1

1278 Words
“แก...นังลูกไม่รักดี สิ่งที่ฉันอบรมสั่งสอนแกมาตั้งแต่เด็ก แกไม่จำเลยสักนิดใช่ไหม แกถึงทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ รู้ไหมว่าฉันจะขายหน้าชาวบ้านขนาดไหนถ้ารู้ว่า แกท้องไม่มีพ่อ...ฟิ้ว” สิ้นเสียงคำพูดที่อัดแน่นไปด้วยความโกรธ ความผิดหวัง เสียใจ ตามด้วยเสียงไม้หวายก็แหวกอากาศลงมากระทบกับผิวเนื้อของดวงดาราลูกสาวสุดที่รัก ที่เขารักปานดวงใจหลายครั้ง ตีไปเจ็บหัวใจไป “พอแล้วค่ะ พอแล้ว อย่าทำลิซ” นงนุชโผเข้ากอดบุตรสาวที่ร้องไห้ตัวโยน นางใช้ร่างกายปกป้องแก้วตาดวงใจ “จะตีลูกทำไม เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ตีไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ คุณพี่จะตีลิซให้ขายหน้าคนใช้ทำไมคะ” “คุณไม่ต้องมาพูดเลย หลบไป ผมจะตีมันให้เนื้อแตก ให้แท้งไปเลยได้ยิ่งดี” ชลิต เจ้าของธุรกิจสินค้านำเข้าจากต่างประเทศรายใหญ่อันดับสี่ของประเทศไทย สินค้าที่นำเข้ามาขายมีหลากหลาย รถยนต์หรูยี่ห้อแลมโบกินี เฟอรารี่ ออดี้ โรสลอยและอีกหลายยี่ห้อ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เคมีภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ฯลฯ ชลิตถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียง ในแวววงธุรกิจล้วนแต่รู้จักเขาในวงกว้าง เขารักหน้าตาและรักษาเครดิตของตนเองมาก หากเรื่องลูกสาวสุดรักสุดหวงท้องไม่มีพ่อ เขาคงขายหน้า ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน และนี่คือที่มาของความโกรธเกรี้ยว ไม่พอใจ “คุณพี่พูดแบบนี้ได้ยังไง ถึงยังไงเด็กในท้องก็เป็นหลานของเรานะคะ” นงนุชตกใจ พูดตอกกลับเสียงสั่น น้ำตาไหลอาบแก้ม ผิดหวังในตัวลูกสาวไม่เท่าไหร่ นางผิดหวังในคำพูดของสามีมากกว่า “พ่อขา ลิซผิดไปแล้ว ลิซขอโทษค่ะ” ดวงดาราพนมมือไหว้บิดาทั้งน้ำตา “ฉันจะยกโทษให้แกก็ต่อเมื่อแกต้องไม่มีลูก แกต้องเลือกระหว่างลูกแกกับฉัน" ชลิตตะโกนลั่นบ้าน “ถ้าแกเลือกที่จะเก็บไอ้ลูกไม่มีพ่อไว้ แกไม่ต้องเรียกฉันว่าพ่อแล้วไสหัวออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะตัดทางแกทุกอย่าง เงินในบัญชี บัตรเครดิตฉันก็จะไม่ให้แกใช้เงินของฉัน” ไม่เพียงแค่ดวงดาราที่ตกใจปล่อยโฮออกมาทันที นงนุชก็ตกใจกับคำประกาศิตของสามี ไม่คิดว่าชลิตจะพูดเช่นนี้ แม้ว่าชลิตจะมีนิสัยเผด็จการ ชอบบงการคนในบ้านให้ทำอย่างนี้อย่างนั้นตามใจตัวเอง แต่กับดวงดารา ชลิตตามใจทุกอย่างเพราะดวงดาราเป็นลูกคนเดียว เขาจึงรักและตามใจ ทว่าคำสั่งที่เอ่ยออกมามาจากความโกรธล้วนๆ “พ่อ...ฮือ” ดวงดาราเอาแต่ร้องไห้ “คุณพี่คะ ทำไมคุณพี่กลายเป็นคนแบบนี้ คุณพี่ใจร้ายเกินไปแล้วนะคะ” นงนุชต่อว่าสามีทั้งน้ำตา “เด็กในท้องลิซคือหลานของเรานะคะคุณพี่ คุณพี่ให้ลิซเลือกได้ยังไงคะ” “ทำไมฉันจะให้มันเลือกไม่ได้ ฉันไม่ต้องการมัน มันเป็นลูกใครลิซยังไม่รู้เลย ฉันอุ้มชูมันไม่ลงหรอก ถ้ามันเลือกลูกไม่มีพ่อ ลูกที่เกิดจากมันไปมั่วกับใครก็ไม่รู้ มันก็ไม่ใช่ลูกฉัน ฉันจะตัดขาดกับมัน แต่ถ้ามันเห็นแก่หน้าฉันที่ไม่ต้องแบกคำนินทาว่าลูกสาวตัวดีท้องไม่มีพ่อล่ะก็ มันต้องไปไอ้เด็กคนนี้ออก” ชลิตไม่ลดความโกรธของตัวเองลง เสียงเขายังคงแผดดัง หน้าตาบึ้งตึงและแดงก่ำจากแรงโทสะ “พ่อ...” ดวงดารารู้ตัวดีกว่า เรื่องนี้ตนผิด ความผิดพลาดในคืนนั้นส่งผลต่อตนในวันนี้ วันที่หล่อนมีเลือดเนื้อเชื้อไขอยู่ในร่างกาย วันที่รู้ว่ามีเขาเกิดมา หล่อนตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน ทว่าตอนนี้ความรู้สึกเดียวที่อยู่ในหัวดวงดาราคือ หล่อนต้องรักษาลูกของตัวเองไว้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เป็นความผิดพลาดของตนที่ต้องก้มหน้ารับไว้ “แกต้องเลือก นังลูกไม่รักดี” ชลิตตะเบ็งเสียงอีกครั้ง ดวงดาราค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าบนพื้น มือทั้งสองข้างพนมไว้กลางอก ก้มลงกราบบิดา “ลิซขอโทษค่ะพ่อ ลิซฆ่าลูกไม่ได้ค่ะ เขาไม่ผิด ลิซผิดเอง ลิซผิดคนเดียว” ได้ยินคำพูดของดวงดารา ความโกรธของชลิตเพิ่มพูน เขาเหมือนควบคุมตัวเองไม่อยู่ คว้าจับท่อนแขนบุตรสาวที่นั่งอยู่บนพื้น ก่อนจะลากไปยังประตูบ้าน ท่ามกลางความตกใจของนงนุชและคนรับใช้ที่แอบดูอยู่ห่างๆ “คุณพี่ คุณพี่จะทำอะไรลูกคะ” นงนุชพูดไปเดินตามไป ความที่นางเจ็บข้อเท้าจากการลื่นล้มในห้องน้ำ ทำให้นงนุชเดินไปช้ากว่าชลิตที่ลากลูกสาวไปนอกบ้าน “ไป แกออกไปจากบ้านของฉัน แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก ไป!” ดวงดาราที่ถูกลากออกมานอกประตูบ้านร้องไห้ตัวโยน ร้องสะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ นางนุชที่เดินมาถึงทีหลังรีบไปกอดร่างบุตรสาว “คุณพี่สงสารลูกเถอะคะ อย่าทำอย่างนี้เลย ไหนๆ เรื่องมันก็มาจนป่านนี้แล้ว ฮือ” นงนุชขอความเห็นใจจากสามี “เธออย่ายุ่ง เธอลืมไปแล้วเหรอว่า ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องในบ้าน แล้วถ้าอยากมีเงินใช้ มีข้าวกิน มีเงินส่งให้พ่อแม่เธอใช้ทุกเดือนก็อย่ายุ่งกับมัน ถ้าฉันรู้ว่าเธอช่วยเหลือมัน เธอจะไม่ได้อะไรจากฉัน” เป็นความเจ็บช้ำอย่างสุดแสนของนงนุช คนเป็นแม่เจ็บปวดที่ช่วยเหลือลูกสาวสุดที่รักไม่ได้ ชีวิตของนงนุชเหมือนผูกติดอยู่กับชลิต ที่ชอบใช้อำนาจกดขี่มาตลอดยี่สิบห้าปี ซึ่งนางก็ก้มหน้ายอมรับอย่างกล้ำกลืน “เข้าบ้านนุช ถ้าเธอไม่เข้ามาภายในหนึ่งนาที ฉันจะไม่ให้อะไรเธอเลย แม้แต่เงินค่าผ่าตัดแม่ของเธอ ฉันก็ไม่ให้ ไปหาเอาเอง” “แม่...ขะ...เข้าบ้านเถอะคะ...ลิซ...ลิซดูแล...ดูแลตัวเองได้” ดวงดารารู้ว่ามารดาลำบากใจ ซึ่งหล่อนเองก็ไม่ต้องการให้นงนุชต้องลำบากเพราะตน “เข้าบ้านค่ะคุณแม่...ขะ...เข้าบ้าน” “ส่งข่าวบอกแม่นะลูก อย่าลืมส่งข่าวบอกแม่” “ค่ะแม่” ดวงดารารับคำ ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มองหน้านงนุชแล้วส่งยิ้มบางให้ ก่อนหมุนตัวก้าวเดินไปยังประตูรั้วบ้าน หากตนข้ามผ่านประตูบานนี้ หล่อนก็จะกลับเข้ามาในบ้านนี้อีกไม่ได้ ดวงดาราวางมือลงบนหน้าท้อง ลูบแผ่วเบา “อยู่กับแม่นะลูก แม่ลำบากแค่ไหน แม่ก็จะเลี้ยงหนูให้ดีที่สุด แม่สัญญา” เสมือนมีพลังก่อเกิดขึ้นมาในฉับพลัน ดวงดาราปาดน้ำตาทิ้ง ก้าวเดินออกจากบ้านที่ตนอยู่มาตั้งแต่เกิด ออกไปเผชิญโลกกว้างกับลูก หล่อนไม่สนใจว่าใครคือพ่อของลูก เรื่องที่หล่อนสนใจคือ จุดเริ่มต้นของชีวิต จะยืนอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้ ดวงดาราจะสู้ด้วยสองมือสองเท้าและหนึ่งสมองของตน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD