บทที่ [6] อย่าได้มายุ่งเรื่องส่วนตัวของข้านัก

1123 Words
บทที่ [6] อย่าได้มายุ่งเรื่องส่วนตัวของข้านัก หลายวันต่อมา จินเยว่นางอาการทรุดหนักเพราะว่านางมีไข้ที่เกิดจากบาดแผลในการโบยหลังในวันนั้น ทำให้ท่านหมอต้องรีบเข้าไปทำการรักษาทันทีอย่างน้อยๆ นางก็เป็นถึงบุตรสาวของเจ้าสำหนักจะให้เป็นอะไรไปมิได้ มิเช่นนั้นหัวของข้าคง…ไม่อยากจะคิดเลย ทางด้านของหลิวหยาง ในตอนนี้เขาก็กำลังฝึกซ้อมอยู่เช่นเคยหลังจากเรียนเสร็จ เขามิได้เห็นใบหน้าของพี่หญิงหลายวันแล้วนางคงโกรธข้าอีกหรือไม่ที่วันนั้นข้าเดินออกไปเช่นนั้น หลิวหยางพลางคิดอยู่ในใจแต่ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงของ ตงตงและศิษย์ในสำนักที่เดินตรงมาหาเขา แม้ว่าหลายวันมานี้พวกเขาไม่มายุ่งกับข้าเหมือนแต่ก่อนแล้ว ''เจ้าคงจะดีใจสินะที่ได้เห็นศิษย์พี่โดนลงโทษเช่นนี้'' ''....?!'' ''อะไรนะขอรับ พี่หญิงนางเป็นอะไรนะขอรับ?!'' หลิวหยางที่ได้ยินเข่นนั้นก็ทำหน้าตกใจ ''เจ้าอย่าได้แกล้งทำเป็นมิรู้เรื่อง เป็นเจ้ามิใช่หรือที่เอาเรื่องศิษย์พี่หญิงรังแกเจ้าไปฟ้องต่อท่านอาจารย์ทำให้ศิษย์พี่หญิงต้องโดยสั่งโบยที่หลังตั้งสามสิบทีแถมสั่งกักบริเวณอีกตั้งเจ็ดวัน ตอนนี้ศิษย์พี่หญิงนางอาการทรุดหนักเพราะเจ็บที่บาดแผล...!'' ไม่ทันที่ตงตงจะได้อธิบายจบ หลิวหยางเขารีบทิ้งกระบี่ในมือก่อนที่จะรีบวิ่งไปทางเรือนของหญิงสาวด้วยใบหน้าที่รีบร้อน . . . พอเขามาถึง แต่มิกล้าเข้าไปเขาเลยสอบถามท่านหมอที่กำลังเดินออกมาจากเรือนของนางทันที ''เอ่อ…ท่านหมอขอรับพี่หญิงนางเป็นเช่นไรบ้างขอรับ...?!'' ''ตอนนี้นางกำลังนอนหลับอยู่ ข้าให้ยานางไปแล้วอีกไม่กี่วันอาการเจ็บไข้ก็น่าจะหายดี ส่วนบาดแผลที่หลังอาจจะหายช้าหน่อย เจ้ามาก็ดีแล้วเจ้าไปดูนางหน่อยก็ดี'' ก่อนที่ท่านหมอจะเดินจากไป หลิวหยางเดินเข้ามาในเรือนของหญิงสาวอย่างเบาๆ มิอยากให้คนในห้องนั้นตื่นขึ้นมา เขาเดินเข้ามาภายในห้องก็ได้กลิ่นของยาสมุนไพรที่คลุ้งเต็มไปทั่วห้องและเห็นว่าหญิงสาวกำลังฟุบนอนหลับอยู่ เป็นเพราะนางมีบาดแผลทำให้นอนได้ไม่สบายนัก เขามองดูนางด้วยความปวดใจ แค่เห็นว่านางเจ็บเขาก็พลอยรู้สึกเจ็บไปด้วย ''ข้ามิได้เป็นคนไปฟ้องเลยนะขอรับ ถ้าหากข้าเอ่ยเช่นนี้ออกไปท่านจะเชื่อข้าหรือไม่?'' หลิวหยางพลางมองไปที่คนบนเตียงด้วยสายตาที่เจ็บปวดก่อนที่จะรีบลุกออกไปทันที เขารู้แล้วว่าใครเป็นคนทำเรื่องเช่นนี้ ชายหนุ่มเดินตรงไปหาซูมี่ศิษย์น้องเล็กในสำนักทันที ''ศิษย์น้องเล็กอยู่หรือไม่ขอรับ'' หลิวหยางเอ่ยถามออกไปก่อนที่คนแถวนั้นจะเรียกซูมี่ให้นางรีบออกไปพบ ซูมี่ที่ได้เห็นว่าชายหนุ่มมาหานางก็รีบวิ่งออกมาด้วยความดีใจ ''ศิษย์พี่'' ''ศิษย์พี่มาหาข้ามีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ'' หลิวหยางมองไปที่ซูมี่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่เหตุใดนางถึงได้ขนลุกแปลกๆ ? ''เป็นเจ้าใช่หรือไม่ที่เอาเรื่องพี่หญิงไปฟ้องท่านอาจารย์?!'' ซูมี่นางได้ยินเช่นนั้นก็รีบพยักหน้าตอบรับทันทีด้วยรอยยิ้ม ''เป็นข้าเองเจ้าค่ะ ข้าทำดีหรือไม่เจ้าคะศิษย์พี่หญิงนางสมควรโดนเช่นนั้นแล้ว…!'' ไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยต่อก็ถูกขัดด้วยเสียงทุ่ม จนนางนั้นถึงกับตกใจมิน้อยที่ได้เห็นท่าทางของเขาในยามนี้ มันดูน่ากลัวยิ่งนัก ''ข้าบอกแล้วหรือว่าให้เจ้าทำเช่นนั้น!'' ''ขะ..ข้า...'' ''หากข้ามิได้เป็นคนสั่งเจ้า เจ้าก็อย่าได้มายุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของข้านัก'' ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกไป ซูมี่นางที่ได้ยินเช่นนั้นก็กำมือแน่น . . . หลิวหยางเดินตรงไปยังเรือนของจินเยว่ด้วยความเป็นห่วง เขาเดินเข้ามาภายในห้องอย่างเบาที่สุด เพราะมิอยากให้คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงนั้นตื่นขึ้นมา หลิวหยางยืนมองหญิงสาวอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนที่จะค่อยๆ หันหลังกลับไปแต่จู่ๆ คนที่อยู่บนเตียงนางกลับตื่นขึ้นมาเสียก่อน ''อื้อ ….'' ''อ่า… หลิวหยางเจ้างั้นหรือ...?'' ''เป็นข้าเองขอรับพี่หญิง'' จินเยว่หลังจากที่นางหลับลงไปเพราะพิษไข้ ก่อนที่จะพยามค่อยๆ ลุกขึ้นมา ''อ๊ะ…โอ๊ยย !!!'' คนตัวสูงที่เห็นเช่นนั้นก็รีบเดินเข้าไปพยุงร่างกายอันเบาะบางของหญิงสาวให้ค่อยๆลุกขึ้นมาทันที เขามองมาที่นางด้วยสายตาที่เจ็บปวด ''พี่หญิงท่านเป็นเช่นไรบ้างขอรับ เจ็บหรือไม่?...'' ''ข้ามิเป็นไรมากหรอก เจ้าอย่าได้ทำหน้าเช่นนั้นเลย'' ''....'' ''ข้ามิได้เป็นคนไปฟ้องท่านอาจารย์นะขอรับ พี่หญิงท่านจะเชื่อข้าหรือไม่?...'' ''ข้าเชื่อเจ้า'' จินเยว่นางตอบออกไปทันที ทำให้ชายหนุ่มนั้นตกใจมิน้อย เขาไม่คิดว่าหญิงสาวจะตอบออกมาทันทีเช่นนี้ จินเยว่ รับรู้ว่าในยามนี้หลิวหยางเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่ก็ได้นำมือเรียวเล็กมาลูบหัวของเขาอย่างช้าๆ ด้วยสายตาที่อ่อนโยน ''ข้ารู้ว่าเจ้ามิใช่คนเช่นนั้น'' ''ขะ...ขอบคุณขอบรับที่เชื่อใจข้า'' เขากล่าวเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้าก็แดงซ่านจนถึงใบหูเห็นเช่นนั้นจินเยว่นางเลยระเบิดหัวเราะออกมาอย่างขบขันด้วยความเอ็นดูในท่าทีของเขา ''ฮ่าๆๆ'' ''หลิวหยางเจ้านี่น่ารักจริงๆ เลยนะ'' ยิ่งนางพูดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มเขินอายจนตอนนี้มันแดงไปทั่วทั้งหน้าและลำคอเสียแล้ว แดงอย่างกับแต้ม ชาดยิ่งทำให้จินเยว่เอ็นดูจนเผลอนึกมันเขี้ยวเอื้อมมือไปหยิกแก้มแดงๆ ทั้งสองข้าของเขาด้วยรอยยิ้มกว้างจนตาหยี ''เห็นหรือไม่เจ้านี่น่ารักจริงๆด้วย'' ทุกการกระทำของนางในยามนี้ ทำให้ชายหนุ่มไม่สามารถละสายตาออกจากนางได้เลยแม้แต่น้อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD