บทที่ 9 ห้ามไปยิ้มหรือคุย

1552 Words
"ทำไม" น้ำเสียงไม่พอใจจากร่างสูงทำใบข้าวใจเต้นตุ่มๆต่อมๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่พอใจ เพราะเรื่องในคืนนั้นมันก็เหมือน One night stand ทั่วๆไป ไม่ใช่หรอ "ฉันมีแฟนแล้วค่ะ" ใบข้าวเลือกที่จะโกหกคำโต เพื่อให้อีกฝ่ายเลิกวุ่นวายเรื่องนี้สักที "หึ แต่แฟนเธอดันไปเอากับผู้หญิงคนอื่นไม่ใช่หรอ" ดวงตาสวยเบิกกว้าง เมื่ออีกคนรู้เรื่องนี้ ใบข้าวตวัดสายตามองร่างสูงที่กำลังมองเธออยู่เหมือนกัน "คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้ม คนอย่างเขา ถ้าอยากรู้เรื่องใคร มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งเป็นคนที่เขาสนใจด้วยแล้ว เขาไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่ "ฉันยังยืนยันคำเดิมนะ ว่าฉันอยากได้เธอมาเป็นคู่นอน" "คุณเจคอบ!" "ฉันไม่ได้จะให้เธอมานอนด้วยฟรีๆสักหน่อย สำหรับเธอฉันพร้อมจ่ายไม่อั้น" "นี้เป็นวิธีตามตื้อผู้หญิงของคุณหรอคะ?" "ปกติฉันไม่เคยทำแบบนี้กับใคร เพราะคนอื่นแค่ฉันเรียก ก็พร้อมจะอ้าขาให้ฉันอยู่แล้ว" "งั้นคุณก็ไปเอาผู้หญิงที่พร้อมจะอ้าขาให้คุณเถอะค่ะ! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงในสต็อกของคุณ แค่เรามีอะไรกันครั้งเดียว อย่าคิดว่าสิทธิจะพูดจาอะไรกับฉันก็ได้" ใบข้าวพยายามใช้น้ำเสียงให้นิ่งที่สุด เพราะไม่อยากฟิวส์ขาด ทะเลาะกับคนตรงหน้า ถึงยังไงเขาก็ยังมีสถานะเป็นเพื่อนของเจ้านายเธอ และตอนนี้มีสถานะเป็นเจ้านายที่เธอต้องทำงานด้วย แต่ดูคำพูดคำจาของผู้ชายคนนี้สิ ไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลยสักนิด ใบข้าวรู้สึกว่าตัวเองพลาดมาก ที่เผลอไปมีอะไรกับผู้ชายหยาบคายคนนี้ ผิดพลาดอย่างแรง เจคอบที่เห็นแบบนั้น ไม่รอช้าที่จะดึงอีกฝ่ายเข้ามาจูบอย่างดุดัน แบบที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างเอาแต่ใจ ตอนแรกใบข้าวพยายามเม้มปากไว้ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามา แต่สุดท้ายก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะเขาทั้งขบ-กัด จนเธอต้องเผยอปากให้อีกฝ่าย ได้แทรกลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระวัดรัดลิ้นเล็กอย่างดุดัน หายใจแทบไม่ทัน รสชาติจูบที่เต็มไปด้วยอารมย์โมโห ทำให้ริมฝีปากเล็กบวมเจ่อ จากการรุกรานที่เอาแต่ใจของร่างสูง "แฮกๆๆ" ริมฝีปากหนาที่ผละออกเพื่อให้ร่างบางมีโอกาสหายใจ น้ำใสๆที่ยืดเป็นเส้นยามริมฝีปากผละออกห่าง เสริมให้อีกฝ่ายดูเซ็กซี่ จนใบข้าวอดเคลิ้มไม่ได้ "ฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง ใบข้าว" น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบบอกทำใบข้าวได้สติ ดวงตาแข็งกร้าวขึ้นอย่างไม่ชอบใจ "...." "ถ้าฉันอยากได้อะไร ฉันก็ต้องได้ ไม่เว้นแม้เธอ" "แล้วถ้าฉันไม่ยอม" มือหนาอีกข้างเลือนมาบีบคางเธอไว้ อย่างถือสิทธิ์ "ปกติฉันไม่ชอบบังคับใคร แต่ถ้าเธอยังดื้อ ก็คงต้องบังคับกันหน่อย" "...." "อีกอย่างฉันไม่ชอบคนดื้อ" ไม่ชอบคนดื้อแล้วจะมายุ่งกับฉันเพื่อ? ในใจใบข้าวอยากจะตะโกนใส่หน้าให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ก็ไม่ทำ เพราะมันจะเป็นการยั่วอีกฝ่ายให้โกธร ใบข้าวเลือกจะเงียบ หันหน้าหนีอีกฝ่าย ร่างสูงที่เห็นแบบนั้นจึงปล่อยหญิงสาวจากพันธนาการ กลับมาตั้งใจขับรถ ตรงไปยังสนามบิน ถึงยังไงเขาก็ยังมีเวลาอีกมากที่จะกำราบแมวดื้อ ถึงใบข้าวจะไม่ได้ต่อต้านออกมาตรงๆ แต่เธอเลือกที่จะเมินหรือทำตรงกันข้ามกับคำสั่งเขาแน่นอน .... ตลอดเวลาทำงานวันนี้ ใบข้าวพูดกับอีกฝ่ายน้อยมาก เพราะเธอยังโกธรที่เขาพูดกับเธอแบบนั้น เธอยอมรับจากใจเลยว่าไม่ชอบ สิ่งที่เขาทำกับเธอ มันเหมือนการบังคับกันกลายๆ ซึ่งเธอไม่ชอบเอามากๆ แต่ก็ต้องเแยกแยะ ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว "สวัสดีครับ" เสียงใครบ้างคนเอ่ยขึ้นขณะพักเที่ยง ใบข้าวหันไปตามเสียงเห็นเป็นหนุ่มหน้าตาคนหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในกรรมการของโรงแรม ตำแหน่งการตลาดหรืออะไรสักอย่าง ที่เพิ่งเข้าประชุมด้วยกันไปเมื่อเช้า "สวัสดีค่ะ คุณยุทธนา" "จำชื่อผมได้ด้วย ทานข้าวคนเดียวหรอครับ?" "ค่ะ" "งั้นผมขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับคุณใบข้าว?" ใบข้าวไม่ได้ปฎิเสธ ชายหนุ่มจึงนั่งลงอีกฝั่งของโต๊ะอาหารในโรงแรม "คุณใบข้าวทำงานกับท่านประธานมานานแล้วหรอครับ?" คำถามจากชายตรงหน้าทำใบข้าวแปลกใจ เพราะเมื่อเช้าประธานเจคอบก็แนะนำเธอไปแล้วนะ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก "ดิฉันมาทำหน้าที่เลขาให้ท่าน เฉพาะที่ท่านมาทำงานที่ไทยช่วงนี้นะคะ" ถึงใบข้าวจะไม่พอใจท่าทางของท่านประธานเจคอบก็จริง แต่เธอก็แอบหาข้อมูลของเขามาไม่น้อย เจ้าของโรงแรมหรูหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ ลูกครึ่งไทย-จีน-อิตาลี พ่อเป็นคนอิตาลี แม่เป็นลูกครึ่งไทย-จีน ความหล่อไม่ต้องพูดถึงได้พ่อกับแม่มาเต็มๆ รวยโคตร เก่งทั้งด้านบริหาร-และการจัดการ มีการออกสื่อบ้างแต่ไม่เยอะ นับจำนวนได้เลย นั้นแหละนิยามของผู้ชายที่ชื่อเจคอบ ส่วนเรื่องความรัก เห็นมีข่าวว่าเคยคบสาวไทยอยู่ครั้งหนึ่ง ก่อนเลิกรากันไป ฝ่ายหญิงไปแต่งงานกับมหาเศรษฐีอังกฤษ จากนั้นท่านประธานเจคอบก็ไม่เคยคบกับใครอีกเลย "มิน่า ผมถึงไม่เคยเห็นคุณใบข้าวมาก่อนเลย" ใบข้าวทำเพียงยิ้มบางๆตอบ "แต่ปกติท่านจะมาพร้อมกับเลขาท่านตลอดนะครับ หรือว่ารอบนี้จะมาที่ไทยไม่นาน เลยไม่เอาเลขามาด้วย" คำถามที่ดูซอกแซกเกินไป ทำให้ใบข้าวรู้สึกไม่โอเค "ดิฉันไม่ทราบเรื่องของเจ้านายหรอกคะ" คำพูดของเธอเหมือนจะเป็นตัวกระตุ้นให้อีกฝ่ายรู้ตัว ว่าควรเปลี่ยนเรื่องพูด "เอ่อ จะว่าไปคุณใบข้าวทำงานเก่งมากๆเลยนะครับ บอรด์ผู้บริหารชมคุณใบข้าวชุดใหญ่เลยนะครับ ผมก็ชอบเวลาที่คุณข้าวทำงานมากๆเลยครับ" "ขอบคุณค่ะ" "ถ้าท่านประธานไม่ได้จ้างคุณใบข้าวทำงานต่อ ผมยินดีต้อนรับคนเก่งๆอย่างคุณข้าวนะครับ" น้ำเสียงกระลิ้มกระเลีย และสายตามีเลศนัยของอีกฝ่าย ทำใบข้าวกระอักระอ่วน ด้วยอีกฝ่ายมีตำแหน่งใหญ่พอตัว เธอจึงแสดงท่าทางออกมาไม่ได้ แต่ยังไม่ทันที่ใบข้าวจะได้ตอบกลับอะไร เสียงทุ้มทรงอำนาจก็ดังขึ้นจากด้านหลัง "คุณใบข้าว ตามผมมาที่ห้อง" เสียงท่านประธานจำเป็นเอ่ยกับเธอ เหมือนหงุดหงิดอะไรมา ก่อนจะเดินนำออกไป ทำเอาเธอกับชายหนุ่มอีกคนเหวอตามๆกัน "ถ้างั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ" ใบข้าวที่ก้มมองนาฬิกาข้อมือพร้อมเอ่ยปากลาอีกคน ก่อนรีบสาวเท้าตามร่างสูงที่หายเข้าไปรอในลิฟต์ก่อนแล้ว ประตูลิฟต์ปิดลงเมื่อใบข้าวแทรกตัวเข้ามาพอดี ก่อนจะเดินไปซ้อนหลังร่างสูง ที่ยืนหน้าตึงอยู่ในลิฟต์ด้วย ใบข้าวไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปอารมณ์เสียมาจากไหน เธอจึงพยามยามไม่ทำตัวให้รำคาญสายตา แต่จู่ๆร่างสูงก็หมุนตัวกลับมาประจันกับเธอ แววตาไม่พอใจ "คุยอะไรกัน" น้ำเสียงไม่พอใจ ทำใบข้าวขมวดคิ้ว เขาหมายถึงคุณยุทธนาใช่มั้ย "ก็..คุยเรื่องทั่วไปนะคะ" "แล้วทำไมต้องยิ้มให้มันด้วย" ใบข้าวถึงกับงง แค่ยิ้มให้เฉยๆเอง "ยิ้มเป็นมารยาทค่ะ" "ห้ามไปยิ้มหรือคุยกับไอ้หมอนั้นอีก" ฉันมองร่างสูงตรงหน้าตรงๆ ด้วยเขากำลังทำตัวไม่มีเหตุผล หน้าที่ของเธอคือเลขา การประสานกับแผนกอื่นๆ จึงเป็นเรื่องที่เธอเลี่ยงไม่ได้ การจะห้ามไม่ให้เลขาไปคุยหรือประสานงานกับแผนกต่างๆ คงเป็นไปไม่ได้ "ดิฉันจะพยายามค่ะท่าน แต่ดิฉันอยากให้ท่านเข้าใจ แต่หน้าที่ของดิฉันต้องประสานงานกับแผนกต่างๆ เพื่อให้งานของท่านสำเร็จตามเป้าหมาย ถ้ามีความจำเป็นต้องคุยกัน ดิฉันก็อยากให้ท่านเข้าใจตรงจุดนั้นค่ะ" ใบข้าวเลือกที่จะคุยกับอีกคนด้วยเหตุผล และใจเย็นที่สุด เธอไม่ได้ปฎิเสธออกมาตามตรงๆ ดวงตาสวยสบตากับชายหนุ่มลูกครึ่งตรงหน้า เจคอบที่เห็นแบบนั้นอยากจะกำราบความดื้อของคนตรงหน้า เขาเข้าใจว่าหน้าที่ของเลขาคืออะไร แต่เขาไม่ชอบใจที่มีผู้ชายคนอื่นมายุ่งกับเธอ ---ツ---
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD