bc

ก่อร่างสร้างรัก

book_age12+
314
FOLLOW
1K
READ
HE
sweet
city
secrets
like
intro-logo
Blurb

ปวดหัวเรื่องสร้างบ้านยังไม่พอ ลลิสายังต้องปวดหัวเป็นสองเท่า เมื่อแม่พยายามจับคู่เธอกับเจ้าของบริษัทรับเหมา และต้องปวดหัวเป็นสามเท่า เมื่อแม่ยืนยันว่าอยากได้เขาเป็นลูกเขย แต่แม่คะ หนูไม่ได้ชอบเขาเลยนะ!

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1... ขวัญใจไฮโซ
หากเอ่ยชื่อนักแสดงหญิงชื่อดังของเมืองไทย ต้องมีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดถึง “ลลิสา สราลัญ” เพราะฝีมือการแสดงของเธอนั้นจัดจ้านในทุกย่านกองถ่ายละคร ต่อให้ต้องรับบทร้องไห้ทั้งเรื่อง เธอก็สั่งน้ำตาให้หลั่งออกมาเป็นน้ำตกได้ตามต้องการ จะให้เธอย้อนเวลาไปรับบทเป็นแม่หญิงแสนโสภาในอดีต พูดจาด้วยภาษาไทยสมัยโบราณ เธอก็พูดได้คล่องแคล่วเหมือนเกิดเมื่อสองร้อยปีที่แล้ว หรือจะให้ยกขาเตะผู้ร้าย วิ่งหนีงูยักษ์ในป่าดงดิบ เธอก็ทำได้ตามที่ผู้กำกับต้องการ เมื่อคนดูเห็นความตั้งใจในการแสดง ผลงานจึงถูกพูดถึงและเป็นที่ชื่นชอบ ผลพลอยได้จากชื่อเสียงและการเป็นที่รู้จักจากคนหมู่มากก็ทำให้เธอได้รับงานโฆษณามากมาย เรียกว่าหากไปเดินในซูเปอร์มาเก็ต คงมีแค่กางเกงชั้นในผู้ชายเท่านั้นที่เธอไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ “ได้ข่าวว่าน้องลินกำลังจะสร้างบ้าน ตอนนี้เริ่มสร้างหรือยังคะ” เสียงหวานๆ ของนักข่าวสายบันเทิงเอ่ยถามลลิสาหลังจากสัมภาษณ์เรื่องโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดในงานเปิดตัวที่เธอเป็นพรีเซนเตอร์ “ใช่ค่ะ กำลังจะสร้างบ้านใหม่ให้แม่ค่ะ เป็นเรื่องที่เราตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะทำ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มสร้างนะคะ ยังอยู่ในขั้นตอนของการออกแบบค่ะ” “ได้ยินว่าตั้งงบประมาณไว้สี่สิบล้านบาท เรื่องจริงหรือเปล่าคะ” “ไม่ถึงค่ะ บ้านก็จะสร้างขนาดพอดีๆ ค่ะ ไม่ได้เน้นเรื่องความใหญ่โตอลังการ แต่เน้นเรื่องความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย” “ทำเลใจกลางเมืองเลยใช่ไหมคะ” “ก็ถือว่าอยู่ในทำเลที่ดี สะดวกกับการเดินทางไปหลายๆ ที่ค่ะ” “เรียกว่าเงินที่หามาได้ น้องลินเอาไปทุ่มกับบ้านหลังนี้หมดเลยใช่ไหมคะ” “จะเรียกแบบนั้นก็ได้ค่ะ แต่ก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจ เพราะเราได้ทำให้คนที่เรารัก” “พูดถึงคุณแม่แล้ว ขอถามเรื่องข่าวเกี่ยวกับไฮโซเจ้าของโรงแรมดังชื่อคุณภูมิ ที่กำลังตามจีบน้องลินอยู่ คนนี้คุณแม่ปลื้มมาก อยากให้มาเป็นว่าที่ลูกเขย ใช่เรื่องจริงหรือเปล่าคะ” “ไม่ใช่ค่ะ ไม่จริง ไม่ได้เป็นว่าที่ลูกเขยของแม่ค่ะ รู้จักกันเพราะเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกที เจอกันก็ทักทายปกติ ไม่มีคุยนอกรอบค่ะ” “แล้วแบบนี้มีโอกาสที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นคนสนิทมากขึ้นไหมคะ ได้ข่าวว่าฝ่ายนั้นกำลังเดินหน้าจีบเราจริงๆ นะ” “เท่าที่เคยได้คุยกัน เขาก็ไม่ได้มีท่าทีแบบที่พี่ๆ พูดนะคะ” “แบบนี้ถ้าคนที่กำลังเป็นข่าวด้วยมาจีบจริงๆ น้องลินจะเปิดโอกาสให้ไหมคะ” “ลินเป็นมิตรกับทุกคนค่ะ ใครมาคุยด้วยก็คุยได้ค่ะ” “งั้นสรุปสถานะหัวใจให้แฟนๆ ฟังหน่อยได้ไหมคะว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” “ตอนนี้โสดค่ะ โสดแต่ก็ไม่เหงา เพราะลินมีโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่เครื่องนี้เป็นเพื่อนค่ะ ดาวน์โหลดหนังเก็บไว้ดูได้ถึงสามเรื่อง เพราะความจำในตัวเครื่องเยอะมาก หน้าจอก็คมชัดสุดๆ และหูฟังยังมีนวัตกรรมใหม่ที่สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ด้วย ดูหนังก็สนุก ฟังเพลงก็เพราะ โสดแค่ไหนก็ไม่มีเหงาค่ะ” “นี่โฆษณาโทรศัพท์หรือโฆษณาตัวเองคะ” “โทรศัพท์ค่ะ ถ่ายรูปก็สวยเพราะกล้องหน้าเก็บรายละเอียดภาพได้กว้างมากเลยนะคะ ฝากด้วยค่ะ” ลลิสาหัวเราะร่า เพราะชอบใจที่พี่ๆ นักข่าวช่วยรับส่งมุกตลกให้เธอได้ขายสินค้า “ขอบคุณน้องลินมากค่ะ ขอถ่ายรูปไปลงในข่าวหน่อยนะคะ” เมื่อนักข่าวจากหลากหลายสำนักได้คำตอบที่พอใจก็เลิกเซ้าซี้ จะถามยังไงเจ้าตัวก็คงปฏิเสธข่าวลือกับไฮโซรุ่นพี่ เรื่องความรักของดาราคนดังจึงเป็นอันต้องพับเก็บไว้ถามในงานอีเวนต์หน้าว่ามีอะไรคืบหน้าบ้างหรือเปล่า “ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากค่ะ เจอกันงานหน้านะคะ” ลลิสายกมือไหว้ทั้งนักข่าวและตากล้อง ก่อนจะเดินไปถ่ายรูปกับแฟนคลับอีกหลายสิบคน ที่มาให้กำลังใจเธอพร้อมกับป้ายไฟ ลลิสารักและใส่ใจกับกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยความจริงใจ บนเส้นทางของการเป็นนักแสดง หากไม่มีพวกเขาคอยสนับสนุนผลงานมาตลอด เธอก็คงไม่มีโอกาสดีๆ มากมายในชีวิต ลลิสากลับมาถึงคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่และหรูหรามากนัก เพราะเป็นเพียงห้องพักที่เอาไว้นอนหลับเพียงไม่กี่ชั่วโมงและให้แม่มาอยู่ด้วยในช่วงที่แม่เบื่อจะอยู่บ้านสวนที่จังหวัดนครนายก แต่แทนที่เธอจะเอนหลังสบายๆ เพื่อพักผ่อนจากทำงานหนักทั้งวัน เธอกลับถูกแม่ดึงตัวมาสอบสวน คล้ายกับว่าเธอเป็นนักโทษ “มานี่เลยลิน ทำไมตอบนักข่าวแบบนั้น พูดไปได้ยังไงว่าเขาไม่ได้จีบ” “ก็เขาไม่ได้จีบ จะบอกว่าจีบได้ไงล่ะแม่” “เขาส่งดอกไม้มาให้ทุกเช้า จะบอกว่าเขาไม่ได้จีบได้ยังไง เล่นตัวตลอดเลยนะ แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเป็นนักธุรกิจ เป็นผู้บริหารน่ะอย่าปล่อยทิ้งขว้าง ลองคุยไปก่อนก็ได้ กี่คนแล้วที่เข้ามาจีบ แต่ลินไม่เล่นด้วยจนเขาไปแต่งงานกับดาราคนอื่น มีลูกมีเต้าโตจนจะเข้าโรงเรียนแล้ว” “แม่ เขาส่งดอกไม้มาแล้วยังไง แม่เป็นคนรับดอกไม้พวกนั้น ลินไม่ได้รับ ถ้าเขาจะจีบจริงๆ จะส่งมาแค่ดอกไม้ทำไม เวลาเจอกันตามงาน อีเวนต์ หรือตอนกินข้าวกับเพื่อนกลุ่มเดียวกันก็เดินมาจีบเลยสิ ไม่ใช่ส่งดอกไม้มาลองเชิงว่าเราจะมีใจหรือเปล่า อยากจีบก็กล้าๆ หน่อย แล้วดอกไม้พวกนี้ โทรศัพท์ไปสั่งที่ร้าน ร้านเขาก็ให้คนมาส่ง แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาส่งให้ผู้หญิงคนอื่นอีกหรือเปล่า แม่อย่าตื่นเต้นมากได้ไหม ถึงลินจะไม่มีแฟน ลินก็ไม่ตายหรอก” “ยัยลิน! เถียงแม่คอเป็นเอ็นเลยนะ” “ก็แม่กลัวแต่ลินจะขึ้นคาน ไม่ต้องกลัวหรอกแม่ ลินอยู่เป็นโสดก็ได้ สบายใจดีด้วย ถ้าอนาคตลินเหงามาก ลินจะซื้อหมามาเลี้ยง” “แม่ไม่ได้กลัวว่าลินจะขึ้นคาน แม่กลัวว่าถ้าแม่ตายไปแล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนลิน พ่อก็ไปสวรรค์แล้ว ถ้าไม่เหลือแม่แล้วลินจะอยู่กับใคร” “เรื่องแฟน ถ้าจะมีเดี๋ยวก็มีเองนั่นแหละแม่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”  ลลิสาเสียงอ่อนลงเมื่อได้ฟังเหตุผลของแม่ ตั้งแต่พ่อเสียชีวิตเพราะโรคร้ายไปเมื่อสี่ปีก่อน แม่ก็ใช้เวลาเยียวยาจิตใจอยู่นาน กว่าจะกลับมาเป็นคนอายุห้าสิบสามที่สดใสร่าเริง แม่ก็ผ่านความลำบากและความทุกข์ใจมาเยอะ “แล้วเรื่องบ้านใหม่ล่ะ ได้เรื่องไปถึงไหนแล้วลิน” ศรัญญาผู้เป็นแม่ก็อารมณ์เย็นลงเช่นกัน ที่เธออยากให้ลูกสาวได้คู่ชีวิตเป็นคนมีหน้าที่การงานและฐานะมั่นคง เพราะในอดีตเธอกับสามีนั้นรู้จักมักคุ้นกับความลำบากเป็นอย่างดี เธอจึงไม่อยากให้ลูกต้องเริ่มต้นชีวิตครอบครัวแบบที่เธอเคยมาผ่านมา “สถาปนิกออกแบบอยู่แม่ อาทิตย์หน้าเขาจะนัดไปดูแบบบ้านที่เราสั่งแก้ ถ้าเราชอบ เราพอใจแล้วก็เตรียมสร้างได้เลย แม่ไปด้วยกันนะ จะได้ดูว่าชอบหรือเปล่า ถ้าแม่ไม่ชอบ แม่จะได้บอกให้เขาแก้แบบให้เลย” “อาทิตย์หน้าแม่ไม่ว่าง” “...