EPISODE 07-02 ของขวัญ

2671 Words
EPISODE 07-02 ของขวัญ “รัญโกรธจริงเหรอเนี่ย ผมขอโทษ ผมแค่อยากให้รัญใช้รถผม ผมคิดน้อยเกินไปที่ทำรถรัญเป็นรอย” “ไม่ต้องมากอด!” “เสียใจจัง ผมทำลูกแมวโกรธเข้าแล้ว” “ผมไม่ชอบคนเอาแต่ใจนะคุณจิ อันไหนมากเกินไปคุณน่าจะแยกแยะได้ ถ้าผมขูดรถคุณบ้างคุณจะรู้สึกยังไง” “เฉย ๆ ถ้าเป็นรัญทำผมไม่โกรธ” พวกเขายืนง้องอนกันอยู่อย่างนั้นอีกเกือบยี่สิบนาที ไม่ว่าทำอย่างไรรัญกรก็ไม่หายโกรธ คนกระทำผิดรู้สึกกังวลใจขึ้นมาจริง ๆ แล้ว สำนึกแล้วว่าตนเองไร้เหตุผลเกินไป จึงพูดคำว่าขอโทษออกไปหลายสิบครั้งจากใจจริง พลางซบหน้าอ้อนที่ต้นแขนอีกหลายครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าจิรากรต้องรับผิดชอบ เขาต้องเอารถของรัญกรไปทำสีให้ใหม่อยู่แล้ว เรื่องสิ่งของเขาจัดการให้ได้ แต่เรื่องความรู้สึกนี่สิ จะเยียวยาอย่างไร “ผมไม่ชอบที่คุณจิทำแบบนี้จริง ๆ ไม่ได้อยากโกรธหรอกถ้ามันไม่มากไป แต่ทำแบบนี้เพื่อให้ผมใช้รถที่คุณซื้อให้มันไร้สาระเกินไปไหมคุณ” “ผมขอโทษ” “แล้วผมก็ขับรถคุณไม่เป็น จะให้ใช้ปุบปับได้ดั่งใจคุณผมทำไม่ได้” “งั้นฝึกขับวันนี้เลย ผมสอนเอง มันไม่ได้ต่างจากรถทั่วไปเท่าไรหรอกรัญ แค่เตี้ยกว่า กว้างกว่า ทัศนวิสัยก็จะเห็นต่ำกว่ารถปกติ รัญแค่ใช้อุปกรณ์ในรถให้คล่องก็พอ” “จะฝึกขับไปไหนไม่ทราบครับ” “ออกไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเย็นให้รัญดีไหม วันนี้รัญอยากกินอะไรบอกผมได้เลย ผมจะทำให้รัญทุกอย่าง วันเกิดรัญปีนี้อยู่กับผมได้ไหม ผมอยากทำให้รัญมีความสุขจริง ๆ คิดซะว่าผมมีโอกาสได้ทำครั้งเดียวแล้วกัน” พอพูดเรื่องความเป็นความตายกับเรื่องของกิน มีหรือจะใจแข็งต่อได้ รัญกรถอนหายใจแล้วพยักหน้าให้ทีหนึ่ง แม้จะยังกดอารมณ์โกรธลงไม่หมดแต่ก็พยายามไม่ทำให้เสียบรรยากาศ หากมองที่เจตนาแล้วจิรากรก็ไม่ได้ตั้งใจทำให้โกรธหรอก เขาแค่คิดน้อยเกินไป “ผมจะให้คุณทำอาหารห้าเมนู” “ได้” “สิบเมนู” “ได้” “ยี่สิบเมนู” “ได้ เริ่มทำสี่โมงได้กินเที่ยงคืนพอดี” ทั้งคู่เดินเข้ามาในร้านเพื่อให้รัญกรเตรียมตัวออกไปข้างนอก ฝากฝังร้านกับลูกน้องเอาไว้เพราะเย็นนี้จะไม่กลับ คงอยู่กับจิรากรจนถึงค่ำ นั่นทำให้ทั้งสามคนที่เตรียมเค้กไว้เซอร์ไพรส์เจ้านายต้องรีบนำเค้กออกมาฉลองตอนนี้ รอยยิ้มสดใสกลับมาอีกครั้งเมื่อเห็นเค้กก้อนหนึ่งพร้อมกับเสียงร้องเพลงของลูกน้อง ซัน แซน และบีปรบมือเข้าจังหวะไปด้วยจนจบเพลง ชั่วอึดใจหนึ่งที่เจ้าของวันเกิดต้องหลับตาอธิษฐาน คำอธิษฐานของเขาเรียบง่ายมาก ขอให้ลูกน้องมีความสุข ขอให้กิจการดำเนินไปได้ด้วยดี ขอให้จิรากรอายุยืน อย่างสุดท้ายไม่รู้ว่าเพิ่มมาได้อย่างไรแต่ก็เผลอนึกในใจไปแล้ว “มีความสุขมาก ๆ นะครับพี่รัญ” “ผมขอให้พี่รัญสุขภาพแข็งแรงนะพี่” “หนูขอให้พี่รัญสมหวังในความรักแล้วกันค่ะ เห็นพี่โสดมาตลอด ถ้ามีแฟนสักคนคงดี” สายตาลูกน้องสามคนจ้องมองไปที่จิรากรอย่างพร้อมเพรียง ชายผมขาวถึงกับเผยยิ้มกว้างออกมาอย่างพออกพอใจ ที่แท้แล้วเขาก็ซื้อใจลูกน้องในร้านได้สำเร็จแล้วนี่เอง สัมผัสได้ถึงแรงเชียร์แบบพร้อมยกเจ้านายถวายใส่พานมาให้เลยด้วยซ้ำ รัญกรแสร้งทำเป็นเมินเหมือนไม่รับรู้สายตาของใครทั้งนั้น เขาเดินถือเค้กไปตัดแบ่งให้ทุกคน โดยมีจิรากรคอยถือจานเค้กไปให้ลูกน้องอีกที ก่อนที่เจ้าของวันเกิดจะเดินไปล้างมือหลังจากแบ่งเค้กครบแล้ว “อ้ามม รัญอ้าปากเร็ว ผมป้อน” “ผมไม่ใช่เด็กนะคุณ กินเองได้ครับ” “ปีหน้าถ้าผมไม่อยู่ป้อนแล้วรัญจะเสียใจ” “เฮ้อ...” สุดท้ายก็ยอมอ้าปากให้จิรากรป้อน แม้จะเป็นมุมที่ลูกน้องไม่เห็นแต่ก็ไม่ชินอยู่ดีที่ถูกเอาใจขนาดนี้ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมสุดท้ายถึงพ่ายแพ้จิรากรทุกทาง เจ้าเล่ห์ก็ที่หนึ่ง ลูกอ้อนก็ไม่เป็นรองใคร แถมเป็นคนฉลาดเงียบ ทำตัวเหมือนคนซื่อทว่าความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น มีเรื่องที่ดีแบบโดดเด่นอย่างเดียวคือทำอาหารอร่อย ผ่านไปพักใหญ่หลังจากเคลียร์ทุกอย่างในร้านเสร็จ รัญกรกำชับลูกน้องให้ปิดร้านตรงเวลาได้เลย ไม่ต้องรอ เพราะจะใช้เวลาช่วงเย็นถึงค่ำอยู่กับจิรากร จากนั้นเขาก็ได้ขับรถหรูราคาสามสิบล้านเป็นครั้งแรก โดยมีจิรากรนั่งข้าง ๆ คอยสอนว่าอะไรเป็นอะไร กดปุ่มนี้คือคำสั่งไหน เปลี่ยนเกียร์อย่างไร ปรับเบาะ ปรับกระจกให้จนคนขับเริ่มจับทางได้แล้ว “ไม่ต้องเหยียบคันเร่งลึกนะรัญ ค่อย ๆ แตะ รถมันเร็ว แตะนิดเดียวก็พุ่งแล้ว” “เหมือนกำลังนอนอยู่บนถนนเลยคุณ มันเตี้ยจัง” “ชินเถอะครับ พวกซูเปอร์คาร์มันก็แบบนี้แหละ รีบ ๆ ชินนะ รัญจะได้ขับรถทุกคันในบ้านผมได้” จะให้ชินทันทีก็คงไม่ได้ คนขับตอนนี้ยังนั่งหลังตรง ยืดคอชะเง้อมองทางข้างหน้าเพราะไม่ชินกับระดับสายตาในการขับขี่ แม้จะเกร็งมากไปหน่อยแต่ก็มาถึงซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างปลอดภัย มีอุปสรรคแค่ตอนถอยหลังเข้าซองที่ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะรถแพง กลัวเฉี่ยวชนกับรถคนอื่นขึ้นมาจะไม่มีค่าซ่อมให้เขา ทั้งคู่ใช้เวลาซื้อของพักใหญ่เนื่องจากรัญกรตั้งเป้าจะให้อีกฝ่ายทำอาหารให้สิบอย่างจริง ๆ ไม่ได้พูดเล่น นี่คือการทำโทษที่จิรากรมาขูดรถของเขา บทลงโทษยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งกับที่รัญกรโกรธเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำอาหารออกมาอร่อยก็อาจจะหายโกรธไปเลยก็ได้ “คุณนี่ทำให้วันเกิดผมวุ่นวายที่สุดในชีวิตเลย ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยมีใครทำให้ผมโกรธได้เลยนะ” “ผมพิเศษกว่าคนอื่นสินะครับ” “คุณจิ คุณอย่าเอาแต่ใจกับผมให้มันมาก ผมไม่อยากผิดใจกับคุณ ไม่ได้อยากโกรธจนเผลอพูดจาแรง ๆ ใส่” “แล้วรัญรู้หรือเปล่าว่ารัญตามใจผมเก่งที่สุดแล้ว รัญใจดีกับผมมาก แม้ปากจะต่อต้านแต่สุดท้ายแล้วรัญจะตามใจทุกครั้งเลย ผมชอบรัญจัง ไม่ใช่ว่าได้ใจที่ถูกตามใจหรอกนะ แต่ผมชอบที่เราเข้ากันได้ วันไหนรัญดื้อผมก็ยอม วันไหนผมดื้อรัญก็ยอม” ขณะที่เข็นรถเข็นเพื่อนำของที่ซื้อมาไว้ที่รถก็คิดตามที่จิรากรพูดไปด้วย รัญกรไม่เห็นรู้ตัวเลยว่าตนเองเคยใจดีขนาดนี้เมื่อไร เขาก็แค่เป็นตัวเอง เรื่องไหนทำดีก็ชม เรื่องไหนไม่ดีก็บ่น แค่รู้สึกว่าจิรากรเป็นคนที่เขาสามารถเป็นตัวเองได้มากที่สุดโดยไม่รู้สึกเกร็ง ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะจิรากรรู้อดีตของเขา แค่นั้นมันก็แทบจะรู้ไส้รู้พุงกันแล้ว จึงไม่ต้องวางมาดใดใส่กันให้เสียเวลาอีก ต่างคนต่างเป็นตัวเองได้เต็มที่ จิรากรเดินมาเปิดฝากระโปรงหน้ารถให้เพราะเป็นที่เก็บของ แล้วก็เป็นเขาเองที่ยกของทุกอย่างมาใส่ไว้โดยไม่ยอมให้ลำแขนของรัญกรได้ออกแรงเลยแม้แต่น้อย “คุณจิ ดูนี่ครับ” กระดาษโน้ตสองแผ่นยับ ๆ ในมือของรัญกรมีข้อความบางอย่างที่อ่านแล้วชวนตกใจ ใบหนึ่งเขียนว่า Happy Birthday อีกใบเขียนว่า DIE “อะไรอีกวะเนี่ย” “ผมเห็นมันตกอยู่ข้างประตูรถฝั่งผม ตอนแรกก็จะไม่หยิบดูหรอกแต่มันขยำกระดาษไม่แน่นมาก พอเห็นตัว D กับตัว I ผมเลยต้องหยิบดู แล้วก็เป็นคำนี้จริง ๆ” ทั้งสองคนหันมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง กลัวว่าจะมีใครซุ่มมองอยู่ ใจหนึ่งก็อยากท้าสู้แต่อีกใจก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เป็นรัญกรเองที่เร่งเร้าให้อีกฝ่ายขึ้นรถ ต่อให้เก่งการต่อสู้ทั้งคู่แต่ถ้าถูกลอบทำร้ายโดยใช้ปืนยิงจากระยะไกลก็ใช่ว่าจะรอด รัญกรขับรถออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อตรงดิ่งไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ของคนที่นั่งหน้าเครียดอยู่ข้าง ๆ ในหัวตอนนี้คิดไว้แล้วว่าเมื่อกลับไปถึงจะดูกล้องวงจรปิดว่ามีใครออกมาจากบ้านช่วงเวลานี้บ้าง บอดี้การ์ดคนไหนหายตัวไปก็คนนั้นแหละที่น่าสงสัย แต่พอบอกความคิดนี้ให้จิรากรรู้ กลับต้องถอดใจเพราะมันเป็นเวลาเปลี่ยนกะงานของบอดี้การ์ด ถ้าคนทำคือคนที่ออกกะไปแล้วย่อมตามมาทำได้แน่นอน แล้วตามตัวยากด้วยเพราะออกกะพร้อมกันทั้งชุด อีกอย่างถ้าจะสืบทุกคนที่ออกกะอย่างโจ่งแจ้งก็กลัวว่าจะไหวตัวทัน หรือไม่ก็จะก่อความหวาดระแวงในหมู่บอดี้การ์ดกันเองจนเกิดจลาจลภายใน ซึ่งจิรากรไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ในเมื่อคนที่จงรักภักดีก็มี ไม่อยากให้ลูกน้องเสียกำลังใจ “ผมคิดว่าทุกอย่างจะปกติแล้ว ในเมื่อเราสนิทกันขนาดนี้และในบ้านไม่เกิดเรื่องแปลกขึ้นเลย ชะล่าใจเกินไปจริง ๆ ไม่คิดว่าจะโดนติดตามออกมาขู่กันข้างนอกด้วย” “ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คิดครับ ผมจะช่วยคุณคิดเอง” “สุดท้ายแล้วผมก็ต้องตายอยู่ดี มันจะมาขู่แบบนี้เพื่ออะไร น่าหงุดหงิดใจจะแย่อยู่แล้ว ให้ผมใช้ชีวิตที่เหลืออย่างปลอดภัยและมีความสุขไม่ได้เลยเหรอ ผมเพิ่งมีรัญเข้ามา ผมกำลังจะมีความสุข ทำไมต้องเจอเรื่องแบบนี้ ผมไม่อยากให้รัญรู้สึกแย่ที่รู้จักกับผม” “ผมเคยพูดแบบนั้นหรือไง?” “รัญก็รู้ว่าผมชอบรัญแค่ไหน การที่พาคนที่ตัวเองชอบมาเจอเรื่องอันตรายแล้วปกป้องไม่ได้ มันน่าอายมากเลยนะ” “ผมก็พูดไม่ถูก แต่รู้สึกว่าผมต้องปกป้องคุณจิให้ได้ คุณต้องปลอดภัย คุณต้องไม่ตาย อยากเห็นคุณอายุยืนยาว ไม่รู้สิครับ ผมรู้แค่ว่าผมต้องพาคุณผ่านเรื่องพวกนี้ไปให้ได้ แม้ผมจะไม่เข้าใจเรื่องคำสาปนั่นก็ตาม แต่มั่นใจว่ามันเป็นฝีมือคนนี่แหละ แล้วผมจะลากคอมันมาให้ได้เลย” “รัญชอบผม” “ผมไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย” “ที่พูดมาตั้งยาวความหมายสั้นนิดเดียวคือรัญชอบผม” “คุณหลงตัวเอง” “รัญเป็นห่วงผมกลัวว่าผมจะตาย กลัวจะไม่มีคนทำอาหารอร่อยให้กินใช่ไหมล่ะ รัญอยากให้ผมอยู่ด้วยไปนาน ๆ” “อืม คงงั้นมั้งครับ” ถ้าที่จิรากรพูดมามันแปลว่าชอบ ก็คงจะชอบจริง ๆ เพราะไม่มีประโยคไหนผิดเพี้ยนจากความรู้สึกไปเลย รัญกรไม่อยากเสียผู้ชายคนนี้ไป อยากอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ แต่จะให้พูดคำว่าชอบหรือสารภาพอะไรหวาน ๆ ออกมารัญกรก็ทำไม่เป็น ซึ่งจิรากรย่อมเข้าใจความปากหนักนี้อยู่แล้ว แค่คำว่า ‘อืม’ คำเดียวก็เหมือนการยอมรับทุกอย่าง หัวใจของจิรากรเต้นแรงเหลือเกิน เขารู้สึกดีมาก มีความสุขมากกว่าการซื้อรถหรูให้เป็นของขวัญแล้วได้เห็นรัญกรขับมันตอนนี้เสียอีก เขาไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน รู้แค่ว่าตั้งแต่วินาทีนี้ไป จิรากรเลือกจะใช้ชีวิตไปกับรัญกรจนวันสุดท้าย เขาชอบผู้ชายคนนี้เกินกว่าที่เคยจินตนาการไว้ อดีตนักฆ่าที่ปัจจุบันกลายเป็นแมวน้อยในกำมือเขา หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะปกป้องแมวน้อยตัวนี้ให้ปลอดภัยที่สุด “อยู่กับผมไปนาน ๆ นะรัญ ไม่ต้องรักผมก็ได้ รัญจะได้ไม่เสียใจมากในวันที่ผมจากไปแล้ว ผมไม่อยากเห็นรัญร้องไห้” “ผมไม่ยอมให้คุณบอกลาผมแบบนี้หรอกนะ ไม่ต้องมาสั่งเสียครับ ผมไม่รับ เพราะผมจะทำทุกอย่างให้คุณอยู่กับผมต่อไป ถ้าคุณจิชอบผมก็ห้ามตาย” “มันห้ามกันได้เหรอรัญ ห้ามไม่ได้หรอก ปู่ผม พ่อผม แม่ผม ตายเพราะคำสาปบ้านั่นกันหมด รุ่นผมจะรอดเหรอ ไม่มีทางหรอก” “มีทางสิ มันต้องมี ขอเวลาผมได้คิดสักหน่อยผมต้องหาทางออกให้ได้แน่นอน” “เอ่อ... อื้ม” จิรากรเหยียดยิ้มเศร้า เขาไม่รู้จะขัดความตั้งใจนี้อย่างไรดี จะมีอะไรลบล้างคำสาปได้หรือ ขนาดพ่อของเขาใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อถอนคำสาปนี้ยังทำไม่สำเร็จเลย นับประสาอะไรกับคนที่ไม่รู้ที่มาที่ไปของคำสาปอย่างเขา ได้แต่รอรับผลอย่างเลี่ยงไม่ได้สิไม่ว่า “ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับ ลองขับดูแล้วมันก็โอเค ระบบดีทุกอย่างเลย ผมตกใจนะที่มีคนซื้อรถราคาสามสิบล้านให้ คุณจิเล่นใหญ่แบบนี้กับคนที่ชอบทุกคนเลยเหรอครับ?” “ก็... ไม่ได้ลำบากอะไร ไม่ต้องถามถึงอดีตหรอกรัญ เพราะรัญคือคนสุดท้ายในชีวิตผมแล้วจริง ๆ” “อย่าเพิ่งพูดครับ ปีหน้าเดี๋ยวผมจะทวงของขวัญคุณอีก ปีต่อไปผมก็จะทวง อย่าลืมวันเกิดผมซะก่อนล่ะ ห้ามตายทิ้งผม ชีวิตผมไม่มีใคร การมีคุณเข้ามาสร้างความทรงจำดี ๆ แล้วคุณก็ต้องอยู่ตรงนี้ไปอีกนาน ห้ามตายเด็ดขาด อยู่เป็นเพื่อนผมก่อน” “เพื่อน? งั้นขอตายตอนนี้เลยแล้วกัน ไม่อยากเป็นเพื่อนกับรัญอยู่แล้ว” รัญกรไม่ใช่คนพูดคำหวานเก่งก็จริง แต่ก็เป็นคนเปิดเผยระดับหนึ่ง อาจเพราะอายุเข้าปีที่สามสิบสามแล้ว มีประสบการณ์ชีวิตมาก็มาก เรื่องรักใคร่แม้จะไม่เข้าใจลึกซึ้งแต่เขาสามารถเรียนรู้เองได้ว่าขณะนี้ตนเองรู้สึกอะไรอยู่ การรู้สึกดีกับใครสักคนแล้วไม่แสดงออก หากวันหนึ่งจากกันไปจริงโดยไม่ได้ทำอะไรให้กันเลยมันน่าเสียดาย วันนี้พอมีโอกาสก็อยากจะสร้างความสุขไปด้วยกันให้มากที่สุด ไม่ต้องคิดถึงปลายทางว่าจะจบอย่างไร เพราะถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขไปทุกวันอย่างนี้ ปลายทางมันอีกยาวไกลแน่นอน ‘อย่าเพิ่งตายนะคุณจิรากร ผมจะช่วยคุณเอง’ ดวงตาคมเหลือบมองชายผมขาวข้างกายด้วยแววตาแห่งความหวัง รัญกรตัดสินใจแล้วว่าจะก้าวขาเข้ามาช่วยจัดการเรื่องนี้เต็มตัว เขาจะไม่ถอยหลังอีก จะยืนอยู่ข้างจิรากรเพื่อช่วยให้เขาหลุดพ้นจากเรื่องวุ่นวายนี้ให้ได้ ต่อจากนี้ไม่ว่าตรงไหนมีจิรากร ตรงนั้นก็จะมีรัญกรเช่นกัน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD