หลายวันต่อมา….
คอนโด 14.30 น.
“พี่องศาคะ คืนนี้พราวขอไปเที่ยวกับเพื่อนได้ไหม?” จู่ๆคนที่นั่งดูรายการวาไรตี้โชว์อยู่ด้านข้างผมก็พูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาออดอ้อนเป็นลูกแมวมาให้
“เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย?” ที่ถามนี่เพราะเป็นห่วงเธอแหละ แล้วก็หวงด้วย
“ผู้หญิงค่ะ พราวไม่คบเพื่อนผู้ชาย” อันนี้ผมก็พอจะรู้มาบ้างว่าพราวฟ้าเธอไม่คบเพื่อนผู้ชายเลยสักคน
“แล้วไปที่ไหนกัน เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“XZ PUB ค่ะ เจ้าของเหมือนจะเป็นเพื่อนสนิทกับน้องพี่องศาเลย” อ่อ ผับไอ้เซนเองสินะ ไอ้เซนที่ว่าก็คือเพื่อนสนิทไอ้ฟ่าน้องชายผมนี่แหละ
“งั้นเดี๋ยวคืนนี้พี่ไปส่ง ถ้าจะกลับก็โทรมาเดี๋ยวไปรับ ตกลงไหมครับ”
“ตกลงค่ะ งั้นเดี๋ยวพราวไลน์บอกยัยพวกนั้นก่อนนะคะ” ว่าจบเธอก็หันไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างเธอขึ้นมาทันที ส่วนผมเองก็ส่งข้อความหาไอ้พวกนั้นเหมือนกัน เมื่อเช้าพวกมันเพิ่งจะไลน์มาตามให้ออกไปดื่มอยู่เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ แต่ผมยังไม่ได้ตอบพวกมันไง ประจวบเหมาะกับที่พราวฟ้าจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนพอดี ผมก็เลยว่าจะไปนั่งดื่มที่ผับไอ้คามินระหว่างที่รอรับเธอ
ยอมรับตามตรงเลยว่าตั้งแต่คบกับพราวฟ้ามา ผมไม่ค่อยจะออกไปดื่มกับพวกมันสักเท่าไหร่ ก็ไม่อยากจะทิ้งน้องมันไว้คนเดียวไง จนเมื่อหลายวันก่อนพวกมันสองคนถึงขั้นหอบเอาเหล้าเอาเบียร์มาดื่มกับผมที่ออฟฟิศเลย ถึงว่าวันนั้นไอ้คามินมันไลน์มาถามว่าผมอยู่ไหน แล้วจะกลับเมื่อไหร่
คือถ้าพราวฟ้ายอมให้ผมบอกเรื่องของเรากับไอ้เพทายผมก็คงไม่ต้องมาหลบๆซ่อนๆแบบนี้หรอก จะว่าหลบๆซ่อนๆก็ไม่เชิง ปกติพวกผมไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด เพียงแต่เวลาที่ผมชวนเธอออกไปดื่มที่ผับไอ้คามิน เธอมักจะปฏิเสธทุกครั้ง หลังๆมาเวลาที่พวกมันชวน ผมก็อ้างติดงานบ้าง กลับไปนอนบ้านบ้าง แต่ความจริงคือผมติดเมียที่ชื่อพราวฟ้าครับ
หลายชั่วโมงต่อมา 21.00 น.
“ถ้าจะกลับก็โทรหาพี่นะครับ เดี๋ยวจะมารับ” ผมเอ่ยบอกร่างบางที่นั่งอยู่เบาะด้านข้างคนขับ หลังจากที่ผมขับรถมาจอดด้านหน้าผับของไอ้เซน
“โอเคค่ะ ถ้าพราวจะกลับ พราวจะรีบโทรหาพี่องศานะคะ แล้วก็สัญญาว่าพราวจะไม่ดื่มเยอะ”
“ครับ ดูแลตัวเองด้วยนะ” ผมพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปลูบผมเธอเบาๆ
“งั้นพราวเข้าไปก่อนนะคะ”
จุ๊ฟ
เธอพูดขึ้นก่อนจะยื่นปากมาจุ๊บตรงแก้มของผม หลังจากนั้นเธอก็เปิดประตูแล้วลงจากรถผมไป ผมมองตามแผ่นหลังของพราวฟ้าจนเธอเดินหายเข้าไปในผับ ก่อนจะขับรถตรงไปที่ผับของไอ้คามินทันที
KM PUB 21.20 น.
“ไง อาทิตย์นี้ไม่กลับไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านแล้วเหรอครับ ไอ้คุณองศา” ทันทีที่ผมเดินมาถึงโต๊ะประจำ เสียงไอ้เพทายก็ลอยมาทันที
“ขี้เกียจกลับ” ผมตอบมันไปแค่นั้น ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับพวกมัน แล้วดูเหมือนว่าตอนนี้มันสองคนจะมองผมแปลกๆ
“อะแฮ่มๆ รอยตรงแก้มนี่อะไรยังไงครับมึง” รอยตรงแก้ม รอยอะไรวะ ผมขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากัน ก่อนที่จะนึกบางอย่างออก
ผมรีบยกมือขึ้นลูบแก้มด้านซ้ายของตัวเองทันที เพราะเมื่อกี้พราวฟ้าเธอจุ๊ฟแก้มผมไง
“รอยลิปสติกสีแดงซะด้วย นี่แอบซุกสาวไว้ไม่บอกเพื่อนเหรอครับ” แล้วไอ้เพทายก็พูดขึ้นมาอีกคนหลังจากที่ไอ้คามินพูดจบ
“อยากรู้เหรอ” ผมแกล้งถามพวกมันสองคน ก่อนที่ไอ้เพทายกับไอ้คามินจะพยักหน้าตอบมาพร้อมกัน
“ไว้ถึงเวลาจะพาแนะนำอย่างเป็นทางการ”
“ไอ้เหี้ย/ไอ้สัส” แล้วพวกมันสองคนก็ด่าผมกลับมาทันที หลังจากที่ผมพูดประโยคเมื่อกี้นี้จบ ใจก็อยากบอกแหละ แต่ติดตรงที่พราวฟ้ายังไม่ให้บอกไง เธอบอกผมว่ารอฝึกงานเสร็จเธอจะเป็นคนบอกกับไอ้เพทายเอง ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไรเพราะไม่อยากขัดใจเธออยู่แล้ว
ด้านพราวฟ้า
XZ PUB 23.50 น.
“อีพราว ผู้ชายคนนั้นเค้ามองมึงนานแล้วนะ” เสียงยัยแตงกวาหนึ่งในเพื่อนสนิทของฉันตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่งในผับตอนนี้
“คนไหน?” ฉันเองก็ตะโกนถามมันไป ก่อนที่มันจะพยักพเยิดหน้าไปยังโต๊ะข้างๆถัดจากพวกฉันไปประมาณสองโต๊ะ แล้วพอฉันหันไปมอง ก็เห็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีพอใช้ได้คนนึงนั่งส่งยิ้มมาให้ ฉันก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับเขาไปตามมารยาท
“เห้ยมึง ยิ้มทีใจแทบจะละลายเลยเว้ย” แล้วยัยนัทตี้เพื่อนสาวอีกคนนึงของฉันก็พูดขึ้นมา
“หล่อยังไม่เท่าพี่องศาของฉันเลย” ฉันบอกพวกมันไปตามจริง คืออยากจะบอกเหลือเกินว่าฉันก็มีเพื่อนนะคะ คบกันมาตั้งแต่เข้ามหาลัยปีหนึ่งจนตอนนี้จะจบกันอยู่แล้ว แต่พวกมันดันเลือกกลับไปฝึกงานที่จังหวัดบ้านเกิดของตัวเอง นี่ก็เพิ่งจะกลับมากันเมื่อเช้า เพราะวันจันทร์พวกเราต้องเข้ามหาลัยเพื่อไปปัจฉิมนิเทศ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของทางมหาวิทยาลัยที่ได้จัดขึ้นสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่สี่ ที่เรียนจบแล้วและกำลังจะก้าวเข้าสู่วัยทำงาน
“หมั่นไส้คนมีผัวจังเลย เมื่อก่อนใครมาจีบนี่รีบปฏิเสธทันที พอไปฝึกงานได้ไม่ถึงเดือน ก็ดันมีผัวซะงั้น ที่สำคัญโคตรหล่อ” คือไม่ต้องสงสัยว่ายัยแตงกวารู้ได้ไง ก็พอเกิดเรื่องคืนนั้นขึ้น ฉันก็รีบไลน์ไปบอกพวกมันในกลุ่มทันที
“เอ่อใช่ แล้วนี่มึงบอกพี่ชายสุดหล่อของมึงยัง?” ยัยนัทตี้มันถามฉัน ซึ่งฉันก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบให้ไป
“แล้วมึงจะบอกเมื่อไหร่?”
“ก็ว่าหลังจากฝึกงานเสร็จ ตอนนี้ขอทำใจก่อนกลัวโดนพี่เพทายดุอะ” อีกอย่างก็ยังไม่รู้จะเริ่มบอกยังไงด้วย คือเข้าใจปะ แบบว่าฉันรู้จักกับพี่องศามาตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบขวบด้วยซ้ำ ตอนนั้นฉันยังเด็กมากๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ประมาณป.2 ไม่ก็ ป.3 นี่แหละ แล้วตอนนี้ดันกลายมาเป็นเมียพี่เขาซะงั้น แถมยังเป็นเพื่อนสนิทพี่ชายฉันอีก
“อ่อ แล้วกับพี่องศานี่ยังไง จริงจังถึงขั้นแต่งงานเลยไหม?” ยัยแตงกวาถามฉันอีกคน เอ่อ นี่ก็ยังไม่ได้คิดเหมือนกันว่าจะถึงขั้นแต่งงานกันไหม ก็เพิ่งจะคบกันได้เดือนกว่าๆเอง นี่ก็กำลังเรียนรู้นิสัยใจคอกันอยู่ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมองเห็นกันทุกซอกทุกมุมแล้วก็ตาม
“ไม่รู้เหมือนกันอะ อันนี้ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตแหละ” ฉันตอบพวกมันไป ก่อนที่ยัยนัทตี้จะถามคำถามที่มันเคยพิมพ์ถามฉันในไลน์ไปก่อนหน้านี้
“สรุปใหญ่ไหม ยาวแค่ไหน? คิกๆๆ”
“อีนัทตี้ แดกๆไปเลยมึงถามมาก” ฉันรีบยื่นแก้วเหล้าตรงหน้าให้มันไปทันที มาถามแบบนี้แล้วจะให้ฉันตอบว่าไงเล่า บ้าจริง