บทที่ [8]
ศิษย์พี่ใหญ่ {ลู่เฟิง}
''ศิษย์พี่ใหญ่...?'' จินเยว่นางเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ก็พบเข้ากับบุรุษที่นางมิได้เจอมานานยิ่งนัก ตั้งแต่ก่อนที่นางได้ย้อนเวลากลับมา
นางและศิษย์พี่ใหญ่ทั้งสองคนสนิทสนมกันมาตั้งแต่ยังเล็กเพราะมีแค่ศิษย์พี่ใหญ่คนเดียวที่คอยเล่นและดูนางมา หลังจากอายุได้สิบปีศิษย์พี่ใหญ่จะต้องเดินทางกลับบ้านอย่างกระทันหัน นางมิรู้ว่าบ้านของศิษย์พี่ใหญ่นั้นอยู่ที่ใด เขาเพียงแค่บอกนางว่ามันไกลมาก แล้วเขาบอกว่าจะรีบกลับมา
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมานางก็มิได้พบศิษย์พี่ใหญ่อีกเลย จนถึงตอนนี้เวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่กันแล้วนะ...
ศิษย์พี่ใหญ่ลู่เฟิงเขามองไปที่เด็กสาวที่เขานั้นทั้งรักและเอ็นดูนางมาก ตอนนี้ได้กลายเป็นหญิงสาวที่งดงามไปเสียแล้ว ก่อนที่เขาจะยืนแขนทั้งสองข้างหวังว่านางจะวิ่งเข้ามากอดเขาอย่างเช่นตอนเด็กๆ
จินเยว่นางที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปด้วยความเคยชิน เวลานางอยู่กับศิษย์พี่ใหญ่นางจะรู้สึกอบอุ่นเหมือนคนในครอบครัวที่มิได้พบหน้ากันมานาน
''เจ้าคิดถึงข้าหรือไม่เล่า จินเอ๋อร์...'' ลู่เฟิงสวมกอดหญิงสาวเอาไว้ด้วยความคิดถึงเขาคิดถึงเด็กสาวผู้นี้เหลือเกิน
จินเยว่นางมิได้ตอบอันใดออกไปพลางพยักหน้าเพียงเท่านั้น ก่อนที่จะค่อยๆคลายออกจากอ้อมกอดพลางเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มอย่างชัดๆ
''เหตุใดท่านถึงไม่มาหาข้าเลยเจ้าคะ'' จินเยว่นางเอ่ยออกมาด้วยความตัดพ้อ ก่อนที่ลู่เฟิงเขาจะรีบอธิบายให้นางนั้นเข้าใจ
''ข้าอยากมาหาเจ้าแต่เพียงข้านั้นมาหาเจ้ามิได้จริงๆ บ้านของข้านั้นไกลนัก กว่าข้าจะเดินทางมาหาเจ้าได้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือน เจ้าจะยกโทษให้ศิษย์พี่คนนี้ได้หรือไม่ ประเดี๋ยวข้าจะทำอาหารให้เจ้ากินดีหรือไม่?''
หญิงสาวที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบพยักหน้าทันที ศิษย์พี่ใหญ่เขานั้นขึ้นชื่อว่าทำอาหารอร่อยที่สุดตั้งแต่นางเคยกินมาเลยก็ว่าได้ จะได้กินของอร่อยทั้งที ไยนางจะต้องเล่นตัวอยู่อีกเล่า''
ลู่เฟิงที่ได้เห็นท่าทางหญิงสาวเช่นนี้ก็หัวเราะออกมา นางยังคงมิเปลี่ยนไปเลยสักนิด
หลายวันต่อมา
ศาลาริมน้ำ
เสียงเอ่ยพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนดังออกไปทำให้หลิวหยางเขามองทั้งสองจากที่ไกลๆ ฉายแววความไม่ค่อยพอใจออกมา
ตั้งแต่ศิษย์พี่ใหญ่ที่ชื่อว่าลู่เฟิงมายังสำนักอักษรกระบี่ จินเยว่นางก็ไม่ค่อยมาพูดคุยหรือมาเล่นกับเขาเลย มัวแต่อยู่กับบุรุษผู้นั้น..!
''ศิษย์พี่ใหญ่ฝีมือทำอาหารของท่านยังคงรสชาติดีเช่นเดิมเลยเจ้าค่ะ''
หญิงสาวตรงหน้ากำลังเอ่ยชมเขาอย่างมิหยุดปาก จนทำให้คนที่นั่งมองนางอยู่อย่างเงียบๆ พลอยมีความสุขไปด้วยที่ได้เห็นหญิงสาวเช่นนี้
''อร่อยจริงๆ เลยเจ้าค่ะ'' นางคีบอาหารเข้าปากพลางเงยหน้าขึ้นไปมองเหตุใดศิษย์พี่ใหญ่ถึงไม่แตะอาหารกันเลยล่ะ
''ศิษย์พี่ใหญ่ท่านไม่ทานหรือเจ้าคะ?''
''เจ้าทานเถิด แค่ข้าเห็นเจ้ากินเช่นนี้ข้าก็อิ่มแล้วล่ะ''
''เช่นนั้นข้ามิเกรงใจแล้วนะเจ้าคะ''
''แล้วเจ้าได้เกรงใจข้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน'' ลู่เฟิงเขาแกล้งเอ่ยหยอกล้อพลางหัวเราะออกมา
''ศิษย์พี่ใหญ่!''
''เอาล่ะๆ ข้ามิแกล้งเจ้าแล้วทานเถิดหากว่าไม่อิ่มข้าจะไปทำให้เจ้าใหม่''
จินเยว่นางพยักหน้าตอบกลับไป นางมิได้กินอาหารรสชาติดีๆแบบนี้นานยิ่งนัก
พอหลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ได้ออกไปเดินเล่นด้วยกันตามภาษาศิษย์พี่ศิษย์น้อง นางมิได้มาเดินเล่นแบบนี้กับศิษย์พี่ใหญ่นานแล้ว ทำให้นางมีความสุขยิ่งนัก
''ศิษย์พี่ใหญ่ท่านจะอยู่ที่นี่นานหรือไม่เจ้าคะ'' จินเยว่นางเอ่ยถามออกไป นางอยากให้เขาอยู่ที่นี่ ศิษย์พี่ใหญ่เปรียบเสมือนพี่ชายคนหนึ่งหากเขาจากไปอีก นางคงจะต้องคิดถึงมากแน่ๆ
''หื้ม เจ้าคิดถึงข้ามากเลยหรือ จินเอ๋อร์...'' ลู่เฟิงเขาก้มลงไปมองที่หญิงสาวด้วยความเอ็นดูมือหนาค่อยๆลูบลงไปที่หัวนางอย่างแผ่วเบา
ไม่ทันที่จินเยว่นางจะตอบกลับไปจู่ๆก็มีตัวอะไรมิรู้วิ่งมาที่นางด้วยความเร็ว
''อ๊ะ..?!''
''เมี๊ยว ~ ''
''เจ้าแมวอ้วนไป๋ไช่?'' หญิงสาวก้มลงไปอุ้มเจ้าแมวอ้วนขึ้นมาก่อนที่จะลูบหัวมันอย่างช้าๆ
''เมี๊ยว ~ ~ ''
''เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แล้วหลิวหยางเล่า'' นางเอ่ยถามแมวออกไป แม้จะรู้ว่ามันคงจะตอบนางมิได้ก็เถอะ
จู่ๆหลิวหยางเขาวิ่งมาที่ทั้งสองด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ ก่อนที่จินเยว่นางจะเอ่ยทักเขาออกไป
''เจ้ากำลังหาไป๋ไช่อยู่หรือไม่''
เขาพยักหน้าตอบรับ หญิงสาวเห็นเช่นนั้นจึงได้ยื่นเจ้าแมวอ้วนส่งไปให้กับเขา
ก่อนที่หลิวหยางเขาจะมองไปที่บุรุษข้างๆนาง พลางแกล้งเอ่ยถามออกไปด้วยใบหน้าที่ใสซื่อ
''พี่หญิง ท่านนี้คือผู้ใดหรือขอรับ''
''อ่า...จริงสินี่คือศิษย์พี่ใหญ่ลู่เฟิง ส่วนนี่ศิษย์น้องหลิวหยางเจ้าค่ะ'' จินเยว่นางแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน แต่เหตุใดนางถึงได้รู้สึกแปลกๆ
''ยินดีที่ได้รู้จักขอรับศิษย์พี่ใหญ่''
''เช่นเดียวกัน ข้าเคยได้ยินเรื่องของเจ้าอยู่บ้าง เขาว่ากันว่าเจ้าเป็นม้ามืดเลยทีเดียว''
''ไม่ขนาดนั้นหรอกขอรับ ข้าคงต้องศึกษาและเรียนรู้อีกมากต้องให้ศิษย์พี่ใหญ่โปรดชี้แนะให้ข้าด้วยขอรับ'' หลิวหยางเอ่ยพร้อมกับยิ้มออกมา
''เจ้าถ่อมตัวกันไปแล้วศิษย์น้อง''
.
.
.