7.ความลับ

1068 Words
สิ้นสุดการศึกษาภาคที่หนึ่ง ธันทรรู้สึกห่วงคนในความคิดที่ชอบมาเดินเล่นในหัวของเขาตลอดมา ครั้นจะไปถามเหล่าบรรดาอาจารย์เค้าก็จะรู้กันหมด ไม่ดีอีก และทันใดนั้นสมองอันชาญฉลาดของเขาก็ว๊าบไปถึงพยาบาลรุ่นอาวุโสที่นับถือทันที ไวกว่าความคิด เขารีบพาตัวเองมาที่วอร์ดอายุรกรรมทันที "สวัสดีครับ ไม่ทราบพี่น้ำอยู่หรือเปล่าครับ" คุณหมอหนุ่มเอ่ยถามขึ้นจนได้หลังจากตัดสินใจอยู่สักพัก "อ๋อ น่าจะอยู่ข้างในค่ะเดี๋ยวหนูตามให้ค่ะ" เจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์เอ่ยขึ้นอย่างมีมารยาท "อ้าวคุณหมอธันทรนั่นเอง มีอะไรให้พี่น้ำรับใช้คะ" "อ๋อ.. คือเชิญทางนี้หน่อยครับ" คุณหมอหนุ่มอึก ๆ อัก และเอ่ยชวนให้คุณพยาบาลอาวุโสเดินไปคุยกันที่อื่นเพราะไม่เป็นการดีนักถ้าคนอื่นจะได้ยิน "คุณหมอมีอะไรหรือเปล่าคะ บอกพี่มาได้เลยค่ะ" พยาบาลอายุโสเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเดินมาไกลผู้คนแล้ว "คือ...เด็กคนนั้นที่พี่ดูแลน่ะครับ ผลการเรียนเป็นไงมั่ง" "อ๋อ...น้องนาง เด็กทุนเรียนดีนี่คะ น้องเป็นเด็กดีค่ะ ผลการเรียนยังไม่ออกแต่พี่มั่นใจค่ะว่าน้องน่าจะได้คะแนนดีแน่นอน" พยาบาลอาวุโสกล่าวอย่างหนักแน่น "งั้นเหรอครับ งั้นก็ดีไป ขอบคุณพี่น้ำนะครับ อ้อ..แล้วทำไมเด็กคนนี้ไม่กลับบ้านวันหยุดมั่งเลยล่ะครับ เห็นว่ามีบ้านอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอครับ" "อ๋อ...พี่ชายไม่อยากให้อยู่บ้านคนเดียวน่ะค่ะ พอดีพี่ชายน้องลาออกจากงานประจำไปเป็นพยาบาลพิเศษกินนอนที่บ้านนายจ้างเลยค่ะ ก็เลยไม่มีใครอยู่บ้าน นี่แหละค่ะคือเหตุผลที่น้องต้องอยู่หอพัก" "อ้อ..เป็นอย่างนี้นี่เอง...แล้วพ่อแม่น้องล่ะครับ" "พ่อแม่น้องตายแล้วทั้งหมดค่ะ " "อือ...งั้นเหรอครับ" "ไม่ทราบคุณหมอสงสัยอะไรในตัวเด็กหรือคะ น้องดูเรียบร้อยน่ารักดีนะคะ รู้จักวางตัวอยู่นะคะ" พยาบาลอาวุโสเอ่ยถามขึ้นอย่างนึกสงสัย "อ๋อ คือผมเคยเห็นเด็กคนนี้ก่อนนี้ครับ ก่อนที่จะรู้ว่าน้องมาเป็นนักศึกษาแพทย์ที่นี่เสียอีก พอดีผมพบเหตุที่ถนนในชุมชนโดยบังเอิญครับ ก็เข้าไปช่วย ผู้ป่วยขับขี่รถมอเตอไซค์ไปตามทางอยู่ ๆ ก็ล้มไปเฉย ๆ ไม่มีคู่กรณี แต่พอไปตรวจดูก็พบว่าเข้าข่ายสโตรกครับผมก็เลยปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วก็เรียกรถพยาบาลให้ แต่ระหว่างที่รอรถฯ พอดีได้เด็กคนนี้ช่วยปลุกระดมพี่ ๆ วินมอร์เตอไซค์ให้ไปช่วยกันบล็อครถให้กันรถคันอื่นมาชนซ้ำน่ะครับก็เลยอุ่นใจ ดูแลเคสอย่างสบายใจจนรถพยาบาลมาส่งต่อผู้ป่วยขึ้นรถไปครับ แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือ ระหว่างที่น้องเดินไปเรื่อย ๆ ผมได้ยินพวกวินมอเตอไซค์บีบแตรเรียกน้องว่าลืมรถรถมอเตอร์ไซค์นั่นแหละครับ ผมถึงได้รู้ว่าน้องกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง หรือมีเรื่องสะเทือนใจหรือเปล่า ผมก็เลย..." ธันทรหยุดไว้แค่นั้นอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไงต่อ "อ้อ..พี่พอจะเดาออกค่ะ คือพ่อของน้องเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองแตกค่ะ และที่สำคัญเกิดอาการในขณะขับรถค่ะ แล้วผู้พบเหตุก็มุ่งไปในเรื่อง เมาแล้วขับบ้าง มองไปในเรื่องจราจรทางบกธรรมดาบ้าง จนอาการหนัก เพราะเสียเวลากับตรงนั้นเสียเยอะ น้องก็เลยเสียพ่อไป" พยาบาลอาวุโสเล่าไปตามที่ได้รับรู้มาทุกคำพูดทุกน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเมตตาสงสารอยู่ในนั้น "เหรอครับ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง คงสะเทือนใจไม่น้อยนะครับ แล้วใครเป็นส่งเสียน้องครับ ดูแลกันยังไง" "พี่ชายค่ะ เหลือกันแค่สองพี่น้องค่ะ คนพี่นี่ก็น่าสงสารค่ะ สู้มาก ขยันเสียสละเพื่อน้องมากทำทุกวิถีทาง ตอนยังสังกัดโรงพยาบาลอยู่ก็เหมาเวร ประหยัดอดออม บอกว่าจะส่งน้องสาวเรียนแพทย์ให้ได้ ยอมเสียสละความฝันของตัวเองทั้งที่สอบติดแพทย์แต่ก็เลือกที่จะเรียนแค่พยาบาลเพื่อจะได้ส่งเสียน้อง ส่วนตัวน้องเองก็สู้มาก เป็นเด็กดีขยันแล้วก็เรียนเก่ง ไม่เกเร ไม่ฟุ้งเฟ้อ ปิดเทอมก็หางานพิเศษทำช่วยพี่ชายหารายได้เพิ่ม น่ารักค่ะแต่ทำไม่น๊า... เฮ๊อ...พี่ไม่เคยหดหู่อะไรขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะคุณหมอ" พยาบาลอาวุโสพูดออกมาจากหัวใจ "ผมเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณนะครับที่ยอมเล่าให้ผมฟัง ทุกอย่างมันจะเป็นความลับระหว่างผมกับพี่แค่สองคนครับ รับรองว่าผมจะไม่แพร่งพรายให้ใครฟังอย่างแน่นอน งั้นผมรบกวนเวลาพี่น้ำแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ขอบคุณที่สละเวลาให้ผม" ธันทรเอ่ยออกมาจากส่วนลึกข้างในเช่นกัน "ยินดีค่ะ เพราะพี่รู้ว่าคุณหมอเป็นคนดี ไม่คิดร้ายต่อเด็กแน่นอน แต่พี่ขอเตือนไว้อย่างนะคะ ถ้าคุณหมอคิดจะเล่น ๆ กับเด็กคนนี้ พี่เป็นคนนึงที่พร้อมจะปกป้องเด็กคนนี้อย่างสุดชีวิตแน่นอนเช่นกันค่ะ พี่เอาเกียรติความเป็นมนุษย์ของพี่เป็นประกันได้เลยค่ะ" พยาบาลอาวุโสพูดอย่างเด็ดเดี่ยว "ไม่..ครับ ไม่แน่นอนครับ พี่น้ำสบายใจได้เลย เราอุดมการณ์เดียวกันครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ" ชายหนุ่มปิดการสนทนาพร้อมกับยกมือไหว้และหันหลังกลับออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งระคนอบอุ่นหัวใจแปลก ๆ {แฟนคลับมีคุณภาพแน่นหนานะเนี่ย ท่าทางจะยากแล้วซิ อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่าเราเป็นยังไงนะยัยเรืองแสง พยายามต่อไปนะทั้งพี่ทั้งน้องเลย หวังว่าจะได้เจอกันตอนปีสองน่ะ พยายามเข้าล่ะ} จากนั้นชายหนุ่มก็เดินลัดเลาะอาคารนักศึกษาแพทย์ไปเรื่อย ๆ เผื่อจะเจอคนที่ชอบไปเดินเล่นในหัวของเขาบ้างแต่ก็ลืมไปว่านี่เป็นฤดูกาลปิดภาคเรียนแล้ว เขาได้แต่ยิ้มขำให้กับตัวเองเบา ๆ ถ้าเป็นเอามากนะเรา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD