ขายสมุนไพร

1454 Words
วันนี้ซูหลิงออกจากบ้านตั้งแต่เช้า หลังจากที่ยืนส่งน้องชายขึ้นรถโรงเรียนแล้ว เพราะต้องการนำสมุนไพรในมิติไปฝากขายในร้านขายยาแผนโบราณ ที่ได้สืบค้นข้อมูลของร้านมาจากอินเตอร์เน็ตตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว หญิงสาวพยายามทบทวนความทรงจำของร่างเดิม ในการใช้ชีวิตประจำวัน แล้วเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีในยุคนี้ให้คุ้นชิน ร่างบางเดินออกไปหน้าปากซอยของหมู่บ้าน เพื่อขึ้นรถประจำทางตามเส้นทางที่หาข้อมูลมาอย่างละเอียด วันนี้ซูหลิงแต่งกายด้วยชุดเดรสลายดอกไม้สีชมพู เพราะในตู้เสื้อผ้ามีแต่เสื้อผ้าสีหวานๆแบบนี้ทั้งนั้น จึงตั้งใจว่าถ้าขายสมุนไพรได้เงินแล้ว จึงจะไปหาซื้อเสื้อผ้าแบบเรียบๆที่ตนเองชื่นชอบมาไว้ใส่บ้าง แต่ถึงจะเป็นร่างกายเดิม แต่พอจิตวิญญาณไม่ใช่คนเดิม บรรยากาศรอบๆตัวหญิงสาวจึงเปลี่ยนไป จากหญิงสาวแสนสวยที่ดูซูบซีดบอบบาง และอ่อนหวาน กลับกลายเป็นหญิงสาวที่มีความมั่นใจในตนเองเต็มเปี่ยม และมีบุคลิกภาพที่สุขุม อีกทั้งแววตายังเย็นชา จนมองไม่ออกว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ ซูหลิงในภพก่อนอยู่ในตระกูลนักฆ่า ทั้งตัวเธอเองก็ยังเป็นนักฆ่าฝึกหัด ถึงแม้จะยังไม่เคยลงมือฆ่าใคร แต่ก็ฝึกร่างกายและฝึกการใช้อาวุธมาอย่างหนัก สาวน้อยวัย19ปี จึงมีบุคลิกที่เย็นชาและสุขุม มากกว่าหญิงสาวในวัยเดียวกัน ตระกูลซูเป็นตระกูลนักฆ่าก็จริง แต่ไม่เคยรับงานเข่นฆ่าผู้บริสุทธ์เลย งานที่รับจะต้องถูกตรวจสอบมาอย่างดีแล้วว่า เป็นคนชั่วและสมควรถูกกำจัดจริงๆ ดังนั้นบิดาของหญิงสาวจึงมีศัตรูอยู่เยอะ เพราะไม่ทำตามความประสงค์ของนายจ้างผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง ศัตรูทั้งหลายก็หันมาเพ่งเล็งที่การกำจัดเธอ ผู้เป็นทายาทคนสุดท้ายของตระกูล จนซูหลิงคนนี้ได้เสียชีวิตและทะลุมิติมาอยู่ในยุคปัจจุบัน . . . เมื่อลงจากรถโดยสารประจำทางแล้ว ร่างบางก็เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายยาแผนโบราณที่ใหญ่โตร้านหนึ่ง สองขาเรียวตัดสินใจก้าวเดินเข้าไปในร้านอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ “สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ทางร้านเราช่วยเหลือไหมคะ” พนักงานสาวในร้าน เดินออกมาพูดต้อนรับลูกค้าอย่างสุภาพ “ดิฉันมาติดต่อขายสมุนไพรค่ะ ที่ร้านนี้รับซื้อไหมคะ” “รับค่ะ กรุณานั่งรอสักครู่นะคะ ดิฉันจะไปตามเถ้าแก่มาประเมินราคาให้ค่ะ” พนักงานสาวที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ก็ตอบกลับอย่างสุภาพเช่นเดิม จากนั้นก็เดินเข้าไปหลังร้านเพื่อแจ้งเรื่องกับเจ้าของร้าน ซูหลิงนั่งรอไม่นานก็ได้ยินเสียงเรียกจึงรีบเงยหน้าขึ้นมาเพื่อตอบคำถาม “คุณหนูคนนี้หรือที่มีสมุนไพรมาขาย” เสียงชายสูงวัยเอ่ยถามหญิงสาวแสนสวย ที่นั่งรอเขาอยู่อย่างสงบเรียบร้อย “ใช่ค่ะ เถ้าแก่ ดิฉันมีโสมพันปีที่เป็นสมบัติของตระกูลมาขาย เพราะช่วงนี้ครอบครัวลำบาก จึงตัดสินใจนำมาขายค่ะ” ในมิติส่วนตัวของซูหลิง มีทั้งโสมแบบแห้ง และแบบสดอยู่เป็นจำนวนมาก อายุต่ำๆก็300ปี เพราะบิดาเป็นคนที่ชอบสะสมสมุนไพรและโสม เวลามีคนนำมาขายให้จะรับซื้ออยู่เสมอ และชอบไปประมูลมาเก็บไว้ในมิติของเธอ วันนี้หญิงสาวนำโสมแบบแห้ง 1,000 ปีมาขาย เพราะอยากได้เงินก้อนใหญ่ เพื่อเอาไปจ่ายค่าเทอมของน้องชาย ที่ทางโรงเรียน มีใบแจ้งหนี้มากับรถโรงเรียนเมื่อเช้านี้ เนื่องจากเธอไม่อยากรบกวนเงินของอาบุญธรรมอีกแล้ว ส่วนเงินที่เหลือก็จะเก็บรวบรวมเอาไว้ เพื่อไปหาซื้อบ้านหลังเล็กๆ จะได้อยู่กันเพียงลำพังแค่สองคนพี่น้อง อย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในร่างนี้ “โอ้ ไหนๆผมขอดูหน่อยครับ” ชายสูงวัยที่คลุกคลีกับโสมมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มๆ ก็ทั้งตื่นเต้น ทั้งดีใจที่ได้ยินคำว่า ‘โสมพันปี’ เพราะเขาไม่พบเห็นโสมพันปีมานานหลายสิบปีแล้ว หญิงสาวทำทีเป็นหยิบโสมออกมาจากกระเป๋าถือใบใหญ่ แล้วยื่นกล่องโสมพันปีที่สวยงามออกไปให้เถ้าแก่ของร้านตรวจสอบดู โสม1,000 ปีแบบแห้ง ที่ถูกเก็บอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ปรากฏต่อหน้าชายผู้หลงใหลในโสม “ยอดเยี่ยมที่สุด ตั้งแต่ผมเคยเห็นโสมแบบแห้งมา โสม1,000ปีต้นนี้ ผมให้ราคา10ล้านหยวน คุณพอใจหรือไม่ ถ้าอยากได้ราคาที่ดีกว่านี้ต้องเอาไปลงประมูลครับ เพราะร้านผมจ่ายได้มากสุดที่ราคานี้” เถ้าแก่พูดราคาออกมาอย่างจริงใจ จนหญิงสาวสัมผัสได้ “ฉันขายให้เถ้าแก่ค่ะ เพราะรีบใช้เงินเลยไม่สะดวกนำไปประมูล” “คุณมีเยอะไหมครับ โสมที่อายุน้อยกว่านี้ก็ได้ ผมอยากรับซื้อไว้อีกสักหน่อย เพราะที่ร้านไม่มีโสมมาไว้ใช้ในการปรุงยามานานมากแล้ว” เถ้าแก่ถามออกไปอย่างคาดหวัง เพราะในความรู้สึกของเขา หญิงสาวแสนสวยที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ธรรมดา และน่าผูกมิตรเอาไว้ จึงไม่คิดจะเอาเปรียบใดๆทั้งสิ้น “มีอีกเล็กน้อยค่ะ แต่ขอเก็บเป็นความลับนะคะว่าโสมมาจากฉัน เพราะฉันไม่อยากวุ่นวาย” ซูหลิงตัดสินใจที่จะขายโสมเพิ่ม