บทนำ

1312 Words
บ้านไทยโบราณไม้เก่าสองชั้นสีขาวล้วน สิ่งปลูกสร้างในสมัยอยุธยา อายุอานามไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยปีนี้สะอาดเอี่ยมด้วยฝีมือของอิงลดา หญิงสาวดวงตากลมโต นัยน์ตาสีน้ำตาลเศร้าหม่นคนนี้ “คุณผู้หญิงคะ ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยว…ป้าปิ่นทำเองค่ะ” “ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าไม่ทำก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี ทำฆ่าเวลาก็สนุกดีนะคะ” “ไม่สนุกเลยค่ะ ขนาดป้าทำยังเหนื่อยเลยค่ะ แล้วผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างคุณผู้หญิงจะไม่เหนื่อยได้ยังไงคะ” “เมื่อไหร่ป้าจะกลับมาเรียกหนูแบบเดิมคะ เรียกคุณผู้หญิงนี้ดูแก่มาก” อิงลดาไม่สนใจคำคะยั้นคะยอของอีกฝ่าย เธอเปลี่ยนเรื่อง “ฮ่า ๆ ก็ทำไงได้ ก็คุณหนูเป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้นี่คะ” ปิ่นฉัตร ว่าพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ผ่านมาสี่ปีแล้วแต่คุณผู้หญิงอิงลดายังอยากให้เธอกลับมาเรียกสรรพนามเดิม สรรพนามเมื่อครั้นยังเป็นนางสาว ยังเป็นเพียงเด็กหญิงที่คุณผู้ชายคนก่อนพามาอยู่บ้าน ก่อนที่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อพินัยกรรมเปิดออก “แต่ก็เหลือแค่หนึ่งปี…กลับมาเรียกหนูแบบเดินนะคะ” เธอว่าด้วยรอยยิ้มสดใส หญิงสาวในวัยยี่สิบแปดปีนี้ เธอมีแววตาที่สวนทางกับรอยยิ้มที่ฉีกยิ้มอยู่ตลอดเวลา ใครต่างก็ว่าเธอเหมือนกับหนูตกถังข้าวสาร แต่ใครใคร่จะรู้สิ่งที่เป็นอยู่ ไม่มีใครเข้าใจ มีแค่เธอที่รู้สึกอยู่คนเดียว เพราะเธอเป็นเพียงคนเดียวที่รับรู้…และได้สัมผัสมัน ...เสียงรถยนต์คันหรูเมอร์เซเดส-เบนซ์คุ้นหูนี้ทำให้อิงลดาชะเง้อคอมอง เธอครุ่นคิดบางอย่างในใจ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ “กลับมาไวกว่าที่คิดแฮะ” เธอพึมพำเบา ๆ “เดี๋ยวป้าไปถือกระเป๋าให้คุณผู้ชายก่อนนะคะ” เธอพยักหน้ารับพลางชะเง้อชะแง้แลหา แม้นว่าจะไม่ได้อยากไปต้อนรับ แต่ใจจริงก็อยากจะไปพบหน้าหลังจากไม่ได้เจอกันมาหลายวัน บริเวณโรงจอดรถ ทางด้านซ้ายของบ้าน ร่างหนากำยำสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบแปดกำลังงุ่นง่านอยู่ภายในรถ ชายหนุ่มเลื่อนสายตาสำรวจมองของใช้ส่วนตัวภายในคันรถ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถคันหรู เขาบิดขี้เกียจเล็กน้อย ยืดแข้งยืดขาด้วยความที่ไม่สบายตัว ขาที่ยาวมากนั้นทำให้ลำบากมากเลยทีเดียวหลังจากขับรถกว่าแปดชั่วโมงพาแฟนสาวไปเที่ยวต่างจังหวัด “สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย...” พันธดนย์พยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะชี้มือชี้ไม้ให้คนรับใช้ไปที่ท้ายรถ “มีเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซักด้วยนะ ฝากด้วยครับป้า” “ค่ะ” แม่บ้านวัยห้าสิบปีนั้นอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังเด็ก พ่อแม่เป็นคนรับใช้ในบ้านเกตุพิมุกสกุล ส่งต่อความจงรักภักดีให้กันและกันมาเป็นทอด ๆ ปิ่นฉัตรเดินไปจัดการกระเป๋าใบใหญ่ของคุณผู้ชายคนเดียวของบ้าน เห็นอย่างนั้นเจ้าของร่างสูงก็วางใจ เขาเดินเข้าบ้านด้วยใบหน้านิ่งเรียบพลางยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู “พี่ถึงแล้วนะ” [โอเคค่ะ นิสากำลังจะไปอาบน้ำ] “ครับ คิดถึงนะ” [หืม เพิ่งเจอกันไปหยก ๆ คิดอะไรกันคะเนี่ย] น้ำเสียงกระเง้ากระงอดของเธอทำให้คนได้ยินผ่านโทรศัพท์หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะชะงักไปเมื่อมองเห็นใครบางคน อิงลดาหลบสายตาคมที่ตวัดมอง เธอก้มหน้าเช็ดโต๊ะต่อไปโดยทำเป็นไม่สนใจ แต่ความจริงแล้วนั้นเธอเงี่ยหูฟังตลอด “แค่นี้ก่อนนะครับ พี่ต้องไปอาบน้ำแล้วเหมือนกัน” ชายหนุ่มรอฟังเสียงตอบรับจากแฟนสาวครู่หนึ่ง ก่อนจะกดตัดสาย เขาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงโดยที่สายตายังไม่ละออกจากร่างบางของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาตีทะเบียน “ใครให้เธอทำความสะอาด” ชายหนุ่มว่าเสียงเรียบตึง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ฉันอยากทำ” เธอเองก็ตอบเสียงเรียบ หากแต่ว่าไม่ได้แสดงความไม่พอใจออกมา “ไม่ต้องทำ ถ้าใครมาเห็นจะคิดว่ายังไง คิดว่าฉันที่รวยหมื่นล้านให้เมียนั่งขัดโต๊ะหรือไง” น้ำเสียงแข็งกร้าวของเขาทำให้เธอวางมือลง หญิงสาวค่อย ๆ ยืนขึ้นประจันหน้ากับเจ้าของใบหน้าหล่อเหลานี้ “ทุกวันนี้ยังมีคนคิดว่าฉันเป็นเมียพี่อยู่อีกเหรอคะ...” “_” “ฉันก็เป็นคนรับใช้ในสายตาพี่มาตลอด ทำไมต้องสนใจสายตาคนอื่น” แม้นว่าจะเกรงกลัวเขาไม่น้อย แต่อิงลดาก็ไม่เคยอ่อนข้อให้เขารังแก เธอเชิดหน้าเถียงแบบนี้เป็นประจำ “แต่เธอต้องสนใจเพราะกำลังทำให้ฉันเสียหาย” เขาเท้ามือที่เอว แต่งงานกันมาสี่ปีเธอยังไม่เข้าใจเขาเลย แถมยังเถียงคำไม่ตกฟากเช่นเดิม “แล้วออกไปกับผู้หญิงคนอื่นนี่ไม่ได้เสียหายเลยใช่ไหมคะ” เจ้าของคำพูดไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าพูดอะไรออกมา แต่คนฟังนั้นตงิดในใจ เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “หมายความว่าไง เธอกำลังหวงฉัน?” “หือ...” เปลือกตาบางกะพริบปริบ ๆ เธอกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ “จะบ้าเหรอคะ เราก็ตกลงกันแล้ว” “ใช่ไง แล้วเธอพูดอย่างนี้ทำไม” “ก็เมื่อกี้พี่พูดว่าคนอื่นจะมองพี่ยังไง แล้วไม่สนใจเหรอว่าคนอื่นจะมองยังไงที่พี่ไปกับผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่ได้หวง ไม่ได้หึงพี่นักหรอก” ว่าพร้อมกับยกแขนขึ้นกอดอก อิงลดาไม่ชอบใจเท่าไรนักที่เขาเอาแต่ต่อว่าเธอ โดยที่ไม่เคยคิดว่าเขานั่นแหละที่ผิด “คุยกับเธอไม่รู้เรื่องหรอก ยัยเด็กเมื่อวานซืน” “ฉันไม่เด็กแล้วนะ!” เธอเถียงคอเป็นเอ็นอีกเช่นเคย ตอนนี้ก็อายุยี่สิบแปดปีแล้ว แต่เขายังคิดว่าเธอยังคงเป็นเด็กเช่นเดิม ...พันธดนย์ไม่รอฟังอะไรต่อ ถึงบอกไปก็เปล่าประโยชน์ ชายหนุ่มส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเดินขึ้นบ้านไปยังห้องของตัวเอง ที่อยู่ไกลจากห้องของอิงลดาพอสมควร ด้วยความที่บ้านหลังใหญ่ มีหลายห้องนอน เขาไม่จำเป็นต้องนอนกับเธอไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร เสียงน้ำจากฝักบัวตกกระทบพื้น ร่างหนาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสมชายชาตรีนี้มีหยดน้ำเกาะพราว พันธดนย์วัยสามสิบสี่ปีนั้นกล้ามเนื้อแน่นหนัดมากกว่าตอนเป็นวัยรุ่นหลายร้อยเท่า ด้วยอาหารการกิน การดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ด้วยความที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ของผู้บริหารหนุ่ม แน่นอนว่าการดูแลตัวเองเป็นอย่างดีนั้นทำให้เขาดูดีมากเลยทีเดียว ...ผิวขาวเนียนนั้นเป็นรอยแดงตามรอยผ้าขนหนู เขามองตัวเองผ่านกระจกเงา สะบัดผมที่เปียกชุ่มนี้แรง ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบปลายคางของตัวเองเบา ๆ ไรหนวดที่ทิ่มแทงนิ้วมือนั้นทำให้เขาส่ายหน้าเบา ๆ อย่างเอือมระอา โกนหนวดไปหมาด ๆ แล้วแท้ ๆ แต่ก็ขึ้นเสียแล้ว พันธดนย์โกนหนวดเสร็จก็เดินออกจากห้องน้ำ ชายหนุ่มกดดูโทรศัพท์ก็พบกับข้อความของแฟนสาว มุมปากหนานั้นยกยิ้มบาง ๆ ด้วยความสุข แต่ก็ไม่สุขร้อยเปอร์เซ็นต์เท่าไรนัก นึกเสียดาย หากพินัยกรรมไม่ถูกเปิดออก...เขาก็คงได้แต่งงานกับแฟนสาวของตัวเองไปแล้ว แต่กลับได้ไปแต่งงานกับเด็กเหลือขอคนนั้นเสียได้...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD