ตอนที่ 2 เด็กน้อย 1/2

981 Words
หลายชั่วโมงต่อมา 12.30 น. “พราว เที่ยงครึ่งแล้วไปกินข้าวกัน” ฉันที่กำลังนั่งศึกษาเอกสารต่างๆ บนโต๊ะอย่างตั้งอกตั้งใจ ถึงกับต้องรีบเงยหน้าขึ้นไปตามเสียงเรียกของพี่องศาทันที “ได้เวลากินข้าวแล้วเหรอคะ?” “ครับ พราวอยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวพี่พาไป” อยากกินอะไรงั้นเหรอ แถวนี้มีอะไรให้กินบ้างนะ “พี่องศาเลี้ยงพราวเหรอคะ” ฉันแกล้งถามคนตรงหน้าออกไป แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้ใจของฉันสั่นระรัว “ให้เลี้ยงไปทั้งชีวิตเลยมั้ย ได้นะพี่ชอบเลี้ยงเด็ก” เลี้ยงเด็กบ้าอะไรของเขา พูดออกมาซะจนฉันคิดไปไกลแล้วเนี่ย “พราวไม่ใช่เด็กแล้วค่ะ พี่องศานี่ยิ่งแก่ยิ่งความจำเลอะเลือน” ฉันบ่นอุบอิบให้คนตรงหน้า “เดี๋ยวพี่จะบอกไอ้เพทาย ว่าพราวด่ามันแก่” “พี่องศา” “ว่าไงครับ เด็กน้อย” พอ ฉันจะเลิกพูดกับพี่เขาแล้วจริงๆ หลายวันต่อมา… KM PUB 22.45 น. “น้องกูฝึกงานเป็นไงบ้าง ทำมึงปวดหัวมั้ย?” ไอ้เพทายที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ข้างๆผมตอนนี้ เอ่ยถามขึ้น “หัวไวดี สอนอะไรจำได้หมด” ผมตอบมันไปตามความจริง คือพราวฟ้าเธอเป็นคนหัวไวมาก พูดไม่กี่คำเธอก็เข้าใจหมดเลย แต่ติดอยู่อย่างเดียวเลยคือ เถียงเก่ง “ฉลาดเหมือนกูไง เลี้ยงเองมากับมือ” ไอ้เพทายมันดูภูมิอกภูมิใจในตัวเองมากนะ “มึงเนี่ยนะฉลาด เหอะ คนฉลาดที่ไหนยอมให้ผู้หญิงสวมเขามาเป็นปีๆวะ” ไอ้คามินที่นั่งดื่มเหล้าเงียบๆพูดแทงใจดำมันขึ้นมา ไอ้นี่ก็ไปซ้ำเติมมันอยู่ได้ “ไอ้สัส พูดแบบนี้มึงมาตัวต่อตัวกูเลยมั้ย” แล้วมันสองคนก็เริ่มเปิดศึกทำสงครามกัน คือตอนนี้ผมนั่งดื่มอยู่ที่ผับไอ้คามินครับ ปกติถ้าไม่มาดื่มที่ผับมัน ก็จะพากันไปดื่มที่บ้านไอ้เพทาย เราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกัน คบกันตั้งแต่มัธยมปลายจนถึงปัจจุบัน นี่ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว “พวกมึงสองคนพอเลย ถ้ายังไม่เลิกเถียงกันกูจะกลับ” ผมที่นั่งมองไอ้เพื่อนสองคนเถียงกันเหมือนเด็ก อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น อายุสามสิบกันแล้ว ไม่ใช่สามขวบ “คืนนี้กูไม่จ่ายตัง โทษฐานที่มึงพูดทำร้ายจิตใจกู” ไอ้เพทายพูดขึ้น ก่อนที่ไอ้คามินจะพูดขึ้นเช่นกัน “ตั้งแต่กูเปิดผับมา กูได้เงินจากมึงแค่วันแรกเท่านั้นแหละ นอกนั้นมึงก็แดกฟรีมาตลอดเพราะไอ้องศาเป็นคนจ่าย” “เงินเพื่อนก็เหมือนเงินเพื่อนไง ใช่มั้ยวะไอ้องศา” ผมได้แต่นั่งส่ายหน้าให้ไอ้เพทายที่เถียงคำไม่ตกฟาก นี่ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงเป็นพี่น้องกัน หึ ติ้ง!! ติ้ง!! ในขณะที่ผมกำลังจะยกแก้วเหล้าที่อยู่ในมือขึ้นดื่มนั้น เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมา พอหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นพราวฟ้าที่ส่งข้อความมา พราวฟ้า : พี่องศาคะ พราวฟ้า : พรุ่งนี้มีประชุมตอนเช้านะคะ พราวฟ้า : อย่ากลับดึกนะ ผมเหลือบมองเวลาที่โชว์อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของผมตอนนี้ที่บ่งบอกเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว ก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับเธอไป องศา : อีกสักพักพี่ก็จะกลับแล้ว องศา : พรุ่งนี้เจอกันที่บริษัทนะ องศา : เด็กน้อย อ่านแล้ว พราวฟ้า : พรุ่งนี้เจอกันที่บริษัทนะคะ พราวฟ้า : ลุง ผมยิ้มให้กับข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะยัดมันไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม “นั่งยิ้มอะไรของมึง” “เปล่า” ผมตอบไอ้เพทายไป ก่อนจะยกแก้วเหล้าที่ผมพึ่งวางลงบนโต๊ะตอนที่พราวฟ้าส่งข้อความมาเมื่อกี้ขึ้นดื่ม ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาตั้งแต่ที่พราวฟ้าเข้ามาฝึกงานที่บริษัทของผม เราสองคนค่อนข้างสนิทกันมากขึ้น มากซะจนใจผมเริ่มเต้นระรัวเวลาที่ได้อยู่ใกล้เธอ และยิ่งตอนที่ได้แกล้งเธอมันยิ่งทำให้ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น แต่ทุกๆครั้งที่พราวฟ้าส่งข้อความมาหา ผมจะรีบเปิดอ่านทันที ถึงแม้ว่าเธอจะทักมาคุยเรื่องงานก็ตาม อย่างเช่นเมื่อกี้นี้ “พวกมึง สาวๆโต๊ะนั้นสวยหวะ” เสียงไอ้เพทายพูดขึ้น พร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปทางโต๊ะที่มีผู้หญิงนั่งอยู่ประมาณสามสี่คน ซึ่งพวกเธอก็มองมาที่โต๊ะของพวกผมสามคนเช่นกัน “มึงเล็งคนไหน” “ชุดดำ” เสียงไอ้เพทายตอบกลับไอ้คามินไปทันที “งั้นกูเอาชุดแดง” ผมนั่งฟังพวกมันสองคนคุยกันเรื่องผู้หญิงโต๊ะนั้นสักพัก ก่อนจะขอตัวกลับเพราะพรุ่งนี้มีประชุมเช้า “เดี๋ยวกูกลับก่อน เชิญพวกมึงสองคนหาความสุขกันตามสบายครับ” “จะรีบกลับไปไหนของมึง เมียก็ไม่มี” “เอ่อจริง ถ้ามีเมียก็ว่าไปอย่าง” ไอ้คามินพูดขึ้นหลังจากที่ไอ้เพทายพูดจบ “พรุ่งนี้กูมีประชุมเรื่องโครงการใหม่ที่ใกล้จะเปิดตัว” ผมตอบมันสองคนไป ซึ่งพวกมันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะหันไปพูดเรื่องผู้หญิงโต๊ะนั้นกันต่อ ไอ้สองคนนี้ผมหละยอมใจในเรื่องผู้หญิงของพวกมันจริงๆเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD