“มองอยู่ได้” ริมฝีปากบางงึมงำอยู่คนเดียวเหมือนกับไม่พอใจ แต่หัวใจกลับสวนทางเมื่อมันเต้นกระหน่ำเร็วแรงราวกับว่าจะกระดอนออกมา เขินอายสายตาคมที่เอาแต่จับจ้อง
...เวลาผ่านไปไม่นานใยบัวก็ลุกขึ้นเก็บของ ทำให้คนที่จ้องตาไม่กะพริบนั้นรีบลุกขึ้นช่วยเก็บของไปด้วย
“ไม่ต้องยุ่งค่ะ”
“ผมช่วย” เขาว่าน้ำเสียงนิ่งเรียบ ไม่ได้โมโหท่าทีไร้เหตุผลของเธอ ชายหนุ่มรู้ดีว่าสาวเจ้ากำลังงอนเขาอยู่ ซึ่งเขาเองก็รู้ว่าตนผิด
“อย่ามาแตะได้ไหม มันเจ็บเนี่ย” เขาแค่โอบไหล่บางเบา ๆ เอง ภีมพัฒน์ชักมือออกแทบไม่ทัน
“มา...ผมช่วยถือ”
“ไม่ต้องค่ะ”
“บัว...มันหนัก ผู้หญิงถือของหนักมันไม่ดีต่อมดลูกนะ ผมเป็นหมอ ผมรู้”
“แล้วหมอรู้ไหมคะว่าการโกหกเมียมันไม่ดี” เธอสวนกลับทันควัน
“โธ่ ผมขอโทษ”
“_”
“ผมเอาของของเมษาไปเก็บไว้ที่อื่นแล้วนะ” เธอชะงักฝ่าเท้าที่กำลังจะเดินไปขึ้นลิฟต์ ไม่ได้รู้สึกดีใจเลย มันจะดีกว่านี้หากเขาบอกว่าเอาไปทิ้ง
“_”
“ผมเอาทิ้งไม่ได้” ชายหนุ่มชิงพูดขึ้นก่อน “คุณให้เวลาผมหน่อยได้ไหม”
“_”
“ผมเชื่อว่าจะลืมมันได้สักวัน” คนฟังน้ำตาคลอ ไม่มีผู้หญิงคนไหนใจกว้างให้สามีรักและคิดถึงผู้หญิงคนอื่น หนึ่งในนั้นก็ไม่ใช่เธอ
“แล้วภีมรู้ใช่ไหมว่าจะถึงวันนั้นจริง ๆ”
“_”
“ถ้ามันไม่มีล่ะ บัวมั่นใจในตัวเองมากว่าสักวันจะทำให้ภีมรักให้ได้ แต่เหมือนเวลาที่พยายามมามันก็นานแล้วแต่...อึก”
“_”
“ภีมจะให้บัวพยายามฝ่ายเดียวเหรอ บัวท้อเป็นนะ” น้ำตาไหลพราก ทำไมมีแค่เธอที่ต้องพยายามทำให้เขารักอยู่ฝ่ายเดียว
“ผมกำลังพยายาม” เปลือกตาบางกะพริบปริบ ๆ จริงอย่างที่เขาว่าไว้ คนที่ใช่ไม่ต้องพยายามมันก็ใช่ “ให้เวลาผมหน่อยนะ”
“_”
“บัวครับ เราจะสร้างครอบครัวด้วยกันไม่ใช่เหรอ” คำนี้เล่นเอาจุกในอก เขาก็คงทำทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์แบบตามนิสัยของเขา
...ใยบัวไม่ได้ตอบอะไร เธอเดินไปขึ้นลิฟต์โดยมีพ่อของลูกเดินตามหลังมาไม่ทิ้งระยะห่าง ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เขาชำเลืองสายตามองเธอเป็นระยะ ๆ ใบหน้าเล็กนิ่งเรียบราวกับว่ากำลังมีเรื่องให้คิดในหัว
ติ๊ง!
“ไปสิ ไปกินข้าวข้างนอกไม่ใช่เหรอ” พอเสียงแจ้งเตือนลิฟต์ดังขึ้น ร่างหนาที่รอให้คนตัวเล็กออกไปก่อนนั้นถึงกับหันขวับไปมองหลังสิ้นสุดเสียงของเธอ เขาอมยิ้มออกมาจนได้
“ยิ้มอะไร หิวเนี่ย...” ภีมพัฒน์ยื่นแขนไปโอบเอวของเธอ
“แค่ดีใจน่ะ”
“ชิ...เพราะบัวรักภีมต่างหากเลยยอม รีบรักบัวได้แล้ว” เธอว่าพร้อมกับทำหน้ามุ่ย ทุกคนมีอดีตกันทั้งนั้น ใยบัวพยายามคิดว่าในอนาคตนี้มันจะสวยงามก็ต่อเมื่อทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ไม่เกี่ยวกับอดีต คิดบวกเข้าไว้ เพื่อลูก...เพื่อให้ตัวเองมีความสุขกับเขาที่รักมากคนหนึ่ง
เวลาต่อมา...
ภัตตาคารหรูนี้ทำให้ใยบัวรู้สึกประหม่า เธอเป็นสาวออฟฟิศที่หัวฟูทำงานทั้งวัน พอมาร้านหรูหลังเลิกงานก็รู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก
“ทำไมพามาที่นี่คะ”
“อร่อยนะ ไม่เคยมาเหรอ”
“ก็ใช่สิ” เธอไม่ใช่คนชอบเข้าร้านหรู กับข้าวข้างทางหลังเลิกงานเป็นสิ่งที่เธอปรารถนาที่สุด แต่สำหรับหมอหนุ่ม เขาแค่อยากพาเธอมากินข้าวร้านดี ๆ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ชอบเท่าไรนัก
“มากับผมไง กินด้วยกัน”
“แล้ว...ปกติมาบ่อยเหรอ”
“ก็มากับ...เอ่อ สั่งอาหารเถอะ” ภีมพัฒน์เกือบหลุดปากพูดเรื่องของเมษาออกมา แต่ดูจากสีหน้าของเธอแล้ว สาวเจ้าน่าจะรู้ว่าเขานั้นกำลังพูดอะไร
“โอเค บัวจะพยายามเข้าใจทุก ๆ อย่าง” เธอใจเย็นลง ฝ่ามือบางเปิดดูเมนูอาหาร ก่อนจะชี้นิ้วให้เขาดู “ทานไหมคะ”
“ผมทานได้หมด”
“โอเค งั้นเอาอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้” เธอจิ้มนิ้วบอกเขาไว้ ปิดเมนูลงชายหนุ่มก็ยกมือเรียกบริกร เขาสั่งอาหารให้เธอพร้อมกับอาหารของเขาไม่กี่อย่าง
“ผมเพิ่งรู้ว่าคุณไม่ได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว” เธอเคยเล่าให้ฟังว่าจะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่ไหงเป็นเพื่อนของเธอที่ไม่ถูกกันคนนี้ ขณะเดียวกันที่อีกฝ่ายนั้นจำได้ว่าเคยบอกเขาไปแล้ว แต่คงเป็นเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจเลยจำไม่ได้ ทว่าหากเขาถามอย่างนี้แสดงว่าอีกฝ่ายกำลังเปิดใจรับเธอแล้ว เธอค่อย ๆ เอ่ยพูดอย่างช้า ๆ พร้อมกับดวงตาเป็นประกาย
“ก็...บัวท้อง หัวหน้าเลยคิดว่าบัวคงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ” ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกผิด เขาทำให้เธอชวดตำแหน่ง
“_”
“แต่ไม่เป็นไรค่ะ บัวอยากมีลูกกับภีมนะ” ใยบัวเห็นเขาสีหน้าไม่ดี จึงเอ่ยปลอบใจ คำพูดของเธอทำให้เขาจุกอก ชายหนุ่มพูดไม่ออกเลย ขณะที่เธอพยายามประคองรัก ยอมเสียสละ แต่เขากลับรักใคร่คนอื่น
“ครับ ขอบคุณนะ...ผมจะพยายามทำให้ดี ให้คุณรู้สึกว่าไม่ได้เลือกผิด”
...เธอไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ยิ้มหวานรับ ยังดีกว่าที่เขาไม่พยายามอะไรเลย ใยบัวนั่งทานอาหารไปพูดไป เสียงของเธอนั้นทำให้เขาหลุดเสียงหัวเราะออกมาหลายครั้ง หญิงสาวเป็นคนอารมณ์ดี คมคายและมีเสน่ห์เวลาเอ่ยพูดอะไรสักอย่าง ไม่แปลกที่เธอเล่าให้ฟังว่ามีหนุ่มตามจีบไม่หยุด แต่เธอกลับมาต้องตาเขาเสียอย่างนั้น...
