เผชิญหน้าอีกครา (100%)

2127 Words
“ถ้าคุณไม่กำหนดในสิ่งที่คุณต้องการ ฉันก็คงไม่สามารถทำงานให้คุณได้ ขอตัวนะคะ” น้ำเสียงเด็ดขาดสวนกลับอย่างฉับไว เพราะเธอไม่ชอบเอาเรื่องงานมาทำเล่นๆ คนอย่างบุปผชาติใส่ใจในทุกรายละเอียดของงานที่ตัวเองได้รับมอบหมาย และจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด นิสัยของเธอเป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  “อย่าเพิ่งโกรธสิแก้ม ผมจะบอกเดี๋ยวนี้แหละ” จากที่ตั้งท่าจะยืดเวลาให้แม่ร่างบางอยู่กับตนนานๆ เมื่อมาเจอกับเสียงแข็งๆ และแววตาเอาเรื่อง ก็ทำให้มาร์โคต้องยอมแพ้ในที่สุด   “งั้นก็รีบว่ามา” เพราะความไม่สบอารมณ์ ทำให้บุปผชาติเผลอขึ้นเสียงออกคำสั่งกับนายจ้างชั่วคราวเช่นมาร์โคด้วยความลืมตัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ก็เขาเล่นกวนอารมณ์เธอจนแปรปรวนไปหมดแบบนี้แล้วนี่นา   “ผมชอบรถแบบ แรง เร็ว ปราดเปรียว และสมรรถนะคงที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่สิบปี คุณทำได้ไหมบุปผชาติ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยแววตามั่นคง พลางสืบเท้าเข้าหาสาวเจ้า จนมากระซิบถามประโยคสุดท้ายข้างหูของเธอ   พ่อคนเจ้าเล่ห์แอบเล่นทีเผลอ จนทำให้คนที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาจดรายละเอียดของงานอย่างขะมักเขม้นไม่ทันตั้งตัว เมื่อโดนลมหายใจเป่ารดต้นคอถึงกับสะดุ้งเฮือก ทำหน้าตื่นๆ และผงะถอยออกมาจากกายแกร่งด้วยความตกใจกับการกระทำอันอุกอาจของเขา   “ไม่มีปัญหาค่ะคุณมาร์โค แล้วอาทิตย์หน้าฉันจะเอาแบบร่างมาให้ดูนะคะ” บุปผชาติรีบปรับสีหน้าและสำรวมกิริยาให้เป็นปกติ แล้วตอบคำถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งดูเป็นงานเป็นการ ตามแบบฉบับของคนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างเต็มเปี่ยม เมื่อเห็นว่าคุยเรื่องงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว สาวน้อยจึงหมุนตัวเตรียมก้าวออกจากห้องทันที “เดี๋ยวจะรีบไปไหน” เสียงห้าวเอ่ยขึ้นเมื่อสาวเฉิ่มก้าวขาได้เพียงสามก้าว   “โอ๊ะ!” แม่ร่างบางอุทานเสียงหลง เรียวหน้าหวานใสซีดเผือด ความเครียดกับการไม่สามารถควบคุมอารมณ์เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ทำให้บุปผชาติเกิดความตกใจ ครั้นเขาทักเสียงดังเธอก็สะดุดขาตัวเองจนเกือบล้มหัวคะมำ ถ้าไม่ได้แขนแกร่งวาดมาตวัดร่างแน่งน้อยเอาไว้ได้ทันท่วงที แต่กระนั้นแว่นตาหนาเตอะยังไม่วายหลุดออกจากสันจมูกเชิดรั้นอย่างช่วยไม่ได้   “ระวังหน่อยสิ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” คนที่เข้าช่วยดึงร่างบางหมุนมาเผชิญหน้ากันในระยะประชิด จนได้ยินเสียงอัตราการเต้นของหัวใจ และสัมผัสได้ถึงกลิ่นลมหายใจผสานกับกลิ่นโคโลญของอีกฝ่าย เล่นเอาบุปผชาติทำหน้าไม่ถูก ใจดวงน้อยเกิดอาการหวิวไหว เพราะไม่เคยเข้าใกล้ผู้ชายในลักษณะเช่นนี้มาก่อน   “ไม่ แว่น…แว่นฉันอยู่ไหน หาเเว่นให้ฉันหน่อยสิคุณ” หญิงสาวปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก พร้อมขืนกายออกจากวงแขนทรงพลัง ท้ายประโยคเอ่ยขอร้องให้คนตาดีหาแว่นคู่ใจให้ แล้วนั่งลงควานหาแว่นไปทั่วบริเวณรัศมีที่คิดว่ามันน่าจะกระเด็นออกไป สายตาของเธอสั้นมากจนไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ชัด จะมีเห็นบ้างก็แค่เลือนราง เพราะฉะนั้นวิธีที่พอจะช่วยให้เธอเจอมันได้เร็วขึ้นคือการควานหาด้วยมือ “เอ๋…ไม่เห็นมีเลย อยู่ไหนน๊า…” พ่อคนมากเล่ห์แสร้งทำเป็นหาแว่นไม่เจอ เพราะอยากแกล้งสาวเฉิ่ม แล้วรอเวลาที่เธอจะหันหน้ามาทางตน พอสบจังหวะดังใจหวัง เขาก็ฉวยโอกาสหอมแก้มนวลปลั่งฟอดใหญ่ สูดกลิ่นกุหลาบแรกแย้มเข้าไปจนชุ่มฉ่ำในหัวใจ   ฟอด!!! “คุณแกล้งฉัน! เอาแว่นฉันคืนมานะ ไม่งั้นฉันจะโกรธคุณจริงๆ ด้วย” แม่สาวไร้เดียงสาแหวปากคอสั่นระริก ในท้ายประโยคไม่วายใจกล้าขู่ฟ่อ บุปผชาติแทบอยากจะร้องไห้ที่เขาขโมยหอมแก้ม อีกทั้งโมโหที่เขาถือวิสาสะเอาเปรียบและทำอะไรโดยไม่ให้เกียรติเธอ   “โอเค…โอเค ยอมแล้วก็ได้ หันหน้ามาสิผมจะใส่ให้” คนเจ้าเล่ห์ทำทีเป็นยอมจำนน แสร้งทำเป็นหวังดีแต่ประสงค์ร้าย แววตาที่เธอไม่อาจมองเห็นฉายไปด้วยความกรุ้มกริ่มเหลือล้น หากเธอเห็นเข้าคงขนลุกเป็นแน่ คนอะไรเจ้าเล่ห์ได้อย่างร้ายกาจ   “หันไปทางไหนล่ะ?” ผู้ที่ไม่ต่างอะไรจากคนตาบอดถามด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ เพราะอยากจะมองเห็นให้ได้ซะเดี๋ยวนี้ เพื่อจะได้ไม่เปิดโอกาสให้เขาเอาเปรียบคนไม่มีทางสู้อย่างตนอีก ถ้าเธอครบสี่ตาเมื่อไหร่อย่าหวังเลยว่าเขาจะฉวยโอกาสแบบเมื่อกี้กับเธอได้   “ทางขวา 45 องศา” น้ำเสียงดูน่าเชื่อถือ แต่เขากลับแอบยิ้มกริ่มที่มุมปาก ทำให้คนที่แทบจะมองไม่เห็นหลงเชื่อน้ำคำของพ่อจอมกะล่อนเข้าเต็มเปา “ทางนี้เหรอ แล้วไหนล่ะแว่นตาฉัน แว่นฉันอยู่ไหน…เอามาสิ” หญิงสาวหันไปตามทางที่คนตาดีบอกด้วยความใสซื่อไม่ค่อยทันเกมคนเจ้าเล่ห์เหลี่ยมจัด และด้วยความมองโลกในแง่ดีจนเกินไปของบุปผชาติ ทำให้เธอหลงเชื่อเขาซะสนิทใจ สุดท้ายก็ต้องเสียรู้ให้เขาอีกจนได้ ฟอด!!!  แล้วสิ่งที่เธอได้รับจากคนนำทางผู้หวังดีแต่มีเลศนัยกลับไม่ใช่แว่นตา แต่มันคือการหอมแก้มแบบเน้นๆ ไปอีกหนึ่งที ชายหนุ่มถูไถปลายจมูกโด่งข้างแก้มนวล แล้วแกล้งซุกไซ้ไรเคราลงบนผิวอ่อนนุ่มราวเด็กแรกเกิดจนเธอรู้สึกสยิว ปลายจมูกโด่งฝังลึกเข้าไปในพวงแก้มอิ่มเต็มนิ่งนาน เสียงสูดกลิ่นหอมละมุนเข้าไปจนชุ่มปอด มันดังชัดเจนเต็มสองหู จนสาวน้อยรู้สึกเขินอายปนโกรธกรุ่น ที่คนฉลาดในทุกเรื่องอย่างเธอดันพลาดท่าให้คนหัวหมออย่างเขาเป็นครั้งที่สอง ถ้าเธอตาดีเหมือนเขาให้มันรู้ไปสิว่าเขายังจะมีโอกาสทำอะไรบ้าๆ กับเธอ โดยไม่โดนแพ่นกะบาล บุปผชาติได้แต่แอบกัดฟันด้วยความหงุดหงิด ที่ทำอะไรนายจ้างชั่วคราวอย่างเขาไม่ได้มากไปกว่านี้    “เอ้านี่…แว่นคุณ” สุดท้ายพ่อคนขี้แกล้งก็อิ่มหนำในหัวใจ ที่สามารถขโมยจุมพิตพวงแก้มนวลของสาวน้อยผู้น่ารักของตนได้สำเร็จอีกครา จึงยอมใส่แว่นลงไปบนสันจมูกรั้นด้วยความสงสารแกมเอ็นดูแม่คนหน้าแดง ที่แอบกัดฟันกำหมัดแน่น นี่คงจะโกรธแค้นเขามาก จนแทบอยากจะตะเบ็งเสียงก่นด่าใส่หน้า หรือไม่ก็สมนาคุณความห่ามของเขาด้วยการตบฉาดใหญ่ ยิ่งมองมาร์โคยิ่งพอใจแต่ไม่อยากจะแกล้งให้มากไปกว่านี้ เพราะกลัวเส้นเลือดในสมองของอีกฝ่ายจะแตกเสียก่อนที่จะได้เป็นเมียเขา   “ปล่อยได้แล้ว ฉันจะกลับ” ผู้ที่ตกอยู่ในอ้อมอกกว้างสะบัดเสียงใส่คนตัวโตที่ตระกองกอดอยู่ไม่ห่าง ไออุ่นจากเรือนกายทรงพลังทำให้เธอรู้สึกอ่อนเปลี้ยได้อย่างน่าประหลาด เมื่อเห็นว่ายิ่งใกล้อีกฝ่ายความเป็นตัวของตัวเองยิ่งลดลง สาวเฉิ่มจึงรีบดันกายแกร่งให้ถอยห่าง และพยายามพาตัวเองออกไปให้ไกลจากเขา   “เบบี๋คุณรู้ไหม ว่าแก้มคุณห๊อมหอม” แทนที่จะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ มาร์โคกลับก้มลงใช้หน้าผากกว้างแตะหน้าผากมน ช้อนใบหน้าแดงระเรื่อที่เอาแต่ก้มงุดด้วยความเอียงอายให้เงยขึ้นมามองสบตา แล้วกระซิบบอกเธอด้วยเสียงหวานละมุน เท่านั้นไม่พอยังไล้สันจมูกโด่งไปบนปลายจมูกเชิดรั้นอย่างหยอกเอิน จนสาวน้อยรู้สึกสะท้านไหวในหัวใจแปลกๆ ขาอ่อนแรงจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ บุปผชาติพยายามรวบรวมสติ สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ แล้วผลักอกกว้างออกห่างจากกายอีกครา “ไม่รู้ ฉันรู้แต่ว่าคุณจะไม่มีวันได้เข้าใกล้ฉันอีกแน่ อาทิตย์หน้าฉันไม่มานะ เดี๋ยวจะส่งเมล์มาให้หลังจากร่างแบบเสร็จแล้ว” หญิงสาวเชิดหน้าเอ่ยเสียงติดจะหอบ กว่าจะออกมาจากอ้อมแขนของพ่อหนวดปลาหมึกได้ เธอก็แทบจะชักดิ้นชักงอกับความดื้อด้านและสุดแสนเอาแต่ใจของเขา จากนั้นก็รีบสาวเท้ายาวๆ ออกจากห้องทันที เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตามมากระชากตัวเอาไว้เสียก่อน ทว่ายังได้ยินน้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ยตอบโต้อย่างดุดัน   “ผมไม่ยอม! ถ้าคุณไม่มา ผมจะยกเลิกสัญญาทั้งหมด” คนเอาแต่ใจหรือจะยอมรับในสิ่งที่สาวเจ้าเอ่ยออกมา หากเธอทำอย่างนั้นเขาจะอาละวาดให้ลั่น  “อันนั้นก็สุดแล้วแต่คุณเถอะค่ะมิสเตอร์ดิมิเทียส เพราะฉันก็ไม่ได้อยากจะร่วมงานกับคนอย่างคุณสักเท่าไรหรอก รู้เอาไว้ซะด้วยนะคะ” มือบางที่กำลังหมุนลูกบิดประตูชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหันกลับมาปรายตามองหน้าท่านประธานหนุ่มอย่างนึกหมั่นไส้เหลือคณา แล้วโต้ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนไม่ทุกข์ร้อนใดๆ หากเขาจะทำตามที่พูดเธอก็ไม่แยแสมันเลยสักนิด แถมยังแอบเหน็บแนมชายหนุ่มในตอนท้ายก่อนจากกันเสียอีก   “เดี๋ยวก่อน คนอย่างผมมันเป็นยังไงห๊ะยัยเฉิ่ม กลับมาพูดกันให้รู้เรื่องเลยนะ” มาร์โคตะโกนไล่หลังอีกฝ่ายเสียงเข้ม พ่อคนเอาแต่ใจได้แต่แอบกระหยิ่มยิ้มย่องที่เจ้าหญิงน้ำแข็งของเขาแอบปากร้ายได้น่ารักน่าชัง ‘ชิชะ…เดี๋ยวนี้มีแดกดันทิ้งท้ายซะด้วย ให้มันได้อย่างนี้สิวะ แม่น้ำแข็งก้อนน้อยๆ ของเขาใกล้จะละลายแล้วโว้ย’ ชายหนุ่มคิดอย่างครึ้มอกครึ้มใจ   “ฝันไปเถอะ! ไอ้คนบ้าอำนาจ!” บุปผชาติไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่ ปากคอจัดจ้าน กล้าด่ากล้าเถียงขึ้นเป็นกอง ตั้งแต่มาเจอกับอีกฝ่าย เขาทำให้เธอกลายเป็นคนนิสัยไม่ดี มารยาททางสังคมถดถอย ไม่รู้จักสำรวมวาจา ต่อหน้าเขายังกล้าๆ กลัวๆ แต่ลับหนังนี่ชักจะเอาใหญ่แล้ว   “หึ…หึ…เธอคิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีคนอย่างมาร์โค ดิมิเทียส พ้นเหรอเบบี๋ ลองเธอไม่มาสิ…พ่อจะตามไปอาละวาดที่บริษัทเธอให้ดู” มาร์โคพึมพำกับตัวเองเบาๆ  เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นบ้าอะไร ยิ่งเห็นบุปผชาติหงุดหงิดอารมณ์เสียเขาก็ยิ่งมีความสุขได้อย่างน่าประหลาด ให้ตายสิ! หรือเขาเป็นโรคจิตชอบยั่วประสาทคนเก็บความรู้สึกเก่งอย่างเธอกัน ผู้หญิงมีตั้งมากมายแต่คนที่เขาอยากจะกลั่นแกล้งและหยอกเย้ากลับมีเพียงแค่บุปผชาติ…สาวเฉิ่มของเขาคนเดียวเท่านั้น   “ชิ…ยังมีหน้ามาถามอีก ว่าคนอย่างผมมันเป็นยังไงเหรอ คนอย่างคุณมันก็บ้าอำนาจ เผด็จการ เอาแต่ใจและขี้เก๊กน่ะสิ ถามมาได้ไอ้โคแก่เอ๊ย โอ๊ย…ยัยแก้มเอ๋ย เธอทำไมถึงได้ซวยอย่างนี้นะ ดีนะที่ดูละครน้ำเน่าบ่อยๆ ไม่งั้นคงไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาด่าเขาแน่ ไม่ได้การแล้วแบบนี้กลับไปต้องไปฝึกด่าเอาไว้” สาวน้อยค้อนลมค้อนแล้ง ทำปากยื่นเลียนเสียงเขา พร้อมกระแนะกระแหน และบ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่คนเดียวระหว่างนั่งรถกลับบริษัท   จากนั้นบุปผชาติก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ด้วยความรู้สึกโล่งอกที่สามารถหลุดพ้นจากเหตุการณ์อันน่ากระอักกระอ่วนนั้นมาได้ แต่กว่าจะออกมาได้ก็เล่นเอาซะเหงื่อตกเลยทีเดียว ก็นายมาร์โคช่างร้ายกาจและมือไวยิ่งนัก พวกปากว่ามือถึงไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด ถ้าเจอกันคราวหน้าเธอจะทำอย่างไรดีหนอ โอ๊ย…ไม่อยากมาเจอหน้าเขาครั้งต่อไปเลยจริงๆ แต่ก็อย่างว่าล่ะนะมันคือหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงจะไม่อยากมามากแค่ไหนก็ตาม ในเมื่อเธอรับปากว่าจะทำงานนี้แล้ว เธอก็ต้องทำให้สำเร็จ ไม่ให้เสียชื่อบุปผชาติ ดิลกรัตนกุล สาวเฉิ่มเบ๊อะแต่หัวสมองเต็มไปด้วยความสามารถอันทรงประสิทธิภาพระดับเกรดพรีเมียม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD