เมื่อรับรู้ถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอ ศิวะก็เงยหน้าขึ้นจากไหล่บางที่อ่อนปวกเปียก ปรับเบาะลงจนสุด แล้วหลับตาลงบ้าง เขาไม่อยากจะปลุกเธอตอนนี้ โชคดีที่เขาจอดรถใต้ร่มไม้ อากาศข้างนอกจึงไม่ร้อนมากเท่าไหร่ และเขายังไม่อยากไปไหนตอนนี้ อยากซึมซับความรู้สึกดี ที่มีเธออยู่ข้างๆ “โอ้ย!” “ก็เพราะคุณไม่ยอมปลุกนั่นแหละ ห้ามร้องนะคะ” หนึ่งนภามองคนที่ร้องโอดโอยตลอดทางกลับบ้าน เจ้านายเธอครางโอดโอยตั้งแต่ขับรถออกจากสนามหัดขับรถ นี่ก็ขับมาไกลแล้วยังบ่นไม่หยุดสักทีจนเธอรู้สึกผิด “ไม่รู้สึกผิดเลย?” ศิวะมองคนที่นั่งหลังตรงอยู่เบาะข้าง ทั้งยังหันมามองเหมือนเขาเป็นคนผิดอีก เธอนอนทับฉันนะ ทำไมต้องมองด้วยสายตาแบบนั้น “ก็มันง่วงไงคะ แล้วคุณก็ไม่ยอมปลุก” ถ้าเขาปลุกก็ไม่ต้องมานั่งร้องโอดโอยแบบนี้ไหม ปลุกนิดเดียวเธอก็ตื่นแล้ว ไม่ใช่รอให้เธอตื่นเองแบบนี้ “หึ! เธอนี่นะหนึ่ง เถียงคำไม่ตกฟาก” “คุณพูดเหมือนคนแก่แถวบ้านเลยค