แค่เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างหล่อนก็จดจำได้ดีว่าผู้ชายเจ้าของมือหนาร้อนผ่าวคนนี้เป็นใคร จันทร์เจ้าขายืนมองร่างสูงใหญ่ที่เดินจากไปจนลับสายตา หัวใจสาวเต้นแรงระรัว แค่สัมผัสผิวเผินจากเขา แค่เสียงราบเรียบไร้ความรู้สึกของเขา และแค่กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเรือนกายยำกำของเขาเท่านั้น ทุกอย่างมีผลต่อทุกอณูความรู้สึกของหล่อนอย่างรุนแรงยิ่งนัก
“อาจารย์ไทเลอร์...”
หญิงสาวระบายยิ้มบางๆ หรี่ตามองต้นแขนที่ยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสร้อนผ่าวจากฝ่ามือหนากระด้างด้วยความปลาบปลื้มใจ หล่อนก็ไม่ต่างจากผู้หญิงทุกคนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้นั่นแหละ ตกหลุมรักอาจารย์หนุ่มสุดหล่ออย่างไทเลอร์ อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
มันน่าสมเพช! แต่หล่อนก็ห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้จริงๆ
จันทร์เจ้าขายิ้มเศร้าๆ ให้กับตัวเอง ก่อนจะเดินมุ่งหน้าตรงไปยังห้องของฝ่ายปกครอง ห้องที่หล่อนเดินเข้าออกนับครั้งไม่ถ้วนในตลอดระยะเวลาเกือบสี่ปีที่อยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
“นั่งลงก่อนสิ จันทร์เจ้าขา”
หญิงสาวทรุดกายลงนั่งตามคำเชื้อเชิญของอาจารย์หนุ่มใหญ่ สีหน้าของหล่อนไม่ได้แสดงความรู้สึกรู้สาอะไรออกไปเลย ก็จะให้รู้สึกอะไรได้ล่ะ ในเมื่อหล่อนรู้ดีว่าตัวเองกำลังจะถูกตำหนิในเรื่องอาชีพที่ตัวเองทำหลังเลิกเรียนอีกครั้ง
“รู้ใช่ไหมว่าผมเรียกคุณเข้ามาพบเรื่องอะไร”
“ทราบค่ะ”
“ทราบ... แต่เธอก็ยังไม่สะทกสะท้าน เธอยังคงขัดคำสั่งของมหาวิทยาลัยตลอดเวลา”
อาจารย์ฝ่ายปกครองตวาดลั่น หน้าตาแดงก่ำด้วยความไม่พอใจ
“แต่ดิฉันไม่ได้ทำอะไรผิดค่ะ”
“ไม่ผิดได้ยังไง ในเมื่อคุณขายตัว!”
คนฟังหน้าแดงก่ำ กัดฟันข่มความอดสูเอาไว้สุดกำลัง
“ดิฉันยังขอยืนยันคำเดิมค่ะว่าดิฉันไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกับกฎของมหาวิทยาลัยแม้แต่ขอเดียว”
“ยังจะมาปากแข็งอีกอย่างนั้นหรือ ฉันจะทำเรื่องรีไทร์เธอออกจากมหาวิทยาลัย”
“เชิญอาจารย์ทำอะไรก็ได้ตามที่พอใจค่ะ เพราะหากดิฉันถูกรีไทร์เมื่อไหร่ ดิฉันจะร้องเรียน”
นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองขู่ด้วยเหตุผลนี้ แต่มันหลายสิบครั้งแล้ว ซึ่งทุกครั้งหล่อนก็สามารถเอาตัวรอดมาได้ตลอดเวลา
“นี่คุณกล้าลองดีกับผมอย่างนั้นหรือ”
“ดิฉันไม่ได้ลองดีค่ะ แต่ดิฉันไม่ได้ทำอะไรผิดจริงๆ เอาเป็นว่าถ้าอาจารย์สามารถหาหลักฐานว่าดิฉันขายตัวมายืนยันได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นดิฉันจะเป็นฝ่ายลาออกจากที่นี่เองค่ะ”
แล้วจันทร์เจ้าขาก็ผุดลุกขึ้นยืน
“ขอตัวนะคะ ดิฉันต้องรีบไปทำงานค่ะ”
หญิงสาวหมุนตัวกำลังจะเดินออกไปจากห้องพักอาจารย์ฝ่ายปกครอง แต่ก็ต้องชะงักงันเมื่อพบว่าที่ปากประตูมีร่างสูงใหญ่ของไทเลอร์ปรากฎอยู่ นี่เขายืนอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนแล้วนะ จันทร์เจ้าขาหัวใจเต้นแรง มือบางสั่นเทายกขึ้นขยับแว่นสายตาแก้ความประหม่า แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด เพราะยิ่งหล่อนเดินเข้ามาใกล้เขามากเท่าไหร่ หัวใจของหล่อนก็ยิ่งเต้นแรง มันเต้นแรงระรัวจนหล่อนคิดว่าผู้ชายตรงหน้าคงจะต้องได้ยินเสียงของมันแน่นอน
“เอ่อ สวัสดีค่ะอาจารย์ไทเลอร์”
ไทเลอร์ไม่เอ่ยทักทายตอบนักศึกษาสาวเชื้อชาติเอเชียตรงหน้า และเลือกที่จะเดินตรงไปยังโต๊ะของอาจารย์ฝ่ายปกครองแทน นั่นทำให้หญิงสาวหน้าชาดิก จำต้องรีบเดินออกไปจากห้องของฝ่ายปกครองอย่างเงียบกริบ
“เกิดอะไรขึ้นหรือคุณทอมสัน”
“เอ่อ ผมไม่แน่ใจว่าคุณไทเลอร์จะยังจำได้หรือเปล่า เกี่ยวกับเรื่องที่นักศึกษาของเราไปทำงานพิเศษตอนหลังเลิกเรียนน่ะครับ”
ไทเลอร์หรี่ตามองคู่สนทนา ขณะทรุดกายลงนั่งตรงหน้า
“เรื่องขายตัวน่ะหรือ”
“ครับ”
“แล้วคุณมีหลักฐานหรือเปล่าล่ะ”
คำถามย้อนกลับของไทเลอร์ทำให้ทอมสันถึงกับหน้าเจื่อนลง เขาไม่มีหลักฐาน แต่ได้รับการบอกเล่ามาจากฟิลิเซียและเพื่อนๆ ของหล่อนเท่านั้นเอง
“คือผม...”
ไทเลอร์แค่นยิ้มหยัน หรี่ตาแคบมองคู่สนทนา
“จำเอาไว้ถ้าไม่มีหลักฐานก็อย่าคิดปรักปรำคนอื่น เพราะบางทีคนที่คุณกำลังคิดปรักปรำอยู่อาจจะเป็นผู้บริสุทธิ์ก็ได้ ใครจะไปรู้”
“ไม่มีทางหรอกครับคุณไทเลอร์ ผู้หญิงที่ทำงานในผับในบาร์ ไม่มีทางไม่ขายตัว”
สีหน้าของไทเลอร์เยือกเย็นลงเล็กน้อย ก่อนที่น้ำเสียงกระด้างจะถูกเค้นออกมาจากริมฝีปากหยักสวยสีแดงสด
“แล้วคุณรู้ไหมว่ายายแว่นคนเมื่อกี้ทำงานอยู่ที่ไหน”
“ผมรู้ครับ...”
คำตอบของทอมสันทำให้ไทเลอร์ระบายยิ้มหยันออกมา
“โอเค งั้นเย็นนี้เราไปพิสูจน์กัน ดูสิว่าสิ่งที่คุณกำลังสงสัยอยู่นั้นจะเป็นความจริงหรือเปล่า”
“ได้ครับ คุณไทเลอร์”
“งั้นอีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันที่ลานจอดรถ”
คนพูดที่มีใบหน้าหล่อลากดินผุดลุกขึ้นยืนตระหง่าน สองขาทรงพลังก้าวเดินออกไปจากห้องของอาจารย์ฝ่ายปกครองด้วยท่วงท่าสง่างาม และระหว่างทางก็ไม่ลืมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาคู่ขาเพื่อยกเลิกนัดบนเตียงในค่ำคืนนี้ด้วย