บทที่ 3 เฉยเมย

1407 Words
หลายวันต่อมา... “พี่ไม่คิดว่าเธอจะท้อง รู้ใช่ไหมว่าถ้าท้องแล้วจะต้องลาพักคลอด ไหนจะต้องดูแลลูกอีก” “_” “ทำไมถึงตัดท่อน้ำเลี้ยงตัวเองแบบนี้ ใช่ว่าพี่เพิ่งบอกว่าจะให้เธอมาเป็นหัวหน้า หือ...” น้ำเสียงของแพรไพรนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ผิดหวังกับสิ่งที่ลูกน้องสาวทำ กระนั้นใยบัวก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองพลาดอะไร เธอยินดีที่จะละทิ้งอนาคตในที่ทำงานเพื่อลูกน้อยในท้อง “ฉันขอโทษด้วยนะคะ แต่ว่าเขาไม่ได้เป็นภาระของฉันค่ะ ฉันดีใจที่มีเขา” เธอว่าพร้อมกับวางมือลงที่หน้าท้องของตัวเอง “ถ้าอย่างนั้นเธอคงไม่โกรธใช่ไหม ถ้าเกิดว่าพี่จะเปลี่ยนคน” “ไม่โกรธค่ะ” “โอเค...แต่พี่เสียดายจริง ๆ นะ” มุมปากเล็กคลี่ยิ้มบาง ๆ บางอย่างก็ต้องเสียสละไป ไม่มีความสมบูรณ์แบบหรอก ดังประโยคที่ว่า ‘Lucky in love but unlucky in game’ หากประสบความสำเร็จด้านความรักแล้ว ก็ไม่แปลกที่ชีวิตการทำงานจะล้มเหลว บางอย่างก็ต้องเสียสละหากไปกันไม่รอด... กระนั้นก็ใช่ว่าจะดีใจ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยกระดาษโน้ตนี้ทำให้เธอน้ำตาคลอ หญิงสาวพยายามกับการได้เลื่อนตำแหน่งมากแค่ไหนเธอรู้ดี ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้หัวหน้าแพรชื่นชมจนอยากให้เธอได้ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการตลาด ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากที่สุดในบริษัท เดอะเกรทฟีเจอร์กรุปเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดในประเทศ เงินเดือนที่จะขึ้นแตะหกหลักนั้นลอยหายไปต่อหน้าต่อตา ทว่าขณะนั้นเอง “อาลัยอาวรณ์หรือยังไง...หึ ได้ยินว่าจะได้นั่งที่เดิมอีกนานเลยไม่ใช่เหรอ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยการกระแนะกระแหนนี้ทำให้ใยบัวหันไปมอง เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “เมื่อไรแกจะเลิกแซะฉันสักที ตอนนี้ฉันต้องการให้อารมณ์ตัวเองดี ๆ เพราะกำลังท้อง ไม่อยากให้ลูกต้องประสาทแดก” “หึ ก็จนกว่าแกจะยอมรับว่าอ่อยกิตจนเขามาเลิกกับฉัน” “เธอนี่มันยังไงกัน โทษได้ทุกอย่างยกเว้นตัวเอง” เธอส่ายหน้าเบา ๆ เสียแรงที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน “โทษตัวเองซะบ้างว่าทำไมกิตถึงเลิก แล้วอยากมาคบกับฉัน” “กิตไม่ได้อยากมาคบกับแก แต่เป็นแกที่อ่อยเขา” “ถ้าฉันอ่อยกิต ฉันคงไม่ไปแต่งงานกับหมอภีมหรอก แกหลอนป้ะเนี่ย” อย่าคิดว่าจะให้ใครมารังแกง่าย ๆ ใยบัวไม่ใช่สาวอ่อนแอที่ใครจะมาแกล้งแล้วต้องยอม ๆ ไป เธอถึงไหนถึงกันอยู่แล้ว “ก็เพราะเขาตาถั่วไง” “หึ ถ้าอย่างนั้นกิตก็ตาถั่วน่ะสิถึงมาชอบฉันได้” “เอะ! แก...เอาเป็นว่าขอให้ชีวิตแต่งงานฉิบหายก็แล้วกัน เลิกกันเมื่อไหร่...ฉันจะสมน้ำหน้าคนแรก” “งั้นก็รอนานเลยเนอะ” เธอว่าอย่างยิ้ม ๆ ก่อนจะหย่อนสะโพกลงที่เก้าอี้ทำงาน ไม่ได้หวั่นใจกับคำพูดของแอนนา เพราะเชื่อมั่นว่าจะไม่มีวันต้องเลิกกับหมอภีมเด็ดขาด ...ศัลยแพทย์เวลาพักเที่ยงไม่ตรงชาวบ้านสักเท่าไร ด้วยความที่การผ่าตัดแต่ละครั้งไม่สามารถประเมินเวลาที่แน่นอนได้ กระนั้นบ่ายนี้เขาก็ลางานไว้เพื่อที่จะได้พาภรรยาสาวมาฝากครรภ์ “รอนานเลย” เธอหน้ามุ่ยเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างสูงของคนเป็นสามีเดินเข้ามาหา เขาสะดุดตากับรองเท้าส้นสูงของเธอ “ยังทันใช่ไหม” เธอพยักหน้ารับเบา ๆ “ทำไมไม่ใส่รองเท้าไม่มีส้น” “...อ้อ ชอบน่ะ ก็บัวไม่สูงนี่เลยต้องใส่รองเท้ามีส้น” เขาไม่ได้ตอบอะไร แค่นี้ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคงเป็นห่วงอยู่ไม่ใช่น้อย “งั้น...เดี๋ยวคราวหลังบัวจะหาเปลี่ยนนะ” “อือ...” เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะหย่อนสะโพกลงนั่งที่เก้าอี้บริเวณจุดรอคิว โดยที่มีมือเล็ก ๆ ของเธอเกาะแขนอยู่ตลอดเวลา “งานเยอะเหรอ” “มีสองคิว” “อ้อ...” เขาไม่ได้ถามกลับทำเอาคนอยากเล่าเรื่องที่ทำงานให้ฟังเป็นอันต้องเงียบไป ใยบัวหันซ้ายแลขวาอย่างคนทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกสายตาของใครหลายคนจับจ้อง “คนมองเยอะเนอะ” “_” “เพราะความหล่อของภีมแน่เลย” เขาหันมามองเธอเล็กน้อย ก่อนจะเลื่อนสายตามองรอบกาย มีบุคลากรทางการแพทย์มองมาที่เขาเยอะอย่างที่เจ้าหล่อนว่าไว้จริง ๆ “รู้จักกันน่ะ” “อ้อ คงงั้นแหละเนอะ ทำงานที่เดียวกันก็รู้จักกัน มองกันก็ไม่แปลก แต่ที่ทำงานของบัวน่ะ มีแต่การแข่งขัน” เขาไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่รับฟัง “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” “เปล่า” “เหนื่อยเหรอ” “...ก็ไม่เท่าไร” ใยบัวกลืนน้ำลายลงคอ ถามมากก็กลายเป็นเรื่องมาก เซ้าซี้อีก ...บรรยากาศตกเข้าสู่ความเงียบเมื่อเขาไม่ได้เอ่ยถามอะไรเธอเลย ก่อนที่ไม่นานจะได้ยินเสียงคิวของตัวเอง “ถึงแล้วค่ะ” เธอผุดลุกขึ้น แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ยิน เขากำลังคิดอะไรของเขาอยู่กันแน่ ทำไมหลังแต่งงานถึงเปลี่ยนไปราวกับคนละคนแบบนี้ “ภีม...” “_” “ภีม!” “หือ...” เขาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองเจ้าของของเสียงเรียกนี้ “ถึงคิวแล้วค่ะ” “อ้อ ไปสิ” เขาลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องฝากครรภ์โดยไม่รอเธอเลย ทำเอาเจ้าของร่างบางหน้าเหวอเล็กน้อย อยู่ ๆ ก็รู้สึกหน่วง ๆ ในอก “นี่สินะเขาถึงบอกว่าคนที่ใช่ เวลาไม่สำคัญ คบกันแป๊บ ๆ ก็แต่ง ก็ท้องเลย แต่กับอีกคนคบเป็นสิบปีเลยเนอะ” พอเข้าห้องตรวจครรภ์มาใยบัวก็ได้ยินเสียงสูตินรีแพทย์กำลังพูดคุยกับคนเป็นสามี ความสงสัยเกิดขึ้นในใจของเธอ แต่ก็ไม่ทันได้ถามอะไร “สวัสดีค่ะคุณใยบัว เห็นหมอภาคินว่าภรรยาหมอภีมสวยมาก เจอตัวจริงสวยกว่าที่คิดอีกนะคะเนี่ย” เธอยิ้มรับคำเอ่ยชม ด้วยความที่งานแต่งงานนั้นฉุกละหุกเกินไป ทำให้ไม่ได้เชิญแขกมางานแต่งเยอะ หลายคนก็เลยไม่ได้ไปงานแต่งงานของเธอ “ขอบคุณนะคะ” “เชิญนั่งได้เลยค่ะ หมอคงไม่ต้องพูดอะไรมาก มีหมอภีมดูแลก็ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ” “หึ ไม่ค่อยว่างน่ะสิ” เขาตอบกลับพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ให้กับแพทย์สาว ทำเอาใยบัวสงสัยในความสัมพันธ์แต่จะถามก็คงเป็นการเสียมารยาทหากว่าสามีหนุ่มไม่แนะนำให้รู้จัก ซึ่งเขาก็ไม่แนะนำจริง ๆ “เดี๋ยวหมอจะให้สมุดฝากครรภ์นะคะ” เธอพยักหน้ารับ นั่งฟังหมออธิบายข้อมูลต่าง ๆ กับครรภ์แรกในวัยที่เสี่ยงต่อความผิดปกติของเด็กทารก “ยังไงก็ต้องส่งตรวจอาการดาวน์ซินโดรมด้วยค่ะ” “โอเคค่ะ” ใยบัวหันไปมองสามีหนุ่มข้างกาย เธอเงยหน้าเล็กน้อยด้วยส่วนสูงที่ต่างกับเขามาก อยากรู้ว่าเขาได้ฟังที่หมอพูดหรือเปล่า ทำไมเอาแต่เงียบไม่สงสัยอะไรเลยสักอย่าง... ภีมพัฒน์เดินออกจากห้องตรวจครรภ์ก่อนภรรยาสาว พ้นขอบธรณีประตูจึงหมุนตัวหันหลังไปมองเธอ “เดี๋ยวผมไปทำงานต่อก่อนนะ” “อ้อค่ะ เย็นนี้ออกเวรไปทานข้าวข้างนอกกันไหมคะ” เธอยิ้มให้เขา แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าเบา ๆ “กลับไปกินที่บ้านก็ได้” “อ้อ โอเค” ไหล่เล็กไหวขึ้นเล็กน้อยเพื่อบอกกับเขาว่าก็ได้ ไม่ไปก็ไม่เป็นไร แต่ในใจนั้นไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยสักนิด “ถ้างั้นก็เจอกันนะ” “ครับ” ภีมพัฒน์พยักหน้ารับ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปทำงานต่อ ชายหนุ่มเดินกลับที่ทำงานด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ในห้วงความคิดคะนึงหาอดีตแฟนสาวที่ไม่ได้เจอกันนานสองปี ไม่รู้ว่าเธออยู่ไหน แต่พอได้เปิดใจคบหากับใยบัว จนกระทั่งได้แต่งงานก็ยิ่งมั่นใจว่าไม่มีใครสามารถแทนเธอคนนั้นได้เลยจริง ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD