...คบกันมานานแล้ว คราวนี้เป็นครั้งที่สองที่ขึ้นมาหาหลังจากวันนั้นที่เอาข้าวกล่องมาให้ บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ มีแต่กลิ่นยาและคนไข้ที่เจ็บป่วย ภีมพัฒน์ประคองร่างบางไว้ในอ้อมแขน พาภรรยาสาวมาที่ห้องพักของเขา
“ปกติผมพักที่นี่ ถ้าเกิดว่าไม่มีผ่าตัด เข้ามหา’ลัยไปสอนบ้าง...บางครั้ง” เขาเอ่ยพร้อมกับขยับเก้าอี้ให้เธอนั่ง
“แล้วภีมมีผ่าตัดหรือเปล่า”
“มีครับ อีกสิบห้านาที”
“อ้อ...”
“ถ้าคุณจะกลับผมคงไปส่งไม่ได้ นั่งแท็กซี่กลับนะ” เขาเป็นห่วงเธออยู่ไม่น้อย ใยบัวท้องลูกคนแรกทำให้ท้องเธอใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก
“โอเคค่ะ บัวกลับได้” เธอฉีกยิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นแขนไปโอบกอดเอวหนา สวมกอดเขาไว้แน่น
“ไม่รู้ว่าทำไม บัวไม่อยากห่างจากภีมสักวินาทีเดียวเลย”
“คงเป็นเพราะท้องมั้ง” เขาลูบศีรษะเธอเบา ๆ นานที่อยู่ด้วยกัน ไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกดีกับเธอขึ้นมาแล้วจริง ๆ
“เดี๋ยวผมไปทำงานก่อนนะ ต้องเตรียมตัวด้วย”
“อ้อ โอเคค่ะ เจอกันที่บ้านนะ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ ก่อนจะผละตัวออก เขาเดินออกจากห้องพักพร้อมกับยิ้มให้เธอบาง ๆ ใยบัวทิ้งเวลาสักพัก ก่อนจะออกจากห้องพักของเขา
...เธอเดินหาเพื่อนสนิทของเขา ซึ่งอีกฝ่ายก็ไปงานแต่งงานของเธอด้วย ใยบัวเห็นแผ่นหลังหนาก็พอจำได้
“หมอภาคิน!” เธอเอ่ยเรียกเสียงดัง จนทำให้เจ้าของชื่อหันมามอง หมอหนุ่มแปลกใจมากเลยทีเดียว
“อ้าว...คุณบัว” ภาคินเดินเข้ามาหา ทักทายตามมารยาท “มาหาหมอภีมเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ เรามาด้วยกัน...บัวเลยขอขึ้นมาดูที่ทำงานของภีมน่ะค่ะ”
“อ้อครับ แล้วกลับยังไงครับเนี่ย”
“แท็กซี่ค่ะ...เอ่อ ฉันขอคุยอะไรบางอย่างด้วยได้ไหมคะ” หมอหนุ่มไม่รู้ว่าเธอมีปัญหาอะไร แต่สีหน้าไม่สู้ดีนี้ทำให้เขาพยักหน้ารับเบา ๆ
...ภาคินพาใยบัวมาคุยที่ระเบียงของอาคาร ซึ่งเป็นที่ลับสายตาคน ดูเธอต้องการให้เรื่องที่พูดคุยกันนี้เป็นความลับ
“มีอะไรเหรอครับ” น้ำเสียงของเขาดูไม่สู้ดี แถมใยบัวยังมีสีหน้าลังเล แต่ด้วยความอยากรู้และความกังวลทำให้เธอเลือกที่จะถาม
“คุณภาคินรู้เรื่องของคุณเมษาไหมคะ”
“หืม...คุณบัวรู้แล้วเหรอครับ” เขามีสีหน้าตกอกตกใจ ขณะเดียวกันเรื่องนี้เพื่อนชายก็ไม่อยากให้เขาเล่า แต่ถ้าเธอรู้แล้วอย่างนี้ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปิดบัง
“ค่ะ ฉันอยากรู้รายละเอียดอีกหน่อย เผื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ” ใยบัวอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไรนักหนา สามีหนุ่มจึงไม่ลืมเสียที
“เมษากับไอ้ภีมคบกันตั้งแต่เรียนมหา’ลัยครับ คบกันมานานมาก ย้ายไปอยู่คอนโดฯด้วยกันแล้วด้วย สิบปีแล้วมั้งครับ”
“สิบปีเลยเหรอคะ...” เธอมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ไม่คิดว่าเขาจะคบหากับคนอื่นมานานถึงสิบปี
“ใช่ครับ วางแผนจะแต่งงานแล้วด้วย ไอ้ภีมซื้อบ้านไว้แล้ว”
“บ้าน? หลังที่ฉันอยู่หรือเปล่าคะ”
“ครับ...” ได้ยินอย่างนี้ก็ถึงกับพูดไม่ออก เขาคงรู้สึกผูกพันมาก “แต่มันก็เป็นเรื่องในอดีตไปแล้วล่ะครับ”
“แต่เขายังไม่ลืมเลย”
“_”
“ฉัน...รู้สึกอิจฉาเธอคนนั้นค่ะ เธอสวยหรือเปล่า”
“ผมว่า...คุณสวยกว่านะ”
“จริงเหรอคะ” ได้ยินอย่างนี้ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย ใยบัวยิ้มกรุ้มกริ่ม “แล้วตอนนี้เธอคนนั้นอยู่ไหนคะ”
“ไม่รู้เลยครับ เธอบอกเลิกกับไอ้ภีมแล้วก็ไปเลย เราก็ไม่รู้ว่าเธอไปไหน ขาดการติดต่อไปเลย...นี่ก็สองปีแล้วล่ะครับ”
“อ้อ แสดงว่าเธอคงไม่กลับมาแล้วใช่ไหมคะ”
“น่าจะนะครับ ผมก็บอกอะไรไม่ได้ ตอนแรกมันก็พยายามตามหาเธอนะ แต่ว่าเธอบอกให้มันหยุดตาม มันก็เลยพอ”
“_”
“อย่าเก็บมาใส่ใจเลยครับ ยังไงตอนนี้มันก็แต่งงานกับคุณไปแล้ว คุณเป็นคนดีสักวันเดี๋ยวมันก็รักคุณครับ” เธอกลืนน้ำลายลงคอ ใยบัวรู้สึกว่าช่วงนี้เขาดีขึ้นกว่าครั้งแรก ๆ ปกติก็มักจะไม่ถามไถ่เธอ แต่เดี๋ยวนี้เขาเริ่มถามอะไรเธอมากขึ้น
“โอเคค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เธอค้อมศีรษะให้ ก่อนจะขอตัวกลับ หญิงสาวอุ้มท้องขึ้นรถแท็กซี่ กลับบ้านไปด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เขาคบหากับผู้หญิงคนนั้นร่วมสิบปี ไม่แปลกที่จะลืมไม่ได้ ยิ่งรู้ก็ยิ่งมีความรู้สึกไม่ดี นึกคิดว่าไม่น่าอยากรู้เลย...
หลายวันต่อมา...
งานที่ได้รับมอบหมายเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวตั้งแต่แอนนาขึ้นเป็นหัวหน้า ใยบัวทำงานหนักจนเกรงว่าจะมีผลกระทบกับลูกน้อยในครรภ์
“เฮ้อ...” เธอผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ หญิงสาวรักงานที่ทำ ไม่อยากลาออก แต่ปัญหานี้ก็เรื้อรังมานานแสนนาน จนภีมพัฒน์บอกให้เธอลาออกแล้วมาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ตอนแรกไม่คิดอยากลาออก พอสถานการณ์เป็นอย่างนี้ใยบัวก็ไม่มีทางเลือกมากนัก
“เสร็จยังงาน บริษัทจ้างมาทำงานนะไม่ได้จ้างมานั่งเหม่อ” พออยู่เฉย ๆ แอนนาก็เข้ามาหาเรื่อง ใยบัวเงยหน้าขึ้นมอง
“เธอไม่ต้องห่วงหรอก ฉันลาออกแน่”
“ลาออก?” แอนนามีสีหน้าตกใจ ใครต่างก็รู้ว่าใยบัวเป็นคนทุ่มเทให้กับงานมากแค่ไหน อยู่ ๆ ก็จะลาออก อย่างนี้ก็หมดสนุกแล้วสิ
“ใช่ ทำไมเหรอ...เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะอยู่ให้เธอโขกสับหรือไง นั่งอยู่บ้านให้ผัวเลี้ยงยังดีกว่า” ใยบัวว่าอย่างคนเหนือกว่า ถึงยังไงก็ทำอะไรไม่ได้ อยู่ที่นี่แอนนาก็คงโขกสับไม่หยุด เรื่องอะไรเธอจะอยู่...
ใยบัวกลับบ้านมาด้วยสภาพอิดโรย การตัดสินใจเขียนใบลาออกนั้นไม่ง่ายเลยสักนิด เธอทำงานที่นี่ตั้งแต่เรียนจบ นับเป็นเวลาสิบกว่าปีที่ทำงานมา ไม่คิดว่าจะมาถึงวันที่จะต้องเขียนใบลาออกอย่างนี้
“อ้าว...บัวนึกว่าภีมเข้าเวรวันนี้ซะอีก” พอเข้ามาในบ้านก็เห็นสามีหนุ่มกำลังทำอาหารอยู่ นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย ไม่เคยเห็นเขาลงมือทำอาหารเลยสักหน
“พอดีคนไข้ที่จะผ่าตัดมีปัญหานิดหน่อยเลยเลื่อนออกไปน่ะ ผมก็เลยกลับบ้าน” เธอพยักหน้าเข้าใจ เดินเข้าไปสวมกอดเอวหนาจากทางด้านหลัง
“แล้วทำไรคะ”
“หึ เห็นมีของในตู้เย็นเลยอยากทำอะไรให้คุณกิน” เขาเอี้ยวใบหน้ามามองเธอทางด้านหลัง เห็นรอยยิ้มกว้างของเธอ ใยบัวรู้สึกแปลกใจอย่างบอกไม่ถูก หรือว่าเขาจะรักเธอเข้าแล้ว
“แต่ผมก็ทำกับข้าวไม่เก่ง”
“ทำอะไรมา บัวกินได้หมดค่ะ”
“งั้น...รอก่อนนะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ ก่อนจะไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร มองสามีหนุ่มที่กำลังทำอาหารอย่างขะมักเขม้น ไม่นานเขาก็ถือจานอาหารมาให้เธอดู
“คะน้าหมูสับ”
“น่ากินจัง” เธอว่าด้วยแววตาลุกวาว ตื่นเต้นที่จะได้ชิมอาหารของคนเป็นสามีครั้งแรก ภีมพัฒน์ตักข้าวสวยให้เธอด้วยใบหน้าลุ้น ๆ เช่นกัน
“อร่อยไหม” ทันทีที่เธอตักเข้าปากเขาก็ถามทันที เปลือกตาบางกะพริบปริบ ๆ ก่อนจะค่อย ๆ คลี่ยิ้มให้กับเขา
“อร่อยค่ะ อร่อยกว่าที่บัวทำ ฮ่า ๆ” ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกชื่นใจ ชายหนุ่มตักคะน้าหมูสับให้เธอเพิ่มมากขึ้น
...เห็นเธอกินได้เยอะก็รู้สึกดี ใยบัวตัวอวบขึ้นเป็นเท่าตัวเลย เธอเคี้ยวตุ้ย ๆ แถมยังเอาแต่มองหน้าเขาอีก
“ฉันจะลาออกจากงานแล้วนะคะ” หลังจากที่กินข้าวเสร็จ ใยบัวก็อยากบอกเรื่องที่ทำงานให้เขารู้
“ดีแล้วล่ะ คุณจะได้ไม่เครียดไง” หลายวันมานี้เธอเครียดจริง ๆ บ่นเรื่องเพื่อนของเธอที่ได้เป็นหัวหน้า แถมยังใช้งานโขกสับเธอไม่หยุด
“แต่ก็แอบกังวล กลัวนั่นนี่ ค่าใช้จ่ายอีก ถ้าคลอดลูกแล้วคงหาสมัครงานที่อื่นดูค่ะ แต่ไม่รู้ว่าอายุเท่านี้จะมีที่ไหนรับไหม”
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมเลี้ยงคุณกับลูกเอง” เขาทำให้เธอฉีกยิ้มกว้างออกมา แว็บหนึ่งที่เธอคิดว่าเขาทำจากใจ แต่ก็มีอีกแว็บหนึ่งก็คิดว่าเขาคงทำตามหน้าที่
...เวลากลางคืน ความอ่อนเพลียได้พรากสติของหมอหนุ่มให้เข้าสู่การหลับใหลในเวลาอันรวดเร็ว ต่างจากใยบัวที่มีเรื่องให้กังวล เธอโอบกอดเอวหนาของสามีหนุ่มไว้แน่น อยู่ ๆ ก็เกิดนอนไม่หลับขึ้นมาเสียดื้อ ๆ คงเป็นเพราะเรื่องงานที่ยังคงวิ่งอยู่ในหัว ดูเหมือนว่าเธอจะสูญเสียทั้งตำแหน่ง สูญเสียทั้งงาน เพื่อชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน...ซึ่งก็ไม่รู้อนาคตอีก ว่าจะเป็นดั่งฝันหรือไม่ หรือจะเป็นฝันสลายก็ไม่แน่ เธอคิดไม่ตกเลยทีเดียว...
เช้าวันต่อมา...
ครืดด ครืดด~
เสียงโทรศัพท์ปลุกให้ใยบัวที่ยังนอนไม่เต็มอิ่มตื่นขึ้นมา เธอสะลึมสะลือคว้าโทรศัพท์มากดรับโดยไม่ได้ดูว่าเป็นโทรศัพท์ของใคร ด้วยความที่ทั้งคู่ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อเดียวกัน
ติ๊ด!
[ฮัลโหลภีม เมษาเองนะ] ทว่าเสียงของต้นสายก็ทำเอาคนที่กำลังงัวเงียอยู่นี้เบิกตาโพลง ใยบัวดึงโทรศัพท์ออกจากหู มองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยหัวใจที่หวาดหวั่น
เมษา...
ติ๊ด!
พอคิดว่าเป็นแฟนเก่าของเขาเธอก็กดตัดสายทิ้ง พร้อมกับกดบล็อกเบอร์อีกฝ่ายทันทีอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด ฝ่ามือบางสั่นระริกด้วยความหวาดหวั่น
“อืม...” ยิ่งเสียงของสามีหนุ่มข้างกายก็ยิ่งทำให้ตกใจ เขาลืมตาขึ้นมองด้วยความงัวเงีย เธอเบิกตากว้างกลัวว่าเขาจะรู้ว่าแฟนเก่าของเขาโทรมา ถ้าเขารู้...เธอจะทำอย่างไร