ไทเลอร์พยักหน้ารับ ขณะเดินอ้อมร่างสูงใหญ่ไม่ต่างจากตนของน้องชายไปทรุดตัวนั่งลงบนโซฟากลางห้องโถงใหญ่ จากนั้นก็พูดขึ้นอีกด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
“นายแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดน้องอิง”
นิโคไลที่ตอนนี้หน้าตาแดงก่ำเพราะโทสะเดินมาทรุดกายใหญ่โตลงนั่งบนโซฟาตัวตรงข้ามกับพี่ชายใหญ่ของตัวเอง
“แต่พ่อกับแม่ก็ยังบังคับให้ผมแต่งงานกับแม่นี่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผมเกลียด...”
น้ำเสียงกระด้างของนิโคไลแม้จะไม่ดัง แต่ก็อัดแน่นไปด้วยความเกลียดชังอย่างใหญ่หลวง จนเจ้าของชื่ออย่างอิงบุญที่เป็นเพียงแค่เด็กเก็บมาเลี้ยงน้ำตาทะลัก หล่อนจำต้องเม้มปากแน่น และถอยห่างออกไปด้วยความเงียบเชียบเหมือนเช่นดังตอนที่เดินเข้ามา
“พี่เชื่อว่าพ่อกับแม่มีเหตุผลที่ดี ท่านถึงได้ทำแบบนี้”
“แต่ผมไม่เชื่อหรอกครับ ผมคิดว่าแม่อิงบุญจะต้องไปกรอกหูพวกท่าน ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ต้องมารับหน้าที่อันหน้าสะอิดสะเอียนนี้หรอก พี่ไทล์ก็รู้ว่าแม่นี่เป็นอดีตอีตัวมาก่อน หล่อนอยู่ในซ่องมาตั้งแต่เด็ก ขายตัวให้กับผู้ชายมากมาย...”
คนพูดเต็มไปด้วยโทสะ สองมือหนาสีแทนที่วางอยู่บนต้นขากำยำกำเข้าหากันแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยกองเพลิงมากมาย เพลิงร้ายที่พร้อมจะแผดเผาศัตรูให้มอดไหม้กลายเป็นผงธุลี
“งั้นก็แสดงว่าที่นายแสดงท่าทางจงเกลียดจงชังน้องอิงก็เพราะสาเหตุที่น้องอิงเคยอยู่ในซ่องมาก่อนอย่างนั้นใช่ไหม”
นิโคไลนิ่งอึ้งไปไม่นานก็ตอบกลับมาด้วยสายตาที่ยังคงลุกเป็นไฟ
“พี่ไทล์ก็รู้ว่าผมไม่ใช่ผู้ชายหัวโบราณ ผมไม่เคยคาดหวังพรหมจารีของผู้หญิงคนไหน แม้แต่คนที่จะมาเป็นเมียของตัวเอง”
“ถ้าอย่างนั้นเหตุผลที่ทำให้นายเกลียดชังน้องอิงล่ะคืออะไร...”
ไทเลอร์ผู้เป็นพี่ชายเอ่ยถามอย่างข้องใจ มองหน้าน้องชายอย่างคาดคั้น แต่นิโคไลหาได้ยอมบอกความจริงไม่ เขายังคงปกปิดความรู้สึกเอาไว้เช่นเดิม
“ผมมีเหตุผลส่วนตัวของผมเองครับ ซึ่งผมยังไม่ต้องการบอกใครในตอนนี้”
คำตอบของน้องชายทำให้ไทเลอร์ไหวไหล่กว้างของตัวเองน้อยๆ อย่างไม่ยี่หระอะไร จากนั้นก็ผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ถ้านายไม่อยากบอก งั้นพี่ก็จะไม่ถามต่อ พี่จะไปมหาลัยล่ะ”
นิโคไลตีหน้าเยือกเย็นดังเดิม
“ตามสบายครับ ผมก็จะกลับขึ้นไปห้องนอนเหมือนกัน เจอกันตอนเย็นครับ ถ้าพี่ไทล์ไม่มีนัดกับสาวคนไหน”
ไทเลอร์ไหวไหล่กว้างบึกบึนของตัวเองอีกครั้ง
“งั้นพี่บอกเอาไว้เลยก็ได้ คืนนี้พี่มีนัด เอาไว้โอกาสหน้านะน้องชายที่รัก”
ผู้เป็นพี่ชายพูดจบก็ก้าวยาวๆ พาร่างอันแสนสง่างามของตัวเองเดินจากไป ทิ้งให้นิโคไลมองตามไปด้วยสายตาว่างเปล่า จากนั้นหนุ่มผู้เป็นน้องชายก็มุ่งหน้าจะเดินขึ้นชั้นบนเพื่อกลับห้องพักของตัวเอง แต่ระหว่างทางก็พบกับผู้หญิงที่เขาแสนจะเกลียดเสียก่อน
“อ่อยแต่เช้าเลยนะแม่คุณ”
คำทักทายที่เต็มไปด้วยคมมีดของผู้ชายที่อิงบุญจำได้ดีว่าคือใครดังขึ้นด้านหลัง และนั่นก็ทำให้หล่อนที่กำลังร่ำไห้ด้วยความขมขื่นใจอยู่ต้องรีบป้ายน้ำตาทิ้ง และหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า
“คุณก็มีความคิดสกปรกในหัวแต่เช้าเลยเหมือนเดิมนะคะ”
อิงบุญปั้นหน้าเรียบเฉย ขณะที่ภายในอกเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ แต่หล่อนจะให้เขารู้ไม่ได้หรอก จะปล่อยให้เขารู้ใจของหล่อนไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะถ้าเขารู้ รู้ว่าหล่อนรู้สึกยังไงกับเขา นิโคไลจะต้องหัวเราะเยาะและจงเกลียดจงชังหล่อนมากไปกว่านี้อย่างแน่นอน ทุกอย่างจะต้องเป็นความลับ หัวใจของหล่อนจะต้องเป็นความลับตลอดกาล
“อย่ามาตีฝีปากกับฉันนะแม่ผู้หญิงสำส่อน”
เจ็บลึกเข้าไปในอกไม่ต่างจากถูกปักด้วยคมมีด แต่หญิงสาวก็ยังคงต้องปั้นหน้าเรียบเฉยต่อไป ยังคงต้องฝืนยิ้มออกไปคล้ายกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเช่นเดิม
“ถึงฉันจะสำส่อนแค่ไหน อดีตฉันจะเคยเป็นอะไรมา แต่คุณก็มีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบในชีวิตของฉัน ลืมไปแล้วหรือคะคุณว่าที่สามี...”