เพราะอยากได้เงินไปซื้อบ้าน อีกทั้งสัมผัสได้ว่าเถ้าแก่ไม่ใช่คนเลวร้าย และเป็นคนที่ยุติธรรมพอสมควร แต่ก็ต้องตั้งเงื่อนไขออกไปเช่นกัน เพื่อป้องกันความวุ่นวายในชีวิต “ได้ครับ เดี๋ยวผมนำสัญญามาทำร่วมกัน เพื่อความมั่นใจว่าร้านของเราจะเก็บข้อมูลของลูกค้าไว้เป็นความลับ เผื่อในวันข้างหน้าคุณอยากนำโสมมาขายอีก จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย” “ตกลงค่ะ ทำสัญญาก็ดีจะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย และวันหน้าฉันอาจจะมีสมุนไพรอย่างอื่นมาขายเถ้าแก่ด้วย” “ยินดีครับ” ซูหลิงนำโสม 300ปี 3 ต้น และ500 ปี อีก 2ต้น มาขายให้เถ้าแก่ของร้านเพิ่ม หลังจากที่ตกลงทำสัญญาไม่เปิดเผยตัวตนกันแล้ว “โสม 300ปีผมให้ต้นละ500,000 หยวน ส่วน 500ปีผมให้ต้นละ 3 ล้านหยวน คุณพอใจในราคานี้ไหมครับ” “พอใจค่ะ เถ้าแก่คิดยอดรวมออกมาได้เลย” “ยอดรวมทั้งหมด 16ล้าน กับอีก9แสนหยวน ที่ร้านไม่มีเงินสดเยอะขนาดนี้ ผมขอเขียนจ่ายเป็นเช็คเงินสดคุณสะดวกไหมครับ” “สะดวกค่ะ ฉันกำลังจะไปธนาคารพอดี จะได้ไปขึ้นเงินได้เลย” “ตกลงครับ” จากนั้นซูหลิงก็ไปธนาคารในห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกล สามารถเดินไปได้ เพื่อนำเช็คเงินสดไปขึ้นเงิน และนำฝากเข้าบัญชีธนาคารก้อนหนึ่ง เพื่อเอาไว้ซื้อบ้านหลังเล็กๆ ที่จะต้องไปหาข้อมูลราคาและสถานที่ตั้งมาก่อน เพราะหญิงสาวอยากได้บ้าน ที่ทำเลไม่ไกลจากโรงเรียนของน้องชาย จากนั้นก็เก็บเป็นเงินสดอีกก้อนหนึ่งไว้ในมิติ เพื่อนำไปจ่ายค่าเทอมให้น้องชายในวันพรุ่งนี้ และเอาไว้ซื้อเสื้อผ้าทั้งซื้อของกินของใช้กับน้องชายของเธอในแต่ละวัน ในระหว่างที่กำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่ในห้างสรรพสินค้านั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา เมื่อมองดูหน้าจอก็เห็นว่าเป็นอาบุญธรรมโทรศัพท์เข้ามา จึงรีบกดรับสาย “[อาจะถึงบ้านในอีก 30นาที ลงมารับด้วย]” น้ำเสียงห้วนๆดังมาจากปลายสายโทรศัพท์ “[เอ่อ……คุณอาคะ]” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะบอกกล่าวอะไรออกไป ปลายสายก็กดวางสายไปแล้ว “อ้อ มาถึงแล้วทำไมต้องลงมารับไม่ใช่เด็กๆเสียหน่อย เดินเข้าบ้านเองไม่ได้หรืออย่างไร” หญิงสาวบ่นพึมพำเบาๆอยู่คนเดียว และเดินหาเลือกซื้อเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นต่อ เพราะวันพรุ่งนี้เธอมีธุระหลายอย่างที่ต้องไปจัดการ จึงไม่สะดวกออกมาเลือกซื้ออีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD