“กลับแล้วนะครับพี่ติ”
จิรฐิติตอบรับน้อง ๆ ที่แผนกสั้น ๆ เพียง “ครับ”
พนักงานหญิงรุ่นน้องที่ลือกันทั้งออฟฟิศว่าเป็นสาวสวยสุดฮอตที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่รอจังหวะได้อยู่ทำงานกับจิรฐิติเพียงลำพัง เธอนั่งอยู่เงียบ ๆ แบบนั้นจนหนึ่งทุ่ม ก็คว้ากระเป๋าเดินตรงไปที่โต๊ะของจิรฐิติ
“ยังไม่กลับอีกหรือคะพี่ติ”
“ครับ” จิรฐิติตอบรับ เขามองที่หญิงสาวคนนั้นหน่อยหนึ่งแล้วลากสายตากลับมามองงานในจอตรงหน้าอยู่อย่างเดิม หญิงสาวรุ่นน้องถอนใจยาว ๆ บอกเสียงอ่อย
“งั้นดิวกลับก่อนนะคะ อย่าอยู่ดึกมากนะคะพี่ติ”
จิรฐิติยกมือที่คีบดินสออยู่บอกว่ารับทราบ เมื่อนึกขึ้นได้ เขาเงยหน้าเพื่อเรียกหญิงสาวคนนั้นเอาไว้ “ดิวครับ”
ดิวได้ยินชายหนุ่มที่ตนหมายปองเรียกก็ตาโต คิดว่าเขาจะชวนกลับด้วย จึงขานรับเสียงหวาน “คะพี่ติ”
“คราวหลังถ้าไม่มีงาน ไม่ต้องอยู่จนดึกแบบนี้นะ มันอันตราย แล้วก็เปลืองไฟบริษัทด้วย”
ดิวยิ้มแหย ตนเพิ่งเริ่มงานไม่ถึงสามเดือนเลย ใครก็คงรู้ว่าพนักงานใหม่อย่างตนนั้นจะไปมีงานเอกสารให้ต้องนั่งเคลียร์จนถึงป่านนี้ แล้วยิ้มแห้ง ๆ พยักหน้าตอบรับจิรฐิติกลับไป ก่อนจะเดินไว ๆ ออกจากแผนก ลงไปยังรถยนต์ของตนที่จอดตรงลานจอดรถ นึกโมโหที่ตัดสินใจอยู่จนถึงตอนนี้ นึกว่านิ่ง ๆ แล้วจะฟาดเรียบแบบรุ่นใหญ่ที่เป็นรองประธานบริษัทครั้งที่ตนไปฝึกงานมาตอนที่ตนยังเป็นนักศึกษา
ที่ไหนได้จิรฐิตินิ่งแล้วก็เรียบ อาจจะตายด้านด้วยมั้งนั่น ดิวเบ้ปากก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นนัดเพื่อนกลุ่มที่เที่ยวด้วยกันให้ไปยังร้านโปรด แล้วพารถคันที่ได้เป็นค่าจ้างให้เลิกกับสามีชาวบ้านตรงไปยังร้านนั้นในทันที
จิรฐิติพ่นลมหายใจออกยาว ๆ ก้มหน้ากับเอกสารเพื่อแก้ไขโครงงานในกระดาษต่อจนเสร็จ มองดูเวลาอีกครั้งพบว่าสี่ทุ่มสิบกว่านาทีเข้าไปแล้ว ค่อยเก็บของกลับบ้าน เขาเดินออกจากแผนกที่ว่างเปล่าและมืดสนิทลง มุ่งหน้าไปยังรถที่จอดอยู่ลานจอด ตรงนั้นเหลือเพียงไม่กี่คัน ส่วนใหญ่ไม่มีใครทำงานอยู่แล้ว ที่จอดเป็นเพราะทิ้งไว้ไว้ที่นี่เลย คงมีเขาคนเดียวที่ออกจากตึกเป็นคนสุดท้าย
รถยนต์อเนกประสงค์คันใหญ่ถ้าเจ้าของมุ่งหน้าสู่ถนนเส้นหลักการจราจรในเวลานี้ไม่ได้คับคั่งเหมือนกับเมื่อตอนหัวค่ำหรือในช่วงของวันอีกต่อไป เขาใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาทีก็พารถมาจอดที่หน้ารั้วบ้านแล้ว
ดึกขนาดนี้แล้วแต่ไฟในบ้านยังคงเปิดอยู่
จิรฐิติมองผ่านกระจกหน้ารถเข้าไปที่ในบ้าน ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ถึงยังไม่นอน
หลายเดือนมานี้เขารู้ดีว่าละเลยหน้าที่ของสามีลงไปมาก
ต้องทำโครงการใหญ่เพื่อใช้เลื่อนตำแหน่งในการวัดผลปลายปีนี้ ไหนจะออกไปงานเลี้ยงที่จัดถี่มาก ทั้งงานเลี้ยงรุ่น งานของเพื่อนร่วมสาย ไม่ไปก็ไม่ได้เพราะเขาคือประธานของรุ่น
นึกมาถึงตรงนี้แล้วก็พารถเข้ามาจอดที่โรงจอดรถในบ้านได้พอดี จิรฐิติเดินเข้าบ้านไปถึงได้เห็นว่ากล่องที่เขาแกะแล้วโยนทิ้งไว้แบบลวก ๆ เมื่อเช้าถูกเก็บไปแล้ว
ชอบเอาเปรียบ
บ้านไม่เคยเก็บ รก เลอะเทอะ สกปรก
ก็เขาเคยบอกกันต์กมลแล้วว่าให้จ้างแม่บ้าน แต่เป็นเธอเองที่บอกว่างานพวกนี้เล็กน้อยมาก ทำได้อยู่แล้ว เราช่วยกันก็แค่นิดเดียวเอง
แต่แล้วทำไมตอนนี้มันถึงไม่เล็กน้อย ไม่นิดเดียวเหมือนอย่างที่ภรรยาของเขาเคยบอกไว้ตอนก่อนแต่งงานแล้วล่ะ
อาหารไม่มีทำไว้ให้อย่างเคย
เขาเองก็กินอะไรมาบ้างแล้วเมื่อตอนเย็น เป็นพวกอาหารฟาสต์ฟูดที่สะดวกกินให้อิ่มไว้ก่อน แต่ถ้ามีอาหารของภรรยาทำไว้คอยตั้งรอที่บนโต๊ะ คงรู้สึกดีมากกว่านี้
จิรฐิติมองไปยังร่างที่ขดตัวตรงโซฟาที่มุมบ้าน เขาตรงเข้าไปสะกิดเรียกเบา ๆ
“อู”
กันต์กมลขยับตัวหนีด้วยอาการหงุดหงิดทั้ง ๆ ที่หลับตาอยู่พร้อมกับร้องรับเบา ๆ “หืม”
“ไม่เข้าไปนอนในห้องล่ะ รอพี่หรือ” ถามปนรอยยิ้มเอ็นดู
“อือ พี่ติกลับมาแล้วหรือ อูไม่ได้รอหรอก” กันต์กมลบอกงัวเงีย เมื่อก่อนหน้านี้เธอสั่งอาหารมากินจนอิ่ม แล้วก็นอนดูซีรี่ส์จนเผลอหลับไป ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว แต่ก็ขี้เกียจแจงให้จิรฐิติฟัง ชะเง้อมองดูตัวเลขบอกเวลาด้านหลังจิรฐิติ แล้วดันตัวลุกออกจากโซฟาจะไปนอนต่อในห้อง “ถ้าพี่ติจะทำงานต่อ เสร็จแล้วก็ปิดไฟล็อกบ้านให้ด้วยนะ” กันต์กมลสั่งเสียงงัวเงีย ท่าทางก็งัวเงียไม่น้อย แล้วเดินทิ้งห่างออกไป
จิรฐิติไม่คิดจะทำงานต่อเพราะดึกมาแล้ว อยากนอนกอดเมียให้หายเหนื่อยใจ เขาเดินไปปิดบ้านจนเห็นว่าเรียบร้อย ค่อยเดินตรงเข้าห้อง พอเข้ามาแล้วก็พบว่าข้าวของของกันต์กมลในห้องไม่มีเหลือเลยสักชิ้น ในนั้นมีเพียงข้าวของของเขาเพียงคนเดียว นี่กันต์กมลคิดจะหย่าจากเขาจริง ๆ น่ะหรือ