ตอนที่7

1523 Words
“ให้ตายสิ ท่านก็รู้นี่ครับว่าไม่ควรทำเขาอีก จะว่าห้ามใจไม่ไหวเพราะผูกพันธะกันก็ไม่ใช่ ต่อให้ถูกกัดตอนท่านรัท แต่เขาก็เป็นเบต้า ผมรู้ท่านมีสติดี แถมไม่มีทางที่เขาปล่อยฟีโรโมนออกมายั่วยวนท่านได้” เลขาภูยังบ่นไม่เลิกทั้งทำแผลรอยกัดให้นิมที่นอนสลบเหมือดบนโซฟาไปพลาง เฮเว่นไม่ได้แก้ตัวกับเลขาช่างเจ้ากี้เจ้าการของเขา เพราะขณะที่ทำเขาก็ไม่ได้รัทหรือควบคุมตัวเองเสียหน่อย แค่มันอยาก และการแก้แค้นให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็รู้สึกสนุกสะใจดีราวกับอยู่ในช่วงวัยแหกคอกเท่านั้น ก็นะ ไม่เคยมีใครกล้าง้างมือมาที่เขาเลยสักครั้ง แล้วเจ้านี่กล้าดียังไงมาต่อยเขา ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่เผลอตีเจ้าเด็กนี่ งั้นคงได้เข้าโรงพยาบาลอีกรอบ ที่ยั้งมือไม้ไว้เพราะปราณีเห็นว่าเพิ่งจะฟื้นไข้หรอกนะ “อย่าบอกนะครับ ว่าเกิดติดใจขึ้นมา” เลขาขยับแว่นมองลึก ส่งสายตาเอกซเรย์ผ่านเลนส์แว่นใส “กับเด็กนี่น่ะหรือ ไม่มีทางซะล่ะ” บอสหนุ่มบอกพร้อมพ่นควันซิการ์ที่สูบเข้าไปออกมากลุ่มใหญ่ แล้วขยับตัวหมุนเก้าอี้หนังที่นั่งอยู่ พาตัวเองหันไปมองภาพเมืองหลวงสวยงามผ่านกระจกนิรภัยอย่าไม่ทุกข์ร้อน “เรากำลังดูอาการเขาอยู่นะครับ ท่านกำลังทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น” ภาคภูมิบ่นเจ้านายที่โตมาด้วยกัน “ฉันไม่ได้รัท” เฮเว่นอธิบายแก้ตัวสั้นๆ ว่าฮอร์โมนพิเศษในร่างกายเขาไม่ได้ทำงานในช่วงเวลาเมื่อครู่นี้ “แต่ปล่อยใน” “เจ้าเด็กนั่นเป็นเบต้า” “แต่ท่านไม่ใช่อัลฟ่าทั่วไปนะครับ” “ฉันไม่ใช่พระเจ้านะเลขาภู ฉันเปลี่ยนเพศเขาหรือทำเขาท้องไม่ได้” บอสหนุ่มบอกไม่สนใจสำนึกผิด เลขาภูมิจึงเลือกที่จะหยุดประเด็นนี้ไว้เพียงเท่านี้ ก่อนจะตรวจสอบเด็กหนุ่มที่นอนไม่ได้สติ เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายเขาไม่ต้องการหมอจริงๆ “แล้วเขามาพบท่านด้วยเรื่องอะไรหรือครับ” “มันเอานี่มาคืน” เฮเว่นว่าพร้อมโยนการ์ดแข็งสีดำส่งให้ “และบอกต้องการมากกว่า” “ผมบอกให้เขารอก่อนแล้วนี่” เลขาภูมิพึมพำไม่เข้าใจ และไม่เชื่อว่านิมจะเข้ามาเพื่อแบบนั้น แบล็กการ์ดวงเงินไม่จำกัด ไม่จำกัดนะเออ ก่อนชายหนุ่มจะขยับแว่นสายตาทรงกลมให้เข้าที่ แล้วหยิบไอแพดออกมาปาดๆ ถูๆ หน้าจอเช็กข้อมูลบางอย่าง สักครู่ก็ได้คำตอบ “อา…เขาใช้ไม่เป็นสินะ” เลขาภูมิพึมพำพร้อมแปลกใจหนักที่ได้รู้ว่า มีคนอายุ20ปีที่ไม่รู้จักการใช้งานของบัตรเคดิตการ์ดด้วย “หึ เจ้าโง่” เฮเว่นว่าพร้อมขำเสียงมีเสน่ห์ในลำคอ กับความเซ่อซ่าของนิมที่พาตัวเองมาซวยอีกรอบ ภายในรถ “1เดือนครับ ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ คุณจะได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวนเงิน50ล้าน ข้อตกลงที่เหลือก็เป็นไปตามที่ระบุในสัญญาเลยครับ” เลขาภูมิอธิบายคร่าวๆ และให้เงินสด2แสนบาทแก่นิมเพื่อชดเชยขณะรอ แทนบัตรแบล็กการ์ดที่เคยให้ไว้ใบเก่า นิมคิดเสียดายที่ไม่ได้ใช้บัตรนั่นแก้แค้นเฮเว่นให้ถังแตก ชายหนุ่มนึกถึงวิธีใช้เงินแบบต่างๆ ว่าถ้าเอาไอ้บัตรที่มีเงินไม่จำกัดนั่นไปรูดซื้อทองทั้งร้านแล้วเอามาขาย หรือพวกของมีค่าอื่นที่เปลี่ยนเป็นเงิน ซื้อหม้อหุงข้าวแจกคนทั่วประเทศ อย่างน้อยคงทำให้เฮเว่นขนหน้าแข้งร่วงได้บ้าง แล้วพาลโกรธไอ้แว่นเลขาคนนี้ไปด้วย ที่ไม่ได้บอกวิธีใช้งานแก่เขา จนนิมต้องเจ็บตัวเจ็บใจซ้ำสอง แถมถูกเฮเว่นหัวเราะเยาะอีก “ผมไม่เข้าใจ ทำไมต้องให้รอถึงเดือน จะจ่ายก็จ่ายเลยดิ ยื้อเพื่ออะไรวะ” ใช่ เพราะเขาอยากตัดขาดกับคนพวกนี้เต็มทีแล้ว ไม่อยากพบหน้าไม่อยากเจออีก “ก็ตามที่ระบุในสัญญานั่นยังไงล่ะครับ” เลขาภูมิบอกปัดไม่ตอบทั้งที่รู้ว่านิมไม่ได้อ่านสัญญาเลยแม้แต่น้อย และนั่นก็ดีแล้ว เพราะเขาก็ต้องการอย่างนั้น นิมเองก็ไม่กล้าบอกว่าเขาไม่ได้อ่านสัญญา เพราะกลัวว่าถ้าบอกแบบนั้น เฮเว่นอาจจะเล่นไม่ซื่อแก้ไขสัญญาชดใช้ค่าเสียหายนั่นก็ได้ รถลีมูซีนสีดำหรู จอดอย่างนิ่มนวลที่หน้าบ้านบ้านไม้สองชั้นหลังหนึ่งข้างรั้วพวงแสด “อย่าให้ผมต้องไปทวงอีกแล้วกัน” นิมบอกแก้เก้อ ทำเป็นวางมาดขู่ก่อนจะก้าวลงจากตัวรถด้วยทำทีว่าร่างกายโอเค จวบจนรถยนต์หรูแล่นเลยผ่านระยะสายตาไป ร่างสันทัดจึงก้มเดินงอตัวและขยับแยกขาให้ถ่างออกเข้าบ้าน “ไอ้เวรตะไร เหี้ยแม่ง” นิมสบถด่าน้ำตาคลอ และยังไม่ทันเปิดประตูออกจนสุด “นั่นรถบอสหรือเปล่าวะ” เสียงไอ้หนูสร้างความแตกตื่นให้ใจดวงน้อยๆ ของนิมได้มากพอสมควร ใบหน้าหล่อน่ารักอย่างผู้ชายจึงค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปมองสำรวจแขกไม่ได้รับเชิญ ก็เห็นชายร่างผอมมองอย่างสนใจออกไปนอกหน้าต่าง และปรากฏว่าไม่ได้มีแค่ไอ้หนูคนเดียวที่มาเยี่ยมเยือน ยังมีไอ้ชายและไอ้แมนด้วยอีกคน นิมรีบปาดเช็ดคราบน้ำตาก่อนที่พวกมันทั้งสามจะเบนความสนใจจากรถคันงานมายังเขา “มาไงวะ” นิมเอ่ยทักอดีตเพื่อนร่วมงานที่ล้วนอายุมากว่า “ยายอิ่มบอกกูว่ามึงถูกตีน เป็นไงบ้างวะ” ไอ้หนูถามพร้อมเคี้ยวกินผลไม้ที่พวกมันซื้อมาฝากอย่างไม่มีความเกรงอกเกรงใจ “ดีขึ้นแล้ว” นิมหลบสายตาตอบ “หายห่าอะไร เดินอย่างกับคนจะตาย” ไอ้แมนว่าพลางเดินเข้ามาประคองร่างชายที่ตัวเล็กกว่าไปยังที่นั่ง “แล้วทำไมต้องลาออกกะทันหันด้วยวะ พวกกูตกใจหมด นึกว่าเป็นห่าอะไร” ถึงทีไอ้ชายซักบ้าง “เปล่า…” นิมลากเสียงยาวนึกคำแก้ตัว “ออกมาเรียนน่ะ” “เรียน? มีตังค์?” ไอ้หนูถามเสียงสูงเหมือนไม่เชื่อ “เออสิวะ ไม่มีกูจะออกมาหรอ” นิมแก้ตัวไปเหงื่อตกไป ไอ้แม่ย้อยครับ คนยิ่งอยากพัก ดูทรงพวกแม่งไม่กลับกันง่ายแน่ ยิ่งมีไอ้หนูปากมาก ที่ช่างสรรหาเรื่องมาเล่า ไม่ก็สร้างความบันเทิงเล็กๆ ในกลุ่มเพื่อนจนไม่มีใครอยากกลับแบบนี้ด้วยแล้ว ผมตายแน่ นิมท้อใจเมื่อนึกสภาพว่าต้องอยู่ทำตัวเป็นปกติกับกลุ่มเพื่อน ทั้งที่ร่างกายและจิตใจบอบช้ำมากอย่างนี้ “ไอ้เหี้ยมึงหยุดกินสักที ของเยี่ยมนะโว้ยของเยี่ยม” แมนบอกปรามแล้วแย่งถุงขนมมาจากมือหนู “ก็กูหยุดปากไม่ได้” ไอ้หนูบอกมองตาเขียวใส่ แต่ด้วยความที่ตัวผอมแห้งเลยไม่กล้าแย่งถุงขนมคืนจากชายร่างกล้ามปู คงเพราะมันเคยติดยา มันเลยมีอาการอยู่สุขไม่ได้ ต้องได้พูด ไม่ก็แทะเม็ดแตงโมนี่ล่ะ เออ ใช่ งั้นก็แค่หันความสนใจพวกมันจากผม นิมอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครมอง รีบหยิบแบงก์พันออกมาจากกระเป๋ามาสองใบ “เอานี่ เบียร์กับเนื้อย่าง” นิมว่าพร้อมวางเงินยังไม่ทันจะถึงที่โต๊ะ ไอ้หนูก็คว้าดึงจากมือนิมไปด้วยความเร็วเพียงชั่วกะพริบตาเท่านั้น แต่ก่อนที่มันจะวิ่งแจ้งไป มือใหญ่ก็กำรวบเสื้อเชิ้ตตัวบางของไอ้หนูแน่น แล้วหิ้วมันกลับมาก่อนจะดึงเงินในมือไป “กูไปตลาดเอง” ไอ้แมนว่า ไอ้หนูมองเงินที่ถูกไอ้แมนดึงไปเหมือนหิวเต็มที อย่างน้อยเงินสองพันก็พอจะเจียดซื้อยาได้สักเม็ด “กูจะตั้งเตารอ” ไอ้ชายบอกอย่างรู้งานก่อนจะเดินไปหลังบ้านเพื่อหาอุปกรณ์ ชายหนุ่มหุ่นหมีหยิบผ้ากันเปื้อนที่แขวนอยู่หน้าครัวมาสวมใส่ รู้หมดว่าอะไรอยู่ที่ไหนทั้งที่เคยมาแค่ไม่กี่หน ทำทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่วเหมือนว่าเป็นบ้านตัวเอง นิมมองด้วยความทึ่ง “ส่วนมึงไอ้ห่าหนู ไปช่วยกูถือของ” ไอ้ชายกำรวบคอผอมๆ ของไอ้หนูให้เดินตามไป แน่นอนว่านิมผู้ออกเงินไม่ต้องทำห่าใดๆ ทั้งสิ้น เขาจึงร้องบอกให้ชายรู้ว่าจะไปอาบน้ำสักหน่อย ก่อนจะเดินลากสังขารขึ้นห้อง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD