9 | คนของฉัน

2410 Words
@Dragon Casino เธอเดินเข้ามายังคาสิโนของมังกรพร้อมกับพิมฐา โดยที่นี่นอกจากจะเป็นคาสิโนแล้วยังมีโซนสำหรับนั่งดื่มบนชั้นสองไม่ต่างจากผับแห่งหนึ่ง หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘กึ่งคาสิโนกึ่งผับ’ สายตาผู้คนที่มองมาทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ที่นี่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายมาใช้บริการ ส่วนผู้หญิงนั้นมีแต่ก็น้อยมากที่จะเห็น พิมฐาพาเธอเดินขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นโซนสำหรับนั่งดื่ม “แกจองไว้ก่อนหน้านี้แล้วเหรอ?” เธอเอ่ยถามพิมฐา เพราะพอมาถึงพนักงานก็ขอดูบางอย่างจากโทรศัพท์และทำการปั้มข้อมือให้ ก่อนจะพาไปยังโต๊ะที่มุมหนึ่งของโซนนี้ “ใช่ ถ้าจะใช้บริการโซนนี้ต้องจองไว้ก่อนล่วงหน้าสามชั่วโมง” เธอไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนสาวกลับ หย่อนตัวนั่งลงโซฟาปล่อยให้พิมฐาสั่งเครื่องดื่ม เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเช็กตารางงานของมังกรในวันพรุ่งนี้ แต่ทว่ากลับมีข้อความจากธาม ลูกติดของภรรยาใหม่พ่อเธอเด้งขึ้นมา ‘สรุปที่เงียบแปลว่าไม่ให้?’ ‘อยากให้คนอื่นรู้เรื่องในอดีตของมึงใช่ไหม?’ ‘กูจะให้โอกาสมึงครั้งสุดท้าย เอามาให้กูแสนนึงแล้วกูจะไม่บอกใครเรื่องอดีตของมึง’ เธออ่านข้อความที่เด้งขึ้นมาข้างบนโดยไม่ได้กดเข้าไปอ่านโดยตรงด้วยความขุ่นเคือง เมื่อไหร่คนพวกนี้จะเลิกจองเวรจองกรรมกับเธอสักที เธอแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนคนอื่นทั่วไปมันผิดมากนักเหรอ? ทำไมชีวิตเธอต้องมีคนแบบนี้วนเวียนอยู่รอบตัวด้วยไม่เข้าใจ “เป็นอะไรรึเปล่าซอล” พิมฐาหันมาถามเพื่อนสนิท เมื่อเห็นซอจินเอาแต่นั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์นิ่งๆ แววตาคู่นั้นของเพื่อนสนิททำให้เธอรับรู้ได้ถึงบางอย่างที่แสดงออกมา “เปล่า ไม่มีอะไรหรอก” เธอเลือกที่จะไม่บอกพิมฐา ปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วเก็บเข้ากระเป๋าสะพาย พยายามทำหน้าสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเพื่อให้พิมฐาไม่สงสัยอะไร “แต่สีหน้าแกเมื่อกี้…” “ฉันแค่ดูตารางงานของคุณมังกรพรุ่งนี้น่ะ แต่ว่าไม่ค่อยเข้าใจบางอย่างนิดหน่อยเลยทำสีหน้าอย่างที่แกเห็นออกมา” ไม่รู้ว่าสีหน้าเมื่อกี้เธอเป็นยังไงพิมฐาถึงทักท้วงแบบนั้น แต่เธอก็เลือกที่จะโกหกแทนการบอกความจริงออกไปตรงๆ อดีตที่ไม่น่าจดจำของเธอ เธอไม่อยากรื้อฟื้นเพื่อเล่าเรื่องนั้นให้ใครฟัง เพราะไม่อยากให้เรื่องในวันนั้นย้อนกลับมาทำร้ายเธอในวันนี้ “นั่นยูโรนิ” เธอรีบเปลี่ยนประเด็นคุยกันกับพิมฐาทันทีที่สายตาพลันไปเห็นแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิท ใบหน้าเธอถอดสีเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มของพิมฐากำลังเดินมากับกลุ่มแก๊งเพื่อนและ…อดีตแฟนหนุ่มของเธอ “นั่นมันคณินนิ…ยัยซอล แกโอเครึเปล่า สีหน้าแกดูไม่ค่อยดีเลยนะ” พิมฐาเอ่ยถาม สีหน้าซอจินตอนนี้ดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรเมื่อเห็นคณิน “ฉะ…ฉันโอเค” “แกมีอะไรก็บอกฉันตรงๆ ได้นะ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปี แกรู้เรื่องของฉันหมดทุกอย่างแต่ในขณะที่ฉัน…แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแกเลย” “ฉัน…” “วันนั้นที่แกไปบอกเลิกคณินต่อหน้า แกยังไม่เล่าให้ฉันฟังเลยนะว่าสรุปแล้วมันเป็นยังไง” “คืนนั้น…คณินวางยาปลุกเซ็กซ์ฉัน” “วะ…วางยาปลุกเซ็กซ์อย่างนั้นเหรอ?” “ใช่ โชคดีที่คืนนั้นฉันหนีออกมาได้เลยทำให้แผนของคณินที่วางไว้จะทำไม่ดีกับฉันเลยพัง” “เพราะแบบนี้ใช่ไหมแกถึงไม่ยอมเล่าให้ฉันฟัง” “อืม ฉันไม่อยากให้แกต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ อีกอย่างก็อยากจบ ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องนั้นขึ้นมาอีก” “ทำไมคณินถึงเลวแบบนี้ นอกใจแกไปมีคนอื่นไม่พอ นี่ยังกล้ามาวางยาแกอีก โคตรเลวเลย!” “ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคณินกับยูโรรู้จักกัน” เธอพูด โดยที่สายตาจ้องมองไปยังคนที่กำลังพูดถึงซึ่งนั่งอยู่มุมหนึ่งของโซนนี้ ผ่านไปไม่นานนักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปนั่งข้างๆ ยูโรแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิทเธอ เธอหันกลับมามองพิมฐาหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นยื่นใบหน้าเข้าไปหอมแก้มยูโร “ที่แท้ก็เป็นแพรวานี่เอง..” พิมฐาพูดออกมาผ่านลอดไรฟัน สองมือกำเข้าหากันแน่นด้วยความโกรธแค้น แพรวาคือเพื่อนสนิทสมัยมัธยมปลาย แต่หลังจากเรียนแล้วก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อที่อื่น คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่แฟนตัวเองคั่วด้วยจะเป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยม “ใจเย็นๆ ก่อนพิมฐา” เธอรั้งพิมฐาที่กำลังลุกขึ้นเอาไว้ “ฉันเย็นไม่ไหวแล้วยัยซอล” น้ำเสียงของพิมฐาเริ่มสั่นเครือจนเธอสัมผัสได้ “ทำไมอะ ทำไมผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นแพรวา…ถ้าเป็นคนอื่นฉันจะไม่รู้สึกเสียใจมากขนาดนี้เลย” “ฉันเข้าใจแกนะพิมฐา” “ขอบใจนะที่เข้าใจฉัน แต่ว่าตอนนี้…ฉันขอไปจัดการสองคนนั้นก่อน!” เมื่อพูดจบพิมฐาก็ลุกพรวดขึ้นแล้วเดินตรงไปยังโต๊ะของแฟนหนุ่มทันทีโดยที่ซอจินห้ามไว้ไม่ทัน ซ่า! พิมฐาคว้าแก้วเหล้าบนโต๊ะสาดใส่แฟนหนุ่มที่กำลังจูบกับแพรวาอย่างดูดดื่มด้วยความเสียใจ ก่อนจะโยนแก้วเปล่าในมือใส่ผนังข้างหลังจนแตกละเอียดโดยไม่สนใจว่าเศษแก้วนั้นจะกระเด็นถูกใครหรือไม่ เคร้ง! “พะ…พิมฐา” ยูโรเรียกชื่อแฟนสาวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ การกระทำเมื่อกี้ของพิมฐาพลอยทำให้ใบหน้ายูโรซีดเผือด คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงใจเย็นอย่างพิมฐาจะกล้าทำอะไรน่ากลัวและหวาดเสียวแบบนั้น “ยังจำชื่อแฟนตัวเองได้อยู่อีกเหรอ?” “ผะ…ผมอธิบายได้นะคือว่า…” “หลักฐานคาตาขนาดนั้น จะหาเหตุผลร้อยแปดอะไรมาโกหกฉันอีกล่ะ” “มันไม่ใช่อย่างที่พิมคิดเลยนะ” “หึ ความจริงฉันอยากตบหน้านายด้วยซ้ำ แต่ฉันคงไม่ลดตัวลงไปทำอะไรแบบนั้นหรอก เพราะฉันสามารถเอาคืนนายได้มากกว่านั้นอีกยูโร” “….” “ทุกวันนี้ที่บริษัทของนายอยู่ได้ก็เพราะใบบุญของพ่อฉัน แล้วถ้าพ่อฉันเลิกสนับสนุนบริษัทของนาย…มันจะเป็นยังไงนะ” พิมฐาแสยะยิ้ม ผิดกับยูโรที่กำลังมีสีหน้าซีดเผือดราวกับไก่ต้ม “ส่วนเธอแพรวา ได้ข่าวว่าเพิ่งเลื่อนตำแหน่งไปเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับบริษัทKingที่เป็นบริษัทของพี่สาวฉันนิใช่ไหม” “เธอคิดจะทำอะไรพิมฐา” แพรวาเอ่ยถามเสียงสั่น ใช่ เธอเพิ่งได้รับตำแหน่งนั้นมาเมื่อไม่นานมานี้ อีกอย่างก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่นั้นเป็นของพี่สาวพิมฐา “ปลดเธอออกจากการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ไง” “นี่แก..!!” “ช่วยไม่ได้นะ เธออยากเข้ามาเป็นศัตรูกับฉันเอง ใครหน้าไหนที่เข้ามาเป็นศัตรูกับฉัน…มันจบไม่สวยแน่!” พิมฐาทิ้งท้ายแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากตรงนั้น เมื่อหันหลังให้กับทั้งสองคน น้ำตาที่อัดอั้นเอาไว้ก็ไหลทะลักออกจากดวงตาอาบสองพวงแก้มทันที ซอจินหมุนตัวเพื่อจะเดินตามพิมฐา แต่ทว่ากลับถูกคณินคว้าแขนเอาไว้แล้วลากไปอีกทาง หมับ “อ๊ะ! ปะ..ปล่อยฉันนะคณิน!” เธอพยายามแกะมือของคณินออกจากต้นแขนแต่ทว่ากลับไม่เป็นผล คณินลากซอจินมายังมุมหนึ่งซึ่งลับตาคน ก่อนจะผลักร่างบางใส่ผนังปูนซีเมนต์อย่างแรงจนเธอรู้สึกปวดร้าวไปทั่วร่างกาย ปึก! “นะ…นายคิดจะทำอะไร” “สานต่อเรื่องคืนนั้นไง” คณินพูดแล้วแสยะยิ้มใส่อดีตแฟนสาว “ถ้านายทำอะไรฉัน ฉันจะตะโกนดังๆ ให้คนช่วย” “หึ อยากทำอะไรก็ทำ เพราะถึงยังไง…ฉันก็มีวิธีที่จะทำให้เธอหยุดส่งเสียง” ครั้งหนึ่งเคยรักผู้ชายคนนี้มากจนหมดหัวใจ แต่หลังจากรู้ว่าเขานอกใจไปนอนกับคนอื่นบวกกับคืนนั้นวางยาเธอ จากเคยรักมากกลับกลายเป็นเกลียดมาก… “ฉันไปทำอะไรให้นายนักหนา ทำไมนายถึงไม่เลิกยุ่งกับฉันสักที” “คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ อย่างนั้นเหรอซอจิน หึ! ไม่มีทางซะหรอก” “อื้อ!!! ยะ…หยุดนะคณิน!!” เธอใช้สองทั้งมือดันไหล่คณินที่กำลังซอกไซ้ลำคอเธออยู่ออกสุดแรง นี่นะเหรอผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยมอบหัวใจให้ หากย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่รักผู้ชายคนนี้เด็ดขาด! ผัวะ! “อ๊ะ!!” เธอส่งเสียงร้องอุทานออกมาเมื่อถูกคณินใช้กำปั้นตะบันเข้าหน้าท้องแบนราบเต็มแรงจนรู้สึกจุกปนเจ็บ ร่างนั้นค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น ครืด ครืด~ เสียงโทรศัพท์จากกระเป๋าที่ดังขึ้นทำให้เธอรีบหยิบออกมาเพื่อกดรับสายจากพิมฐาที่โทรเข้ามา แต่ทว่ากลับถูกคณินปัดออกจากมือจนโทรศัพท์กระเด็นไปอยู่อีกมุมหนึ่ง “คราวนี้เธอไม่โชคดีเหมือนวันนั้นแน่ซอจิน” “ปล่อยฉันไปเถอะนะคณิน อย่าทำอะไรฉันเลย” เธอพูดพร้อมกับขยับตัวออกห่างจากคณินที่ย่อตัวนั่งมาเสมอกับเธอ “ปล่อยไปทั้งที่ฉันยังไม่ได้ลิ้มลองลีลาบนเตียงของเธอแบบนี้ คงเสียดายแย่” “ยะ…อย่าเข้ามานะ” เธอขยับตัวออกห่างจากคณินมาเรื่อยๆ ด้วยความหวาดกลัว ครั้นจะลุกขึ้นแล้ววิ่งหนรเรี่ยวแรงก็ดันไม่มีเพราะถูกคณินตะบันกำปั้นใส่หน้าท้องไปก่อนหน้านี้ แผ่นหลังบางชนเข้ากับบางอย่าง ทำให้เธอหยุดเคลื่อนไหวร่างกายไปอัตโนมัติ ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้ามองบางอย่างที่เธอชนเมื่อครู่ หัวใจดวงน้อยพลันกระตุกวูบเมื่อได้สบตากับเจ้าของนัยน์ตสีดำขลับคุ้นเคย “คุณมังกร…” มาเฟียหนุ่มปรายสายตามองซอจินซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้า ก่อนที่สายตาคมเข้มจะพลันไปมองชายหนุ่มตรงหน้านิ่งๆ คณินเมื่อเห็นมังกรยืนอยู่ตรงหน้าก็พลอยถอดสีหน้าลง ไม่มีใครไม่รู้จักมังกร… “ผู้หญิงคนนี้เป็นของกู” น้ำเสียงเข้มเปล่งออกมาเรียบๆ แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ของมาเฟียหนุ่มพานทำให้คณินไปต่อไม่เป็น “ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนผม” “เราสองคนเลิกกันแล้ว” เธอแทรกขึ้นมาทันควัน มังกรหลุบสายตามามองซอจิน ก่อนหน้านั้นเขามองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างรวมถึงตอนคณินตะบันกำปั้นใส่หน้าท้องของซอจิน “ผมกำลังปรับความเข้าใจกันกับแฟนของผม” “ไม่จริง!” เธอตอกกลับอย่างรวดเร็ว “ที่นายทำเมื่อกี้ไม่ได้เรียกว่ากำลังปรับความเข้าใจ แต่นายพยายามเอาเปรียบฉันต่างหาก!” มังกรไม่ได้พูดอะไร เขาย่อตัวลงช้อนร่างบางขึ้นมาในท่าเจ้าสาวท่ามกลางสายตาของคณินที่มองดูภาพนั้นด้วยความไม่พอใจ “ดูเหมือนว่าเมื่อกี้มึงจะทำร้ายคนของกูไปด้วยนะ” “ผมแค่จะปรับความเข้าใจกับแฟนแล้วคุณจะเข้ามายุ่งทำไม” คณินเริ่มมีน้ำโห “ก็บอกแล้วไงว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนของกู” เธอเบือนใบหน้าเข้ามาหาแผงอกมังกรพลางเม้มริมฝีปากเข้าหากัน คาดไม่ถึงว่ามังกรจะกล้าบอกอดีตแฟนหนุ่มไปว่าเธอเป็นคนของเขา “ส่วนเรื่องที่มึงทำร้ายคนของกู…กูคิดบัญชีแน่” มังกรทิ้งท้ายแล้วเดินออกไป โดยได้ส่งสัญญาณบางอย่างผ่านสายตาให้กับคนสนิท ไม่นานนักคณินก็เริ่มโวยวายเมื่อถูกชายฉกรรจ์สองคนเข้ามาลากตัวออกไปจากตรงนั้นเพื่อคิดบัญชีตามคำสั่งของมาเฟียหนุ่ม “คุณจะทำอะไรเขาเหรอคะ” “เป็นห่วงมันรึไง” เขาถามซอจินกลับเสียงเรียบขณะที่สายตามองทางเดินตรงหน้า “แค่อยากรู้ว่าคุณจะทำอะไรเขาก็เท่านั้น…ไม่ได้เป็นห่วงสักหน่อย” เธอพูดประโยคหลังออกมาแผ่วเบา “คุณมาเจอฉันได้ยังไงคะ” “ก็แค่บังเอิญเดินผ่านมาเห็น” เธอไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น สายตาแอบเหลือบมองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาของมังกรเป็นระยะ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้คณินหรือมังกร ก็ไม่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยได้เลย เพราะทั้งสองต่างอันตรายพอๆ กัน “ยัยซอล..!” เสียงของพิมฐาทำให้เธอละสายตาจากใบหน้าของมังกรมองไปยังเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ทางเดินตรงหน้า พอพิมฐาเห็นเพื่อนตัวเองไม่ได้เป็นอะไรก็พลอยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนหน้านี้ไม่เห็นซอจินเดินตามมาจึงเข้ามาตามหาอีกรอบ อีกทั้งโทรหาก็ไม่ยอมรับสาย นั่นเลยทำให้เธอเป็นห่วงจนเริ่มกระวนกระวายกลัวว่าเพื่อนสนิทจะเป็นอะไรไป “ฉันตามหาแกตั้งนาน แล้วนี่โทรหาทำไมถึงไม่ยอมรับสาย” “ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ” “ที่หายไปเพราะ…” “ฉันบังเอิญเจอคุณมังกรน่ะ ก็เลยถือโอกาสคุยงานกัน แต่หลังจากนั้นเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเขาก็เลย…อุ้มฉันอย่างที่แกเห็น” จะโกหกทั้งทีก็เอาให้มันเนียนๆ หน่อยสิยัยซอล! เธอร้องบอกตัวเองในใจ เพราะไม่อยากให้พิมฐามาเป็นห่วงจึงเลือกที่จะไม่บอกเรื่องที่คณินลวงตนมาทำไม่ดี ลำพังแค่พิมฐาเจอเรื่องแฟนนอกใจก็หนักแล้ว เลยไม่อยากให้เรื่องของตัวเองไปซ้ำเติมกับเรื่องของเพื่อนสนิท “ละ…แล้วนี่ขับรถไหวไหม ให้ฉันไปส่งไหม?” “ไม่ต้อง” มังกรตอบแทนซอจิน “เดี๋ยวจัดการเอง” พิมฐาเหลือบสายตามามองเพื่อนสาวพร้อมกับเลิ่กลั่กเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าต้องตอบอีกฝ่ายกลับไปยังไง “คุณจะไปส่งยัยซอลเหรอคะ?” พิมฐาถามมังกร “ก็คงงั้น” เขาตอบเสียงเรียบแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง ปล่อยให้เพื่อนสนิทซอจินยืนเคว้งอยู่ตรงนั้นคนเดียวลำพัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD