ตอนที่ 2
“ขอบคุณค่ะ ญาดาสัญญานะคะ ว่าถ้าเราปลดหนี้กันได้แล้ว ญาดาจะแต่งงานกับคุณ” ปุณญาดาและไตรทศ ทั้งสองอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา แต่ทั้งคู่ยังไม่ได้แต่งงานกันให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะทั้งคู่ยังเป็นหนี้ก้อนโต ประกอบกับฝ่ายหญิงยังต้องเดินทางอยู่บ่อยครั้ง
ปุณญาดาเธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ และตอนนี้เธอก็กำลังมีงานวิจัยชิ้นสำคัญ ถ้างานวิจัยของเธอในครั้งนี้สำเร็จ เธอจะรวยเป็นเศรษฐี เพราะมีบริษัทแห่งหนึ่งจ้างเธอกับดอกเตอร์ชูชัย ให้ร่วมกับผลิตยาอายุวัฒนะตัวหนึ่งจากสารสะกัดของกล้วยไม้
ดอกเตอร์ชูชัย หัวหน้าของปุณญาดา ได้ทุ่มงบในการตามหาพันธ์กล้วยไม้พันธ์ดังกล่าว ที่เชื่อกันว่า ถ้าสกัดสารชนิดหนึ่งของมันออกมาแล้ว สารตัวนี้จะสามารถนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตยาอายุวัฒนะเพืี่อทำให้มนุษย์อายุยืนได้
หลายวันต่อมา
“คุณพร้อมหรือยัง” เสียงทุ้มเอ่ยถามหญิงสาวที่หิ้วกระเป๋าออกจากห้องนอนมาเพียงแค่ใบเดียว
“พร้อมแล้วค่ะ ว่าแต่เพื่อนคุณเถอะ เมื่อไหร่จะมาถึงสักที” เธอใจร้อนและนอนไม่หลับ ตั้งแต่ที่รู้ว่าจะได้ไปหมู่บ้านแห่งนี้
“ใจเย็น ๆ สิ ผมโทรหาเจ้าราเชนทร์มันแล้ว มันบอกว่ากำลังขับรถมา พอดีรถมันติดน่ะ” สิ้นเสียงแฟนสาวออกอาการหงุดหงิดทันที
“เอาเถอะน่า เดี๋ยวมันก็มา ว่าแต่คุณเถอะ...ญาดา คุณมั่นใจแค่ไหนว่าไปที่นี่แล้วคุณจะได้ในสิ่งที่คุณต้องการ”
“คุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ.. ดอกเตอร์บอกว่าที่หินศิลาเป็นถิ่นกำเนิดของกล้วยไม้ชนิดนี้อยู่แล้ว รับรองงานนี้เรารวยเละแน่” ไตรทศถอนหายใจออกมา
“คุณถอนหายใจทำไมคะ..ทศ คุณไม่เชื่อใจญาดาเหรอ ก็ไหนเราคุยเรื่องนี้กันแล้วไง”
“ผมเชื่อใจคุณครับ แต่ผมก็เป็นห่วงคุณอยู่ดี”
รถกระบะโฟลวิลเก่า ๆ คันหนึ่งที่วิ่งขึ้นผ่านถนนลูกรังอันแสนขรุขระ มาจนสิ้นสุดทางที่จะไปต่อได้ ก่อนที่คนขับจะเอ่ยขึ้นกับสมาชิกที่นั่งมาด้วย
“จากนี้เราต้องเดินเท้าเข้าไป” ราเชนทร์จอดรถสนิทที่หน้ากระท่อมของใครบางคน ด้านหลังมองไปเป็นป่าทึบ ก่อนที่เขาจะหยิบแผนที่ที่นายจ้างเขียนเอาไว้ให้อย่างละเอียดและโทรหาใครบางคน ตามเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่ในแผนที่ดังกล่าว แต่บังเอิญว่าสถานที่ตรงนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลยแม้แต่น้อย
ราเชนทร์ไม่มีทางเลือก จึงจำเป็นต้องนั่งรอ จนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง บุคคลที่เขาต้องการพบก็เดินออกมาจากป่าทึบทางด้านหลัง
“สวัสดีครับ ใช่พรานอ่องหรือเปล่าครับ” ราเชนทร์รีบเข้าไปทักทาย ชายสูงวัยที่มีลักษณะคล้ายพรานป่า ศีรษะสวมหมวกไหมพรม และคาดเอวด้วยผ้าขาวม้า สะพายย่ามมีลูกประคำคล้องคออยู่ ทุกคนที่เห็นเดาว่าอายุของเขาน่าจะราว ๆ ห้าสิบกว่า ๆ แต่ก็ยังดูแข็งแรงดี
“ขอโทษที่ปล่อยให้รอนาน พอดีข้าเข้าไปหาเห็ดในป่ามาน่ะ อีกอย่างที่นี่ก็มันก็ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ซะด้วยสิ" ชายสูงวัยคนดังกล่าวขึ้นกับทั้งสาม
"คุณลุง!!..ใช่คนที่จะพาเราเข้าไปในหมู่บ้านใช่มั้ยคะ" ปุณญาดารีบเอ่ยขึ้น ยังไม่ทันที่ราเชนทร์จะได้แนะนำตัว
"ใช่ข้าเนี่ยแหละพรานอ่อง..ที่จะเป็นคนพาเข้าไป..แต่เอะ!!! ไหนตกลงกันว่าจะไปคนเดียวไง” พรานอ่องเอ่ยถาม
“เอ่อ...พอดีเพื่อนผมเค้าเปลี่ยนใจครับ ก็เลยตามมาด้วย” ราเชนทร์ตอบ ก่อนจะแนะนำเพื่อนของเขาและแฟนสาวของเพื่อนให้พรานอ่องรู้จัก
“ได้ไม่มีปัญหา แต่ว่า..เดินกันไหวแน่นะ” พรานอ่องเอ่ยถามและหันหน้ามายิ้มให้ปุณญาดา
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ญาดาเดินไหว” พรานอ่องยิ้มขึ้นอย่างพอใจอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงหวานเอ่ยตอบรับ