เพราะอยากเอาชนะเขาบ้างทำให้หล่อนเลือกที่จะเดินยิ้มเล็กยิ้มน้อยเข้าไปหยุดตรงหน้าเขา วางมือนุ่มสีขาวสะอาดลงกับต้นแขนกำยำแน่นหนั่น พลางทำตาเชื่อมใส่ดวงตาสีเขียวจัดอย่างมีจริตจะก้าน
“ว่าเราจะต้องแต่งงานกับในเร็ววันนี้...”
“ระยำ!”
นิโคไลปัดมือบางของอิงบุญออกจากต้นแขนของตัวเอง พร้อมกับก้าวถอยหลังหนีอย่างสุดแสนรังเกียจ
“พ่อกับแม่ฉันเอาเธอมาชุบเลี้ยงอย่างดีตั้งหลายปี แต่เชื้ออีตัวต่ำๆ คงฝังลึกอยู่ในสันดานของเธอแล้วสินะ ถึงได้เช็ดถึงได้ล้างไม่ออกแบบนี้”
น้ำตาของอิงบุญแทบทะลักออกมาประจานความเจ็บปวด แต่โชคดีที่หล่อนซ่อนมันเอาไว้ได้ทันเวลา หล่อนเจ็บปวดกับความคิดของผู้ชายคนนี้นัก ในสายตาของเขาหล่อนต่ำต้อย ไร้ค่าและน่าขยะแขยง แต่หล่อนก็ยังห้ามใจตัวเองไม่ได้ ห้ามใจให้หยุดรักเขาไม่ได้ หล่อนรักนิโคไล อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ รักเขาจนหมดหัวใจ
“ก็คงอย่างนั้นมั้งคะ”
“แพศยา! จำเอาไว้นะ ฉันเกลียดผู้หญิงอย่างเธอเข้าไส้เข้ากระดูกดำ ฉันจะขยี้เธอให้แหลกคามือจำเอาไว้ อิงบุญ!”
ชายหนุ่มเค้นคำรามความเดือดดาลออกมาจากลำคอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความชิงชัง เขาจ้องมองหล่อนราวกับอยากจะฆ่าให้ตายคามือ
“และถ้ายังไม่อยากเจ็บจนตาย เลิกยุ่งกับฉันเสียที”
อิงบุญกล้ำกลืนน้ำตาลงไปในอก ฝืนยิ้มและโต้ตอบผู้ชายใจร้ายตรงหน้าออกไป
“อีตัวอย่างฉัน เจ็บจนชินแล้วล่ะค่ะ ถ้าจะเจ็บอีกสักหน่อยด้วยฝีมือของมหาเศรษฐีหนุ่มอย่างนิโคไล อิสไมนอฟ มาร์คิเดฟอีกสักคน คงไม่เป็นไรหรอกมั้งคะ”
หล่อนจ้องหน้าเขานิ่ง มองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า ทุกความรู้สึกถูกเก็บถูกซ่อนเอาไว้ใต้ใบหน้างดงามอย่างมิดชิด
“ยังไงซะ ฉันก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะ เราจะต้องแต่งงานกัน”
“ทุเรศ! ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนหน้าด้านเท่ากับเธอมาก่อนเลย...!”
เขาตวาดลั่น และด้วยความลืมตัวก็ทำให้นิโคไลก้าวสามขุมกลับเข้ามาหยุดตรงหน้าของหล่อนอีกครั้ง เขามองหล่อนด้วยสายตาลุกเป็นไฟ และไม่นานสองมือหนาแกร่งก็ตะปบลงบนบ่าบอบบางของหล่อนอย่างไม่ปรานี เขาแสยะยิ้ม ก่อนจะเค้นเสียงน่าสะพรึงกลัวออกมา