอย่างเขา ที่นอกจากหน้าตาดี หุ่นดีก็ไม่มีอะไรน่าพิสมัยอีกเลย
ทว่า
“ร้อนฉิบ...” เสียงบ่นงึมงำของเขาทำให้เธอรีบไปเปิดเครื่องปรับอากาศให้ แต่พอหันหน้ามามองร่างหนาอีกครั้งก็เห็นว่าเขาพยายามถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างแรงจนกระดุมเสื้อเชิ้ตนั้นกระเด็นกระดอนอย่างไร้ทิศทาง
“เดี๋ยวสิ พี่ดนย์!” เธอพยายามห้ามเขา เกรงว่าเสื้อราคาแพงนี้จะขาด หญิงสาวยกมือขึ้นจับฝ่ามือของเขาไว้
“อิง...” ริมฝีปากหนาพึมพำเรียกชื่อ พร้อมกับดวงตาที่ลืมขึ้นมองหน้าของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของตัวเอง
“ค่ะ ฉันอิงลดาผู้หญิงที่แบกพี่ขึ้นมาที่นี่” เธอว่าเสียงแข็ง พร้อมกับเท้ามือทั้งสองข้างที่เอว มองหน้าคนเมากลิ่นเหล้าคละคลุ้งคนนี้
“ดี งั้นไปอาบน้ำให้ฉัน อยากอาบน้ำ~” เขาว่าเสียงยานคาง ชายหนุ่มรู้สึกร้อนไปทั้งตัว สงสัยว่าแอลกอฮอล์ที่กินไปนั้นจะออกร้อนในกาย
“อยากอาบก็ไปอาบสิคะ”
“อึก...” ดวงตาคมสบกับดวงตาคู่สวยไม่หยุด ดวงตาที่ฝ้ามัวนั้นมองเห็นความสวย ความสาวของผู้หญิงที่อยู่ข้างกายตั้งแต่เด็ก เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ส่ายหน้าแรง ๆ เพื่อสลัดความคิดบางอย่างออกจากหัว “งั้นก็ออกไป ฉันจะไปอาบน้ำ”
“อาบไหวเหรอคะ เดินยังเดินไม่ได้เลย”
“เรื่องของฉัน” ว่าแล้วก็ลุกพรวดขึ้น สายตาที่พร่ามัวนั้นทำให้เขาเสียหลักล้ม ดีที่อิงลดาเข้ามาพยุงไว้ได้ทัน ทว่าตัวของเขาก็ใหญ่เกินกว่าจะเหนี่ยวรั้งทำให้ทั้งเธอและเขาเสียหลักล้มลงบนเตียงนอนขนาดคิงส์ไซส์นี้อย่างแรง
ตุบ!
“อ๊ะ....” อิงลดาอุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะชะงักเมื่อใบหน้าของเขานั้นห่างจากใบหน้าของเธอแค่คืบ ฝ่ามือหนาที่วางลงบนหน้าอกอวบของเธอ ใจของหญิงสาวที่คิดไม่ซื่อเต้นแรง เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ลำคอแห้งผาก
“บะบอกแล้วไง...วะว่าอาบไม่ได้หรอก” เธอว่าเสียงตะกุกตะกักพลางเบือนหน้าหนี ก่อนที่ปลายนิ้วสากจะแตะคางของเธอเบา ๆ ให้เธอหันมามองเขา
“เธอยังซิงอยู่หรือเปล่า”
“คะ? ...” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้น น้ำเสียงยานคางพร้อมกับกลิ่นเหล้านี้บอกกับเธอว่าเขาไม่มีสติแล้ว
“ไม่ได้ยินที่ถามเหรอ”
“อึก ยะอย่าค่ะ” เธอพยายามผลักไสแต่เขาก็โน้มหน้าลงมาใกล้ไม่หยุด กลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งไปทั่วนี้สัมผัสที่ปลายจมูก ชายหนุ่มไร้สติหลงลืมไปว่าตนนั้นมีคนรักอยู่แล้ว สิ่งที่เขาต้องการคือการสำเร็จความใคร่กับผู้หญิงเนื้อหอมตรงหน้าคนนี้
“ไม่นะ! พี่ดนย์!!” หากเขาทำเพราะว่ารักเธอจะไม่ห้ามเลยสักนิด แต่มันไม่ใช่
“อืม...ทำไม เธอก็เป็นเมียฉันนี่”
“ไม่ค่ะ พี่ไม่ได้รักฉัน” เขาไม่ได้สนใจเลย ฝ่ามือหนาค่อย ๆ ขยำหน้าอกอวบผ่านเสื้อยืดตัวบางที่เธอสวมใส่ เขาโน้มหน้าเข้าหา ประทับริมฝีปากลงที่ริมฝีปากรูปกระจับเล็ก ๆ นี้ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ครู่เดียว มือน้อย ๆ ของเธอก็ดันคางของเขาออกเสียก่อน ฝ่ามือหนาก็ไวทันความคิด ชายหนุ่มรวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นเหนือศีรษะ
“อิง...”
“ไม่นะ...อย่าทำ ตอนนี้พี่ไม่มีสติ หลังจากนี้พี่จะ อึก ยะอย่า...” พูดไม่ทันขาดคำ ใบหน้าหล่อเหลาก็โน้มหน้าลงจูบริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม เรี่ยวแรงของเธอก็น้อยนิดเกินกว่าจะสู้แรงของเขาได้ เรียวลิ้นสากที่ตวัดเกี่ยวลิ้นของเธออยู่ทำให้หญิงสาวไม่มีโอกาสที่จะหนีได้ น้ำตาหลั่งรินออกมาไม่ขาดสาย ปลายลิ้นขมปี๋ของเขาบอกกับเธอว่าเจ้าตัวนั้นเมามากแค่ไหน
...ร่างทั้งร่างนั้นแทบแหลกสลายเมื่ออีกฝ่ายถาโถมแรงกายใส่ ตัวเธอเล็กนิดเดียวหากเทียบกับชายชาตรีในวัยกลัดมัน ฝ่ามือหนานั้นฉุดกระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดหลุดลุ่ย ราวกับสัตว์ป่าที่รุมทึ้งเหยื่อตัวน้อย กวางสาวเนื้อหอมนี้ยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี ให้เขาไล้ปลายจมูกดอกดมเนื้อตัวของเธออย่างหื่นกระหาย พันธดนย์ไม่สนใจเสียงร้องไห้ของเธอสักนิดเดียว
“อึก...” ดวงตาคู่สวยนั้นลืมขึ้นมองเพดาน กัดฟันแน่นเมื่อมือหนาขยำหน้าอกอวบของเธอ อิงลดากล้ำกลืนฝืนทน เขามีคนรักอยู่แล้วไยทำกับเธอเช่นนี้
“ฮึก พะพอแล้ว” เธอพยายามพูดชิดใบหูของเขา หากแต่ไม่สามารถเรียกสติของเขาได้เลย พันธดนย์หยัดกายขึ้นปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออก เขาขยับแยกเรียวขาเล็กของคนใต้ร่าง กดต้นขาเรียวของเธอให้ติดกับที่นอน มองดอกไม้งามนั้นด้วยแววตาหื่นกระหาย ความสวยงามตรงหน้านั้นทำให้เขาเลื่อนสายตามองใบหน้าของเธอโดยไม่ได้พูดอะไร มีเพียงเสียงหัวใจที่โหมเต้นอยู่ในอกด้วยความตื่นเต้น
เธอคนนี้...ที่เฝ้ามองตั้งแต่เด็ก ยิ่งโตยิ่งสวย ดวงตากลมโตของเธอเวลามองเขานั้นมันมีเสน่ห์มากแค่ไหนเขารู้ดี ยิ่งผิวพรรณขาวผ่องเป็นยองใยอีกแล้วด้วย เนื้อนวลของเธอเนียนละเนียนน่าลูบไล้ สัมผัสซุกไซ้ไม่ระคายมือ กลิ่นกายของเธอนั้นหอมมากยามที่เดินผ่าน ความคิดชั่ววูบนี้ไม่ได้ชั่ววูบอย่างที่คิด เพียงแต่คิดอยากลิ้มลองมานานแล้วต่างหาก
“ยะอย่า...ขอร้อง ฮึก ไม่เอา” เธอพยายามกระถดขาหนีด้วยความกลัว มองหน้าผู้ชายที่อยู่ด้วยกันมานาน เขาไม่เคยแม้นแต่เฉียดตัวเข้าใกล้ มือก็ไม่เคยแตะกัน แต่ทำไมวันนี้เขาถึงทำกับเธอเช่นนี้
“เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับตายหรอก” เขาว่าเสียงนิ่งเรียบ ความเห็นแก่ตัวที่อยากลิ้มลองก่อนหย่ากันนั้นทำให้หลงลืมความจริงไป ชายหนุ่มไม่สนใจที่จะสวมเครื่องป้องกันเสียด้วยซ้ำ
“อื้ออ~”
