“ไลลา รออะไร ไม่มีคนมารับเหรอ”
“อื้ม รอพี่ชาย”
“แกมีพี่ชายด้วยเหรอ? ไม่เห็นเคยรู้”
“อื้ม พึ่งมี”
“ให้เราไปส่งไหม นี่ก็เย็นมากแล้วนะ”
“ไม่เป็นไร”
การสนทนาจบลงเพียงเท่านั้น ก่อนที่เพื่อนของไลลาจะเดินจากไปอีกคนและนี่ก็ไม่ใช่คนแรกที่ถามเธอแบบนี้ และเธอก็ตอบแบบนี้มาจนเบื่อแล้วด้วย
“คอยดูเถอะ จะแกล้งให้เข็ดเลย”
ไลลาเอ่ยขึ้นพลางมองไปที่ทางเข้าอย่างรอคอยทั้งๆที่มีพวกการ์ดของบิดาอยู่ใกล้ๆแต่เธอบอกว่าจะรอให้จาคอปมารับ ซึ่งชายหนุ่มนั้นไม่ได้คิดที่จะมาตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว เพราะกว่าเขาจะโฟกัสกับงานตรงหน้าได้ก็เกือบเที่ยง เลยต้องทำงานชดเชยเวลาสักหน่อย
“ไปทานอาหารเย็นกันไหมคะ”
นิราภาที่เห็นว่าเขายังไม่กลับบ้านเดินเข้ามาถาม ก่อนจาคอปจะยกนาฬิกาขึ้นดูพบว่าเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว พลันสมองคิดไปถึงไลลา ป่านนี้เธอจะกลับบ้านรึยัง หรือหนีออกไปเที่ยวอีกตามที่เขาได้ข้อมูลมา
“ไม่ล่ะ วันนี้ผมมีธุระ คุณกลับก่อนเลย”
จาคอปบอกขึ้นพร้อมกับเริ่มเก็บเอกสารที่โต๊ะทำงาน นิราภาได้แต่มองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา เมื่อจาคอปไม่อยากให้เธอแสดงออกว่าเขากับเธอเป็นอะไรกัน ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของชายหนุ่มไป
“สวัสดีค่ะคุณจาคอป...อ่าว แล้วคุณหนู...ละคะ?”
เสียงแม่บ้านที่ดูแลไลลาโดยเฉพาะเอ่ยทักทายขึ้นก่อนจะถามออกมาทำเอาจาคอปถึงกับมองอย่างสงสัย
หรือว่ารอเราไปรับ...ไม่มีทางหรอกน่า...
ชายหนุ่มคิดออกมาในใจก่อนจะชั่งใจว่าควรทำอย่างไรดี
“เมื่อเช้าเธอบอกว่าจะรอคุณไปรับ...”
“เฮ้อ แสดงว่าผมต้องรับหน้าที่ไปรับไปส่งเธอด้วยอย่างงั้นเหรอ จะบ้าตาย”
จาคอปบ่นออกมาแต่ก็ยอมเดินกลับไปที่รถ ตอนรับปากเจ้าสัวโอฬารเขาคิดอะไรอยู่ ถึงยอมทำขนาดนี้ทั้งๆที่มันไม่จำเป็นด้วยซ้ำ หรือจะเพราะคำพูดของบิดาที่ว่า เจ้าสัวมีบุญคุณกับพ่อและแม่มาก ถ้าไม่มีเจ้าสัวคงไม่มีเราเหมือนอย่างทุกวันนี้ เลยทำให้เขาตกลงยอมรับคำขอของเจ้าสัวและอีกอย่างเขาคิดว่ามันไม่ยุ่งยากอะไรแค่ดูแลเด็กวัยรุ่นคนเดียว
“มานั่งทำอะไรคนเดียว”
“อ่าว มาสักที กลับกันเถอะค่ะ มืดแล้ว”
พูดจบไลลาก็เดินตรงไปขึ้นรถทันที ทำเอาจาคอปอดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ปล่อยให้เธอนั่งรอจนมืดค่ำขนาดนี้ ก่อนจะเดินตามขึ้นรถไป
“ทำไมไม่กลับก่อนล่ะพวกนั้นก็มีรถนี่”
“ก็บอกให้มารับ แล้วจะกลับก่อนได้ไง”
“อ่าว...ก็...”
“ไหนบอกจะมาดูแล ถ้าดูแลอย่างนี้ก็ไม่ต้องหรอก คนดูแลเยอะแล้ว...”
คำพูดที่ไม่ปกติของไลลาทำเอาจาคอปยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก เพราะเธอก็พูดไม่ผิด เผลอๆพวกนั้นดูแลเธอดีกว่าเขาเป็นร้อยเท่าพันเท่า แล้วจะมีเขาไว้ทำไม
“โอเค ต่อไปนี้พี่จะเป็นคนไปรับ ไปส่งไลลาเอง โอเคไหม เลิกกี่โมง ไปกี่โมงก็บอกละกัน พี่จะได้เตรียมตัว”
“จริงเหรอคะ สัญญาแล้วนะ”
“อื้ม...”
ไลลาที่ดูเศร้าๆหันกลับมายิ้มกว้างให้เขาทันทีก่อนจะเอื้อมมือไปกอดแขนล่ำของจาคอปแน่นเพื่อบ่งบอกว่าดีใจ โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้อารมณ์ที่พึ่งจะสงบไปเมื่อช่วงเที่ยงของเขากำลังจะกลับมาอีกครั้ง เพราะหน้าอกอวบใหญ่ในชุดนักเรียนแสนรัดติ้วที่แทบจะปริแตกออกมากำลังบดเบียดอยู่ที่แขนของเขา
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ใจเย็นๆลูกพ่อ ฮึ่ม!! น้องสาวท่องเอาไว้น้องสาวนะเว้ย!
ไม่นานทั้งสองก็มาถึงบ้าน ไลลาที่กลับมาเป็นปกติรีบวิ่งลงไปกอดพี่เลี้ยงพ่วงตำแหน่งแม่บ้านที่ดูแลเธอมาตั้งแต่เกิดอย่าง คุณแม่บ้านช่อเอื้อง ก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องโดยมีทุกสายตามองตามอย่างนึกเอ็นดู
“ขอโทษนะคะ คุณหนูเธอก็เป็นแบบนี้แหละคะ ไม่ชอบคนผิดคำพูด บอกจะทำอะไรก็จะทำให้ได้ ห้ามยากค่ะ ว่าแต่มาเหนื่อยๆไปพักเถอะนะคะ ดิฉันให้คนจัดเตรียมห้องเอาไว้ให้แล้วทางปีกขวา ส่วนคุณหนูจะอยู่ปีกซ้าย คุณจะได้ทำงานเงียบๆส่วนห้องทำงานก็อยู่ติดกับห้องนอนของคุณเลย มีประตูเชื่อมถึงกันได้”
“ขอบคุณครับ”
พอเอ่ยขอบคุณเสร็จจาคอปก็เดินขึ้นไปตามที่คุณแม่บ้านบอก พอเข้ามาในห้อง ทุกอย่างถูกจัดเอาไว้เรียบร้อย วันนี้เหนื่อยกับความรู้สึกบ้าบอจนเขาอยากนอนพักกายพักใจเพื่อต่อสู้กับความรู้สึกของพรุ่งนี้อีก และก็กว่าสามเดือนที่อาจจะต้องเป็นแบบนี้
“อ่าว ไม่ได้อยู่ห้องเหรอ ไปไหนของเขา...”
ทางด้านไลลาที่พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินมาหาจาคอปที่ห้องปีกขวา แต่พอเข้ามาในห้องนอนของเขาที่ไม่ได้ล็อกกลับไม่พบเจ้าของห้องซะงั้น
“หรือว่าทำงาน?”
เธอเดินมาจนถึงห้องเชื่อมติดกับห้องนอนของเขา เลยลองเปิดประตูเข้าไปและก็อย่างที่คิดเมื่อเขาอยู่ในห้องทำงานจริงๆ
“!!!!!!!!!!”
“ละ...ไลลา อ๊า!!! ฮึ่ม!!!”
เสียงแหบกระเส่าของจาคอปเอ่ยเรียกหญิงสาวแหบพร่าเต็มไปด้วยความต้องการ เมื่อตอนนี้เขากำลังจัดการกับแก่นกายของตนเองที่มันไม่ยอมสงบถึงแม้ว่าเขาพยายามใช้น้ำเย็นเข้าช่วยแล้วแต่มันก็ยังคงต้องการ เมื่อทุกขณะจิตดันไปนึกถึงแต่ไลลา นึกถึงรูปร่างเล็กกะทัดรัดแต่อวบอัดไปด้วยสิ่งที่ผู้หญิงและผู้ชายทุกคนต่างต้องการ
“ทำ...ไม่ถึง...”
“อ๊า ออกไปก่อน อึก ออกไปก่อนไลลา...อื้อ”
จาคอปกำลำกายใหญ่เอาไว้แน่นเพื่อปิดบังจากสายตาของเด็กสาวก่อนจะบอกให้เธอออกไป เมื่อตอนนี้ความอดทนของเขาแทบไม่มีเหลืออยู่แล้ว ไม่เคยมีใครบอกรึไงว่าเธอไม่เหมาะกับชุดนอนสายเดี่ยวบางเบาแบบนี้...ไม่สิ มันเหมาะจนเกินไปต่างหาก
นี่เขา...ช่วยตัวเองเหรอ?...หึหึหึ
ไลลาที่มองดูทุกการกระทำของจาคอปอย่างตกตะลึงและคาดไม่ถึง ค่อยๆก้าวเดินมาข้างหน้าสวนทางกับสิ่งที่เขาบอก
“ให้ไลลาช่วยไหมคะ...หรือว่าที่เป็นแบบนี้เพราะไลลา...”
ไลลาเริ่มต้นแผนการทรมานเขาทันที เมื่อเขาคิดจะมาเป็นผู้ควบคุมเธอ คอยดู เธอนี่แหละจะควบคุมจนเขาต้องหอบผ้ากลับไปนอนบ้านของเขาวันนี้พรุ่งนี้เลย เธอคิดว่ายังไงซะเขาก็คงไม่กล้าแตะต้องเธอหรือทำมากไปกว่านั้นแน่ เพราะเธอกับเขามีสายเลือดเดียวกัน!
“บอกให้ออกไป...ฮึ่ม อึก! ไลลา!!!”
ไลลาเดินเข้าไปนั่งลงที่ตักกว้างที่ตอนนี้ความแข็งขึงของลำเอ็นใหญ่กำลังดุนดันอยู่ที่สะโพกของเธอทำเอาจาคอปแทบขาดอากาศหายใจเพราะต้องสกัดกลั้นความต้องการและไม่อยากสูดดมกลิ่นกายอันหอมหวานของเด็กสาวแรกแย้มอย่างเธอเข้าไป แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมแพ้เธอจนได้เมื่อได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้
“อ๊า...พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว...ออกไป ก่อนจะเกิดอะไรขึ้น...”
“หึหึหึ จะเกิดอะไรเหรอคะ พี่ชายของไลลา...จะทำอะไรน้องสาวคนนี้ละคะ ไลลาคิดว่าพี่จาคอปเป็นคนดีเกินกว่าจะทำอะไรน้องสาวสายเลือดเดียวกันได้...ใช่ไหมคะ”
จาคอปพยายามกัดฟันทน เมื่อตอนนี้เธอไม่ได้แค่นั่งทับมัน แต่กลับโยกย้ายสะโพกไปมาเสียดสีจนน้ำรักของเขาปริ่มๆจะแตกออกมาอยู่รอมร่อ ส่วนไลลานั้นกำลังนึกสนุกกับความทรมานของเขา เมื่อหน้าตาอันหล่อเหลากำลังเบ้ไปมาอย่างน่าสงสาร เธอพยายามกดเน้นรูดหนังหุ้มลำเอ็นใหญ่ยักษ์ของเขาไปมาเพราะรู้ว่ามันจะต้องทรมานมากมายขนาดไหน
อ๊า เธอจัดจ้านเกินเด็ก แกพลาดแล้วจาคอป แกพลาดทุกอย่าง...
พลั๊ก!!! ตุ๊บ!!! ตับ!!!
สุดท้ายความอดทนก็หมดลง มือใหญ่ปัดทีเดียวของที่อยู่บนโต๊ะทำงานก็หล่อนลงพื้นจนหมด ก่อนจะยกร่างเล็กขึ้นนอนแผ่หลาแทนที่พวกมันทันที
“เธอทำให้พี่ต้องทำแบบนี้เองนะไลลา!!!”
“แต่เราเป็นพี่น้องกันนะคะ! พี่จาคอปลืมไปแล้วเหรอ!”
ไลลาที่ตกใจกับการกระทำอันรวดเร็วราวพายุของเขา รีบพูดในสิ่งที่คิดว่าเขาจะหยุดขึ้นมาโดยไม่รู้เลยว่าจาคอปนั้นหมดความอดทนไปเรียบร้อยแล้ว
“...พี่เตือนเธอแล้ว!!!”
สวบ!!!!
“อ๊ะ!!! ไม่นะ ไลลาล้อเล่น อื้ออออออ อ๊ะ! เจ็บ!! พี่จาคอป ไลลา อึก! เจ็บ...”
โอ้วแม่เจ้า นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันวะเนี่ย!!!