หลายปีผ่านไป...
คามินเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย ด้วยสมองที่ชาญฉลาดและไอคิวที่สูงเหมือนแม่ ผนวกกับการเลี้ยงดูของครอบครัว โดยคาริสาคนเป็นแม่เห็นแววความเฉลียวฉลาดของลูกชาย เธอจึงสอนให้เขาเรียนรู้สิ่งต่างๆ และค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก
คามินค้นพบความถนัดของตัวเอง ทำให้บริษัทฯ ที่เขาสร้างขึ้นมากับมือเติบโตได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ปัจจุบันกลายเป็นบริษัทฯ ที่เป็นที่รู้จักและร่ำรวยอันดับต้นๆ ของเอเชีย เขาคือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปีปี
หนูนาเป็นเด็กในการเลี้ยงดูของคามิน ชายหนุ่มกลายเป็นผู้ปกครองของเด็กสาวโดยปริยาย
คามินส่งให้หนูนาเรียนต่อในโรงเรียนเรียนเอกชนชื่อดัง ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกับที่ดีแลนด์น้องสาวของเขาเรียนอยู่ เด็กสาวสองคนเข้าได้ดีจากเพื่อนร่วมห้องกลายเป็นเพื่อนรักมาจนถึงปัจจุบัน
“หนูนาไม่ต้องล้างแล้ว รีบแต่งตัวไปโรงเรียนเดี๋ยวคุณคามินรอนาน”
เสียงคนใช้ในบ้านคนหนึ่งพูดขึ้นในตอนเด็กสาวกำลังล้างถ้วยจานอยู่ในครัวเพียงคนเดียว ไม่มีใครอยากให้หนูนาต้องทำงานบ้านงานครัว เพราะถ้าห่างคามินรู้เข้า คนรับใช้ในบ้านทุกคนจะโดนดุเอา
“ค่า ใกล้จะเสร็จแล้วคะ” เด็กสาวตอบรับขณะที่สองมือน้อยกำลังวุ่นวายกับการจัดเรียงถ้วยจานที่เพิ่งล้างเสร็จ เธอขะมักเขม้นในการทำงานทุกอย่างจนติดเป็นนิสัย แม้จะมีคนอื่นคอยห้ามไม่ให้เธอทำ แต่เด็กสาวก็จะหางานในบ้านในครัวทำจนได้ บางครั้งเธอก็ออกไปทำงานสวนด้วย ทำเอาคนสวนเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว
หนูนาเป็นเด็กดี น่ารัก ว่านอนสอนง่าย คนรับใช้ทุกคนในบ้านต่างก็เอ็นดูเด็กสาวแม้จะเคยเดือดร้อนเพราะเธอหลายครั้งก็ตาม
“มาแล้วค่า มาแล้ว” หนูนารีบวิ่งออกมาจากตัวบ้านอย่างรีบร้อนหลังจากที่เเต่งกายในชุดนักเรียนเสร็จเรียบร้อย เด็กสาวตะโกนพูดพร้อมตรงไปยังทิศทางของรถตู้คันหรูที่จอดรอเธออยู่หน้าบ้าน
“มาแล้วคะ” หนูนาพูดเสียงแหบแห้งเพราะเหนื่อยหอบจากการวิ่งเมื่อครู่ เธอรีบเข้ามานั่งในเบาะที่นั่งทันทีที่ประตูรถตู้ถูกเปิดออกโดยฝีมือของคนขับ เด็กสาวเหลือบตามองคามินที่นั่งรอเธอก่อนหน้านี้ด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “ขอโทษนะคะแด๊ดดี้”
คามินมองเด็กสาวด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ถึงเขาจะไม่ได้ดุเธอแต่เธอก็แอบเกรงใจเขาอยู่เสมอ
“คิดไว้หรือยังคะว่าจะเรียนต่อคณะอะไร” คามินพูดขึ้นขณะที่รถขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนน อีกไม่ถึงสามเดือนหนูนาก็จะเรียนจบแล้ว เขาจำเป็นต้องรู้การวางแผนชีวิตของเธอ
“...” หนูนายิ้มเจือน เธอส่ายหน้าไปมาน้อยๆ ไม่ค่อยมั่นใจในศักยภาพของตัวเองนัก ที่คิดไว้ก็ไม่รู้จะสอบติดหรือเปล่า เพราะเธออยากเรียนต่อในมหาลัยรัฐบาลมากกว่ามหาลัยเอกชน
“งั้นไม่ต้องเรียน มาอยู่ใช้เงินแด๊ดดี้ดีไหมคะ” คามินพูดทีเล่นทีจริงเมื่อไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากเด็กสาวที่นั่งข้างๆ มือหนายื่นไปจับศีรษะทุยเล็กโยกไปมาเบาๆ ราวกับกำลังหยอกล้อเธออย่างรู้สึกเอ็นดู
“หนูนาอยากเรียนค่ะ เรียนจบหนูนาจะมาช่วยงานแด๊ดดี้” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น บุญคุณที่ชายหนุ่มมีต่อเธอ ชดใช้ยังไงก็ไม่มีวันหมด เธอตั้งมั่นตั้งใจที่จะทำทุกๆ อย่างเพื่อชายหนุ่ม แม้เขาจะไม่ได้เรียกร้องก็ตาม “ถึงหนูนาจะเรียนไม่ค่อยเก่ง แต่หนูนาก็ตั้งใจเรียนนะคะ แด๊ดดี้ไม่เสียเงินค่าเทอมฟรีแน่นอนค่ะ”
“...” คามินมองสีหน้าและท่าทางที่จริงจังของเด็กสาวอย่างเอ็นดู สองมือน้อยเอื้อมขึ้นไปจับมือของคามินที่จับหัวเธอเล่นเมื่อครู่มาไว้ในเกาะกุม
“หนูนาจะใช้ความรู้ความสามารถทั้งหมดที่มีมาช่วยงานแด๊ดดี้ค่ะ”
“ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น เลือกเรียนตามสายงานที่หนูนาถนัด เอาแบบที่หนูนาชอบ”
ตัวเลขค่าเทอมของเธอเป็นเพียงแค่เศษเงินของเขาเท่านั้น ต่อให้เธอเรียนโดยไม่ได้รับความรู้กลับมาเลย เขาก็ไม่ได้เสียดายเงินส่วนนั้น ขอแค่เธอมีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบเด็กวัยรุ่นทั่วไป เขาจะมองดูการเติบโตของเด็กสาวอยู่ตรงนี้ ทุกครั้งที่เธอหันกลับมาเธอจะเห็นเขาเสมอ
@โรงเรียนเอกชนชื่อดัง
“แด๊ดดี้ขา ก่อนเข้าเรียนหนูนาขอกำลังใจเป็นรอยยิ้มของแด๊ดดี้ได้ไหมคะ” หนูนาพูดเสียงออดอ้อน แค่ได้เห็นรอยยิ้มของคามินทุกวันแค่นั้นเธอก็มีความสุข
“...” คามินส่งยิ้มให้เด็กสาวอย่างไม่เรื่องมาก เพียงแค่มองใบหน้าสวยหวานของเธอเขาก็สามารถยิ้มออกมาได้อย่างไม่มีเหตุผล
“หนูนาอยากเก็บรอยยิ้มของแด๊ดดี้เอาไว้จัง” เธอพูดเสียงเบาพร้อมจัดการกับกระเป๋าสะพายก่อนจะลงไปจากรถ “หนูนาไปเรียนแล้วนะคะ”
“หนูนา” เสียงเรียกของคามินทำให้หนูนาที่กำลังจะเดินจากไปรีบหันกลับมาที่เดิมอย่างกระตือรือร้น
“คะ? แด๊ดดี้มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“รอยยิ้มของแด๊ดดี้อยู่ในนี้ อย่างเห็นเมื่อไหร่ก็ค่อยเปิดดูนะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมยื่นของบางอย่างให้กับเด็กสาว ซึ่งเธอก็รีบรับมันไว้โดยไม่ได้ถามอะไร
หนูนามองรถตู้คันหรูที่ขับเคลื่อนออกไป ทั้งที่ยังถือของบางอย่างที่คามินให้ไว้ในมือ เด็กสาวขมวดคิ้วพลางทำสีหน้าครุ่นคิดขณะที่ส่องดูใบหน้าของตัวเองผ่านกระจกพับเล็กๆ
“แด๊ดดี้ให้กระจกหนูนาทำไม?”