คามิเลียเริ่มต้นที่การทำบัญชีของตระกูลแบรนเดอร์ก่อน…เธอให้ท่านพ่อไปพักผ่อนที่บ้านพักตากอากาศของตระกูล พร้อมส่งหมอไปรักษาและดูแลอาการ
ส่วนพี่ชายของเธอก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย…
ตอนนี้มีปัญหานิดหน่อยตรงที่ร้านตัดเสื้อของเราไม่สามารถตัดเสื้อออกมาได้เพราะขาดผ้าไหมและผ้าแพรจำนวนหนึ่ง….
โชคดีที่เธอนั้นล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ข้างหน้า….ช่วงนี้คือช่วงวิกฤตของร้านตัดเสื้อเลยก็ว่าได้ ผ้าไหมและผ้าแพรต่างๆ รวมไปถึงด้ายหลากหลายสี…ต่างถูกไคโรกว้านซื้อไปหมด…
เพราะท่านดยุคจะเปิดกิจการร้านตัดเสื้อ…เขาจะเปิดตัวร้านพร้อมกับเทขายเสื้อผ้าของชาวบ้านในราคาที่ถูก…เป็นการโปรโมทร้านไปในตัว…ซึ่งมันประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งจากชนชั้นสูงและชาวบ้าน
หลังจากร้านของท่านดยุคเปิดตัวแล้วราคาผ้าไหมจะลดลงสามสิบเปอร์เซ็นต์….เพราะเขาเริ่มทยอยนำผ้าที่กักเก็บไว้ออกมาขาย…
คามิเลียถอนหายใจ…ความร่ำรวยนั้นเธอมิสามารถเอาตระกูลตัวเองไปเทียบกับไคโรได้เลย…ตอนนี้มีแต่ต้องหาแหล่งผ้าไหมจากที่อื่น….
เธอลุกขึ้นก่อนจะหยิบเสื้อคลุมออกมา
“คุณหนูจะไปไหนคะ?”
“ข้าจะไปเดินเล่นหน่อย…ไม่ต้องตามมาหรอกเอมม่า..สั่งคนให้ออกไปรับสมัครทหารมาคอยคุ้มกันคฤหาสน์เพิ่มสักหน่อยเถิด”
วันนี้อากาศเย็นสบายไม่ร้อน…หลังจากที่เธอย้อนเวลากลับมาก็ปาไปเดือนกว่าแล้ว….เธอจะไม่ยอมให้คาร่าเกิดมาในสภาพเดิมอีก…
ในวันนั้นเธอคลอดเด็กที่น่ารักน่าชังออกมา…เด็กหญิงที่ตัวอ้วนจ้ำม่ำ…
ทันทีที่เธอคลอดคาร่า…เคเดนก็สั่งให้สาวใช้ในคฤหาสน์ขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ของเธอ จากเรือนใหญ่ไปไว้เรือนเล็กทันที…เธอพาลูกสาวที่พึ่งลืมตาดูโลกมาอยู่เรือนเล็กที่แสนหนาวเย็น…
เธอยอมให้เคเดนเหยียบย่ำก็เพราะว่าเธอนั้น…อยากให้คาร่ามีพ่อ มีครอบครัวที่อบอุ่น…
คามิเลียหัวเราะ…เธอในเมื่อก่อนนั้นแสนโง่เขลาที่คิดว่าเคเดนจะรักเธอและลูก…
เธอมัวแต่หวังลมๆ แล้งๆ ว่าเขาจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ…
คามิเลียหยุดอยู่ที่หน้าร้านตัดเสื้อของเธอก่อนจะเดินเข้าไป
“นายหญิง…ยินดีต้อนรับค่ะ….”
เธอพยักหน้าให้พนักงาน…ร้านของตระกูลแบรนเดอร์มีลูกค้าประปราย…
จริงสิ..อีกเดี๋ยวจะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว..ปีนี้ฤดูหนาวจะมาไวแถมยังยาวนานกว่าปกติอีกด้วย…
“เม…เรามีขนสัตว์ในโกดังเหลืออยู่เท่าไหร่….”
“มีจำนวนมากเลยค่ะ..เพราะนายท่านสั่งมาไว้ตั้งแต่หน้าหนาวปีที่แล้ว…แต่ปีที่แล้วอากาศไม่ค่อยเย็นอีกทั้งมีระยะเวลาสั้น..เสื้อคลุมจนสัตว์ที่มีจึงขายแทบไม่ได้เลย…”
คามิเลียนั่งลงบนโซฟา…
“สั่งเสื้อขนสัตว์มาแทนผ้าไหมที่หาซื้อไม่ได้ซะ…หยุดการผลิตเสื้อผ้าทั้งหมดก่อน…ตอนนี้เร่งผลิตถุงมือและเสื้อคลุมขนสัตว์….”
“….แต่ว่า..อีกนานกว่าจะเข้าสู่ฤดูหนาว…..”
“ถึงข้าจะพึ่งรับช่วงต่อจากท่านพ่อไม่นาน…แต่ข้าก็มั่นใจว่าสายตาของข้านั้นไม่น่าจะผิดพลาด….ทำตามที่สั่งเถอะ…ฤดูหนาวในปีนี้เราจะโกยเงินมหาศาลจากชนชั้นสูง…”
ร้านตัดเสื้อเล็กๆ ของเธอจะต้องยิ่งใหญ่…และเติบโตยิ่งกว่าร้านเสื้อของตระกลูไคโรที่เปิดใหม่ให้ได้!
……..
“ขนสัตว์งั้นหรือ?”
“ครับ มีคำสั่งซื้อขนสัตว์จำนวนมากจากตระกูลแบรนเดอร์….”
ยังไม่เข้าสู่ฤดูหนาวเลย…เหตุใดสตรีผู้นั้นถึงได้เตรียมสั่งซื้อสิ่งของที่ขายได้เพียงฤดูเดียวเช่นนั้น…
เป็นความคิดการลงทุนที่ไม่ค่อยจะฉลาดเท่าไหร่นัก….
“เรื่องผ้าไหมที่เราตรึงราคาไว้ในตลาดเป็นยังไงบ้าง…”
“เป็นไปตามที่ท่านดยุคคาดครับ…ตอนนี้ผ้าไหมขาดตลาด…พวกร้านตัดเสื้อต่างก็ยอมจ่ายในราคาที่มากขึ้นจากเดิม….”
“ดี…พยายามตรึงราคาเอาไว้จนกว่าร้านตัดเสื้อของเราจะเปิดตัวในเดือนหน้า…”
“ครับ…”
เคเดนหยิบดอกคามิเลียสีขาวในแจกันออกมา….
“คามิเลียที่ดูอ่อนแอและไร้ประโยชน์…ทำได้เพียงตกแต่งโต๊ะสินะ…..”
เขาเด็ดกลีบดอกคามิเลียออกมาวางบนมือ…สายลมจากหน้าต่างพัดเข้ามาทำให้กลีบดอกคามิเลียปลิวลอยขึ้นด้านบน…
เคเดนแสยะยิ้ม…
อ่า…เป็นอย่างนี้นี่เอง…สายลมทางเหนือพัดมาแล้วสินะ…
“ชาล็อต!!!…เข้ามา!!!”
เซอร์ชาล็อตรีบเดินเข้ามาตามเสียงเรียกของท่านดยุค
“ไปซื้อผ้าขนสัตว์มาตุนไว้…ซื้อทั้งหมดที่วางขายในตลาด…ซื้อให้มากและไวที่สุด…ให้ไวกว่าคำสั่งซื้อของตระกูลแบรนเดอร์ด้วย!!!”
……..
หลังจากออกจากร้านตัดเสื้อคามิเลียก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ…สายตามากมายต่างจับจ้องที่เธอ…
ใบหน้าที่งดงามชวนตะลึงของเธอนั้น…ไม่เคยปรากฏที่ไหนเลย
เพราะในช่วงชีวิตก่อน…ช่วงนี้เธอกำลังเรียนมารยาทต่างๆ เพราะได้ตอบรับคำขอแต่งงานของท่านดยุคแล้ว…
คามิเลียหยิบสายไหมขึ้นมาก่อนจะจ่ายเงินให้พ่อค้า….
เธอกลับมาในวัยที่งดงามสะพรั่งอีกครั้ง…ในครั้งนี้เธอจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับที่พระเจ้ามอบให้
จริงสิ…เธอควรจะไปที่โบสถ์บ้าง…
คามิเลียเดินเลียบทะเลสาบมาเรื่อยๆ ก็ถึงโบสถ์เล็กๆ แห่งหนึ่ง…เธอเดินเข้าไปด้านใน
“มาขอพรหรือครับ?”
“ค่ะ…ข้าสามารถเข้าไปได้ไหมคะท่านนักบุญ…”
“เท่าที่ดูเลดี้ก็ได้รับพรของพระเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือครับ….ไม่มีพรใดจะล้ำค่าเทียบเท่าพรที่ท่านได้รับมาหรอกครับ…”
คามิเลียเงยหน้าขึ้นมองชายสวมชุดขาวผู้นั้นอย่างตกใจ…
ใบหน้าของเขานั้นหล่อเหลาแฝงไปด้วยความอบอุ่นและความเป็นมิตร รอยยิ้มที่เขาส่งมาให้เธอนั้นดูไม่มีพิษมีภัย…แต่สิ่งที่สะดุดตาของเธอมากที่สุดคงจะเป็นดวงตาสีแดงที่เขามองมา
เขามองมาราวกับว่าเขาสามารถเห็นทุกอย่างในชีวิตเธอ…
“ขอคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวได้ไหมคะ…?”
“ด้วยความยินดีครับ…ข้าชอบคุยกับสาวสายอย่างเช่นเลดี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว…แหะๆ”
ดวงตาสีแดงนั้นจางหายไป…เหลือเพียงดวงตาสีน้ำตาลธรรมดาๆ เท่านั้น
คามิเลียคิดว่าเธอมองไม่ผิดไม่มีทางที่จะมองผิดด้วย…
“เชิญนั่งครับ…นี่เป็นห้องรับรองของโบสถ์แห่งนี้ไม่มีใครเข้ามาหรอกครับ…”
“ท่านเป็นนักบุญหรือคะ?”
“ไม่ใช่ครับ…ข้าเป็นนักเวทย์..ที่มาช่วยงานที่โบสถ์ในบางครั้ง…”
“…ท่านรู้ใช่ไหมคะว่าข้าย้อนเวลากลับมา…”
เขาส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
“ที่รอบๆ ตัวของเลดี้มีแสงสีทองห้อมล้อมอยู่…มันโดดเด่นจนสามารถเห็นได้ชัด…วางใจเถอะครับ..พระผู้เป็นเจ้ามิได้จะเอาสิ่งใดแลกเปลี่ยนกับพรที่ให้เลดี้มา…ใช้ชีวิตที่ได้รับมาให้มีความสุขเถอะครับ…”
คามิเลียถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ข้าชื่อแอสรันครับ…ได้แต่หวังว่าเลดี้จะยอมลดตัวเป็นเพื่อนกับข้า!”
“ข้าชื่อคามิเลีย..แบรนเดอร์ค่ะ…เป็นเกียรติที่ได้คุยกับท่านนักเวทย์ค่ะ….”
หลังจากนั้นเป็นต้นมาเธอและแอสรันก็ถือเป็นสหายที่ไปมาหาสู่กันตลอดจนเกิดเป็นความสนิทสนม…
“คามิเลีย!!!…เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!!”
คามิเลียเงยหน้าขึ้นมาจากสมุดบัญชี…ก่อนจะถอนหายใจ
“ว่าไงแอสรัน…”
“เจ้าบอกข้าทีว่าในการแข่งขันประลองวันนี้ ฟูเทลิโอหรือ กาเบรีสจะชนะ!!…เร็วหน่อยเถิดข้าจะรีบไปวางเดิมพัน!!!”
บางทีเธอก็คิดนะว่าเขาคือจอมเวทจริงๆ รึเปล่า? …ในหัวของแอสรันเรื่องเงินถือว่าสำคัญมากที่สุดสำหรับเขา…
“…หกสิบสี่สิบ…”
แอสรันรีบส่ายหน้า
“เจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้นะคามิเลีย!!!…เงินเดิมพันเป็นของข้า…..”
“เช่นนั้นข้าก็ไม่บอก…”
แอสรันเม้มปากแน่น ในมือของเขาถือถุงเหรียญทองอยู่
“ห้าสิบ-ห้าสิบ…”
“ดีล…วันนี้เซอร์กาเบรีสจะชนะในรอบที่สาม…ฟูเทจะชนะในรอบหนึ่งและสอง ให้เจ้าวางเดิมพันตอนที่รอบสองจบลง…”
ในการประลองจะแข่งขันทั้งหมดสี่รอบ….ใครชนะสามรอบหรือสามารถทำให้คู่ต่อสู้หมดสติก่อนถึงเป็นฝ่ายชนะ
ในรอบที่สาม…เซอร์กาเบรีสจะชนะน็อคฟูเทเลย….เรื่องนี้ทำให้พี่ชายของเธอเสียเงินเดิมพันไปจำนวนมาก
“ทำไมถึงทำหน้าเช่นนั้น…ไม่สบายใจเรื่องอะไรงั้นเรอะ!”
“เซนจะต้องกลับมามีความเคลื่อนไหวแน่ๆ…ข้าต้องเตรียมตัวตั้งรับเอาไว้…”
แอสรันเดินเข้ามาก่อนจะลูบหัวคามิเลียเบาๆ
“วางใจ..เจ้าช่วยเหลือข้าทุกการเดิมพันเช่นนี้…ข้าจะช่วยเจ้าจ้างทหารรับจ้างฝีมือดีๆ สักคนมาคุ้มครองเจ้าเอง”
“หึ..สำหรับเจ้าข้าคือตัวทำเงินให้สินะ….”
“แหม!!..เจ้าก็ถือเป็นสหายข้านะ…ช่วงเวลาที่เราร่วมแรงร่วมใจแทงเดิมพันการแข่งม้ากันมา มันไม่มีความหมายอะไรกับเจ้าเลยงั้นเรอะ!!!”
คามิเลียโบกมือให้แอสรันออกไปก่อนที่เธอจะก้มหน้าลงเพื่อทำงานอีกครั้ง
อีกราวสามสัปดาห์จะเข้าสู่ฤดูหนาว…ตอนนี้เสื้อคลุม ถุงมือ และผ้าห่มได้ถูกตัดเย็บจนเสร็จหมดแล้ว
แต่ที่น่าเป็นกังวลคือทางไคโรเองก็ตุนซื้อผ้าขนสัตว์ไปเช่นกัน…ที่สำคัญกำหนดการเปิดร้านตัดเสื้อของไคโรเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
ทั้งที่ความจริงร้านตัดเสื้อของไคโรน่าจะเปิดตั้งแต่เดือนที่แล้ว
เคเดนเป็นคนฉลาด…การที่จะเอาชนะเขานั้นจะต้องคิดนำเขาไปหลายๆ ก้าว…ในตอนนี้เขาอาจจะส่งคนเข้ามาตามดูเธออยู่ก็ได้….
ต้องระวังตัวสักหน่อยแล้วละสิ