“อูโอเคไหมอะ”
อินทิราเห็นสายตาของเธอแล้วถามเสียงห่วงใย แววตาที่มองสงสารเธออย่างชัดเจน กันต์กมลฝืนยิ้ม บอกตอบกลับไปว่า “อือ”
“เช็ดเข้ ตั้งนานตั้งนม ทำไมถึงเพิ่งจะมีนังเมียน้อยโผล่มาตอนนี้ล่ะเนี่ย” ทรายแก้วร้องตกอกตกใจจนคนอื่นพลอยตกใจตามไปด้วย
“อ้าว โผล่มาตอนนี้ก็ดีแล้วไง แล้วนี่นะ มันกำหนดได้ด้วยหรือวะ ว่าคนเราจะเจอกับคนที่ถูกใจตอนไหนน่ะ แต่ยังไงก็ดีแล้วที่มีโผล่มา จะได้เอามาเป็นเรื่องให้อูมันเอาไปฟ้องหย่าได้ยังไงเล่า”
กันต์กมลพยักหน้าเห็นพ้องด้วยตามที่เพื่อนแนะนำ แล้ววางแผนติดตามพฤติกรรมของสามีตั้งแต่ตอนนั้น
“ไอ้ติโว้ย”
เสียงเรียกที่แทบจะกลายเป็นเสียงตะโกนทำเอาจิรฐิติสะดุ้งตกใจ นั่นเองเจ้าของชื่อถึงได้ดึงสติกลับมาที่ห้องประชุมได้อีกครั้ง เขามองไปรอบ ๆ โต๊ะ ถามเสียงเหม่อแบบคนที่เพิ่งตั้งสติได้
“มีอะไรหรือ”
“ก็ต้องมีสิวะ ไม่อย่างนั้นจะเรียกทำไม” ‘ศรายุทธ’ เจ้าของบริษัทเครื่องมือแพทย์ที่เป็นรุ่นพี่ของจิรฐิติโวยวายดังลั่นห้องประชุมแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่กล้าขึ้นเสียงกับชายตรงหน้ามากนัก เพราะแม้ว่าเขาจะเป็นเจ้าของบริษัท แต่จิรฐิติก็เป็นคนลงหุ้นเกือบค่อน เรียกได้ว่าบริษัทตนเป็นเพียงหุ่นเชิดของจิรฐิติเท่านั้น แทบจะเรียกได้ว่าจิรฐิติคือเสาหลักของบริษัทนี้เลยก็ว่าได้ แต่ที่ต้องเสียงดังใส่เมื่อครู่นี้ เพราะเขาถามความเห็นจิรฐิติแล้วเจ้าตัวดันทำเป็นเงียบไม่ยอมตอบ เขาเลยเสียอาการนิดหน่อย จึงแกล้งวางท่าให้คนในห้องประชุมเห็นเท่านั้นเองว่าเขาคือผู้นำ
“ผมถามคุณว่าแผนการซ่อมบำรุงเครื่องของทางเอลฟ่าลาฟไปถึงไหนแล้วครับคุณติ”
“นี่ไง” จิรฐิติดันแฟ้มตรงหน้าส่งให้ ศรายุทธรับไปอ่านอย่างไว ๆ พึมพำ พยักหน้าว่าพอใจแล้วประชุมเรื่องอื่นตามวาระการประชุมต่อจนจบ พอจบแล้วก็โบกมือไล่น้อง ๆ ในห้อง
“เลิกประชุมได้แล้ว พวกมึงนี่นะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวกันเลยนะ” เจ้าของบริษัทบ่นแล้วรอให้คนในห้องทยอยออกไปจนหมดค่อยฟาดมือลงบนโต๊ะหน้าจิรฐิติเพื่อเรียกสติ “มึงเป็นอะไรวะติ มีอะไรหรือเปล่า ทำไมท่าทางแปลก ๆ”
“ไม่มีพี่”
จิรฐิติบอกศรายุทธแล้วก็ลุกออกจากห้องนั้นเพื่อกลับไปยังโต๊ะทำงาน เขาหันไปถามน้องผู้ช่วยว่ายังมีงานอะไรค้างอยู่ในออฟฟิศอีกหรือไม่ เมื่อไม่มีใครบอกว่ามี เขารีบรวบรวมเอกสารและเก็บของทำท่าคล้ายกับจะออกไปจากสำนักงาน
ศรายุทธมองท่าทีรีบร้อนของจิรฐิติแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ แกล้งขยิบตาบอกรชตที่เป็นรุ่นน้องของจิรฐิติอีกที ให้ทำเป็นร้องถามเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังจะไป
รชตรู้งานเห็นสัญญาณแล้วก็รีบทัก
“จะกลับแล้วหรือครับพี่ติ”
“อือ” จิรฐิติตอบรับสั้น ๆ แทบไม่ได้ยินด้วยซ้ำ พร้อมกับเดินไว ๆ ออกจากสำนักงานไป ศรายุทธเดินไปมองตามหลังพร้อมกับกอดอกพึมพำ
“ไอ้ติมันไปไหนของมันวะ นี่มันเพิ่งจะบ่ายสาม ทุกทีเห็นอยู่จนสี่ทุ่มก็ยังไม่กลับบ้าน”
แต้ว พนักงานหญิงสาวคนที่ยืนอยู่ด้วยเข้ามาทำท่าจะเม้าเรื่องของจิรฐิติ “วันก่อนนู้น มีคนเห็นพี่ติพาสาวออกมาจากโรงหนังรอบมิดไนท์ด้วยพี่ยุทธ”
ศรายุทธบอกส่ายหัวแล้วยกมือบอกว่าเรื่องนี้ไร้สาระมาก
“ไอ้ติเนี่ยนะจะมีสาวที่ไหน ก็เมียมันไง สงสัยยัยอูคงอ้อนให้พาไปดูหนังน่ะสิ”
“ไม่ใช่นะพี่ยุทธ” แต้วส่ายหน้าบอกว่าหญิงสาวคนนั้นไม่ใช่ภรรยาของจิรฐิติอย่างแน่นอน เพราะตนเคยเห็นแล้วก็รู้จักภรรยาของจิรฐิติอยู่บ้าง ศรายุทธมองค้อนแต้วแล้วพูดขึ้นว่า
“ตกลงไอ้ที่ว่ามีคนเห็นเนี่ย เราเห็นเองหรือใครเห็นกันแน่ ทำไมถึงได้มั่นใจขนาดนั้นว่าไม่ใช่เมียของไอ้ติมัน ไป ๆ แยกย้ายไปทำงานได้แล้ว”
แต้วแกล้งทำปากยื่นใส่แล้วบ่นว่าคนเห็นน่ะคือตนเอง แล้วก็ยังงึมงำยืนยันเสียงเบาด้วยว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ภรรยาของจิรฐิติจริง ๆ
ศรายุทธเองก็รู้จักกับจิรฐิติมานานตั้งแต่เรียนมัธยม จนเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน จบมาแล้วก็ลากตัวมาทำงานด้วยกัน รู้จักครอบครัวของกันและกันเป็นอย่างดีและสนิทสนมอีกด้วย
“อย่างไอ้ติเนี่ยนะ”
ศรายุทธไม่วายบ่นทิ้งท้ายก่อนจะเดินเข้าคอกทำงานของตนเองไป
จิรฐิติจอดรถที่หน้าอาคารห้องชุดย่านใจกลางเมือง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นแล้วกดส่งข้อความ รอไม่ถึงสามนาที คนที่เขาส่งข้อความหาอ่านและรีบตอบกลับมา นั่นเองถึงได้เห็นมุมปากของจิรฐิติยกขึ้นไปรอยยิ้มหน่อยหนึ่ง รอยยิ้มอ่อนโยน อ่อนอก อ่อนใจ ที่กันต์กมลเห็นแล้วจะต้องเดือดไปทั้งหัวใจของหล่อนอย่างแน่นอน
จิรฐิติดันประตูรถฟากคนขับเปิดประตูรถลงไปแล้ว
และอิริยาบถตั้งแต่ที่จิรฐิติออกจากสำนักงาน ขับรถตรงมายังอาคารชุดแห่งนี้ก็ถูกบันทึกภาพเอาไว้ทั้งหมด ด้วยผู้ติดตามคนหนึ่ง นั่นก็คือสร พี่วินมอเตอร์ไซค์ที่ค่อนข้างสนิทสนมกับกันต์กมล เขาประจำวินที่แถวบ้านของเธอเอง เคยใช้งานสรบ่อยครั้ง
สรรับจ้างขับวินจักรยานยนต์ เขารับงานวิ่งส่งเอกสาร ส่งอาหาร แต่เมื่อคนออกมาทำงานนี้กันเยอะ เขาก็ต้องหาทางดิ้นทำงานอื่นด้วย เพื่อให้ได้เงินมาจุนเจือ เติมเนต เติมน้ำมันเพื่อชีวิตในวันถัดไป
“น้องไก่อูครับ พี่เข้าไปข้างในไม่ได้แล้วนะครับ ทำยังไงกันดีล่ะทีนี้”
กันต์กมลที่เกาะติดความเคลื่อนไหวอยู่ปลายสายออกอาการร้อนใจนั่งแทบไม่ติด รอบก่อนสรตามแล้วแต่ไม่เคยเห็นว่าสามีของเธอจะขึ้นคอนโดที่ไหนมาก่อน แต่รอบนี้เริ่มแล้วใช่ไหม จิรฐิติเริ่มออกลายออกมาแล้วใช่ไหม กันต์กมลครุ่นคิดอยู่ครู่เดียว รีบตอบกลับสรกลับไป “ไม่เป็นไรพี่สร แล้วตอนนี้พี่สรอยู่ไหนแล้ว”
กันต์กมลจำใจต้องปล่อยให้สามีหลุดรอดจากสายสืบของเธอไปก่อนในวันนี้ แล้วรีบหยิบเอกสารออกมาเขียนลางาน ยื่นส่งให้กับหัวหน้างานของเธอ เพื่อตามสืบเรื่องของสามีเสียเอง หากวันหน้าสรตามเข้าไปไม่ได้อีก เธอจะได้จัดการจับให้ได้คาหนังคาเขา เธอเดินหน้ามาถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ถอยหลังกลับได้อย่างไร
สรบอกเธอว่าอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์จิรฐิติมาที่นี่ทุกวัน มาถึงช่วงบ่ายสาม เวลาประมาณนี้ แล้วก็จะขึ้นไปห้องพักชั้นบนที่สรไปตามสืบมาได้แล้วว่าอยู่ชั้นไหน ห้องอะไร จิรฐิติจะขึ้นไปบนนั้นแล้วกลับออกมาตอนสามทุ่มกว่า เพื่อให้ถึงบ้านตอนสี่ทุ่ม เขาทำเหมือนว่าเขายุ่งอยู่กับงานและเพิ่งเลิกจนกลับบ้านในตอนนั้น