ม่านทอฝัน talk
ฉันขับรถมาจอดหน้าออฟฟิศ และเดินตรงมาที่แผนกประชาสัมพันธ์ มีสาวสวย แต่งหน้าจัดจ้านยืนมองหน้าเธอ และสอบถามเธอขณะที่จะเดินเข้าไปพบคุณลุง ผู้หญิงคนนั้นแสยะยิ้มเหยียดฉัน
"เธอมาพบใคร" เธอถามและใช้น้ำเสียงไม่เป็นมิตร หางเสียงไม่มี การแต่งตัวจัดเต็ม หน้าติดเหวี่ยง ประชาสัมพันธ์ผู้ไร้มารยาท
"ฉันมาพบคุณลุงภูค่ะ" ฉันตอบกลับผู้หญิงคนนั้น รู้สึกเหนื่อยและเบื่อที่ต้องมาตอบคำถาม
"นัดไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้นัดไว้ เข้าพบไม่ได้ ที่นี่ไม่ใช่โรงแรม ใครจะเข้าจะออกก็ได้ " เธอยังใช้น้ำเสียงที่ไม่น่าฟัง ฉันไม่ตอบโต้กลับปล่อยผ่าน ฉันหยิบโทรศัพท์มา ต่อสายหาคุณลุงภูผา
"งั้นคุณช่วยโทรไปเรียนท่านได้ไหมคะว่า ดิฉัม่านทอฝันมาขอพบค่ะ" เธอยังทำท่าไม่เป็นเดือดเป็นร้อนเหมือนเดิม พนักงานที่นี่คัดกันยังไง คงไม่ใช่คัดแค่หน้า แต่ไม่คัดมารยาทหรอกนะ
"ถ้าท่านนัดใครไว้จริงท่านจะโทรมาบอกฉันไว้ก่อน ถ้าไม่โทรแสดงว่าไม่ได้นัดใครค่ะ เพราะฉะนั้นฉันจึงไม่ต้องโทรไปถามให้เสียเวลาค่ะ" ถ้าฉันใจร้อนเหมือนเมื่อนะ บอกเลยเธอไม่มีทางรอดมือฉัน แต่ตอนนี้ยังไม่อยากสร้างปัญหาให้คุณลุง
ฉันจึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้ แต่หยิบโทรศัพท์โทรหาคุณลุง แล้วเธอจะได้รู้ว่าฉันเป็นใคร และไม่ควรทำกับฉันแบบเมื่อครู่
"คุณลุงคะ ทอฝันมาถึงแล้วนะคะแต่ประชาสัมพันธ์ไม่ให้ เข้าไปพบคุณลุงค่ะ"ฉันบอกคุณลุงไปตามความจริง
"เดี๋ยวลุงจัดการเอง หนูทอฝันรอลุงสักครู่ เดี๋ยวลุงให้คุณสมพงษ์เลขาลุงไปรับ" เสียงคุณลุงตอบกลับมาตามสาย
"ค่ะ คุณลุง" รอไม่นานฉันก็เห็นผู้ชายวัยกลางเดินเข้ามาหาฉัน
"คุณม่านทอฝัน ใช่ไหมครับ ผมสมพงษ์ครับ คุณทอภูผาให้รับคุณครับ
"ค่ะ สวัสดีค่ะคุณสมพงษ์" ฉันยิ้มและยกมือไหว้คุณสมพงษ์ที่เป็นเลขาคุณลุงที่ให้มา รับฉัน
"เชิญคุณม่านทอฝัน ตามผมมาเลยนะครับ" ฉันเดินตามคุณสมพงษ์ และก่อนไปคุณสมพงษ์ไม่วายหันกลับมาบอกผู้หญิงคนนั้นที่ ยืนมองอยู่
"คุณเปมิกา คราวหลังถ้าคุณม่านทอฝันมาที่บริษัท ให้ขึ้นพบคุณภูผาและคุณภูตะวันได้เลย และรู้ไว้ด้วยนะคุณม่านทอฝันเป็นหล่นรักคุณภูผา ไม่จำเป็นต้องรอหรืออนุญาต จำไว้ด้วยนะ" เสียงคุณสมพงษ์กล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ไม่ต้องการให้เปมิกาเสียมายาทกับเธออีก
"ค่ะ" เปมิกาตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและมีหน้าเจื่อนลงเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็แสยะยิ้ม เธอไม่อยากให้ใครมาเกี่ยวข้องกับคุณภูตะวันของเธอ เปมิกาจึงคิดจะกันผู้หญิงที่คิดจะมาจับภูตะวัน
ฉันตามคุณสมพงษ์มายืนหน้าห้องประธานกรรมการ ยืนมองหน้าประตูและสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อ เพิ่มกำลังใจให้ตัวเอง นี่คือการเผชิญหน้าครั้งแรกกับเขาในรอบหลายปี
"มาแล้วเหรอหนูทอฝัน ลุงรอหลานรักคนนี้มานาน กลับมาหาลุงได้สักที" คุณลุงภูผายิ้มกว้างและเดินเขามากอดฉันด้วยความรัก และเอ็นดู ผิดกับอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง ปั้นหน้ายักษ์ใส่ ฉันรู้เสียวสันหลัง กลัวจะโดนฆ่าไปเสียก่อนที่จะได้เรียนงานเสร็จ
"สวัสดีค่ะลุงภู ทอฝันคิดถึงคุณภูมากเลยค่ะ"ฉันยกมือไหว้และสวมกอดกลับคุณลุงภูผา
นานมามากแล้วนะที่ฉันไม่รับความรักและอ้อมกอดที่ อบอุ่น แบบนี้
"คิดถึงแล้วทำไมหายไปนาน ไม่กลับมาหาลุงสักที ลุงกับป้าก็คิดถึงทอฝันจะแย่" คุณลุงคลายอ้อมกอดมองหน้าฉันด้วยสายตาที่แสนห่วงใย
"ทอฝันกลับมาแล้วค่ะ วันนี้ทอฝันพร้อมแล้วนะคะ ทอฝันจะไม่เดินหนีปัญหาอีกแล้วค่ะ" ฉันส่งรอยยิ้มและสายตามุ่งมั่น ฉันพร้อมที่จะเผชิญทุกอย่างแล้ว
"หึ" เสียงหัวเราะในลำคอที่ดังมาจากด้านหลังคุณลุงภู ฉันจำได้ว่าใคร ฉันเหลือบสายตาไปมอง เห็นว่าพี่ตะวันเย็นจ้องฉันเขม็ง
"เหนื่อยไหมลูก ทอฝันของลุงปีนี้โตขึ้นเยอะเลยนะ อายุ 23ปีแล้ว นานกี่ปีแล้วที่ทอฝันไม่ได้กลับมาที่นี่" คุณลุงมองหน้าฉันและหันไปมองหน้าพี่ตะวัน ฉันรู้ว่าคุณลุงต้องการจะสื่อความหมายอะไร
ฉันลังเลมากที่จะกลับมา เพราะการกลับมาของฉันมันอาจสร้างความไม่พอใจให้ใคร บางคน แต่คุณลุงเคยพูดกับฉันไว้ คนเราจะหนีอะไรก็ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่หนีไม่ได้คือความจริง
ใช่แล้วมันคือความจริงที่สักวันเราก็ต้องเจอมันอยู่ดี
"ทอฝันจะกลับมาอยู่แล้วนะคะ ขอโทษคุณลุงมากๆนะคะ ที่เอาแต่ปัญหามาทิ้งไว้ ตอนนี้ทอฝันจะกลับมาแก้ปัญหาเหล่านั้นด้วยตัวเองแล้วค่ะ" คุณลุงเข้ามาสวมกอดและให้กำลังอีกครั้ง
"ดีแล้วล่ะลูก เราต้องกล้าเผชิญกับความจริง แม้มันจะมีอุปสรรคบ้าง ก็อย่าท้อนะลุงจะอยู่ข้างเอง ถึงแม้ใครจะมองไม่เห็น แต่ลุงมองเห็น" คุณลังมองหน้าฉัน แต่เหมือนจะประชดใครบางคน ฉันจึงได้เห็นใบหน้าอันบึ้งตึง ยืนขบกรามแน่น ดูเหมือนความซวยกำลังจะมาเยือนฉัน