10
“ฉันก็มั่นใจว่าแกเอาตัวรอดได้ ดูอย่างนักเลงแถวนี้สิ เจอแกชกปากแตก หัวโนไปตั้งหลายคน หายซ่าไปเลย” สุมณฑาเชื่อในตัวเพื่อนรัก “ว่าแต่คุณอ๋องหล่อไหม”
ภัทรียาชะงักมือที่กำลังพับเสื้อผ้าเมื่อได้ยินคำถาม หวนนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาไม่ต่างกับเทพบุตรในฝัน หัวใจสาวก็เต้นแรงไม่รู้ตัว แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าวทันใด
“ก็หล่อนะ ดูดีมากๆ สมาร์ต เท่” ภัทรียาตอบ สุมณฑาอมยิ้มเมื่อมองหน้าเพื่อน
“แล้วทำไมแกต้องหน้าแดงด้วยล่ะ อย่าบอกนะว่าหลงรักผัวกำมะลอ” สุมณฑาเย้าเพื่อน
“จะบ้าเหรอ ฉันเพิ่งเห็นหน้าคุณอ๋องครั้งแรกนะแก จะไม่ใจง่ายไปหน่อยเหรอที่รักเขาตั้งแต่แรกเห็น” คนถูกเพื่อนแซวปฏิเสธพัลวัน หน้าแดงมากขึ้น
ขณะนั้นจู่ๆ สุมณฑาก็นึกถึงหมอดูต้นมะยมขึ้นมา นึกถึงคำทำนายของลุงหมอดูที่เกิดขึ้นจริง
“โป๊ะเชะเลยแก แกจำคำทำนายของลุงหมอดูต้นมะยมได้ไหม ที่บอกว่าวันนี้แกจะเจอเนื้อคู่ หรือว่าคุณอ๋องจะเป็นเนื้อคู่แก เพราะแกเจอเขาวันนี้ พรุ่งนี้แกก็ต้องจดทะเบียนกับคุณอ๋อง ก็ถือว่าแกแต่งงานมีครอบครัว แล้วยังเรื่องที่แกถามว่าแกจะรักษาค่ายมวยได้หรือเปล่า ลุงหมอดูตอบว่าได้ ซึ่งมันก็ได้จริงๆ คำทำนายของลุงต้นมะยมเป็นจริงแล้ว โอ้โห...ลุงหมอดูดูแม่นจริงๆ สมคำร่ำลือสุดๆ” สุมณฑามีสีหน้าตื่นเต้นระหว่างพูด
หัวใจของภัทรียาเต้นเร็วมากขึ้น วันนี้เธอก็คิดเรื่องนี้เช่นกัน ยังชื่นชมความแม่นยำในการดูดวงของหมอดูต้นมะยมที่ทายหลายเรื่องได้ถูกเผ็ง แต่มีหนึ่งเรื่องที่ภัทรียายังไม่ปักใจเท่าไหร่นัก คือเนื้อคู่ ที่หมอดูทายไว้ว่าเธอจะพบเนื้อคู่วันนี้
“คงไม่ใช่คุณอ๋องหรอกแก เพราะวันนี้ฉันเจอผู้ชายตั้งเยอะแยะ แทบจะนับไม่หวาดไม่ไหว ขึ้นรถเมล์ก็เจอเป็นสิบ เข้าไปในอาคารสำนักงานของคุณอ๋องก็เจอไม่ใช่น้อย ไปธนาคารก็เจออีก เอาเงินไปคืนเสี่ยหมีก็เจอเหมือนกัน ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนไหนเป็นเนื้อคู่ ฉันว่านะ คำทำนายข้อนี้พิสูจน์ยากสุด”
ภัทรียาก็อยากโมเมว่าธัชธรรม์เป็นเนื้อคู่ของเธอ เพราะเขาทั้งหล่อ รวย สมาร์ต และภูมิฐานจนไม่อยากละสายตา ครบสูตรที่สาวๆ หมายปอง แต่ภัทรียาก็ไม่อยากหวังเกินเอื้อม รู้ดีว่าเขาไม่มีทางก้มมองคนที่ฐานะต่ำต้อยกว่าแน่ โดยเฉพาะเธอ
“มันก็จริงของแก” สุมณฑาเห็นด้วย “มันก็พิสูจน์ยากจริงๆ เดินสวนกับผู้ชายตั้งหลายสิบคน คงไม่รู้หรอกว่าใครคือเนื้อคู่เรา นอกจากกามเทพ”
“อย่าไปคิดให้มันปวดหัวเลย เรื่องแบบนี้คิดไปก็เท่านั้น อีกอย่างฉันคงไม่ไปถามกามเทพด้วย เพราะกามเทพหน้าตาเป็นยังไง อยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย”
“แกก็ไปถามลุงหมอดูสิ เผื่อเขาจะรู้เพราะดูแม่นขนาดนั้น ทั้งของแกและฉัน เขาต้องรู้แน่ๆ ว่าเนื้อคู่ของแกคือใคร”
สุมณฑายุเพราะเธอก็ต้องการรู้เช่นกัน
“แกอยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ฉันไม่อยากรู้นี่ ถ้าแกอยากรู้แกก็ไปถามหมอดูคนเดียวก็แล้วกัน” ภัทรียาแสร้งทำเป็นไม่อยากรู้ ทั้งที่อยากรู้มากกว่าสุมณฑาเสียอีก
“แต่ฉันว่าถึงยังไงแกก็ต้องไปกับฉันอยู่ดี ฉันมั่นใจ”
“ทำไมแกถึงมั่นใจอย่างนั้นล่ะ” ภัทรียาถามกลับ
“แกลืมไปแล้วเหรอว่า ลุงหมอดูพนันอะไรไว้กับแก แล้วผลที่ออกมาคือแกแพ้ เพราะฉะนั้นแกต้องทำตามที่ตกลงกับลุงหมอดู แกไปเลี้ยงอาหารเด็กเล็กก็ต้องแวะไปหาลุงหมอดูอยู่ดีจริงไหม”
ภัทรียาลืมเรื่องนี้เสียสนิท เพราะมัวแต่ดีใจที่ปลดหนี้สินที่รัดตัวมานานได้สำเร็จ
“ใครว่าฉันแพ้ ฉันยังไม่แพ้สักหน่อย เพราะฉันยังไม่ได้แต่งงาน การจดทะเบียนสมรสครั้งนี้เป็นการแต่งงานหลอกๆ ไม่ได้แต่งงานจริงๆ สักหน่อย” ภัทรียาเถียงข้างๆ คูๆ
“แต่ลุงหมอดูไม่ได้เจาะจงเหมือนกันว่าการแต่งงานของแกจะหลอกหรือจริงไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้นถือว่าเกิดขึ้นจริงตามคำทำนาย แกโยกโย้ไม่ได้นะ” สุมณฑาพูดเสียภัทรียาหาคำโต้แย้งไม่ได้ เนื่องจากเป็นความจริง
ภัทรียาที่จำต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเสียไม่ได้ ทำหน้างอใส่เพื่อนตัวดี
“ถ้าอย่างนั้นค่อยนัดกันก็แล้วกันว่าจะไปวันไหน แต่ฉันไม่ถามเรื่องที่แกอยากรู้นะ แกอยากรู้ก็ถามเองก็แล้วกัน”
สุมณฑายิ้มกว้างอย่างสมใจที่ทำให้เพื่อนรักยอมไปหาหมอดูต้นมะยมอีกครั้ง
“หลังปีใหม่เป็นไง ช่วงปีใหม่ฉันต้องไปบ้านแม่ คงไปเป็นเพื่อนแกไม่ได้ หลังปีใหม่ดีที่สุด”
“อืมได้” เจ้าของห้องรับคำ “ว่าแต่งานของแกเป็นไงบ้าง ดีเหมือนที่คิดไว้หรือเปล่า”
“ยังตอบไม่ได้หรอกว่ามันดีหรือไม่ดี เพิ่งทำงานแค่วันแรกเอง แต่จากที่ดูๆ ก็ไม่น่ามีอะไร”
“บริษัทใหญ่ขนาดนั้นเรื่องงานคงไม่มีปัญหา แต่ฉันกลัวเรื่องคนมากกว่า แกต้องระวังตัวด้วยนะกระแต เป็นเด็กใหม่เดี๋ยวจะโดนคนเก่าใช้งานเหมือนวัวเหมือนควาย” ภัทรียาเตือนเพื่อน
“ฉันรู้แล้ว ขอบใจนะที่เป็นห่วง เดี๋ยวฉันช่วยแกเก็บเสื้อผ้าดีกว่า จะได้เสร็จเร็วๆ”
หญิงสาวสองคนช่วยกันพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋า พร้อมทั้งพูดคุยตามประสาเพื่อนรัก และอีกราวครึ่งชั่วโมงต่อมา สุ-มณฑาก็ขอตัวกลับ ส่วนภัทรียาลงมือคำนวณค่าใช้จ่ายในบ้าน รวมทั้งหนี้สินเล็กๆ น้อยๆ ที่ค้างอยู่หลายราย และที่ขาดไม่ได้คือเงินที่ใช้จ่ายในค่ายมวย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การซ้อมที่ต้องซื้อทดแทนของเก่าที่ซึ่งมีอายุการใช้งานมาก เรื่องเงินค้างจ่ายนักมวย และที่สำคัญที่สุดเธอตั้งใจแบ่งเงินจ่ายค่าจ้างสอนมวยให้จ่าเอก ที่ไม่เคยได้รับค่าจ้างมานานนับปีอีกด้วย ภัทรียาตั้งใจใช้เงินที่เหลือให้เป็นประโยชน์มากที่สุด