bc

ภรรยาปลาเค็มของท่านแม่ทัพ

book_age12+
758
FOLLOW
2.9K
READ
HE
second chance
sweet
like
intro-logo
Blurb

หลี่หลิน ตายด้วยน้ำมือสุ่ยอวิ๋นเหอมาแล้วถึงห้าชาติ สวรรค์ลิขิตให้นางเป็นผู้แพ้ชาติแล้วชาติเล่า ส่งนางกลับมาเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก

สวรรค์ลิขิตให้นางเป็นผู้แพ้มาแล้วถึงห้าชาติ! เอาเถิด...มาถึงชาติที่หกนี้นางคิดอย่างปลงตกและปล่อยวาง ไม่เคียดแค้นเอาคืนผู้ใด จะนอนเป็นปลาเค็มอยู่ในเรือน เจ้าอยากลงมือกับข้าเมื่อใดก็เชิญเลย!

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 เกิดใหม่ครั้งที่หก
เช้านี้อากาศปลอดโปร่งแจ่มใสหลังอึมครึมมาหลายวัน แสงแดดอ่อนสาดส่องกระทบพื้นหิมะขาวโพลน หิมะหยุดตกได้พักใหญ่แล้ว เสียงนกกระจิบร้องด้านนอกทำให้ ‘หลี่หลิน’ รู้สึกตัว เกิดใหม่ครั้งที่หก...ชาติที่หก... หลังจากตาย นางก็จะฟื้นคืนชีพในร่างนี้ บนเตียงนี้และเวลานี้  ทุกครั้งที่หลี่หลินลืมตาตื่น ดวงตาคู่งามเต็มไปด้วยประกายของไฟแค้น ในใจนางมีแต่เพลิงแค้นและความชิงชัง แต่ท้ายที่สุดนางก็ไม่อาจเอาชนะสุ่ยอวิ๋นเหอได้เลยสักครั้ง  นางเคยปรารถนาแก้แค้นเอาคืนสุ่ยอวิ๋นเหอให้สาสมใจ แต่มาถึงชาติที่หกนี้ นางคิดได้อย่างถ่องแท้ นางปลงตกและคิดจะปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว จะเกิดอะไรก็เกิดเถอะ “ฮูหยิน ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ท่านหิวหรือยัง หากหิวแล้วข้าจะได้ให้คนตั้งโต๊ะตอนนี้เลย” เสี่ยวจู เป็นสาวใช้คนสนิทจากบ้านเดิม นางได้ยินเสียงเคลื่อนไหวภายในห้องจึงเข้ามาดู หลี่หลินขานรับในลำคอ “อือ” หลังจากล้างหน้าบ้วนปากและเปลี่ยนเสื้อผ้า หลี่หลินก็มานั่งทานมื้อเช้าที่ห้องโถง กระถางไฟมีอยู่ทุกมุมห้องช่วยคลายหนาวได้อยู่บ้าง บนโต๊ะกลมมีผลไม้โปรดของนางและโจ๊กรังนกที่เย็นชืดแล้ว หากหลี่หลินไม่ใส่ใจ นางตักโจ๊กรังนกเข้าปากคำแล้วคำเล่า  บ่าวรับใช้ต่างมองหน้ากัน โดยเฉพาะหลานเอ๋อร์ นางเม้มริมฝีปาก หัวคิ้วขมวดมุ่น แปลกใจกับกิริยาท่าทางของฮูหยิน  หลี่หลินในเมื่อก่อน นางไม่ชอบทานอาหารที่เย็นชืด อาหารทุกอย่างต้องร้อนจนมีไอร้อนลอยขึ้น แบบที่ว่าจะเข้าปากต้องเป่าสองนาน ไม่เช่นนั้นนางจะโวยวายจนบ่าวในครัวหัวหมุน   หลี่หลินเป็นคนอารมณ์ร้ายและเอาแต่ใจ ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกใบนี้ อาจเพราะนางเป็นลูกคนเล็ก ถูกบิดามารดาเลี้ยงแบบตามใจจนเสียคน นางอยากได้อะไรย่อมต้องได้ ไม่พอใจก็จะอาละวาดและชอบทุบตีบ่าวไพร่ในจวนเป็นประจำ  แม้แต่งงานออกเรือนแล้วนิสัยนางก็ยังเป็นเช่นเดิม  บ่าวไพร่ในจวนแม่ทัพล้วนไม่มีใครชอบนาง แม้กระทั่งหยางจิ้งเสวียนผู้เป็นสามี ปีหนึ่งนับครั้งได้ที่เขาจะควบม้ากลับจวน ทั้งที่ค่ายประจำการก็อยู่ใกล้เพียงข้ามเขาลูกเดียว  แต่หลี่หลินก็หาได้ใส่ใจ วันๆ นางหมกมุ่นแต่กับสมบัติอัญมณีล้ำค่า นางถลุงทรัพย์สินในคลังเบิกจ่ายใช้เงินเป็นว่าเล่น ใช้เงินประหนึ่งโยนข้าวเปลือกให้ไก่กิน   “ฮูหยิน เอ่อ โจ๊กดูไม่ร้อนเท่าไร อุ่นสักนิดดีหรือไม่เจ้าคะ” หลานเอ๋อร์เอ่ยทักด้วยน้ำเสียงประหม่า นางเกลียดบ่าวคนหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ในครัว จึงตั้งใจยกโจ๊กเย็นชืดขึ้นโต๊ะ ที่สำคัญนางแอบโรยขิงใส่โจ๊กถ้วยนั้น รู้ดีว่าฮูหยินไม่ชอบกินขิง นางหวังให้ฮูหยินหัวเสียและลงโทษทุบตีบ่าวคนนั้นเหมือนเช่นที่ผ่านมา   “...ไม่ล่ะ” หลี่หลินตอบอย่างไม่ใส่ใจ นั้นทำให้หลานเอ๋อร์รู้สึกหงุดหงิดจนต้องก้มหน้าซ่อนความไม่พอใจ  หลังมื้อเช้าเสร็จสิ้น หลี่หลินก็กลับเข้าห้องไปนอนต่อ นางซุกตัวในผ้านวมผืนใหญ่ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เสี่ยวจูสังเกตได้ว่าฮูหยินดูแปลกไป ด้วยความเป็นห่วง นางจึงเข้ามาถามไถ่ ว่าเจ็บปวดตรงไหนหรือไม่ หลี่หลินที่ห่อตัวเหมือนรังไหมโผล่มาให้เห็นเพียงใบหน้าเล็กๆ นางตอบเสี่ยวจูด้วยน้ำเสียงเกียจคร้าน “ข้าสบายดี” หญิงสาวตื่นอีกทีก็บ่ายคล้อยแล้ว นางอยากกินบะหมี่ไก่ฉีกซดน้ำร้อนๆ คลายหนาว จึงให้เสี่ยวจูไปสั่งคนในครัวทำให้  ไม่นานสาวใช้รูปร่างผอมบางคนหนึ่งก็ยกบะหมี่ไก่ฉีกเข้ามาให้ นางชื่อหรงผิง หรงผิงมีอาการมือสั่นเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าฮูหยิน นางเป็นคนซุ่มซ่าม ทำอะไรไม่ค่อยรู้จักระมัดระวัง จึงถูกหลี่หลินด่าทอทุบตีอยู่บ่อยครั้ง  เมื่อหลี่หลินเงยหน้าขึ้นสบตา มือหรงผิงก็พลันอ่อนยวบคว่ำชามบะหมี่เสียอย่างนั้น น้ำบะหมี่ร้อนๆ กระเซ็นโดนผิวขาวดุจหิมะของหลี่หลินจนเป็นรอยแดง  บ่าวรับใช้ที่ทำงานอยู่แถวนั้นเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี ต่างก็พากันอุทานเสียงหลงในใจ พวกนางรับรู้ถึงชะตากรรมของสาวใช้หรงผิง  หรงผิงรีบคุกเข่าโขกศีรษะกับพื้นจนพื้นสะเทือนเลื่อนลั่น น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม ตัวนางสั่นงันงกเหมือนลูกนกตกน้ำ หวาดกลัวฮูหยินจะทุบตีจับใจ  “...ไปทำมาให้ข้าใหม่” ทว่าหลี่หลินกลับโบกมือให้อย่างเกียจคร้าน นางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับที่แขนตัวเองเบาๆ และถอนหายใจ หากเป็นเมื่อก่อน สาวใช้หรงผิงคงโดนหลี่หลินอาละวาดใส่แล้ว  “เจ้าไม่ได้ยินหรือ รีบไปทำมาให้ฮูหยินใหม่สิ” เสี่ยวจูเองแม้แปลกใจกับท่าทางของฮูหยิน แต่นางก็มีสติดี รีบเข้าไปกระซิบบอกหรงผิงที่นั่งตัวสั่นหมอบอยู่บนพื้น   “จะ...เจ้าค่ะ...เจ้าค่ะ” หรงผิงรีบรับคำ แล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในครัวทันที  พฤติกรรมที่ดูแปลกไปนี้ทำให้บ่าวไพร่ในจวนต่างจับกลุ่มนินทาพูดถึง สามสี่วันมานี้ฮูหยินดูแปลกประหลาดเหมือนไม่ใช่คนเดิม นางมักเก็บตัวอยู่ในห้องไม่ออกไปไหน ทั้งที่เมื่อก่อนต่อให้ฟ้าจะถล่มทลายนางก็ต้องออกจากจวนเสียให้ได้ เพื่อไปผลาญเงินเล่น  เสี่ยวจูที่ติดตามรับใช้ฮูหยินมานานนม นางเริ่มไม่สบายใจที่เห็นฮูหยินเอาแต่นอนทั้งวันทั้งคืนไม่ทำอะไร จึงไปปรึกษาพ่อบ้านตู้ กังวลว่าฮูหยินอาจป่วยเป็นโรคร้าย  พ่อบ้านตู้นั้นไม่ชอบนายหญิงคนนี้อยู่แล้ว เขาจึงรับปากส่งๆ ว่าจะตามท่านหมอมาตรวจดูอาการให้  หลี่หลินเอาแต่นอน นางรู้สึกเบื่อหน่ายแต่ก็ไม่อยากทำอะไรเช่นกัน สุดท้ายแล้วอย่างไรก็ต้องตาย มีอยู่ชาติหนึ่ง ซึ่งนางเองก็จำไม่ได้ว่าเป็นชาติที่เท่าไร นางตัดสินใจหนีออกจากจวนท่านแม่ทัพหวังเปลี่ยนชะตาชีวิต สุดท้ายก็ต้องตายด้วยน้ำมือสุ่ยอวิ๋นเหออยู่ดี  สุ่ยอวิ๋นเหอจ้างนักฆ่าฝีมือดีให้ตามสังหารนางอย่างโหดร้ายทารุณ  ส่วนหยางจิ้งเสวียนน่ะหรือ...เขาไม่สนอยู่แล้วว่านางจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร นางไม่อยู่ในสายตาเขา เหมือนที่เขาก็ไม่อยู่ในสายตานางเช่นกัน สวรรค์ลิขิตให้นางเป็นผู้แพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่นนั้นแล้วจะให้นางเกิดใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีกทำไมกัน..ไม่เข้าใจจริงๆ เลย เช้าวันต่อมา หลี่หลินตื่นนานแล้วแต่ยังนอนคลุมโปงอยู่บนเตียง นอนฟังเสียงนกกระจิบขับขานด้วยความสุข หากเป็นเมื่อก่อนนางจะรู้สึกหงุดหงิดรำคาญเสียงนกพวกนี้ จนต้องเอาน้ำร้อนมาสาดไล่พวกมัน มาชาตินี้นางสงบนิ่งและเริ่มใจเย็นลงมาก   “ฮูหยิน ลุกจากที่นอนได้แล้ว ตอนนี้นายท่านกลับถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ” เสี่ยวจูเดินแหวกม่านโปร่งหน้าเตียงเข้ามาปลุกด้วยการดึงผ้านวมออกจากตัว ใบหน้านางแย้มยิ้มสดใส ผิดกับคนที่ยังนอนเป็นปลาเค็มอยู่บนเตียง  หลี่หลินคิดว่าตัวเองหูฝาด นางจึงถามย้ำอีกครั้ง “เจ้าว่าอะไรนะ” เสี่ยวจูเดินไปเดินมาอยู่หน้าเตียง รวบม่านโปร่งมัดไว้กับเสาเตียง ก่อนจะก้มเก็บที่นอน “นายท่านกลับถึงจวนแล้วเจ้าค่ะ”  “เขามากับใคร” หลี่หลินถาม จะใช่คนที่นางคิดไว้หรือไม่นะ  “มากับท่านหมอเจ้าค่ะ” หญิงสาวขมวดคิ้ว ท่านหมอหรือ... เท่าที่จำได้ ช่วงเวลานี้หยางจิ้งเสวียนจะพาสุ่ยอวิ๋นเหอเข้าจวนแล้ว  สุ่ยอวิ๋นเหอเป็นบุตรสาวคหบดีสุ่ย ซึ่งเป็นคนร่ำรวยที่สุดในเมืองผิงเหยา มีครั้งหนึ่งที่กองทัพของหยางจิ้งเสวียนขาดแคลนอาหาร แต่ก็ได้คหบดีสุ่ยยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง คือให้สุ่ยอวิ๋นเหอเข้าจวนมาเป็นอนุภรรยา  ด้วยความจำเป็น หยางจิ้งเสวียนจึงต้องตกปากรับคำ  ส่วนหลี่หลินนั้นไม่ได้คัดค้านอะไร หยางจิ้งเสวียนจะมีภรรยากี่คนก็มีไป ขอเพียงคนพวกนั้นอยู่อย่างสงบเจียมตัวและอย่ามายุ่งวุ่นวายกับนางก็พอ  หลี่หลินล้างหน้าบ้วนปากและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กำลังนั่งรอท่านหมออยู่ที่ห้องโถง แม้ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ท่านหมอมาจับชีพจรนาง นางร่างกายแข็งแรงดี อารมณ์ก็ดีมากด้วย ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรเสียหน่อย แต่เสี่ยวจูบอกว่า นี่เป็นความประสงค์ของท่านแม่ทัพ นางจึงพยักหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายและไม่ถามเซ้าซี้อะไรอีก  เสี่ยวจูเป็นห่วงฮูหยิน ร่วมเดือนแล้วที่ฮูหยินไม่ออกไปที่ใดเลยแม้แต่เด็ดกิ่งดอกบ๊วยมาใส่แจกัน ซึ่งปกตินางชอบออกไปเด็ดกิ่งดอกบ๊วยมาก จะว่าเพราะอากาศหนาวเหน็บเกินไปก็ไม่ใช่  ฮูหยินมักเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง นางชอบนอนแทะเม็ดแตงกับอ่านหนังสือ หากเป็นเมื่อก่อนเวลาอยู่เรือนสิ่งที่นางชอบทำมากที่สุดคือนำอัญมณีที่สะสมออกมานับ พฤติกรรมที่ผิดแปลกไปนี้ทำให้เสี่ยวจูเริ่มกังวล แม้นางจะปรึกษาพ่อบ้านตู้ ซึ่งพ่อบ้านตู้ก็รับปากว่าจะเชิญท่านหมอมาตรวจร่างกายฮูหยินที่เรือน ทว่ารอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นมาเสียที นางเองก็พอรู้ว่าพ่อบ้านตู้ไม่ได้ชอบฮูหยินสักเท่าไร นางจึงให้คนส่งข่าวนี้แก่นายท่านทราบ อย่างไรทั้งสองก็เป็นสามีภรรยากัน นายท่านคงไม่ปล่อยปละละเลยผู้เป็นภรรยา  หยางจิ้งเสวียนพอทราบข่าวก็รีบตะบึงม้ากลับมาที่จวน พักหลังมานี้เขาเองก็ไม่ได้รับรายงานข่าววุ่นวายที่จวน แน่นอนว่าเขาเองย่อมคิดว่านี่ผิดปกติ  ชายหนุ่มแวะไปที่เรือนเล็กด้านหลังเพื่อถอดชุดเกราะและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะมาที่เรือนหานเยว่พร้อมกับหมอชราผู้หนึ่ง เมื่อเดินเข้ามาด้านใน เขาก็เห็นสตรีโฉมงามสวมชุดสีเขียวมรกตนั่งอยู่บนเก้าอี้ เรือนผมดำขลับถูกรวบขึ้นและปักด้วยปิ่นหยกอย่างลวกๆ ใบหน้าของนางขาวแต่ไม่ซีด ยังเห็นเลือดฝาดบนแก้ม มองดูแล้วไม่เหมือนคนป่วยสักนิด   หลี่หลินเงยหน้าสบตาผู้มาเยือน หากนับจริงจัง นี่เป็นครั้งที่สามในรอบปีที่นางได้เจอหน้าเขากระมัง หากหลี่หลินเองก็ไม่ได้ถวิลหาเขาเท่าไรนัก  นางแต่งงานกับหยางจิ้งเสวียนได้ปีกว่าแล้ว แน่นอนว่าตอนแรกนั้นนางไม่ยินยอมและต่อต้านค้านหัวชนฝา แต่เพราะเป็นสมรสพระราชทานจากฮ่องเต้จึงมิอาจปฏิเสธได้ วันนั้นที่วังหลวงมีการจัดงานเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาครบหกสิบปีของฮ่องเต้ ครอบครัวของนางที่บิดาเป็นขุนนางระดับสามก็ได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน ซึ่งครอบครัวนางไปเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว รวมทั้งหยางจิ้งเสวียนที่พึ่งยกทัพรบชนะพวกนอกด่านก็ได้เข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน พระองค์ทรงเห็นว่าทั้งคู่ยังไม่แต่งงานและดูเหมาะสมกันดีจึงทำตัวเป็นผู้เฒ่าจันทราช่วยจับคู่ให้ หลี่หลินจึงต้องจำใจแต่งงานกับเขา  นางต้องจากครอบครัวที่เมืองหลวง เดินทางมายังเมืองผิงเหยาที่กันดาร รอบนอกยังมีพวกนอกด่านลอบโจมตีเป็นระยะ  “ท่านลองตรวจร่างกายนางหน่อย...” หยางจิ้งเสวียนยืนค้ำหัวนางและเอามือไพล่ไว้ มองหมอชราตรวจจับชีพจรภรรยา หลี่หลินเองก็ยื่นข้อมือให้ท่านหมอตรวจจับแต่โดยดี  “เรียนท่านแม่ทัพ ชีพจรหยางฮูหยินปกติดี เลือดลมในร่างกายนางก็ปกติเช่นกัน ไม่มีสิ่งใดผิดปกติขอรับ” หมอชรากล่าว  หยางจิ้งเสวียนพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะบอกให้เสี่ยวจูออกไปส่งหมอชราหน้าจวน ชายหนุ่มขยับตัวนั่งลงฝั่งตรงข้าม เขาเองก็มีเรื่องสำคัญจะพูดกับนางเช่นกัน หยางจิ้งเสวียนเข้าประเด็นไม่อ้อมค้อม “เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร หากข้าจะรับสุ่ยอวิ๋นเหอเข้าจวน นางเป็นบุตรสาวของคหบดีสุ่ย ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยเหลือกองทัพเรื่องอาหาร แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนคือข้าต้องรับบุตรสาวเขามาดูแล...”  หลี่หลินฟังจบก็พยักหน้า สีหน้าของนางเรียบเฉยไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด นางรีบตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยด้วยซ้ำ หากนางบอกเขาว่าไม่ยินยอม อย่างไรเสียสุดท้ายแล้วสุ่ยอวิ๋นเหอก็ต้องหาวิธีเข้าจวนมาอยู่ดี “ข้าแล้วแต่ท่าน”  หยางจิ้งเสวียนเองก็ไม่ได้แปลกใจที่เห็นสีหน้านางเรียบเฉย ความสัมพันธ์ของเขาและนางเป็นอย่างไรย่อมรู้แก่ใจ หากเขาเองอดที่จะเหลือบมองใบหน้าเล็กๆ นั้นไม่ได้ ถามนางอย่างห่วงใยว่า “ช่วงนี้เจ้ามีเรื่องทุกข์ใจหรือ”  หลี่หลินเงยหน้าสบตาเขาอย่างแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่เขาถามอะไรเช่นนี้กับนาง ที่ผ่านมาเขาไม่เคยถามอะไรอย่างนี้เลย บทสนทนาระหว่างกันแทบนับครั้งได้  หลี่หลินส่ายหน้า นางเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว คงเพราะพฤติกรรมของนางที่ดูแปลกไปถึงหูเขาเข้า เขาจึงคิดว่านางป่วยใช่หรือไม่ เลยให้ท่านหมอชรามาตรวจร่างกาย พอเห็นว่าร่างกายนางปกติดี จึงคิดว่านางคงมีเรื่องทุกข์ใจงั้นหรือ  “ข้าไม่มีเรื่องทุกข์ใจใดและข้าก็สบายดี”  

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
31.8K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
77.9K
bc

ขังรัก

read
17.7K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
14.3K
bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
29.6K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
52.4K
bc

My Sister น้องสาว... ที่รัก

read
6.6K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook