ตอนที่ 8

1349 Words
“ตรงนี้ดีไหม...” กดปลายนิ้วลงไปบนปากหนาเบา ๆ ยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวสักหน่อย แต่เธอจะได้เอาคืนให้อีกฝ่ายเจ็บปวดนะ สาสมที่สุดเชียวแหละ รอยยิ้มเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนกลีบปากนุ่ม นัยน์ตากลมโตเป็นประกายวาววับราว “อืม...หรือจะว่าเป็นที่อื่น” แสร้งถามไปอย่างนั้นเองแหละ ก็เริ่มขยับตัวแล้วนี่น่า จัดให้อยู่ในท่าพอเหมาะพอเจาะแล้วเธอก็จะ... “แล้วแต่...ยังไงก็ได้” วันนี้เขาแค่มาชิมลาง ไม่ได้ตั้งใจจะอะไรมากมายหรอก ถ้าได้จูบหวาน ๆ สักครั้งก็เอา “แต่ฉันเป็นผู้หญิงนะ หน้ายังมียางอายอยู่ ถ้าคุณจะช่วยสักหน่อย” มัญชิษฐาพยายามบังคับคำพูดให้อ่อนหวาน ลมหายใจอุ่นร้อนเป่าพ่นออกจากปากอย่างโล่งใจไปเปราะหนึ่ง เมื่อไอ้วายร้ายยังไม่รู้ทันความคิดของเธอ “ช่วยหลับตาหน่อยได้ไหม” หญิงสาวออดอ้อนเสียงหวาน ลากไล้เรียวนิ้วบนกลีบปากหนาอย่างยั่วยวนให้อีกฝ่ายต้องเผลอไผลและเพลี่ยงพล้ำต่อเธอได้ง่าย “ไม่ละ...นี่ก็มืดจนฉันเห็นหน้าเธอไม่ชัดแล้วนะคุณผู้หญิง ถ้าขืนหลับตาไป เกิดคุณผู้หญิงทำอะไรผมละ” บ้าฉิบ! มัญชิษฐาสบถในใจ ไอ้วายร้ายบ้านี่พูดอย่างกับมานั่งอยู่กลางใจเธออย่างนั้นแหละ “แหม...แค่นี้ก็ให้ไม่ได้ ทีฉันยังยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวได้เลย” เธอเอื้อนเอ่ยกระเง้ากระงอด ก่อนจะต้องรีบตัดสินใจ เมื่อท่อนแขนใหญ่เริ่มจะรัดร่างแน่นขนัดขึ้น จนแม้กระทั่งจะหายใจก็ยังไม่กล้า ด้วยกลัวความใกล้ชิดพาหัวใจหวั่นไหว ก็เธอเคยถูกจู่โจมถึงขั้นนี้ที่ไหนกันละ อย่างมากสุดก็แค่ถูกจับมือถือแขน และอาจถูกจับโน่นนิดนี่หน่อยเท่านั้นเอง มัญชิษฐาทาบสองมือนุ่มนิ่มบนแก้มตอบ ยันตัวเองชะโงกหน้าขึ้นเหนือร่างใหญ่ แม้จะอยู่ในความมืดมิด ทว่าดวงตาคมสาดทอแสงมาทำให้หัวใจเธอหวั่นไหววูบวาบอย่างไม่ควรจะเป็น จนต้องรีบข่มกลั้นเอาไว้อย่างสุดความสามารถ ค่อย ๆ ทาบกลีบปากเย็นชืดของตัวเองบนสันแก้ม เรื่อยลงมาทีละนิด ให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงการยั่วยวน ทว่าเมื่อวินาทีซึ่งปากประกบปาก สิ่งที่จอมวายร้ายได้รับกลับกลายเป็น เข่ามลกระทุ้งไปบนลำตัวกว้างเต็ม ๆ จนมีเสียงดังปึก “นี่เป็นสิ่งที่แกควรจะได้รับ ไอ้คนเลว!” เพี๊ยะ! ฝ่ามือเล็กฝาดลงไปบนหน้าชายหนุ่มอีกครั้งอย่างจัง พร้อมทรายกอบใหญ่โป๊ะลงไปบนหน้าอย่างไม่สนใจว่าจะเข้าหูเข้าตาและเข้าปากอีกฝ่ายไหม เพราะเธอภาวนาให้ตาบอดเสียด้วยซ้ำ ก่อนจะเร่งรีบพาตัวเองวิ่งหนีไปอย่างเร่งด่วนประมาณพนักงานไปรษณีย์ต้องปั่นจักรยานสุดชีวิตหนีสุนักที่ไล่งับขานั่นแหละ ชายหนุ่มผุดเสียงร้องคำรามลั่น ในวินาทีซึ่งความเจ็บจุกจนแทบจะหายใจไม่ออกสอดแทรกมาอย่างไม่ทันจะได้ตั้งตัว ทว่าก็เป็นไปเพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น เพราะเพลิงโทสะซึ่งพุ่งลิ่ว ลุกโชนราวกับมีใครเอาน้ำมันไปราดบนกองไฟจนทำให้ลืมหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง รู้เพียงแค่ว่าเขาจะต้องสั่งสอนยายตัวดีที่กล้าทำร้ายเขาให้หลาบจำเสียก่อน จนลืมนึกไปว่าเป็นเขาที่หาเรื่องหญิงสาวและหาเรื่องเจ็บตัวเอง ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืนอย่างเร็วพลัน ปัดทรายบนหน้าออกอย่างรวดเร็ว เพียงแค่กวาดสายตามองไปแล้วเห็นเงาตะคุม ๆ ของคนซึ่งเขาต้องการตัววิ่งไปบนหาดทรายส่วนที่มีร้านรวงตั้งอยู่เรียงรายเต็มไปหมด คงจะวิ่งไปอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายให้เขาเหล่านั้นเป็นกันชน ฮึ! คิดหรือว่าเขาจะสน “จะหนีไปไหนยายตัวแสบ” เสียงเหมือนสัตว์ร้ายร้องคำรามทำเอามัญชิษฐาต้องรีบหันไปมอง เพียงแค่ได้เห็นร่างหนาใหญ่ที่กระโจนวิ่งตามเธอมาติด ๆ เธอรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น แต่แม้ตัวเธอจะสูงเพรียวและฝีเท้าเร็วแค่ไหน ก็ยังสู้คนตัวใหญ่กว่าไม่ได้ เขาก้าวไม่กี่ก้าวก็สามารถคว้าแขนของเธอได้แล้ว “กรี๊ด!! ไม่นะไอ้วายร้าย ปล่อยฉันนะ!!” มัญชิษฐาฝืนตัวเองไว้ไม่ยอมให้ถูกอีกฝ่ายนั้นดึงกลับไป แต่มีหรือที่เรี่ยวแรงเท่ามดตัวน้อยจะสู้พลังของอายวายร้ายซึ่งกำลังโกรธจัดได้ ถ้าส่วนที่ถูกจับอยู่มีแสงไฟสาดส่องมา เธอคิดว่าคงจะเห็นวงหน้าแดงคล้ำ นัยน์ตาเป็นประกายโชนแสงดุและแข็งกร้าว ทว่าในวินาทีนี้เธอไม่สนใจกระแสความโกรธาที่แผ่ซ่านมา ด้วยคิดเพียงว่าจะต้องพาตัวเองให้หลุดจากอุ้งมือหนาซึ่งบีบกระชับลงมาจนแขนแทบจะหักนี่ให้ได้เสียก่อน “เรื่องอะไรจะปล่อยละยายตัวดี” ชายหนุ่มเร่งรุดจับมือบางซึ่งกำลังร่ายระบำฟ้อนอยู่บนแขนและลำตัวหนาอย่างเอาเป็นเอาตาย “เธอจะสะบัดสะบิ้งดีดดิ้นเล่นตัวไปทำไม เห็นยั่วเขาไปทั่ว แค่อยากได้ผู้ชายมาคลายอารมณ์เปลี่ยวของตัวเอง ทำไมถึงไม่เลือกให้มันดีหน่อยละคุณ ไปยุ่งกับคนที่เขามีแฟนอยู่แล้วทำไม เอาไอ้ที่โสด ไม่มีภาระแล้วก็กลัดมันอย่างฉันดีกว่าไหม รับรองได้ว่าบริการให้ถึงใจจนคุณร้องอู้ ร้องเอาอีก ๆ ไม่หยุดปากเชียวหละ” ใครกัน? ผู้ชายที่ไอ้วายร้ายพูดถึงเป็นใครกัน และเพราคำที่ได้ยินนี้เองทำให้มัญชิษฐาหยุดกึก เลยเป็นโอกาสให้ร่างสมส่วนถูกอีกฝ่ายรวบตัวเอาไว้ในที่สุด “โว้ย! ปล่อยฉันนะไอ้วายร้าย” หญิงสาวพยายามสลัดเรือนกายให้หลุดจากแขนแกร่งรัดรึง จนกระดูกกระเดี้ยวในร่างกายแทบจะหักออกเป็นท่อนๆ “ฉันไม่เคยคิดทำอย่างที่แกว่า อย่ามาใส่ความกันนะโว้ย ปล่อย!!” แผดเสียงตอบกลับอย่างที่คิดว่าดังสุด ๆ แล้ว อย่างคิดว่าน่าจะมีคนพอได้ยิน หันมาให้ความสนใจ ตะโกนกลับมาว่ามีใครต้องการความช่วยเหลือบ้าง ทว่าเปล่าเลย มีเพียงแค่คำพูดของเธอซึ่งเงียบหายไปกับกระแสลมแรงและเกลียวสายน้ำซึ่งสาดซัดเข้าหาฝากฝั่ง “ทำปากแข็ง ปากว่าไม่แต่ร่างกายมันไม่ได้บอกอย่างนั้นนี่น่า แค่ถูกฉันจับลูบคลำหน่อยเดียวเอง เนื้อตัวเธอก็สั่นระริกแล้วไม่ใช่หรือไง” ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปบนแผ่นหลังบอบบางเรื่อยลงไปถึงบั้นท้ายกลมกลึง ขยำนวดคลึงเบา ๆ อีกฝ่ายก็ขนลุกซู่ เรี่ยวแรงที่ทุ่มลงไปเพื่อให้หลุดจากแขนแกร่งก็ลดน้อยถอยลงไปในทันควัน “เป็นไง เถียงไม่ออก ใบ้กินเพราะฉันรู้ทันใช่ไหม” ก็ทำไมเขาจะพูดแบบนี้ไม่ได้ละ ในเมื่อเขา...เป็นคนแปลกหน้าแท้ๆ เจอกันไม่ทันจะได้พูดจาแนะนำชื่อเลย แค่แกล้งกระตุกร่างลงมากอดหน่อยเดียวเอง ก็ทำตัวอ่อนระทวย ยั่วเข้าให้แล้ว โถ...แม่ผู้ดีแปดสาแหรก รวยเงินแต่ทำตัวเละเทะยิ่งกว่าบางคน ซึ่งไม่มีเงินจะกินข้าวจนต้องแบกหน้าขายนาผืนน้อยเสียอีก “ไอ้...” เธอไม่รู้ว่าจะสรรหาคำพูดไหนมาด่าคนตรงหน้าให้เจ็บแสบไปถึงทรวง “อยากเปลี่ยนรสชาติการนอนกับผู้ชายไหมคุณผู้หญิง เอาไอ้ที่กลัดมัน ขย้ำเธอเหมือนเสือกินอาหาร กลางพื้นดินทรายแบบนี้ ฉันว่าได้รสชาติกว่านอนกับพวกสุภาพบุรุษจะทำอะไรทีก็ค่อยๆ ละเลียดชิมอย่างกับกลัวจะบอกช้ำแตกหักในห้องหรูเริดติดแอร์จนเย็นฉ่ำดีกว่านะ รับรองรสชาติจัดจ้านถึงใจจนคุณลืมไม่ลงเชียวละ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD