และเหมือนอาม่าอากงบนสวรรค์จะได้ยินคำขอของหลานรักคนเดียวที่เหลืออยู่ ทำให้ฉันเห็นป้ายไวนิลที่เพิ่งเอามาติด
[โครงการค่ายจิตอาสาสร้างห้องสมุด จัดโดยคณะเกษตรศาสตร์ ยินดีต้อนรับนักศึกษาจิตอาสาทุกคณะ]
ค่ายจิตอาสาที่ได้ยินแต่ชื่อมาสองปี และพลาดไปทั้งสองปีเพราะติดงานถ่ายแบบแฟชั่น ได้ยินว่าแผ่นดินก็ไปร่วมกิจกรรมนี้ทุกปีเพราะเป็นนักศึกษาเรียนดีกิจกรรมเด่นว่าที่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งของรุ่น ส่วนปีนี้ฉันเองก็คงพลาดไม่ได้ซะแล้วสิ
เอาล่ะท่านอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการจีบหนุ่มแห่งพันติ๊ป ฉันจะลองทำตามอย่างเคร่งครัดเลย หวังว่าจะเป็นกำลังใจให้ฉันสมหวังด้วยนะคะ!
หลายวันต่อมา ฉันเริ่มคิดถึงการเปลี่ยนตัวเอง เพื่อ (แผนการ) ตัวเอง ในวันที่มิ่งขวัญติดเรียนเสริมจนถึงค่ำ ฉันเลยคิดว่าจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการช็อปปิงสักหน่อย แต่ด้วยความที่คุณเพื่อนรักไม่ยอมให้ฉันขี่มอเตอร์ไซต์คนเดียว ก็เลยต้องรอรถประจำทางจากมหาวิทยาลัยเพื่อไปยังตลาดกลางแทน
ตลาดกลางที่ว่าคือลานตลาดที่ใหญ่ที่สุดในตำบลที่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยไปประมาณสิบกิโลเมตร ตอนนี้ฉันกำลังนั่งตัวเกร็งรอรถอยู่ที่ป้ายรอรถประจำทางที่จุดรอรถหน้าประตูมหาวิทยาลัย ส่วนสาเหตุที่นั่งเกร็งก็คือคนข้าง ๆ
แผ่นดินกับน้องคนนั้น! ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอในสถานการณ์แบบนี้ สถานการณ์ที่ฉันอยากจะวิ่งหนีให้เร็วที่สุด เพราะน้องคนนั้นน่ารักเหลือเกิน ทั้งอ้อนทั้งคุยเก่ง แถมเขายังพูดตอบน้องคนนั้นตลอดเลย อยากจะร้องไห้เพราะรู้สึกพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกม ขนาดฉันยังไม่เคยพูดกับเขาเลยสักครั้ง แล้วน้องคนนี้เป็นใคร! ทำไมถึงได้สนิทสนมกันขนาดนี้!
ฉันนั่งรอไปพลาง เหลือบมองคนสองคนที่กำลังคุยกันกระหนุงกระหนิงกันไปพลาง พอจับใจความได้ว่าจะไปตลาดกลางเหมือนกันใจฉันก็เหมือนหล่นวูบลงพื้น พร้อมเหยียบซ้ำด้วยการคิดว่าพวกเขาคงไปเดตกันเป็นแน่ ยายหลา...แกนกแล้วล่ะ พวกเค้าสนิทกันขนาดนี้ คบกันแน่ ๆ คบกันแล้วแน่ ๆ TT
พอรถมาถึงฉันก็ได้แต่เดินคอตกมองคู่รักที่เหมาะสมกันจริง ๆ เดินขึ้นรถไปด้วยกัน ส่วนฉันก็เดินขึ้นตามหลังไปพร้อมสมองอันว่างเปล่า แล้วฉันจะเปลี่ยนตัวเองไปเพื่ออะไร เพื่อไปจีบคนที่มีเจ้าของแล้วน่ะเหรอ หึ… ยายดาหลา ยายหอยทาก ยายเต่าคลาน มัวแต่ส่องเขา เป็นไงล่ะแก โดนน้องคนนั้นคว้าเอาไปแล้วไหมล่ะ
ในขณะที่ฉันกำลังยืนซึมเป็นส้วม ก็รู้สึกว่ามีคนมาสะกิดไหล่ เมื่อเงยหน้ามองก็พบว่าเป็นเขา
ดวงตาที่กลมโตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นไปอีกอย่างไม่คาดคิดว่าจู่ ๆ ประตูแห่งแสงสว่างจะเปิดขึ้นอีกครั้ง ฉันเผลอจ้องหน้าของเขาเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ โลกที่ฉันกับเขากำลังจับมือกันวิ่งเล่นบนทุ่งหญ้ามีเพียงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
“ตรงนั้นว่างนะครับ”
“คะ?” ฉันสะดุ้งเมื่อถูกเสียงของเขาปลุกให้ตื่นจากมโนภาพของตัวเอง
“ที่นั่งครับ”
“อ้อค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันหย่อนตัวนั่งลงตรงที่ว่าง ก่อนจะช้อนตามองเขาตาเยิ้มอย่างลืมตัว
ฉันได้คุยกับเขาแล้ว!!!
ทำไมฉันไม่หยิบมือถือขึ้นมาอัดเสียงช่วงเวลานี้เอาไว้! โง่จริงยายดาหลา ไม่คิด ไม่ฝันมาก่อนเลยว่าอยู่ดี ๆ ก็จะได้คุยกับเขา และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือเสียงฉันที่พูดกับเขามันไม่สั่นด้วย กลับถึงบ้านฉันต้องร้องไห้แน่ ๆ ที่ได้พูดกับเขาตั้งสองประโยค!
คนอะไรอบอุ่นเหมือนดวงอาทิตย์ตอนเช้า ถ้ามีเขาเป็นดวงอาทิตย์ก็คงจะดี จะนั่งมองทุกวัน ถึงตาบอดก็ยอม เพื่อเจ้าชายไมโครเวฟของฉัน!
แต่เมื่อมองเห็นคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หัวใจมันก็แฟบลงเหมือนล้อรถที่เหยียบโดนตะปู
“พี่คะ”
น้องคนนั้นอยู่ ๆ ก็หันมาเรียกฉัน ส่วนฉันน่ะเหรอ ก็ต้องยิ้มสิ ยิ้มด้วยรอยยิ้มประดุจนางสาวไทยผู้รักเด็ก ต่อหน้าคนที่ชอบจะให้มองเหวี่ยงเหมือนนางอิจฉาในละครหลังข่าวได้อย่างไร
“คะ น้อง…” ด้วยความที่ไม่รู้จักชื่อและกะจะถามไปแบบเนียน ๆ ถ้าเป็นเด็กปีหนึ่งก็มักจะแนะนำตัวขึ้นก่อน
“น้องชื่อเพียงฟ้าค่ะ เรียกฟ้าเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ ฟ้าอยู่คณะเกษตรศาสตร์ปีหนึ่ง พี่คือพี่ดาหลา รุ่นพี่ปีสามที่ถ่ายนิตยสารเล่มนี้ใช่ไหมคะ!”
อยู่ ๆ น้องฟ้าก็ยื่นนิตยสารของคณะศิลป์ประยุกต์ให้ฉัน เป็นนิตยาสารแฟชั่นที่ร่วมมือกันสองคณะเพื่อโปรโมทงานแสดง ธีสิสประจำปี และคนบนหน้าปกนั้นก็คือฉันเอง… แต่นั่นมันเมื่อสามปีที่แล้ว หลังจากที่ฉันได้เป็นดาวมหาวิทยาลัย จะว่าไปที่บ้านฉันก็มีเก็บอยู่เล่มนึง แล้วน้องคนนี้ไปได้มาจากไหน
“ใช่ค่ะ…” ฉันตอบเสียงเบาหวิว
“ใช่พี่จริง ๆ ด้วย เห็นมั้ยพี่ดิน ฟ้าบอกแล้วว่าฟ้าจำได้”
ฉันแอบเหลือบมองเขาเจ้าของชื่อที่ถูกน้องคนนี้เรียกอย่างสนิทสนม ดูจากสีหน้าผ่อนคลายเวลาคุยกันของพวกเขาทำให้รู้สึกว่าสนิทกันมาก ว่าแต่ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนถูกเหวี่ยงออกจากวงโคจรได้ขนาดนี้ล่ะ จะว่าไปพวกเขาก็หน้าตาคล้ายกันดี ว่ากันว่าเนื้อคู่กันหน้าตาก็มักจะคล้ายกันนี่นะ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ได้ขนาดนี้วะ อยากหนีไปจากตรงนี้จริง ๆ แต่ก็ลงไม่ได้เพราะข้างทางมันเป็นป่า โคตรจะเวทนาตัวเองเลย