อิงลดากัดฟันแน่นเมื่อเขากดความใหญ่โตขนาดใหญ่กว่าข้อมือของเธอเข้ามา ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างพร้อมกับจิกเล็บลงบนที่นอน เธอข่มเปลือกตาปิดลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย เมื่อความเจ็บนั้นเข้ามาเยือน รู้สึกเหมือนกับข้างในตัวขาดเป็นเสี่ยง ๆ ขณะที่อีกฝ่ายนั้นไม่ได้สนใจเลยสักนิด ความคับแน่นภายในตัวของคนตัวเล็กทำให้เขาขยับสะโพกสอบเข้าออกอย่างไม่ปรานีจนได้ยินเสียงดังปึก ๆ
“อึก อือ~” อิงลดาพยายามดิ้นขัดขืน ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แม้นใจจะยินยอมให้เขากระทำได้ เพราะรู้ว่าตนนั้นรักเขามากแค่ไหน ทว่าใจมันก็เกรงกลัวความจริงที่ว่า...เขาไม่ได้รักเธอเลย
เช้าวันต่อมา...
เสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งเวลาอัตโนมัตินั้นทำให้ร่างหนาสะดุ้งตื่น เขารู้สึกหนักอึ้งที่แขนจนยกไม่ขึ้น เหน็บเล่นงานแทบขยับไม่ได้ กระทั่งลืมตาขึ้นจึงได้พบกับต้นเหตุของความรู้สึกนี้
“อิง...” รูม่านตาขยายด้วยความตกใจ ชายหนุ่มหัวใจหล่นวูบเมื่อเห็นว่าเธอกำลังเปลือยเปล่าโดยมีผ้าห่มคลุมกายไว้อย่างหมิ่นเหม่ ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนค่อย ๆ หลั่งเข้ามาในหัว ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับ นวดคลึงให้คลายความตึงเครียด รอยเปื้อนเลือดบนที่นอนยิ่งตอกย้ำความจริงว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“อืม...” เธอขยับตัวเบา ๆ พร้อมกับเสียงครางผ่านริมฝีปากเล็ก พันธดนย์ข่มเปลือกตาลงแรง ๆ เขาจำได้ว่าเมื่อคืนตนนั้นขืนใจเธอ ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธว่าตอนนั้นเขาเอาความใคร่นำทาง คิดว่าเธอก็เป็นเมียของเขาเหมือนกัน จนหลงลืมว่าแท้จริงตนนั้นก็มีคนรักอยู่แล้ว
...ความเจ็บทางกายนั้นทำให้รู้สึกตัวตื่นเช่นกัน อิงลดาขยับขาแทบไม่ได้ เธอรู้สึกเมื่อยไปทั้งตัวราวกับว่าเพิ่งไปออกรบมา หญิงสาวจำเหตุหารณ์เมื่อคืนได้ทุกอย่าง ทุกท่วงทำนองที่เขาคนนี้รังแก ทุกท่วงท่าที่คนไร้สติเป็นฝ่ายกระทำ น้ำตาของเธอไหลออกมาโดยที่ยังไม่ทันได้ลืมตาเสียด้วยซ้ำ อิงลดาคิดว่าเขาคงยังไม่ตื่น ทว่า
“ร้องไห้แล้วมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม” เสียงทุ้มของเขาแหบแห้ง ชายหนุ่มเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป ฉุดกระชากความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งให้จมดิ่งลงสู่ก้นเหว ติดตรึงตราบาปไว้ในใจของเธอ
“อึก...” เธอไม่ตอบอะไร ตกใจมากเลยทีเดียวที่เขาตื่นก่อน ร่างบางค่อย ๆ ถดตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ซ่อนเสียงสะอื้นไห้ไว้ในใจ จะโวยวายอะไรก็คงไม่ได้ ในเมื่อเธอเองก็เป็นภรรยาของเขา
...ความเงียบเข้าปกคลุมคนทั้งคู่ พันธดนย์ตวัดขาพ้นขอบเตียง ชายหนุ่มนั่งหย่อนขาหันหลังให้เธอในสภาพเปลือยเปล่า มองเสื้อผ้าที่ขาดกระจัดกระจายอยู่บนพื้นด้วยความเงียบสงบ เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
“ลืมมันไปเถอะ” เขาว่าเสียงเรียบ น้ำเสียงทุ้มลึกไม่มีความรู้สึกผิดอยู่ในนั้น เป็นความว่างเปล่าที่กรีดลึกลงกลางใจของคนได้ยิน
“มันลืมง่ายเหรอคะ” เธอว่าเสียงสั่น มองแผ่นหลังหนาที่มีรอยแดงจากเล็บของเธอ น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทางยาวนั้นเขาไม่แม้นแต่จะหันมามอง
“แล้วจะให้ทำยังไง” เขาเอียงหน้ามองเธอผ่านหางตา ชายหนุ่มไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ก็ในเมื่อเหลือเวลาแค่หนึ่งปีที่เขาจะหลุดจากพันธะนี้
...เธอเองก็ไม่รู้ อิงลดายกมือขึ้นปาดน้ำตา เธอให้คำตอบไม่ได้ เรียกร้องให้เขารับผิดชอบหรือ ก็ในเมื่อตอนนี้แต่งงานกันอยู่แล้ว พันธดนย์ผุดลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบอะไรแถมเอาแต่ร้องไห้ ร่างหนาที่เดินเข้าห้องน้ำด้วยสภาพที่ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นนั้นทำให้เธอเบือนหน้าหนี อิงลดายกขาขึ้นชันเข่า กอดเข่าร้องไห้อยู่พักใหญ่ ก่อนจะได้สติว่าตนควรรีบไปซื้อยาคุมฉุกเฉิน
“อ๊ะ!” ทว่าพอลงมาจากเตียงนอนความแสบใจกลางความสาวก็เล่นงาน เธอข่มเปลือกตาแรง ๆ พร้อมกับกัดฟันเข้าหากันแน่น อิงลดากลั้นใจฝืนทนหอบร่างสั่นเทาของตัวเองออกจากห้องโดยที่ยังพันตัวเองด้วยผ้าห่มผืนหนาของเขา
...พอเข้ามาในห้องน้ำ ร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยถูกย่ำยีนั้นตอกย้ำความจริงที่ว่าเธอเสียพรหมจารีให้เขาไปแล้ว
“ฮึก ฮือ~” มิหนำซ้ำความเจ็บที่ใจกลางความสาวยังเต็มไปด้วยเลือด ช่องทางรักแสนคับแคบนั้นแม้นแต่เธอยังไม่เคยเห็น มันเล็กมากแค่ไหนเธอรู้ดี ทว่าความแข็งขืนที่ทะลวงเข้าไปเมื่อคืนนั้นก็ทำเอาเธอเจ็บระบม เขาเมาเลยไม่มีสติพอรับรู้ว่าร่างของเธอแทบแหลกสลาย ริมฝีปากหนาของเขาที่พล่ามถามว่าเธอนั้นยังบริสุทธิ์อยู่หรือไม่ ความเห็นแก่ตัวของเขานั้นทำให้เธอพูดไม่ออก
ร่างบางสั่นระริกท่ามกลางสายน้ำจากฝักบัวที่ไหลไม่หยุด ชโลมร่างกายแสนบอบช้ำนี้ให้รู้สึกผ่อนคลาย กระนั้นมันก็ไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้น ร่างบางทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ร่ำไห้ออกมาสุดเสียงราวกับจะขาดใจ...