แม่จะไปไหน” ลลิสามองศรัญญาอย่างจับผิด สีหน้าแบบนี้ สายตาแบบนี้ แบบที่ไม่กล้ามองเธอกลับ แต่ปากส่งยิ้มจางๆ มันคุ้นๆ ว่าเธอเคยเจอมาก่อน “แม่จะไปฮ่องกง”                    “แม่!” “ก็พวกป้าๆ เขาชวน นานๆ ไปที” “นานตรงไหนแม่ เดือนที่แล้วแม่ก็เพิ่งไปมาเอง ไปทีไรก็ไปอยู่แต่ในคาสิโน” “ก็... มันคลายเครียด” “แม่จะต้องเครียดอะไรเนี่ย แม่มีอะไรให้เครียด” ลลิสาเซ็งเกินจะบรรยาย จะโทษแก๊งเพื่อนของคุณนายศรัญญาว่าชอบชวนไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขก็ไม่ได้ เพราะถ้าแม่ตัวเองไม่เอาด้วยสักหน่อย เรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้ “เอาน่าลิน เรื่องบ้านลินก็จัดการไปเลยแล้วกัน แม่ไป แม่ก็คุยกับเขาไม่รู้เรื่องหรอก” “แต่ลินสร้างบ้านนี้ให้แม่นะ เราต้องมีส่วนร่วมด้วยกันสิ” “ถึงแม่จะหน้าเด็กกว่าคนวัยเดียวกัน แต่จริงๆ แม่ก็แก่แล้วนะลิน เดี๋ยวสักวันแม่ก็ต้องไปอยู่กับพ่อที่รอแม่อยู่ที่ไหนสักที่ ให้มันเป็นบ้านของลินเถอะนะลูก แม่ขอเป็นคนอาศัยก็พอ” ศรัญญามองหน้าลูกสาวด้วยความรัก วัยอย่างเธอจะอยู่บนโลกนี้ได้อีกนานเท่าไหร่กันเชียว ตายไปก็เอาไปไม่ได้ แค่ลูกบอกว่าจะสร้างบ้านหลังนี้ให้แม่อยู่ คนเป็นแม่ก็ภูมิใจ ตื้นตันจนน้ำตาแทบไหล แต่มันก็ไม่ได้ภูมิใจเท่าการได้เห็นว่าลูกจะได้มีบ้านไว้พักพิงจากเงินที่หามาด้วยหยาดเหงื่อของตัวเอง “สองแสนพอไหม” ลลิสาไม่อยากเข้าฉากซึ้งๆ และแม่เธอเองก็คงคิดเช่นกัน “สามแสนได้ไหม” “สองแสนห้าแล้วกันนะ” “โอเคจ้ะลูกรัก” ศรัญญาดึงลูกสาวเข้ามากอด สมแล้วที่หมอดูเคยทำนายว่าลูกคนนี้จะทำให้ชีวิตมีความสุข แต่จะสุขมากกว่านี้ ถ้าลูกสาวเปิดโอกาสให้หนุ่มหล่อเจ้าของช่อดอกไม้ที่วางอยู่เต็มห้องนั่งเล่นได้พิชิตหัวใจ ลลิสานั้นได้แต่ปลง เธอไม่ได้สนับสนุนให้แม่เล่นการพนัน แต่เธอไม่เคยลืมว่าตอนเธอยังเด็ก แม่กับพ่อต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูเธอ และต้องเสียสละหลายสิ่งหลายอย่างให้ลูกก่อนเสมอ มาถึงวันนี้ วันที่เธอมีเงินมากพอจะดูแลบั้นปลายชีวิตของแม่ เธอจึงอยากให้แม่ใช้ชีวิตให้มีแต่ความสุขกายและสุขใจแทนพ่อที่จากไปแล้วด้วย “สวัสดีค่ะคุณภูมิภัทร” “สวัสดีครับ” นักธุรกิจหนุ่มในชุดสูทสีดำเข้ารูป เดินออกมาจากลิฟต์ได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องส่งยิ้มสลับกับก้มหัวลงเล็กน้อยอยู่หลายต่อหลายครั้ง เพื่อรับคำทักทายจากพนักงานในความดูแลที่เดินสวนกันไปมา “วันนี้ไม่ต้องโทรศัพท์ไปสั่งดอกไม้ให้ผมนะ” “ได้ค่ะ” เลขานุการประจำหน้าห้องทำงานของผู้บริหารตอบรับคำสั่ง ก่อนจะเอ่ยถามเจ้านายด้วยความแปลกใจ “คุณภูมิจะเลิกจีบคุณลินแล้วเหรอคะ” “ผมไม่เคยจีบคุณลินหรอก” ภูมิภัทรตอบด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ แววตาเต็มไปด้วยประกายของความเจ้าสำราญ เมื่อคืนเขาได้ฟังคำสัมภาษณ์ของลลิสา ดาราสาวที่เขาถูกตาต้องใจและได้ยินข่าวคราวบ่อยๆ ว่าเธอนั้นไม่เคยเปิดโอกาสให้คนในแวดวงสังคมเดียวกับเขาได้เข้าใกล้ เขาเลยอยากพิสูจน์ว่าเธอเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะเมื่อก่อนที่มีโอกาสได้เจอหน้ากัน เขามีคนรักอยู่แล้ว เลยไม่มีความคิดจะยุ่งเกี่ยวเกินคนรู้จัก แม้ว่าความสวยของเธอจะตรงสเปกเขาทุกอย่างก็ตามที แต่ในเมื่อตอนนี้เขาไม่มีพันธะเรื่องผู้หญิง และจากบทสัมภาษณ์้ที่เป็นข้อยืนยันว่าเธอไม่ต้องการถูกเรียกว่าเป็นของเล่นไฮโซนั้นเป็นเรื่องจริง เขากลับตัดสินใจที่จะไม่ยอมแพ้เหมือนผู้ชายคนอื่น เพราะอยากรู้จักเธอมากขึ้น อยากรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอเป็นเช่นไร วันนี้การไหว้วานให้เลขาจัดการธุระเรื่องดอกไม้จึงไม่มีความจำเป็น เพราะเขาจะนำมันไปมอบให้ ลลิสาด้วยตัวเอง “สวัสดีครับ” ภูมิภัทรเดินตรงไปหาลลิสาที่เพิ่งออกมาจากลิฟต์ หลังจากนั่งรอเธออยู่ด้านล่างของคอนโดมิเนียมเกือบหนึ่งชั่วโมง ในมือของเขาถือช่อดอกไม้ ที่มีดอกกุหลาบสีขาวอยู่เพียงดอกเดียวและมีกระดาษสีน้ำเงินเข้มห่อหุ้มเอาไว้อย่างสวยงาม “ค่ะ” ลลิสาตอบกลับและมองไปรอบๆ ว่ามีใครน่าสงสัยอยู่แถวนี้หรือไม่ เธอไม่อยากมีข่าวว่าไฮโซหนุ่มที่นักข่าวกำลังให้ความสนใจนั้นมาหาเธอถึงที่พัก ทั้งๆ ที่เมื่อวานเพิ่งปฏิเสธไปว่าไม่ได้สนิทกัน “พี่ขอโทษนะครับ ที่ผ่านมาพี่ไม่ได้เอาดอกไม้มาให้น้องลินด้วยตัวเอง แต่เมื่อคืนพี่ได้ฟังที่น้องลินให้สัมภาษณ์ พี่เลยรู้ตัวแล้วว่าพี่ไม่ควรทำเพียงแค่ส่งดอกไม้ พี่ควรส่งมันให้น้องลินด้วยมือของพี่เอง เพื่อแสดงให้น้องลินรู้ว่า...” “ลินต้องรีบไปทำงาน คนขับรถมารอแล้วค่ะ” ลลิสาพูดตัดบทสนทนา แต่ก็ยังมีมารยาทมากพอที่จะส่งยิ้มให้เขา เพราะเธอกำลังสงสัยว่าเขาแอบใส่เครื่องดักฟังไว้ในช่อดอกไม้เก่าๆ หรือเปล่า ถึงรู้ว่าเธอคุยกับแม่ว่าอะไรบ้าง “ช่วยรับดอกไม้ที่พี่ตั้งใจเอามาให้ก็พอครับ น้องลินสะดวกจะคุยกับพี่เมื่อไหร่ ไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันต่อ” “ขอบคุณค่ะ ลินขอตัวนะคะ ไม่อยากไปทำงานสาย” ลลิสารับช่อดอกไม้ที่เขาส่งมาให้เพื่อรักษาน้ำใจ ก่อนเดินจากไปโดยที่เบื้องหลังนั้นมีภูมิภัทรมองตามอย่างไม่ละสายตา เพียงแค่ได้คุยกับเธอสั้นๆ เขาก็ทบทวนแล้วว่า นอกจากบริหารงานด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทำอยู่เป็นประจำแล้ว ต่อไปนี้เขาต้องเพิ่มทักษะการบริหารเสน่ห์ของตัวเองให้เธอตกหลุมรัก เพราะการจะได้ครองใจเธอนั้น คงเป็นเรื่องที่เขาต้องใช้ความพยายามมากทีเดียว “สวัสดีจ้ะ” “...สวัสดีครับ” สองมือยกขึ้นไหว้อย่างเก้ๆ กังๆ ผู้หญิงที่เข้ามาทักทาย น่าจะมีอายุไม่ต่างกับแม่ของตัวเองมาก เธอกำลังมองเขาอย่างจับผิด คล้ายๆ กับสงสัยว่าเขาจะมาวางระเบิดคอนโดหรือเปล่า แต่จากรูปลักษณ์และการแต่งกาย เธอก็คงไม่ใช่แม่บ้านหรือพนักงานรักษาความปลอดภัย “ชื่ออะไรจ๊ะ เป็นใครมาจากไหน ทำไมน้าไม่คุ้นหน้าเลย” “ผมเหรอครับ” “ใช่จ้ะ น้าถามว่าคุณเป็นใคร ชื่ออะไร รู้จักลูกสาวน้าด้วยเหรอ” หลังจากเห็นเหตุการณ์ที่เขาเข้ามาพูดคุยกับลลิสา ศรัญญาก็วางท่าเป็นแม่สุดหวงลูกสาวดั่งไข่ในหิน “สวัสดีครับ ผมชื่อภูมิภัทรครับ คุณน้าจะเรียกผมว่าภูมิก็ได้ครับ” ภูมิภัทรรีบแนะนำตัวอย่างสุภาพและรวดเร็วแบบติดจรวด หวังว่าคงจะไม่สายเกินไปที่จะทำให้แม่ของเธอประทับใจนะ “แล้วตกลงว่าเป็นเพื่อนกับลินใช่ไหม” “ก็... รู้จักกันครับ” “แล้วมาหาลินที่นี่มีอะไร ปกติมีแต่เพื่อนสนิทลินมาหาที่นี่ มีธุระสำคัญอะไรหรือเปล่า” “คุณน้าพอจะมีเวลาสักครู่ไหมครับ” ภูมิภัทรเห็นว่าแม่ของลลิสาคงจะซักไซ้ไม่เลิกแน่ๆ ถ้าเขาไม่ตอบอะไรให้มันชัดเจน “มี แต่ไม่มาก” “ผมรบกวนคุณน้านั่งคุยกับผมก่อนได้ไหมครับ เชิญครับ ยืนนานๆ เดี๋ยวจะเมื่อย” เขายื่นมือจะไปแตะแขนของศรัญญาเพื่อช่วยพยุงไปนั่ง แต่เธอก็หันหลังเดินไปด้วยตัวเองพร้อมกับความประทับใจ คนนี้แหละที่เธออยากได้มาเป็นลูกเขย ขยันส่งดอกไม้มาให้ลูกสาวทุกวัน แม้ลูกสาวจะไม่สนใจใยดี แต่ก็ยังเดินหน้าจีบต่อ ไม่เหมือนพวกไฮโซคนอื่นๆ ที่ไม่รู้จักพยายาม แถมยังรู้จักเอาอกเอาใจ เกรงว่าคนแก่อย่างเธอจะปวดแข้งปวดขา “ผมภูมิภัทร พิริยะหิรัญนะครับคุณน้า ผมรู้จักกับน้องลิน เพราะเธอเป็นเพื่อนของเพื่อนผม เลยมีโอกาสได้เจอและได้พูดคุยกันเล็กน้อย ผมประทับใจหลายๆ อย่างในตัวของน้องลิน เลยอยากทำความรู้จักน้องลินให้มากขึ้นครับ” “คนเดียวกันกับที่ส่งดอกไม้มาให้ทุกวันสินะ” ศรัญญาฟังจนจบก็มองภูมิภัทรอย่างพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้จะแต่งตัวเหมือนผู้ชายที่ทำงานในออฟฟิศทั่วๆ ไป แต่รัศมีความเป็นเจ้าคนนายคนเปล่งประกายมาจากนาฬิกาเรือนหรู ที่คงมีราคาหลายแสนหรืออาจจะแพงหลักล้าน “ใช่ครับ ขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้มาส่งให้ด้วยตัวเอง เกรงใจน้องลินน่ะครับ ยังไม่ได้สนิทกันมาก มาที่นี่ทุกวันคงจะไม่ดี” “ขอบคุณแทนลูกสาวน้าด้วยนะที่ให้เกียรติ แต่ลินเขาทำงานหนัก ไม่ได้มีเวลาสนใจช่อดอกไม้เท่าไหร่หรอก” “ไม่เป็นไรครับ แค่น้องลินรู้ว่าเป็นดอกไม้จากผมก็พอครับ” “แล้วนี่จะจีบลูกสาวน้าจริงๆ เหรอ คิดดีหรือยัง ลินงานยุ่งมากนะ ทำงานทั้งวันและเกือบทุกวัน ถ้าลูกสาวน้าไม่มีเวลาให้จะไม่น้อยใจใช่ไหม ทำไมไม่คบคนที่ทำงานเป็นเวลาเหมือนตัวเองล่ะ” “ผมทราบดีครับว่าน้องลินทำงานหนัก ตัวผมเองก็ทำงานทุกวัน เรื่องมีเวลาให้กันหรือเปล่า ผมยังไม่กล้าคิดไปไกลถึงขั้นนั้นครับ ตอนนี้ขอแค่ให้น้องลินเปิดโอกาสให้ผมได้ทำความรู้จักมากขึ้นก่อน” “ที่บอกว่าทำงานทุกวัน ถามได้ไหมว่าทำงานอะไร เสาร์ อาทิตย์ไม่ได้หยุดพักผ่อนอย่างคนอื่นเขาเหรอ” “ผมช่วยครอบครัวบริหารโรงแรม ดูแลในส่วนของตัวอาคารและการจัดการสถานที่ภายใน โรงแรมอยู่ถัดไปจากคอนโดนี้แค่ไม่กี่ซอยเองครับ” “เป็นคนมีบุญวาสนานะ เกิดมาบนกองเงินกองทอง สมมติว่าถ้าได้คบกับลิน ครอบครัวเราจะรับได้เหรอ ลูกสาวน้าไม่ใช่ไฮโซ นามสกุลไม่ดัง แล้วเราก็คงมาจากครอบครัวคนจีน แต่ครอบครัวของน้ากับลินเป็นคนไทยแท้ ไม่สันทัดเรื่องเทศกาลตรุษจีนหรือเช้งเม้งนะ” “เรื่องนั้นสบายใจได้ครับ พ่อกับแม่ผมเป็นคนมีความคิดทันสมัย ท่านทราบดีครับว่าหมดยุคที่จะตัดสินใครจากนามสกุลแล้ว พี่สาวผมก็แต่งงานกับคนฝรั่งเศส น้องชายผมมีแฟนเป็นคนเกาหลี พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมอาจจะโชคดีที่เกิดมาในครอบครัวที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ แต่ผมก็มีบริษัทที่ลงทุนด้วยตัวเองนะครับ ผมลงทุนร่วมกับเพื่อนรุ่นพี่ เปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างครับ บริษัทของผมดูแลทั้งงานเล็กๆ อย่างสร้างบ้าน ไปจนถึงงานใหญ่ๆ อย่างการสร้างคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร ผมไม่ได้จะพูดเอาใจหรือทำคะแนนนะครับ แต่ถ้าคุณน้ากำลังหาผู้รับเหมามาดูแลเรื่องบ้านที่กำลังจะสร้าง ผมยินดีบริการเป็นพิเศษครับ” ภูมิภัทรพยายามพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สุด เพราะไม่อยากถูกเข้าใจว่าเขากำลังโอ้อวด เขาเพียงต้องการบอกให้ทราบว่าเขามีหน้าที่การงานที่ดีพอที่จะดูแลลลิสาได้ “ขอบใจที่เล่าสู่กันนะ แต่น้าต้องไปก่อน มีนัดเล่นโยคะกับแก๊งคนแก่ด้วยกัน” ศรัญญาปิดเสียงโทรศัพท์ที่มีคนโทรเข้ามาได้จังหวะอย่างพอดิบพอดี “ผมขอรบกวนคุณน้าอีกคำถามเดียวนะครับ” “จ้ะ” “คุณน้าจะเมตตาอนุญาตให้ผมทำความรู้จักกับน้องลินได้ไหมครับ” “เรื่องนี้น้าคงต้องแล้วแต่ลูกสาวนะ” “ขอบคุณครับ แค่คุณน้าไม่ปฏิเสธ ผมก็ดีใจมากแล้วครับ ให้ผมไปส่งไหมครับ คุณน้าเล่นโยคะที่ไหน” “เดินออกไปไม่ไกลก็ถึงแล้ว” “ครับ ผมอยากเจอคุณน้าบ่อยๆ นะครับ” ภูมิภัทรยกมือไหว้ศรัญญาด้วยความเคารพและเดินไปส่งเธอที่ประตูทางออก ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจ เป็นความโชคดีที่ได้เจอกับแม่ของลลิสา เขาจึงได้มีโอกาสบอกกล่าวว่าเขามาเพื่อจุดประสงค์ใด และก็พอจะดูออกว่าแม่ของลลิสานั้นไม่ได้หวงลูกสาวมากเท่าไหร่นัก พูดจาเอาอกเอาใจนิดหน่อยก็คงจะเข้าถึงได้ไม่ยาก ที่สอบถามเรื่องราวชีวิตของเขาเมื่อครู่ ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องการอยากรู้ที่มาที่ไปของคนที่จะมาอยู่ใกล้ลูกของตัวเอง ส่วนศรัญญานั้นให้คะแนนภูมิภัทรร้อยเต็มสิบ เขามีสัมมาคารวะ รู้ว่าควรทำอย่างไรเมื่ออยู่กับผู้ใหญ่ เป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะพูดความจริงว่าคิดสิ่งใดกับลูกสาว และที่ประทับใจที่สุดคือหน้าที่การงาน นอกจากครอบครัวจะมั่งคั่ง ยังรู้จักทำมาหากินด้วยตัวเอง หากภูมิภัทรไม่ได้รับมรดกจากทางบ้าน เขาก็ยังมีความสามารถมากพอที่จะดูแลลูกสาวได้ “ภูมิภัทร” “ครับคุณน้า” คนถูกเรียกชื่อรีบวิ่งมาหาศรัญญาอย่างรวดเร็ว “น้าจะดูผลงานเก่าๆ ของบริษัทเราได้จากไหนบ้าง” “นี่นามบัตรผมครับ คุณน้าสามารถเข้าไปชมผลงานได้ที่แฟนเพจของบริษัท ตามชื่อในนามบัตรได้เลยครับ เราอัปเดตงานที่เสร็จแล้วและกำลังสร้างอยู่ตลอด หรือคุณน้าจะเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราก็ได้ครับ” “แบบบ้านของน้าก็ใกล้เสร็จแล้ว ถ้าเสร็จเมื่อไหร่ น้าจะส่งแบบไปให้ประเมินราคาการก่อสร้าง แต่ถ้าแพงกว่าบริษัทอื่น น้าคงจะไม่ได้ใช้บริการนะ” “ครับ” ภูมิภัทรค่อยๆ หุบยิ้ม เพราะประโยคทิ้งท้ายนั้นฟังแล้วเหมือนถูกต่อยเข้าที่ท้อง แต่ถ้ายื่นแบบบ้านมาให้ประเมินเมื่อไหร่จริงๆ ก็ไม่ยากเกินความสามารถหรอก ที่จะทำให้ลลิสาและแม่ได้จ่ายค่าก่อสร้างในราคาถูกที่สุด แต่วัสดุและคุณภาพของอุปกรณ์การก่อสร้างยังเป็นไปตามแบบที่ต้องการ งานนี้เขายอมตัดราคาเจ้าอื่น และต่อให้งบประมาณบานปลาย เขาก็ยินดีจะออกเงินส่วนเกินให้โดยไม่ปริปากบ่นเลยละ

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
26.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook