ตอนที่18

1229 Words
เมื่อสำรวจตัวเองเรียบร้อย อย่างน้อยซิปกางเกงไม่แตกแน่ ๆ ก็หายห่วง ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปหาแผ่นดินที่ยืนรออยู่ข้างนอก และพบว่าเขาก็สวมเสื้อค่ายเหมือนกัน อย่างกับชุดคู่รักแหนะ ถึงจะไม่ใช่ก็ขอมโนสักนิดเถอะ นาน ๆ ทีจะมีโมเมนต์เสื้อคู่ เสื้อคู่ที่ใส่เหมือนกันทั้งค่าย “เสร็จแล้ว” ฉันรีบเดินเข้าไปหาแผ่นดินพร้อมส่งยิ้มกว้างให้เขา จนลืมไปว่าฉันควรจะเก็บอาการบ้าง แผ่นดินจ้องฉันนานมาก นานจนคิดว่าฉันไม่ได้ใส่เสื้อผิดด้านใช่ไหม พอก้มดูก็ไม่เห็นความปกติอะไรนี่นา แล้วเขามองอะไร เฮือก! ฉันสะดุ้งเมื่ออยู่ ๆ แผ่นดินก็ถอดเสื้อคณะออกแล้วเอามาผูกไว้ที่เอวของฉันแทน เหตุการณ์เหมือนตอนซิปแตกไม่มีผิด! แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้ซิปแตกนี่… “อากาศเย็นแล้ว” “อ่อ อืม…” “ครั้งหน้าใส่ขายาวนะ” “...” “ถ้าไม่มีจะซื้อให้” ทั้งที่เป็นประโยคเรียบ ๆ แต่ทำไมมันถึงได้ชวนใจเต้นขนาดนี้ล่ะ ฉันจะทนไม่ไหวเอานะ “ซื้ออะไร ถ้าเป็นขนมก็ยินดีนะ” ฉันแสร้งยิ้มทำเป็นไม่เข้าใจ ก่อนเฉไฉไปเรื่องอื่น “หิวแล้วเหรอ” “แบกชุดสิบกิโลรอพวกผู้ชายตั้งนาน ไม่หิวได้ไง” “หึ” “ขำอะไร ก็คนหิวจริง ๆ นี่นา” ฉันมองค้อน ก่อนจะออกเดินนำไปก่อน แต่อยู่ ๆ ก็โดนคว้ากระเป๋าจนเสียหลัก โชคดีที่หน้าไม่ทิ่มพื้น และโชคดีชั้นที่สองเมื่อฉันเซไปซบอกเขาพอดี “โทษที” ทำไมฉันต้องขอโทษด้วยเนี่ย ไม่ใช่คนผิดสักหน่อย ยายดาหลา แกจะยอมเขามากเกินไปไม่ได้นะ ฉันเงยหน้าจากแผงอกแน่นของเขาช้า ๆ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ซบอก ถึงจะฟินแต่ก็น่าอายเพราะอยู่ในโรงอาหารเนี่ยแหละ ก่อนจะถอยออกอย่างอ้อยอิ่ง ถ้าได้เป็นแฟนกันจะกอดจนรวมร่างเลย ให้ตายสิ “ขอโทษทำไม ฉันต่างหากที่ผิด” “เอ่อ…” ฉันยิ้มแห้ง โดนดุอีกแล้ว นายนี่ชอบดุจัง! แต่ถามว่าชอบไหม ชอบมากค่ะ อยากโดนดุไปจนวันตาย “ไปกันเถอะ” “แล้วนายไม่ไปช่วยประชาสัมพันธ์เหรอ” “ไปมาแล้ว” “ที่ไหน” “หน้าม.” “อ้อ” ฉันไม่ถามอะไรต่อ ก็ได้แต่เดินตามเขาออกจากโรงอาหารไปแบบเงียบ ๆ ในตลาดเสียงดังมาก ทั้งเสียงเพลง เสียงตะโกนของแม่ค้าพ่อค้า แม้กระทั่งเสียงคุยของผู้คนรอบข้าง ก็เพราะแข่งกับตะโกนนี่แหละ มันถึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แต่เสียงท้องร้องของฉันกลับดังยิ่งกว่าใครทั้งหมดอีก โครกกกกกก! หวังว่าคนข้าง ๆ จะไม่ได้ยินนะ ฉันแอบชำเลืองมอง และสายตาที่มองมาของเขาก็ทำให้รู้ว่า เขาได้ยินแน่นอน… “หิวมากเหรอ” “ก็ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เที่ยงแล้วอ่ะ” “อดข้าวทำไม มันไม่ดีต่อร่างกาย” “เปล่าอดสักหน่อย ไม่มีเวลากินต่างหาก” ฉันค้อนเขาเบา ๆ “ครั้งหน้าห้ามอดข้าวนะ” “ทำไมข้อห้ามนายเยอะจัง” “เพื่อสุขภาพที่ดี” “จ้าาาาา” เราสองคนเดินดูร้านขนมไปเรื่อย ๆ อันที่จริงมันก็ดูน่ากินไปหมดจนอยากซื้อไปฝากมิ่งขวัญกับน้องฟ้า สำหรับมิ่งขวัญฉันรู้ว่านางไม่ชอบขนมหวานเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นพวกขนมจีบซาลาเปาก็ดีอยู่ แต่ที่นี่จะมีขายเหรอ… ฉันพยายามกวาดสายตามองหา ก่อนจะพบว่าร้านซาลาเปาอยู่สุดตรงหัวมุมถนนพอดี “นี่ ฉันไปซื้อซาลาเปานะ” “หืม ว่าอะไรนะ” แผ่นดินมองฉันด้วยสายตาสงสัย สงสัยว่าพูดอะไร เขาไม่ได้ยินเหรอ อ้อ จะไม่ได้ยินก็ไม่แปลกหรอก ในเมื่อพวกเรายืนอยู่หน้าร้านขายลำโพง ฉันกวักมือให้เขาโน้มตัวลงมา พอดีกับฉันที่เขย่งเท้าขึ้นไปกระซิบ “ฉัน จะ ไป ซื้อ ซา ลา เปา” “อ้อ โอเค” ฉันพยักหน้าให้เขาช้า ๆ และเดินไปที่ร้านขายซาลาเปาทันที “ซาลาเปานึ่งใหม่ ๆ น่ากิน ๆ จ้า” ฉันกวาดมองซาลาเปาที่อยู่ในหม้อนึ่ง แถมยังมีติ่มซำอีกด้วย น่ากินทั้งนั้น “น้องเอาซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็มหกลูก แล้วก็ขนมจีบสามสิบบาทค่ะ” “กินหมดเหรอ” แผ่นดินก้มมาถามข้างหูตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แต่ว่าการตีหน้านิ่งไม่ให้ออกอาการหวีดผู้ชายกลางตลาดนั้นยากกว่า ฉันสะกดลมหายใจตัวเองให้นิ่งที่สุด และตอบแบบไม่หันไปมองหน้าเขา “ไม่ได้ซื้อกินเอง ของยายมิ่งน่ะ” “อ้อ เพื่อนเธอคนนั้น” “อืม” ฉันพยักหน้า นายต้องจำให้แม่น ๆ ล่ะ เพราะยายนั่นจะเป็นคนรีดไถนายหน้าประตูเงินประตูทอง (เพ้อ) ฉันจ่ายเงินให้แม่ค้าพร้อมกับรับกล่องซาลาเปาและขนมจีบมาทั้งหมดสองกล่อง ระหว่างเดินดูร้านอื่น ๆ ก็ยื่นกล่องขนมจีบให้แผ่นดิน “ส่วนอันนี้ให้น้องฟ้า” “อ้อ ขอบใจนะ” จีบกันโต้ง ๆ ขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีก ซื่อบื้อไปนะ “ให้น้องฟ้านะ” ฉันย้ำอีกครั้ง ก็ไม่ได้กลัวเขาจะกินเองหรอก แค่อยากย้ำให้มั่นใจ จริง ๆ คืออยากออกคำสั่งกับเขาบ้าง แต่ไม่กล้าพูดตรง ๆ “ครับ ๆ จะส่งให้ถึงมือเลยครับ” “ดีมาก” ฉันยิ้มกว้างด้วยความพอใจ สั่งได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว “แล้วไม่มีของฉันเหรอ” จะทวงกันแบบนี้ก็ได้เหรอ =_= “ล้อเล่นน่ะ” ฉันถอนหายใจเฮือก โดนเล่นแล้วไหมล่ะยายดาหลา ก็พอรู้ว่าเป็นผู้ชายกวน ๆ แต่ไม่คิดว่าจะกวนเก่งขนาดนี้ แสดงว่าเราเริ่มสนิทกันแล้วใช่ไหม “ไปหาไรกินกันเถอะ เธอไม่หิวเหรอ” “หิวสิ แต่โดนกวนซะเกือบหายหิวเลย” ฉันมองค้อน ส่วนเจ้าคนถูกค้อนก็หาได้สนใจ ยักไหล่แบบไม่ทุกข์ไม่ร้อน แถมยังส่งยิ้มกวน ๆ มาให้อีก “บอกแล้วไงว่า” “ห้ามอดข้าว! รับทราบแล้วค่า เข้าใจแล้วค่า” กวนมากวนกลับ ไม่โกง เอาซี้ แต่ผลจากการไปกวนนั้นก็คือ ป๊อก! “โอย ดีดหน้าผากฉันทำไมเนี่ย” “หมั่นไส้คนกวน” “แต่นายกวนฉันก่อนนะ” ฉันประท้วง รอบนี้ดีดแรงด้วย น้ำตาแทบเล็ด “เจ็บนะ” “แดงเลย” “จริง?” แผ่นดินก้มลงมาลูบหน้าผากฉันเบา ๆ “จริง” ปากบอกจริง แต่หน้ากวนมาก ควรเชื่อดีไหมเนี่ย ฉันผลักอกเขาออกเบา ๆ ทั้งค้อนทั้งงอน งอนไปงั้นแหละ สุดท้ายก็ต้องง้อตัวเองอยู่ดี “ฮ่า ๆ ๆ” ในขณะที่ฉันกำลังงอน แต่นายกลับหัวเราะเนี่ยนะ! แต่ถึงอย่างนั้น แค่ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ใจฉันก็เหลวเป็นน้ำแล้วอะ ยายคนใจง่ายเอ๊ย “หิวแล้ว ไปกินขนมจีนกันมั้ย” ที่ถามนี่ กำลังง้อฉันใช่ไหม ง้อด้วยขนมจีนเนี่ยนะ โครกกกกกก เออ! กินก็ได้! “ฉันไม่กินน้ำยาป่านะ” “น้ำยากะทิก็มี” “นายเลี้ยง” “อือ เลี้ยง” “โอเค!” ฉันมันคนใจง่ายจริง ๆ นั่นแหละ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD