เสียงของรุ้งลดาสั่งสาวใช้ในบ้านให้เร่งมือตระเตรียมอาหารโดยไว เพื่อต้อนรับนุชา หลานสาวคนเล็กของท่านที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และกำลังจะเดินทางกลับมาถึงบ้านในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“เสร็จหรือยังล่ะแม่นิต เดี๋ยวน้องเราจะกลับมาแล้วนะ”
“ใกล้แล้วค่ะคุณย่า” นิตยาตอบผู้เป็นย่าอย่างนอบน้อม เร่งมือทำงานอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
นิตยาเรียนจบกลับมาอยู่บ้านตามคำสั่งของผู้เป็นย่า ไม่ได้ออกไปทำงานที่ไหนเพราะรุ้งลดาไม่อนุญาต เธอจึงมาช่วยมารดาเลี้ยงดูแลบ้าน ช่วยเหลืองานทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ส่วนใหญ่จะทำอาหารให้คนในบ้านและต้อนรับแขกเหรื่อ มีงานอะไร กิ่งกาญจน์ผู้เป็นมารดาเลี้ยงก็ไหว้วานนิตยาเพราะเชื่อในรสมือและความรับผิดชอบที่ดีเยี่ยม
รุ้งลดาอยากให้หลานสาวคนโตออกเรือนไปกับผู้ชายที่ท่านพึงพอใจเท่านั้น
นิตยาจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่ง แม้ลึก ๆ เธออยากปฏิเสธใจแทบขาด เพราะว่าที่คู่หมั้นของเธอเกลียดเธออย่างกับอะไรดี
“คุณนิตทำงานตั้งแต่เช้า พักก่อนไหมคะ” สาวใช้ในบ้านบอกเจ้านายสาวด้วยน้ำเสียงห่วงใย นิตยามีศักดิ์เป็นหลานคนโตของรุ้งลดากับประสงค์ แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าปู่ย่าไม่ใคร่จะรัก บิดาก็ไม่ใคร่จะสนใจเท่าใดนัก คงมีแต่กิ่งกาญจน์ที่เอ็นดูลูกเลี้ยงมากกว่าใครเพื่อน
รุ้งลดากับประสงค์เลี้ยงนิตยาและส่งให้เรียนหนังสือจนจบ ก็ไม่อยากให้ไปอยู่ที่อื่น อยากให้ทำงานรับใช้ตนและแต่งงานออกเรือนไปกับผู้ชายที่ท่านคิดว่าเหมาะสมคู่ควร
ปีนี้นิตยาอายุยี่สิบเจ็ดปีแล้วแต่ชีวิตของหญิงสาวไม่ใคร่จะมีเพื่อนฝูงหรือได้เที่ยวเตร่เหมือนคนวัยเดียวกัน เพราะถูกเลี้ยงให้อยู่ในกรอบที่ครอบครัวกำหนดเอาไว้
นิตยาเป็นเด็กดีเรียบร้อยแต่เด็ก ผู้ใหญ่ว่าอย่างไรก็ทำตามไม่เคยเกี่ยงงอน แถมยังรักน้องสาวอย่างนุชาจับใจ
ผู้ใหญ่สอนให้นิตยารักน้องแต่เล็กแต่น้อย ทำอะไรเพื่อน้องมาโดยตลอด น้องอยากได้อะไรก็เสียสละให้ทุกอย่าง เพราะหากขัดใจก็กลัวคนอื่นไม่รัก สาวใช้ในบ้านรู้ข้อนี้ดีจึงเวทนานิตยาอยู่ลึก ๆ
การกลับมาของนุชาดูจะเป็นที่ดีอกดีใจของทุกคน นิตยาเป็นลูกสาวและหลานสาวที่ถูกลืมมานานแล้ว เธอก้มหน้าก้มตาทำงานงก ๆ อยู่ก้นครัว ไม่มีใครใคร่จะสนใจนัก แต่หญิงสาวก็ไม่เคยปริปากบ่น
คนที่รอคอยกลับมาพร้อมกับการต้อนรับของครอบครัว อบอุ่นและเต็มไปด้วยความดีใจ
นิตยายืนมองครอบครัวของตัวเองแต่มักไม่มีเธอเป็นส่วนร่วม ตอนเด็ก ๆ เคยนึกน้อยใจแต่เธอก็พยายามไม่คิดถึงตรงนั้น
เธอสำนึกในบุญคุณของครอบครัวนี้มาโดยตลอดว่าเลี้ยงดูเธอมาแต่เล็กแต่น้อย และตระหนักดีว่าตัวเองไม่ใช่ลูกหลาน เพราะมารดาคบชู้สู่ชายจนป่วยตายด้วยโรคร้าย ทิ้งเธอเอาไว้ให้เป็นภาระคนอื่น
“คุณนิตไม่ออกไปรับประทานอาหารกับคุณ ๆ เหรอคะ” สาวใช้เอ่ยถามเจ้านายสาว อีกฝ่ายสะดุ้ง ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงอ่อน
“ฉันแต่งตัวไม่เรียบร้อย เหงื่อก็เต็มตัว คงไม่เหมาะหรอกค่ะ” งานเลี้ยงเล็ก ๆ ต้อนรับการกลับมาของนุชานั้นคุณรุ้งลดามีแผนการสำคัญคืออยากให้หลานสาวได้ทำความรู้จักกับผู้ชายที่เพียบพร้อมเพื่อจะหมั้นหมายและแต่งงานกันในอนาคต
นิตยามองชุดที่เธอสวมอยู่ มันมอมแมมและเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอจึงเลี่ยงไม่ออกไปยุ่งวุ่นวายในงาน แต่หมุนตัวกลับไปเร่งช่วยเหลืองานในครัวหากมีอาหารการกินอะไรขาดเหลือจะได้จัดเตรียมนำไปเสิร์ฟได้ทันท่วงที
“จ๊ะเอ๋”
“อุ๊ย!” นิตยาอุทานเมื่อโดนสวมกอดมาจากทางด้านหลัง
“คิดถึงพี่นิตจังเลย ทำไมมาขลุกอยู่ก้นครัวละคะ ออกไปข้างนอกเถอะนะ น้องกลับมาทั้งที เราควรจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา”
“พี่อยู่ในครัวดีกว่าจ้ะ แต่งตัวไม่เรียบร้อย เหงื่อเต็มตัวแบบนี้ ออกไปจะทำให้คนอื่นขายหน้าเสียเปล่า ๆ มีแขกมาตั้งหลายคน” นุชามองพี่สาวอย่างเห็นใจ พี่สาวของเธอมักเจียมเนื้อเจียมตัวทั้ง ๆ ที่เป็นหลานอีกคน
หากไม่ได้ดั่งใจผู้เป็นย่าแล้ว ท่านจะพูดจากระทบกระเทียบถึงชาติกำเนิดของนิตยาเสียทุกครั้ง
ท่านเคยพูดว่านิตยาเป็นลูกชู้สันดานเหมือนแม่ เธอคิดว่าเวลามันก็ผ่านมานานมากแล้ว ไม่น่าต้องเอามาพูดทำลายน้ำใจกันอีก เพราะเช่นไรก็เป็นครอบครัวเดียวกัน และเธอก็ไม่เคยเห็นว่าพี่สาวคนนี้มีจิตคิดร้ายต่อใคร มีแต่ช่วยเหลือคนอื่นและมีน้ำใจช่วยเหลือทุกคนไม่เคยขัด ขอแค่ให้เอ่ยปาก หรือแม้ไม่เอ่ยปากก็อาสาทำให้เป็นอย่างดี
นิตยาเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ทำกับข้าวอยู่ในครัวเสียเป็นส่วนใหญ่ ชอบปลูกผัก ทำสวน และดูแลบ้าน ในสายตาของเธอ พี่สาวคนนี้ไม่ยอมแต่งเนื้อแต่งตัวเอาเสียเลย ถ้าจะพูดให้ถูกคือจืดชืดสุด ๆ แต่ก็เป็นคนดีสุด ๆ เช่นกัน
นิตยาถูกเลี้ยงมาอยู่ในกรอบของครอบครัว โดยเฉพาะย่าที่หวาดระแวงเรื่องปูมหลังของพี่สาว เธอเองก็นึกรำคาญผู้ใหญ่เป็นบางครั้ง
“ถ้าพี่นิตไม่ยอมออกไป นุชาจะงอนนะคะ”
ได้ผล... เพราะเธอรู้ว่าพี่สาวรักเธอมากที่สุด ต้องตามใจอยู่แล้ว
“มาค่ะ สิจะพาไปแต่งตัว พี่สาวของสิสวยจะตายไป ชอบปล่อยเนื้อปล่อยตัว เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย เคยได้ยินไหมคะพี่นิต”
นุชาจับพี่สาวอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ หลังจากสั่งสาวใช้ให้จัดการงานในครัวต่อเพราะพี่สาวตระเตรียมข้าวปลาอาหารเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากนักหรอก
“ว้าว! บอกแล้วไงว่าพี่สาวของนุชาสวยไม่เป็นสองรองใคร” นุชาตาวาว มองพี่สาวอย่างชื่นชม
“เราออกไปกันเถอะค่ะ” นุชาดึงมือพี่สาวเข้าไปในงาน ในขณะที่นิตยาประหม่าอยู่มาก
การปรากฏตัวของนิตยาดูเหมือนจะทำให้ใครหลายคนตกตะลึง หญิงสาวรูปร่างอรชรสวยหวานในชุดสีฟ้าสดใส นุชายิ้มกว้างทันทีที่ทุกคนมองพี่สาวคนเดียวของเธออย่างชื่นชม
นุชาหันไปทำไม้ทำมือกับมารดาก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุข ไม่มีใครคิดถึงนิตยาสักคนเดียวนอกจากมารดาของเธอ
กิ่งกาญจน์เห็นลูกเลี้ยงขลุกอยู่แต่ในห้องครัวเลยกระซิบให้บุตรสาวจับนางซินสุดสวยไปแปลงโฉมเสียหน่อย
“หนูนิตมาแล้วเหรอจ๊ะ มาไหว้ผู้ใหญ่ก่อนสิจ๊ะ”
กิ่งกาญจน์ดึงมือลูกเลี้ยงให้มายืนใกล้ ๆ ก่อนที่นิตยาจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้าด้วยกิริยาอ่อนน้อม
“นี่นิตยาหรือหนูนิตค่ะ ลูกสาวคนโตของคุณเลอยศ” กิ่งกาญจน์แนะนำเสียเอง เมื่อเห็นคนอื่น ๆ ไม่มีใครพูดอะไร
“โตขนาดนี้แล้วเหรอครับ ไม่ค่อยเห็นหน้าค่าตากันเลย”
“ยายหนูนิตไม่ค่อยชอบไปไหนน่ะค่ะ ชอบทำกับข้าวอยู่ในครัว” คุณรุ้งลดาตอบเสียเอง
“สวย ๆ น่ารักแบบนี้ต้องพาออกงานบ้างนะครับ” คนชมว่าสวยยิ้มแบบผู้ใหญ่ใจดี แต่นิตยารู้สึกอึดอัด การที่ย่าให้เธออยู่แต่กับบ้าน ไปเรียนและมีคนไปรับไปส่งทุกวันก็เป็นการดี เธอมักมีปัญหาตั้งแต่เด็กเรื่องรูปร่างหน้าตาที่สวยน่ารัก การเป็นคนสวยใช่ว่าจะดีเสมอไป ถ้าไม่ถูกเพื่อนแกล้งก็โดนผู้ชายลวนลาม
“อยู่กับบ้านก็ดีแล้วค่ะพ่อเลี้ยง” รณกรณ์เป็นพ่อหม้ายลูกหนึ่งที่ร่ำรวยมากเพราะทำธุรกิจหลายอย่าง ภรรยาเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ก็ยังครองตัวเป็นโสด แม้จะอายุล่วงเลยสี่สิบเข้าไปแล้ว แต่กระนั้นก็ยังดูหนุ่มแน่น เพราะรู้จักออกกำลังกายและรักษาสุขภาพของตัวเองเป็นอย่างดี
“ดูท่าคุณรุ้งคงหวงหลานสาวคนนี้มากนะครับ นี่ถ้าพาออกงาน หนุ่ม ๆ คงรุมจีบกันใหญ่”
“ค่ะ” รุ้งลดาฝืนยิ้มกับคำชมนั้น เพราะเคยพานิตยาออกงาน หนุ่ม ๆ รุมจีบจริง ๆ จีบจนชกต่อยกันในงาน เธอแทบเอาปี๊บคลุมหัวเพราะอาย
เลือดแม่มันแรง!
ชม้ายชายตา ทำผู้ชายแทบฆ่ากัน!
แล้วนี่ใครไปพาออกมาจากห้องครัว งานนี้เลี้ยงต้อนรับการกลับมาของนุชา ท่านอยากให้หลานสาวคนเล็กเด่นที่สุด แต่พอนิตยาออกมาไม่มีใครสนใจนุชาเลย