โรงพยาบาล
คุณพีรพลลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆเตียงของฉันท่าทางของเขาทำเหมือนว่าสนิทกับยันมินมาก ทั้งที่เขาเป็นเพื่อนกับคุณอัสดา หรือว่าจริงๆแล้วยัยมินเองก็สนิทกับคุณพีรพลเหมือนกัน
“พี่คิดว่ามินจะไม่กลับมากรุงเทพฯแล้วซะอีก ไม่น่าเชื่อเลยว่ามินจะกลับมาจริงๆ..”
“ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด..?”
“ดีแล้วละที่มินไม่เข้าใจ เพราะวันนี้มินจะได้เจอญาแล้ว ถ้าญาเห็นว่มินความจำเสื่อมญาจะได้ไม่ต้องเข้ามายุ่งกับมินอีก..”
“ใครคือญา..แล้วเธอจะมาทำอะไรฉัน..?”
คุณพีรพลมองหน้าฉันนิ่งๆแล้วยื่นมือมาจับมือฉันไปกุมไว้
“ไม่ต้องห่วงนะถ้าญาทำอะไรมิน พี่จะปกป้องมินเอง..”
ฉันมองมือเขาที่กำลังกุมมือฉันอยู่ด้วยความสงสัย นี่ยัยมินเกี่ยวข้องอะไรกับคุณพีรพล
“แกไม่เห็นบอกฉันว่าแกจะมาเยี่ยมเมียฉันวันนี้..?”
เรา 2 คนหันไปมองพร้อมกัน เพราะคนที่เดินเข้ามาในห้องเป็นคุณอัสดา คุณพีรพลรีบปล่อยมือฉันแล้วลุกขึ้นยืนทันที
“เอ่อ..ฉันแวะมาเยี่ยมแม่ของเพื่อนที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้พอดีนะ ก็เลยนึกได้ว่ามินก็อยู่นี่เลยมาเยี่ยมนะ..”
“หรอ..”
คุณอัสดาเดินเข้ามายืนอีกฝั่งของเตียงแล้วจ้องหน้าคุณพีรพลนิ่ง
“วันนี้มินจะออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม..?”
“อื้ม..”
“ฉันว่าจะแวะไปหาญาที่บ้านพอดี เดี๋ยวเอาไว้เจอกันที่บ้านแล้วกันนะ..”
“อื้ม..”
เขาตอบแค่นั้นแต่ก็ยังจ้องหน้าคุณพีรพลนิ่ง จนฉันรู้สึกแปลกๆกับสายตาของพวกเขาที่มองกัน จนเมื่อคุณพีรพลกลับไปแล้วเขาจึงเดินไปนั่งลงที่โซฟาชิดผนังแล้วคิดอะไรอยู่คนเดียว
ฉันจึงต้องนอนลงช้าๆแล้วหันหน้าตะแคงไปอีกฝั่งแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความไปหายัยจี๊ดเพื่อบอกมันว่าไม่ต้องมาแล้ว
“ดวงมาแล้วค่ะคุณมิน..”
ดวงเดินเข้ามาในห้องพร้อมของเต็มมือที่ฉันจดไปให้
“ไปไหนมา..?”
“คุณอัสดา..”
“ฉันให้อยู่เฝ้าคุณมิน แล้วเธอไปไหนมา..?”
“ดวงไปซื้อของมาให้คุณมินค่ะ..”
“ของอะไร..?”
“นี่ไงคะ..”
ดวงยื่นกระดาษที่ฉันจดให้ให้คุณอัสดาตรงหน้า เขารับมาดูแล้วจ้องของในมือของดวงนิ่งๆ แล้วยื่นกระดาษกลับไปให้ดวง
“เอาของทุกอย่างขึ้นรถไปให้หมด..”
“ค่ะคุณอัส..”
ดวงรับคำแล้วก็ขนของทุกอย่างของฉันออกจากห้องเพื่อหิ้วไปที่รถ ภายในห้องจึงเหลือแค่ฉันและเขา 2 คน
“ใช้ให้ดวงออกไปซื้อของเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับไอ้พี 2 คนซินะ..?”
“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันไม่เข้าใจ..?”
“นี่สรุปที่มินความจำเสื่อมมินแกล้งจำพี่ไม่ได้แค่คนเดียวใช่ไหม..?”
“อะไรของคุณ..?”
“จริงๆแล้วมินไม่ได้ความจำเสื่อมหรอก มินแค่อยากลืมพี่มากกว่า เพราะพอไอ้พีเข้ามาหามินมินกลับจำมันได้..”
“ฉันจำเขาไม่ได้ ฉันจำใครไม่ได้ทั้งนั้นอะ..”
“แล้วทำไมถึงยอมให้มันจับมือมินแบบนั้น หรือว่าความจำลึกๆของมินก็ยังรู้สึกดีกับมันอยู่.?”
ฉันจ้องหน้าเขานิ่งๆอย่างสงสัย นี่มันอะไรกันเขากำลังหึงเพื่อนตัวเองอยู่หรอเนี้ย
“มินเป็นเมียพี่นะรู้ตัวเองไว้ด้วย..?”
“ฉันไม่ใช่เมียคุณ เพราะฉันจำคุณไม่ได้..”
เขาเดินเข้ามาใกล้ตัวฉันแล้วนั่งลงจับตัวฉันให้หันมาจ้องหน้าเขาตรงๆ
“ก็เพราะว่ามินความจำเสื่อมไง แต่ยังไงมินก็คือเมียพี่..”
“ตอนนี้ฉันจำใครไม่ได้สักคน ทุกคนก็คือคนแปลกหน้าสำหรับฉันรวมทั้งตัวคุณด้วย ไม่ว่าคุณจะบอกว่าเราแต่งงานกันแล้วยังไงฉันก็ยังเห็นคุณเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี..”
“งั้นพี่จะทำให้มินจำเรื่องทุกอย่างให้ได้เอง..”
“...”
“เรื่องที่มินเคยทำผิดกับพี่พี่จะให้อภัยทุกอย่างแล้วพี่ก็จะลืมมันไปซะ..?”
ฉันจ้องหน้าเขาด้วยความแปลกใจ เรื่องที่เขาพูดมันฟังดูแปลกๆพิกล ที่เขาบอกว่ายัยมินทำผิดคือเรื่องอะไรกัน
...
บ้านโอมรยะนันท์
“มาแล้วหรอ..?”
ฉันลงมาจากรถแล้วเดินเข้ามาในบ้านโดยมีผู้หญิง 2 คนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมกับคุณพีรพล ที่นั่งอยู่ข้างๆผู้หญิงที่หน้าตาสวยคนหนึ่ง น่าจะเด็กกว่าฉันนะแต่ดูเชิดเชียว น่าจะเป็นคู่หมั้นคุณพีรพลที่ชื่อญานินแน่เลย
“นั่งลงซิ..”
ฉันหันไปมองที่เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งน่าจะอายุประมาณ 45-50 ได้ แต่เธอยังดูสาวดูสวยอยู่เลย ผู้หญิงคนนี้ก็คงเป็นแม่เลี้ยงของเขาซินะ
“มิน..สวัสดีคุณแม่ซิ..”
“สวัสดีค่ะ..คุณแม่”
ฉันยกมือไหว้แม่เลี้ยงของเขาแล้วหันไปหาลูกสาวเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ
“นี่ญานินน้องสาวพี่เอง..”
“สวัสดีค่ะ..คุณญานิน”
เธอทำเป็นไม่สนใจมองฉันจนคุณพีรพลยื่นมือมาแตะแขนเธอ เธอจึงหันมามองหน้าฉัน
“หายดีแล้วหรอ..?”
“ก็ดีขึ้นมากแล้วค่ะ..แต่ว่ามินจำอะไรไม่ได้เลยนะคะ..”
“รถน่าจะชนแรงกว่านี้นะ จะได้ไม่เป็นแค่ความจำเสื่อมแต่จริงๆน่าจะตายไปเลย จะได้ไม่ต้องทรมาน..”
“ญานิน...”
คุณอัสดาพูดเสียงปรามเธอจนเธอหน้าบึ้ง แล้วเธอก็หันไปให้แม่เธอช่วย
“ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว กลับมาเหนื่อยๆขึ้นไปพักผ่อนเถอะ แล้วช่วงหัวค่ำค่อยลงมาทานข้าวด้วยกัน..”
“ครับ..”
เขารับคำแม่เลี้ยงของเขาแล้วก็เดินมาจับตัวฉันให้ลุกขึ้น แม่เลี้ยงของเขาก็ดูเป็นคนมีเหตุผลดีนะ ดูไม่มีความเย่อหยิ่งจองหองเหมือนลูกสาวเลยสักนิด เธอน่าจะเป็นคนใจดีคนหนึ่ง ไม่งั้นคุณอัสดาคงไม่เคารพและดูจะเกรงใจเธอมากขนาดนี้
“ฉันไม่นอนเตียงเดียวกับคุณนะ..”
“ทำไม..?”
“ก็ฉันไม่ชินที่ต้องนอนกับคนแปลกหน้า..”
“แต่ว่าพี่..”
“ต่อให้คุณบอกว่คุณเป็นสามีฉัน แต่ตอนนี้อย่าลืมซิฉันจำอะไรไม่ได้เลยนะ ในเมื่อฉันจำอะไรไม่ได้ฉันก็ยังไม่อยากนอนกับคุณ มันดูแปลกๆอะที่ต้องนอนกับคนที่ไม่รู้จัก..”
“แล้วจะให้พี่ไปนอนที่ไหนละ..?”
“บ้านหลังนี้ก็มีตั้งหลายห้องนี่ คุณจะไปนอนห้องไหนก็ได้ตามใจคุณซิ..”
“ไม่ได้..พี่จะไม่ยอมไปนอนที่ห้องไหนเด็ดขาด..”
“งั้นก็นอนที่โซฟา นั่นไงที่นอนคุณ..”
ฉันชี้ให้เขาหันไปมองแต่เขากลับทำตาโต
“พี่จะนอนเข้าไปได้ยังไงเล็กขนาดนั้น..?”
“เลือกเอานะว่าจะนอนโซฟาในห้องนี้ หรือคุณ หรือฉัน จะออกไปนอนที่ห้องอื่น..?”