“ก็ทำสิ” เขาพูดอย่างเฉยเมย พอเธอหันไปแล้วก็แอบอมยิ้มกับประโยคใส่ใจของคู่หมั้นสาว
นิตยาชอบทำอาหารอยู่แล้ว เธอจึงหยิบจับอะไรได้คล่องแคล่ว ไม่นานข้าวสวยร้อน ๆ ต้มยำหม้อขนาดกลาง ไข่เจียวหมูสับ ผัดผักรวมกับกุ้งสดก็เสร็จพร้อมเสิร์ฟ
“อาหารเสร็จแล้วค่ะ พี่พริกมากินสิคะ” เธอเร่งมือเต็มที่เพราะเห็นว่าเขาหิว เขาทิ้งงานในมือเดินมามองอาหารบนโต๊ะ เธอตักข้าวให้เขาก่อนจะรินน้ำเย็น ๆ ใส่แก้ว
“อุ๊ย! พี่พริก” นิตยาร้องเมื่อเขาดึงเธอไปนั่งบนตัก ก่อนจะหอมแก้มฟอดใหญ่
“ป้อนให้หน่อย ทำงานเหนื่อยทั้งวัน มือไม่มีแรงเลย”
“คะ?” เธอตาโตมองหน้าคนเรียกร้องให้ป้อน ก่อนจะโดนเขาหอมแก้มซ้ำ ๆ ไม่หยุด
“แก้มนิตช้ำหมดแล้วนะคะ” คนขี้อายรีบบอก ดันใบหน้าของเขาออกห่าง
“หิวแล้ว” เขาเร่งเร้าเขย่าร่างเธอเหมือนตัวเองเป็นเด็ก ๆ หญิงสาวตักข้าวป้อนเขา ตามด้วยไข่เจียว และผัดผัก เขาเคี้ยวตุ้ย ๆ อ้าปากรับน้ำต้มยำที่เธอป้อนตามมาอีกเพื่อให้คล่องคอ
รสมือของเธออร่อยไม่เคยเปลี่ยน คิดเหรอว่าเขาจะยอมปล่อยให้เธอไปเป็นของชายอื่น
“กินอะไรหรือยัง” เขาเอ่ยถามคนในอ้อมแขนด้วยน้ำเสียงห่วงใย รู้สึกเอ็นดูคนในอ้อมแขนที่ตั้งอกตั้งใจป้อนเขาอย่างไม่เกี่ยงงอน
“นิตยังไม่หิวค่ะ” คนโกหกคำโตต้องหน้าแดงเมื่อท้องเธอร้องประท้วง
“โกหกไม่เนียนเลยนะ”
“เอ่อ...”
“กินด้วยกันสิ กับข้าวเยอะแยะ พี่กินไม่หมดหรอก กินคนเดียวมันเหงา” พฤทธิ์ไล้สีข้างของคนบนตักเบา ๆ เขาหาเหตุผลบังคับเธอได้อยู่เรื่อย นิตยาตักอาหารเข้าปากด้วยความหิว เขาแอบยิ้มเจ้าเล่ห์ โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้เห็น
ป้อนกันไปมา อาหารตรงหน้าจึงหมดลงอย่างรวดเร็ว
“พี่พริกคะ”
“ครับ”
“นิตต้องเก็บจานชามไปล้างแล้วนะคะ” เธอบอกเขาด้วยน้ำเสียงนิ่ม เมื่อเขายังโอบกอดเอวบางของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“ก็ไปสิ ใครว่าอะไรล่ะ” สิ้นคำอนุญาตแบบกวน ๆ ของเขา เธอก็เลื่อนกายลงจากตักกว้าง เพื่อเก็บจานชามไปล้าง
“พี่พริกอิ่มแล้วใช่ไหมคะ” เธอเอ่ยถามเขา เมื่อล้างจานชามเสร็จเรียบร้อย
“ทำไมล่ะ”
“พี่พริกไปส่งนิตที่บ้านด้วยนะคะ เดี๋ยวคุณย่าดุ”
“ที่จะรีบกลับบ้านเพราะกลัวคุณย่าดุหรือเพราะมีใครรออยู่กันแน่”
นิตยากะพริบตาปริบ ๆ อย่างไม่เข้าใจ แต่พอเห็นใบหน้าบึ้งตึงของเขา เธอเลยถึงบางอ้อ
“ไม่มีหรอกค่ะ นิตหายมานานแล้ว เดี๋ยวคุณย่าจะเอ็ดเอา”
“พี่ขออนุญาตคุณย่าแล้ว ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะโดนดุ” เธอจนคำพูดเมื่อเขาไม่ยอมไปส่งบ้าน
“เมื่อกี้ถามว่าพี่อิ่มหรือยัง ตอบแบบไม่อ้อมค้อมเลยนะว่ายัง”
“พี่พริกยังไม่อิ่มเหรอคะ” เธอตาโตมองเขาตาปริบ ๆ เห็นเขากินข้าวไปเยอะมาก ยังไม่อิ่มอีกหรืออย่างไร
“ใช่ ยังไม่อิ่มเลย ยังหิวอยู่”
“ให้นิตทำอะไรให้กินอีกไหมคะ หรือพี่พริกหิวขนม”
“ใช่ พี่หิวของหวาน”
“งั้น... เดี๋ยวนิตดูของในตู้เย็นว่ามีอะไรที่พอจะทำขนมให้พี่พริกได้นะคะ”
“อุ๊ย!” เธอเปิดตู้เย็นเพื่อรื้อหาของที่จะนำมาทำขนมให้เขา แต่ถูกอ้อมกอดแข็งแรงกอดรัดมาจากด้านหลัง
“ขนมหวานอยู่ในอ้อมแขนพี่ พี่อยากกินหนูนิต”
“พี่พริก!” นิตยาอุทานอีกรอบเมื่อโดนอุ้มขึ้นสู่อ้อมแขน เธอผวากอดคอหนาของเขาแน่น ในขณะที่ร่างสูงเพรียวพาเธอเข้าห้องอย่างรวดเร็ว
“พี่พริก อย่าทำแบบนี้เลยนะคะ” เธอกลิ้งหนี แต่เขาตามไปตะครุบเอาไว้ ลากเธอมาไว้ใต้ร่างจนสำเร็จ
“เพื่อความบริสุทธิ์ใจว่าเธอจะไม่นัดแนะผู้ชายคนไหนไปเจอกันที่บ้าน เธอต้องมาทำงานกับพี่ทุกวัน”
“พี่พริกคะ” เธอเรียกเขาอย่างอ่อนใจ ที่บ้านของเธอเข้มงวดจะตายไป เธอจะนัดแนะให้ใครมานั่งคุยกัน ยังต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่เลย
“นิตไม่เคยนัดใครมาหาที่บ้านจริง ๆ นะคะ”
“แล้วไอ้ภานุนั่นล่ะ ถ้าพี่ไม่ไปหาเธอวันนี้ คงได้นั่งพลอดรักกับมันทั้งวัน” ข้อหาที่เขายัดเยียดให้ทำเธออ่อนใจยิ่งนัก
“นิตเปล่านะคะ อื้อ...” เขาบดจูบลงมาหาเต็มรัก กักเธอเอาไว้ใต้ร่าง มือหนาลูบโลมไปทั่ว ลมหายใจร้อนแรงของเขาทำเธอใจเต้นถี่รุนแรง แทบจะโลดออกมานอกอก
“หวาน...” เขาครางเบา ๆ เมื่อจุมพิตกลีบปากหวานฉ่ำจนสาแก่ใจ มือหนาสอดแทรก เลื้อยเข้าไปในเสื้อตัวสวย ก่อนจะค้นพบปทุมถันอวบอิ่ม เขาเคล้นคลึงเบา ๆ เธอครางเสียงสะท้าน ตัวอ่อนระทวย
“พี่พริกขา... อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ”
“พี่คิดถึง แล้วก็หิวของหวานด้วย” เขาคิดถึงเธอแทบบ้า ได้แนบชิดยิ่งคิดถึง ไม่ให้ทำแบบนี้ เขาคงอกแตกตาย
“พี่พริกขา ตรงนั้น อื้อ...” เธอหน้าแดงเมื่อเขาแทรกนิ้วลงไปในกระโปรงผ่านขอบเอวยางยืดเข้าไปในกางเกงในตัวน้อย นิ้วกลางยาวเหยียดของเขาแทรกลึกในกายสาวฉ่ำเยิ้ม
“มันเยิ้มขนาดนี้ ให้พี่เลียให้แห้งนะครับหนูนิตคนดีของพี่” ประโยคของเขาทำเธอตัวสั่นระริก มันตรงไปตรงมาเสียจนเธอหน้าร้อนผ่าว
คำอ้อนขอเหมือนเมื่อก่อนทำเธอใจระทวย ใจอยากให้เขาน่ารัก พูดเพราะไม่โกรธเคืองเธอแบบนี้ตลอดไป
นิตยาค้นพบว่าขณะที่เธอหัวหมุนกับนิ้วแกร่งที่สอดเสียบเข้ามาซอยเข้าออกในกลีบกายสาว ร่างเปลือยเปล่าของเธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
“พี่พริก!” เธอตะครุบมือของเขาเอาไว้ แต่กลายเป็นการจับข้อมือของเขาเป็นที่ยึด ขณะเขาขยับเข้าออกในซอกกายสาว
“ว่าไง...” คนถามเสียงนุ่มชวนสยิว เขากดร่างเธอแนบไปกับพื้นเตียง ริมฝีปากร้อนผ่าวลามเลียไปทั่วสรรพางค์กาย
นิตยาไม่อยากจะยินยอมพร้อมใจไปกับเขาเลย แต่ในเวลานี้ช่องท้องของเธอปั่นป่วนไปหมด
“ไม่ต้องเกร็ง ปล่อยตัวตามสบาย”
“พี่พริกขา... อื้อ” นิตยาส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน เธอสูดลมหายใจรุนแรงจนทรวงอกสะท้านยามเขาปาดเลียเกลียวลิ้นกับซอกกายสาว
ลิ้นร้อนผ่าวตวัดไปตามซอกขาด้านใน เธออายจนแทบมุดเตียงหนี ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนั้น
ท่าทีเหนียมอายของเธอทำเขาเอ็นดูไม่น้อย เขาหวง เขาหึง อยากครอบครอง อยากเป็นเจ้าของ เขาจะไม่ยอมเสียเธอให้ใครเด็ดขาด
พฤทธิ์จับเธอแยกขาออกจนกว้าง ความร้อนผ่าวที่ลามเลียอยู่ตรงเนินสาวทำเธอสะท้านหวามไหว
นิตยาจิกมือเข้าไปในกลุ่มผมดกหนา มันซ่านเสียวจนต้องหยัดสะโพกด้วยความรัญจวน
ลิ้นร้อนแทรกแซะเข้าในดงดอกไม้หอม เส้นไหมอ่อนนุ่มแนบลู่ไปกับเนินอวบอูม ความเปียกฉ่ำ ชุ่มโชกชโลมไปทั่วความสาว เธอครางเสียงหลงเมื่อเขาแทรกทั้งเรียวลิ้นและนิ้วเข้ามาในซอกทางรัก
“อะ... อื้อ” เธอเด้งสะโพกขึ้น เกร็งกระตุกด้วยความสุขสม รอบกายดูอื้ออึงไปหมดในความรู้สึกของนิตยา ก่อนจะสัมผัสได้ถึงส่วนปลายของความแข็งแกร่งที่เสียดสีอยู่กับปากทางรัก
“พี่พริก อะ!” ดูเหมือนว่ารู้ตัวอีกทีเขาจะสอดกายเข้ามาหลอมรวมเสียแล้ว นิตยาใบหน้าแดงก่ำ เธอกัดปากตัวเองด้วยความเสียวซ่าน กำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อเขาขยับเข้ามาแทรกกายฝังร่างแนบชิด ค้ำมือไปข้างตัว
พฤทธิ์ก้มลงลามเลียอกอวบอิ่มของคนใต้ร่าง แม้เขาจะดูดเม้มเบา ๆ แต่ผิวขาวผ่องขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำ จนเขาต้องตวัดลิ้นลามเลียเพื่อปลอบโยน
ขาเพรียวถูกจับพาดกับบ่ากว้าง กายของเธอแยกออกให้เขาชำแรกเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า นิตยาร้องครางเสียงหลง กัดปากตัวเองด้วยความเสียดเสียว
“กัดทำไม เดี๋ยวช้ำเลือด” เขาทำเสียงดุ ก้มลงดุนดันกลีบปากหวานฉ่ำ ให้เธอเผยอปากรับลิ้นร้อนที่รุกรานเข้าหา
มือหนาเลื่อนลูบไปตามแขนเรียวก่อนจะกดประสานเข้ากับมือนุ่มแนบไปกับพื้นเตียง ร่างกายที่ถูกตอกตรึงทำเธอสะท้านวาบหวาม เขาผละออกห่างเล็กน้อย ดวงตาร้อนแรงทำให้เธอต้องหลบ ไม่กล้าสู้แรงตาของเขา