หลายวันต่อมา...
ด้วยความที่เธออายุสามสิบสามปี มีโอกาสที่ลูกจะมีความผิดปกติ วันนี้ถึงเวลานัดมาตรวจดาวน์ซินโดรม
“ฉันกลัวค่ะ” เธอหันไปหาสามีหนุ่มที่นั่งรออยู่ข้างกาย เขาค่อย ๆ หันมาพร้อมกับวางมือลงที่หลังมือของเธออย่างอ่อนโยน
“ไม่ต้องกังวลครับ สามสิบสามไม่เสี่ยงเท่าสามสิบห้า”
“เหรอคะ เราน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้เนอะ” เธอยิ้มให้บาง ๆ ก่อนจะชะงักไป เมื่อนึกได้ว่าหากเจอเขาเร็วกว่านี้มีโอกาสที่ตอนนั้นเขายังคบกับคนเก่าอยู่ พอนึกอย่างนี้แล้วใบหน้าเล็กก็สลดลงทันที
“เป็นไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ แค่กังวลน่ะ” เขายิ้มให้เธอบาง ๆ เป็นปกติหากว่าเธอจะกังวลกลัวว่าลูกจะเป็นดาวน์ซินโดรม ชายหนุ่มไม่รู้ว่าความจริงแล้วเธอกำลังนึกถึงเรื่องแฟนเก่าของเขาต่างหาก
“แล้วภีมไปทำงานต่อเหรอ”
“ครับ”
“อ้อ...” วันนี้เธอลางานภาคบ่ายทำให้ไม่ได้รีบร้อนไปทำงาน แต่อีกฝ่ายมีงานเยอะกว่าเธอมาก “ภีมจะลางานเดือนไหนอ่ะ”
“ลาไปดูลูกน่ะเหรอ...เขาให้ลาได้ไม่เยอะด้วยสิ”
“เหรอ...น่าเสียดายจัง”
“แต่ผมว่าจะขอแลกเวร ให้หมอภาคินเข้าแทนน่ะ”
“ดีเลย ว่าแต่หมอภาคินเป็นเพื่อนกับภีมนานแล้วเหรอ” ส่วนใหญ่หากอยากให้เขาเล่าอะไรให้ฟัง เธอต้องเป็นฝ่ายถามเอง ภีมพัฒน์ไม่มีทางเล่าให้เธอฟังโดยไร้ซึ่งการตั้งคำถามแน่ ๆ
“นานแล้วตั้งแต่เรียนมหา’ลัย สนิทกันที่สุดแล้วล่ะ” ใยบัวพยักหน้ารับ หมอภาคินคงรู้เรื่องของผู้หญิงที่ขื่อเมษาเยอะมากพอสมควร จากที่ไม่คิดอยากรู้ ตอนนี้เธออยากรู้เรื่องของผู้หญิงคนนั้นเป็นอย่างมาก
...หลังจากตรวจอัลตราซาวนด์รวมถึงเจาะเลือดแล้ว แพทย์ให้รอผลโดยจะโทรแจ้ง เธอจึงอยากมาที่ทำงานของเขา
“บัวแค่อยากรู้จักเพื่อน ๆ ที่ทำงานของภีมน่ะ ไม่ได้เหรอ” เธออ้อนอยากไปดูที่ทำงานของเขา แม้นว่าความจริงจะอยากไปสืบเรื่องของเมษาก็ตาม
“ก็ได้ แต่จะวุ่นวายหน่อยนะ” เขาหันมายิ้มน้อย ๆ ให้ ใยบัวท้องได้สี่เดือนแล้ว ร่างบางกลายเป็นร่างอวบ เธอสวมชุดคลุมท้องพร้อมกับรองเท้าหุ้มส้น กระนั้นใบหน้าเล็กก็อวบอิ่มหน้าตาน่ารักตะมุตะมิมากเลยทีเดียว...