และพอพวกฉันเดินออกจากห้องน้ำมาที่โรงอาหารเพื่อผ่านไปตึกเรียน ก็มีคนหันมามองกันเต็มไปหมด
“แกเห็นไหม ว่าแกสวยแค่ไหน” หมวยพูด
“ไม่ใช่ว่าเราแปลกไปหรอคนเลยมอง”
“โอ๊ย มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ ให้สมกับเพื่อนพวกฉันน่ะ” กัสจังว่า
“ก็คนไม่เคยโดนมองพร้อมกันมากขนาดนี้นี่หน่า” ปกติฉันก็อยู่ของฉันเงียบๆ ไม่ค่อยมีใครสนใจหรือเป็นจุดเด่นแบบนี้เลย
“น้ำมนต์ใช่ไหม” พอเดินมาถึงคณะก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาหา
“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฉันถามกลับไปด้วยความสงสัย
“คือพี่อยากขอไลน์น้ำมนต์หน่อยได้ไหมครับ”
“เอ่อ...” ฉันยังไม่ทันตอบ หมวยก็ตอบกลับไป
“ได้สิคะ nm1103 ค่ะ”
“ขอบคุณครับ” แล้วรุ่นพี่คนนั้นก็เดินออกไปด้วยรอยยิ้ม
“แกไม่น่าให้พี่เค้าเลย” ฉันหันไปพูดกับน้ำมนต์
“ไม่เห็นเสียหายนี่ แกไม่ชอบก็ไม่ต้องคุย” แล้วพวกเราก็เดินไปห้องเรียนตัวเอง
“หมวยๆ เราขอไลน์น้ำมนต์หน่อยสิ” ระหว่างที่นั่งอยู่ในห้องเรียนก็มีเพื่อนร่วมเซคชั่นที่นั่งข้างหมวยพูดออกมาอย่างไม่ดังนักเพราะอาจารย์กำลังสอน
“ฉันไม่ให้แกหรอก แกมันหน้าหม้อ” แล้วหมวยก็ตอบเพื่อนคนนั้นไป
“โห่ เราจริงจังนะ”
“แกก็จริงจังกับผู้หญิงสวยๆทุกคนแหละ”
“ให้เราหน่อยนะ เดี๋ยวเลี้ยงเหล้าเลย”
“ไม่ย่ะ เพื่อนฉัน ฉันหวง” แล้วหมวยก็เลิกสนใจเพื่อนคนนั้นไป
“น้ำมนต์ วันนี้ฉันมีธุระอ่ะ คงไม่ได้ไปส่งแก” พอหมดคาบกัสจังก็พูดออกมา
“ไม่เป็นไรเรากลับเองได้สบายมาก” ฉันตอบอย่างไม่เรื่องมาก เพราะถ้ากัสจังมีธุระฉันก็กลับเองเป็นประจำ
“เดี๋ยวฉันไปส่งก็ได้” หมวยพูด
“ไม่เป็นไร คอนโดแกอยู่คนละทาง เรากลับเอง คอนโดก็ตรงนี้เอง” คอนโดที่ฉันอยู่นั่งรถเมย์ไปต่อเดียวก็ถึงแล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร
“งั้นเดี๋ยวไปลงหน้ามหาลัยกับฉันเลย” กัสพูด
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะเข้าห้องน้ำก่อนน่ะ พวกแกไปกันเลย”
“เอางั้นก็ได้ งั้นแยกกันตรงนี้เลยนะ” กัสจัง
“เค เจอกันพรุ่งนี้” หมวย
“อืม ขับรถดีๆล่ะ” แล้วฉันก็แยกกับเพื่อนตัวเองแล้วไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะเดินไปที่หน้ามหาลัยเพื่อรอรถ
ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น ทำให้ฉันก้มไปล้วงหามันในกระเป๋าเผื่อใครมีธุระอะไร ตุบ!
“อ๊ะ” ฉันหลับตาปี๋ทันทีที่ชนเข้ากับใครสักคนและรู้สึกว่าจะล้ม
“เป็นอะไรไหม” เสียงเข้มเอ่ยถามฉัน พอฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เจ็บก็เลยลืมตาขึ้นมา
“มะ...ไม่ค่ะ” ฉันตอบกลับไปเสียงสั่น เพราะตอนนี้ฉันอยู่ในอ้อมกอดของพี่อชิเพื่อนของคุณภีม
“ทีหลังเดินก็มองทาง อย่ามัวแต่ก้มหน้าแบบนี้” พี่อชิพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“ขอโทษค่ะ แล้วก็ขอบคุณ” ฉันก้มหน้าตอบกลับไปอย่างรู้สึกผิด
“ไม่ต้องร้องไห้ ฉันไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
“น้ำมนต์ไม่ได้ร้องสักหน่อยค่ะ” ฉันรีบเงยหน้าไปบอกพี่อชิทันที ก็คนไม่ได้ร้องจริงๆนี่หน่า
“หึ เด็กน้อย” พี่อชิว่าแล้วเอามือมายีหัวฉัน
“.....” ฉันได้แต่ยืนนิ่ง งงกับการกระทำของเค้า และก็ช็อกที่มีผู้ชายหน้าตาหล่อเหลามาทำแบบนี้
“แล้วจะไปไหน”
“กะ...กลับคอนโดค่ะ”
“กลับยังไง”
“รถเมย์ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวฉันไปส่ง” ว่าจบพี่อชิก็ลากฉันเดินไปทันที
“เอ่อ พี่อชิคะ ไม่ต้องไปส่งน้ำมนต์ก็ได้ค่ะ น้ำมนต์กลับเองได้”
“ฉันจะไปส่ง” พี่อชิตอบแต่ไม่ได้หันมามองและไม่ได้หยุดเดินเลย
“อ้าวไอ้นี่ หายไปไหนมาพวกกูหาตั้งนาน แล้ว...” พี่ซีนที่เห็นพี่อชิเดินมาก็ทักเพื่อนตัวเองขึ้น ก่อนจะหันมาเห็นฉันแล้วชี้อย่างสงสัย แต่ฉันก็ต้องรีบก้มหน้าลงเพราะเจอกับสายตาของคุณภีมเข้า
“กูจะไปส่งน้ำมนต์ที่คอนโด” พี่อชิพูด
“อะไรยังไงครับคุณอชิ” อันนี้เสียงพี่เดย์
“แล้วแต่จะคิดครับ” พี่อชิพูดจบก็เดินต่อฉันเลยต้องเดินตามเพราะมือพี่เค้ายังไม่ปล่อยจากมือฉัน
“แล้วคืนนี้จะเข้าผับไหมวะ” เสียงพี่เดย์ตะโกนถาม
“ถ้าเจอก็แสดงว่าไป” พี่อชิตอบ แล้วก็พาฉันเดินไป
“ทำไมวันนี้แต่งตัวไม่เหมือนเดิม” พอขึ้นมาบนรถ พี่อชิก็ถามฉัน
“พอดีมีเรื่องนิดหน่อยค่ะ เลยต้องเปลี่ยนชุด”
“ใส่แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบ”
“.....” แล้วตอนนี้ฉันต้องรู้สึกยังไงล่ะ ที่มีผู้ชายหล่อๆมาชมแบบนี้
“อ้าว เขินจนพูดไม่ออกเลยหรอ” ยังจะมาล้อฉันอีก
“พี่อชิเล่นชมแบบนี้ ไม่เขินก็คงแปลกค่ะ”
“หึ” แล้วรถก็กลับมาเงียบอีกครั้งจนถึงคอนโด
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” ฉันหันไปขอบคุณพี่อชิด้วยความเกรงใจ
“อืม ว่าแต่ฉันยืมโทรศัพท์หน่อยสิ”
“ค่ะ” แล้วฉันก็หยิบให้พี่อชิโดยไม่ได้ถาม เพราะโทรศัพท์เค้าอาจจะมีปัญหาอะไรก็ได้
Rrrrrrr พอพี่อชิเอาโทรศัพท์ฉันไปกดสักพักฉันก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์อีกเครื่องดัง และก็เป็นของพี่อชิเอง
“อ่ะ คืน”
“คา...ค่ะ” ฉันรับมาอย่างงงๆ
“อยากอยู่กับฉันต่อหรอ”
“อ๋อ ปะ...เปล่าค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” ฉันรีบลงจากรถหลังจากได้สติ แล้วเดินขึ้นห้อง
ฉันเอากระเป๋าไปเก็บในห้องแล้วเดินเข้าครัวมาพร้อมโทรศัพท์เพื่อหาเมนูทำอาหารไว้ เพราะนี่ก็ห้าโมงแล้วไม่รู้ว่าคุณภีมจะกลับมาตอนไหน
แกรก ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงฉันก็ได้ยินเสียงเปิดและปิดประตู แสดงว่าคุณภีมกลับมาแล้ว อาหารก็เสร็จพอดีฉันเลยปิดแก๊สแล้วเดินออกจากครัวไปห้องนอน ส่วนอาหารไม่ใช่ว่าตั้งตามเวลานะ จะตั้งได้ก็ต่อเมื่อคุณภีมบอกว่าหิวแล้ว
“ไปอ่อยเพื่อนฉันท่าไหนล่ะ มันถึงได้มาส่งถึงห้อง” ฉันที่กำลังเดินผ่านด้านหลังคุณภีมไป เค้าก็พูดออกมา
“คุณภีมหมายถึงอะไรคะ”
“อย่ามาทำเป็นใสซื่อหน่อยเลย เพราะที่เธอทำอยู่มันก็ชัดเจนดีแล้ว” คุณภีมลุกขึ้นมาประจันหน้าฉันแล้วพูดออกมา
“น้ำมนต์ขอตัวนะคะ” เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่น่าไว้ใจ ฉันก็ขอตัวเข้าห้องเพื่อหนีหน้าคุณภีม
“กล้าเดินหนีฉันหรอ” ยังไม่ทันได้ก้าวขาด้วยซ้ำ เสียงเข้มก็เอ่ยออกมาดักไว้ก่อนทำให้ขาชะงักอยู่กับที่
“ไม่ค่ะ น้ำมนต์ไม่กล้า”
“แล้วที่ทำเมื่อกี้คืออะไร”
“น้ำมนต์แค่ขอเข้าห้อง”
“มองหน้าฉัน” คุณภีมสั่งฉันที่ก้มหน้าตอบเค้ากลับไป
“.....” แล้วใครจะกล้ามองล่ะ คุณภีมน่ากลัวจะตาย
“ฉันสั่ง!”
“อ๊ะ” คุณภีมบีบคางของฉันแล้วเฉยขึ้นไปสบตาเค้า
“หึ ถ้าคุณแม่รู้ว่าลูกรักแต่งตัวแบบนี้ท่านคงภูมิใจ” คุณภีมพูดพร้อมกับมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“.....” ฉันเม้มปากแน่นไม่กล้าพูดอะไรออกไป
“เงียบทำไม กับไอ้อชิระริกระรี้ แล้วกับฉันทำไมทำเหมือนจะตายล่ะ”
“ปะ...เปล่าค่ะ” ฉันพูดออกไปเสียงสั่นเมื่อคุณภีมบีบคางฉันแน่นกว่าเดิม
“ฉันเตือนเธอไว้ก่อนเลยนะ ว่าอย่ายุ่งกับเพื่อนฉัน” คุณภีมพูดเสียงแข็งออกมา
“.....” ฉันเม้มปากแล้วเบนสายตาไปทางอื่น เพราะไม่กล้าสบตากับเค้า
“ฉันบอกได้ยินไหม!”
“ดะ...ได้ยินค่ะ” คุณภีมปล่อยมือจากคางของฉันแล้วพูดต่อ
“หึ ดี...”
Rrrrrrr ยังไม่ทันที่คุณภีมจะพูดจบ เสียงโทรศัพท์ในมือฉันก็ดังขึ้น ทำให้ทั้งฉันและคุณภีมก้มไปมอง
‘ที่รัก’
____________________
ใครคือที่รักที่โทรหาน้ำมนต์นะ?