“มีอะไรให้หนูนาช่วยไหมคะ” เด็กสาวพูดขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายของแม่ครัวกับลูกมืออีกสองคนที่กำลังขะมักเขม้นในการเตรียมอาหารมื้อเย็น
“ไหนบอกว่าวันนี้ต้องทำรายงานบ้านเพื่อนไงหนูนา ทำไมมาอยู่ที่นี่”
ลูกมือของแม่ครัวคนหนึ่งเอ่ยถามขณะที่กำลังบดเครื่องเทศ
“หนูนามาช่วยงานตรงนี้ก่อนคะ แล้วค่อยไป”
“หนูนารีบไปทำรายงานเถอะจ้ะ เดี๋ยวทางนี้ป้ากับพี่ๆ จัดการเองเนอะ” แม่ครัวที่กำลังปรุงอาหารอยู่หันมาพูดกับเธอเพียงนิดก่อนจะหันกลับไปปรุงอาหารต่ออย่างวุ่นวายมือ เด็กสาวกวาดสายตามองหางานที่พอจะช่วยแบ่งเบาภาระจากคุณป้าแม่ครัวและพี่ๆ ที่เป็นลูกมือ ก่อนจะตรงไปที่ซิงค์ล้างมืออย่างไม่รีรอ
“หนูนาทำอะไรคะ” เสียงของผู้ช่วยอีกคนพูดขึ้นอย่างชั่งใจ เมื่อเห็นหนูนากำลังจะทำท่าล้างผักที่วางอยู่ตรงซิงค์ล้างจาน
“ล้างผักไงคะ” เธอเงยหน้าขึ้นมาพูดเพียงนิดขณะที่สองมือยังวุ่นวายกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
“ล้างแค่ผักพอนะหนูนา ล้างเสร็จก็รีบไปทำรายงานเลยจะได้ไม่กลับดึก เดี๋ยวคุณคามินดุเอา”
“โอเคค่ะ” เด็กสาวตอบรับพร้อมฉีกยิ้มจนตาหยี แล้วใครกันจะกล้าขัดใจเธอ “อาหารว่างนี้จะเอาไปเสิร์ฟแด๊ดดี้กับเพื่อนๆ ของแด๊ดดี้ใช่ไหมคะ” หนูนาเอ่ยถามหลังจากที่จัดการล้างผักจนเสร็จเรียบร้อย เด็กสาวเช็ดมือกับผ้าแบบลวกๆ ขณะที่รอคำตอบจากใครสักคนที่อยู่ภายในห้องครัวด้วยกัน
“ใช้จ้ะ”
“งั้นเดี๋ยวหนูนาเอาไปให้เองค่ะ” ว่าแล้วเธอก็จัดการยกถาดอาหารว่างเดินออกไปจากห้องครัวโดยมีเสียงห้ามปรามจากเหล่าแม่บ้าน ซึ่งก็ห้ามไม่ทันเหมือนอย่างเคย
คามินมองดูหนูนาที่เอาอาหารว่างมาเสิร์ฟให้เขากับเล่าเพื่อนพ้องที่แวะมาเยี่ยมบ้าน ปกรณ์พี่ใหญ่ประจำแก๊งค์ขึ้นมากรุงเทพฯ ด้วยเรื่องธรุกิจทั้งที ปรินทร์จึงชวนให้มาสังสรรค์ด้วยกันก่อนกลับ ทั้งสามจึงได้รวมตัวกันในวันนี้
“แด๊ดดี้ขา หนูนาขออนุญาตไปทำรายงานนะคะ” หนูนาหันมาพูดกับคามินหลังจากที่จัดการวางอาหารว่างลงบนโต๊ะกระจกเสร็จเรียบร้อย
“หนูนาขึ้นมานั่งบนโซฟากับแด๊ดดี้”
เธอเป็นเด็กที่อ่อนน้อมถ่อมตนขณะที่ขออนุญาตคามินไปข้างนอก เด็กสาวก็นั่งคุกเข่ากับพื้นเพราะเธอไม่เคยเอาตัวเองไปเทียบเสมอเจ้าของบ้าน คามินอุ้มหนูนาให้ขึ้นมานั่งข้างๆ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือขัดขืนการกระทําของชายหนุ่ม
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ต้องทำงานบ้านงานครัว” คามินพูดพร้อมโยกศีรษะทุยเล็กของเด็กสาวไปมาโดยไม่ได้สนใจสายตาที่รู้สึกหมั่นไส้ของปกรณ์กับปรินทร์เลยแม้แต่น้อย “เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อฟังแด๊ดดี้แล้วเหรอคะ”
“เชื่อฟังค่ะ แต่หนูนาอยากทำงานให้แด๊ดดี้ ให้หนูนาทำงานให้แด๊ดดี้นะคะ” หนูนาพูดเสียงออดอ้อนแล้วฉีกยิ้มหวานพร้อมกับเอื้อมมือน้อยๆ ไปบีบนวดขาให้คามินเบาๆ อย่างรู้งาน แล้วใครเล่าจะต่อต้านความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กสาวได้
“ไปทำรายงานที่ไหน แล้วจะกลับเวลาเท่าไหร่”
“บ้านเพื่อนค่ะ ดีแลนด์ก็ไปด้วยนะคะ คิดว่าสักทุ่มสองทุ่มก็น่าจะได้กลับแล้วค่ะ”
“สองทุ่มเลยเหรอ ดึกไป ทุ่มครึ่งต้องถึงบ้าน”
“อะแฮ่ม เที่ยงคืนสำหรับเฮียก็ว่ายังไม่ดึกนะหนูนา ถ้างานยังไม่เสร็จกลับสามสี่ทุ่มจะเป็นอะไรไป” เสียงนั้นคือเสียงของปรินทร์ที่พูดเย้าแหย่เพื่อนรักที่ดูห่วงเด็กในการเลี้ยงดูเกินหน้าเกินตา ทำเอาคามินหันไปถลึงตาใส่เขาอย่างลืมตัว ขณะที่ปกรณ์ยกยิ้มมุมปากอย่างนึกขำ
“หนูนาจะกลับบ้านให้ได้ก่อนทุ่มครึ่งค่ะ” เด็กสาวเห็นคามินทำหน้าดุใส่ปรินทร์จึงรีบพูดตัดบททันที เพราะไม่อยากให้คามินอารมณ์ไม่ดี
“ให้ดีแลนด์นั่งรถจากที่บ้านมารับ แล้วก็ให้ดีแลนด์มาส่งด้วยตัวเองด้วย”
“โอเคค่ะ” หนูนารีบรับปากอย่างเร็วเมื่อได้รับการอนุญาตจากคามิน
“ถ้ากลับบ้านเลยเวลาให้แด๊ดดี้ทำยังไงคะ”
“มัดจำไว้ก่อนได้ไหมคะ” ร่างเล็กโถมเข้าไปกอดคามินแทนการหอมแก้มเพราะอยู่ต่อหน้าปกรณ์กับปรินทร์ เด็กสาวแหงนหน้ามองคามินพลางกะพริบตาปริบๆก่อนจะพูดกับเขาเสียงเบาราวกระซิบ “หนูนาให้แด๊ดดี้จุ๊บหน้าผากก่อนทีหนึ่ง ถ้าหนูนามาเลยเวลาแด๊ดดี้จะลงโทษหนูนายังไงก็ได้เลยค่ะ”
“พูดแล้วนะ” เด็กสาวยิ้มแห้งๆ พร้อมพยักหน้าให้คามินอย่างไม่แน่ใจนัก แต่เพื่อความสบายใจของชายหนุ่มเธอจึงแสดงออกอย่างนั้น คามินก้มมาจูบหน้าผากเด็กสาวเบาๆ พร้อมกับลูบศีรษะของเธออย่างรู้สึกเอ็นดู
“หนูนาไปนะคะแด๊ดดี้ ไปก่อนนะคะเฮียกรณ์เฮียปรินทร์”
เธอพูดกับคามินแล้วหันไปยกมือไหว้ลาปกรณ์กับปรินทร์ด้วยความเคารพ โดยที่ทั้งคู่ก็ยกมือรับไหว้เธอกลับ ก่อนเด็กสาวจะเดินจากไปโดยมีคามินมองตามหลังเธอจนหายลับไปต่อหน้าต่อตา
“มองตามหน้าละห้อยเลยนะมึง” ปกรณ์พูดจากระแหนะกระแหนคนที่เป็นทั้งเพื่อนและน้องชาย “กับดีแลนด์ห่วงขนาดนี้ไหม?”
“ดีแลนด์ของเฮียไม่ใช่เหรอ?” ปรินทร์ออกปากพูดแทนคามินขณะที่ยกเครื่องดื่มแอลกอฮอลขึ้นมาแล้วกระดกลงคอหลังจากพูดจบประโยค
“ไอ้ปรินทร์!” เป็นคามินที่เรียกปรินทร์เสียงแข็งกร้าว เขาไม่พอใจที่เพื่อนรักพูดถึงน้องสาวของเขาแบบนั้น แม้จะเป็นการเย้าแหย่กันเล่นก็เถอะ
“หึ..เชื่อเถอะว่าหนูนาไม่มีทางกลับมาถึงบ้านทันเวลาถ้าไปกับดีแลนด์” ปรินทร์เค้นเสียงหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดคาดการณ์อย่างรู้ทัน ดีแลนด์หลานสาวตัวน้อยจอมเจ้าเล่ห์ของเขาต้องพาเด็กสาวใสซื่ออย่างหนูนาเถลไถลนอกลู่นอกทางบ้างแหละ
“กูก็ภาวนาให้เป็นแบบนั้นแหละ