บทที่ 9 แผนการ
รามหันไปมองด้วยความสงสัย แล้วก็ต้องรีบเดินตามเธอไปเมื่อเห็นพินแพรเดินออกมาจากที่ซ่อน
“แพรขอโทษค่ะ” พินแพรรีบกล่าวออกไปก่อนเมื่อรู้ว่าหลบไม่พ้นแล้ว “แพรไม่ได้ตั้งใจแอบฟังนะคะ แพรแค่เดินผ่านมาพอดี แล้วแพรก็กลัวพี่รามกับคุณนิดจะเห็น..”
“คุณแพรก็เลยรีบแอบฟังด้วยความตกใจใช่ไหมคะ” อย่าคิดว่าคนอย่างเธอจะเชื่อไอ้ท่าทางใสซื่อของหล่อน เพราะเธอจับได้แล้วคาหนังคาเขาว่าหล่อนโกหกเรื่องบ้าน
“แพรขอโทษนะคะ แต่แพรไม่ได้คิดจะแอบฟังอย่างที่คุณนิดคิดเลยนะคะ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เพราะถ้าเป็นฉันฉันก็ทำแบบนี้เหมือนกัน เชิญคุยกันตามสบายนะคะ ฉันขอตัวก่อนเพราะเหนื่อยเหลือเกิน”
รามมองหญิงสาวรูปร่างโปร่งระหงที่เยื้องย่างจากไป แม้จะรู้สึกขัดใจอยู่บ้างที่ไม่ได้คำตอบจากเธอ แต่กลับได้การยียวนชวนหาเรื่องมาแทน
“คุณนิดเธอบอกหรือเปล่าคะว่าไปไหนมา”
เขาหันกลับมาสนใจหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้วยกันพร้อมกันส่ายหน้าแทนคำตอบ
“บางทีอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ได้นะคะ เช่นไปหาเพื่อนหรืออาจจะไปหาแฟน”
“หนูนิดไม่น่าจะมีเพื่อนคนไทยนะ ยิ่งแฟนแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะที่พี่รู้มาหนูนิดเขามาตรฐานสูงมาก” เขาจำได้เพราะภรรยาเคยเล่าให้ฟัง
“ช่างเลือกก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลือกไม่ได้นี่คะ แล้วที่แพรพูดก็ไม่ได้หมายความถึงคนไทยอย่างเดียวนะคะ อย่าลืมนะคะว่าคุณนิดมาอยู่กับเราจะเป็นเดือนแล้ว แฟนของเธออาจจะคิดถึงก็เลยบินมาหาก็ได้”
“พี่คิดว่าไม่ใช่หรอก พี่เชื่อว่าหนูนิดจะไม่โกหกพี่ถ้าเธอออกไปหาแฟนจริงๆ” รามตอบไปตามความรู้สึก เพราะแววตาของหญิงสาวไม่ใช่แววตาของคนที่มีความสุขกลับมา ดูเธอโกรธๆ ใส่เขาด้วยซ้ำ “ช่างเถอะ พี่ไม่อยากรู้แล้ว แพรไปพักผ่อนเถอะ พี่ก็จะพักผ่อนเหมือนกัน”
พินแพรอยากจะเอื้อมแขนไปโอบกอดร่างใหญ่สมบูรณ์แบบ ที่อยู่ภายใต้ชุดนอนเสื้อยืดกางเกงแพรเอาไว้ แล้วซบนอนด้วยทั้งคืนนัก แต่ถ้าทำแบบนั้นเธอคงถูกเขารังเกียจ หรือกลายเป็นคนไร้ค่าในสายตาคู่นั้นทันที
“ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่ราม” ที่ทำได้ก็คือโบกมือลาแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน
สิริญ่าค่อยๆ ขยับออกจากที่ซ่อนตรงมุมบันไดแล้วก้าวยาวๆ ทีละสองขั้นขึ้นชั้นบนก่อนที่พี่เขยของเธอจะออกมาเจอ
หัวใจที่หนักอึ้งไปด้วยความกรุ่นโกรธชายหนุ่ม ลดน้อยลงไปอย่างน่าอัศจรรย์ เพียงเพราะคำพูดที่เขาแก้ตัวให้เธอเพียงไม่กี่คำ
และเริ่มคิดได้แล้วว่าจะใช้วิธีไหนยั่วให้พินแพร ให้แสดงธาตุแท้ออกมาให้เห็นได้เร็วที่สุด ถึงแม้มันจะไม่เหมาะไม่ควรสักเท่าไหร่ แต่มันจะเป็นอะไรไปล่ะ ในเมื่อพี่สาวของเธอก็จากโลกใบนี้ไปแล้ว เธอซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้องเมียจะทำการยั่วพี่เขยก็คงไม่ผิดอะไรมากมายนักหรอก
เพื่อทำให้พินแพรออกไปจากบ้านหลังนี้ เพื่อหลานชายสุดที่รัก และเพื่อแก้แค้นให้พี่สาว ต่อให้มันผิดศีลธรรมผิดต่อความรู้สึกเธอก็จะทำเธอ ต้องทำให้ได้
“แล้วคุณนิดล่ะ” รามถามถึงน้องเมียเมื่อเห็นสาวใช้เริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟ
“พี่ส้มบอกว่าคุณนิดจะไม่ทานอาหารเช้าเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ค่ะ”
“เรียกส้มมาหาฉันที”
“ค่ะ” สาวใช้รีบเดินออกไปตามเพื่อนร่วมงาน
ไม่นานส้มก็เดินเข้ามาในห้องอาหาร “คุณรามมีอะไรให้ส้มทำเหรอคะ”
“คุณนิดบอกเราเมื่อไหร่ว่าจะไม่กินอาหารเช้า”
“เมื่อเช้าตอนที่ส้มขึ้นไปเอาเสื้อผ้ามาซักค่ะ”
“แล้วได้ถามคุณนิดหรือเปล่าว่าทำไม”
“ถามค่ะ เพราะส้มนึกว่าคุณนิดไม่สบาย แต่คุณนิดบอกว่าสบายดี เธอแค่..” สายตาอึดอัดเผลอมองไปทางพินแพร “ไม่อยากทานเท่านั้นค่ะ”
“ไปทำงานต่อเถอะ” รามออกปากไล่สาวใช้ออกไปทำงานตามหน้าที่
“พี่รามไม่ทานเหรอคะ” พินแพรถามชายหนุ่มที่วางหนังสือพิมพ์ แล้วลุกจากที่นั่งทั้งที่ยังไม่ได้แตะอาหารในชามแม้แต่คำเดียว
“แพรกินไปก่อนนะ พี่จะขึ้นไปดูหนูนิดสักหน่อย บางทีเขาอาจจะไม่สบายแต่ไม่ยอมบอกใคร”
ทำไมเขาต้องคอยห่วงใยผู้หญิงคนนั้นด้วย เธอนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคนทำไมเขาไม่แคร์กันบ้าง
“คุณนิดเธออาจจะลดน้ำหนักก็ได้ค่ะ อย่าไปจู้จี้กับเธอนักเลย บางทีความเป็นห่วงของพี่รามอาจจะทำให้เธอรำคาญก็ได้นะคะ”
“ลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารแบบนี้มันไม่ถูกต้องหรอกนะแพร คนเราต้องกินข้าวให้ครบสามมื้อและห้าหมู่ ถ้าจะลดน้ำหนักก็ควรออกกำลังกาย และกินให้ถูกสุขลักษณะจะดีกว่านะ” เขาบอกกับเธอแล้วเดินจากไป
เมื่อมาถึงประตูหน้าห้องนอนของเธอก็เคาะให้สัญญาณ แต่ไม่มีการตอบโต้มาจากด้านในจึงถือวิสาสะบิดลูกบิดประตูแล้วเปิดออก ในห้องนอนของเธอมีแต่ความว่างเปล่า
“หนูนิด..” เขาพยายามเงี่ยหูฟังแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย “หนูนิดพี่เข้าไปนะ..”
“จะเข้าไปในห้องนิดทำไมคะ”
เสียงที่ดังมาจากทางด้านหลังทำเอาเขาสะดุ้งไปเล็กน้อย เขาหันไปมองเธอแล้วรู้สึกประหม่าขึ้นมาจนต้องเบือนหน้าหนี ก็ดูเธอแต่งตัวสิ เสื้อกล้ามรัดรูปกับกางเกงขาสั้นเต่อแบบนั้น มันขับเน้นส่วนเว้าส่วนโค้งของหุ่นระหงให้ดูเด่นสะดุดตาเหลือเกิน
“ทำไมไม่ลงไปกินข้าวล่ะ”
“ส้มไม่ได้บอกพี่รามเหรอคะ”
“บอก แต่พี่อยากรู้ว่าทำไม”
“แล้วพี่รามไม่ได้ถามส้มเหรอคะว่าทำไม”
“ถาม แต่พี่คิดว่าส้มตอบไม่เคลียร์”
“ส้มตอบว่าอย่างไรเหรอคะ”
“ส้มบอกว่าหนูนิดไม่อยากกินข้าวเช้า”
“ส้มตอบไม่เคลียร์จริงๆ ด้วย สงสัยต้องเรียกมาดุหน่อยแล้ว ที่ทำให้พี่รามเดือดร้อนมาหานิดด้วยตัวเองแบบนี้”
“แล้วนิดเป็นอะไร ทำไมถึงไม่ลงไปกินข้าว ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” เขาพยายามไม่คิดว่ากำลังถูกเธอใช้คำพูดเหน็บแนม
“ไม่สบายตรงนี้ค่ะ” เธอตบที่หน้าอกเบาๆ “มันรู้สึกอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก ที่ต้องกินข้าวร่วมกับคนแปลกหน้า ดังนั้นนิดเลยตัดสินใจไม่ไปร่วมโต๊ะด้วยจะดีกว่า เพราะกลัวจะอาเจียนรดแขก”
“แพรไม่ใช่คนแปลกหน้านะหนูนิด ถ้าหนูนิดจะอยู่ที่นี่ต่อไปหนูนิดควรจะรู้เอาไว้ เพราะเธอคงไปมาหาสู่กับพี่บ่อยๆ”