9.อยู่บ้านท่าน

1097 Words
ความเดิม- "งั้นมานั่งข้าง ๆ พี่มะ" คนพี่แตะทีข้อศอกน้องสาวเบา ๆ แล้วไปนั่งข้าง ๆ ตน ......................................... ด้านเปรมมนัสที่แอบสังเกตเพื่อนของเพื่อนรักอยู่สักพักหนึ่งพอจะเดาอะไรออกว่าอะไรเป็นอะไร จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดอะไรบางอย่างลงไปในนั้น แล้วเก็บไว้ที่เดิมแล้วสังเกตการณ์ไปเรื่อย ๆ เพราะวันนี้เป็นวันที่ครบรอบการประเมินการรักษาของพี่ชายอีกครั้งซึ่งแพทย์หลายสาขาและนักกายภาพในการประเมินครั้งนี้ด้วย 30 นาทีผ่านไป การสรุปผลการตรวจประเมินเสร็จสิ้นลงและผลสรุปคืออาการของผู้ป่วยดีขึ้นแบบองค์รวมทำให้ญาติ ๆ มีสีหน้ายิ้มแย้มกันถ้วนหน้าไม่เว้นแม้แต่ตัวผู้ป่วยเอง และพร้อมแล้วที่จะทวงครอบครัวที่อบอุ่นกลับคืนมาให้น้องเอ๋ยลูกสาวคนสวย หลังจากที่การประชุมสรุปผลการรักษาเสร็จสิ้น เปรมชัยได้เชิญคณะแพทย์ไปรับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน สั่งอาหารเลิศรสมาจากภัตตาคารหรู ซึ่งมานพได้ขอตัวพาน้องสาวไปพักผ่อนที่ห้องและหาอาหารรับประทานเอง "พี่นพ น้องอยากกินข้าวเหนียวไก่ย่างส้มตำจังเค้ายังมีขายหรือเปล่า" "อยากกินเหรอ พี่เห็นมีอยู่ที่นึง เดี๋ยวพาไป แว๊นไปนะ ใส่หมวกก่อน เกาะดี ๆ" มานพเอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับสวมหมวกนิรภัยให้น้องสาวแล้วตบลงบนหมวกเบา ๆ "ฮิฮิฮิ.. ไปเล้ย.." มานิดายิ้มสดในแล้วกอดเอวพี่ชายหลวม แล้วพักศีรษะลงที่หลังของพี่ชายอย่างอบอุ่นหัวใจ @ร้านอาหารตามสั่ง มานพจอดรถจักรยานยนต์ที่ร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่งที่มีอาหารจำพวกไก่ย่างส้มตำและอาหารอิสาน "มะ ตามมา ร้านนี้อร่อย สะอาดด้วย" มานพเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วเดินนำน้องสาวไป "เหรอ ปะ ต้องลอง" มานิดาตื่นตาตื่นใจรีบเดินตามพี่ชายไปติด ๆ "อ้าวนพมากินส้มตำ" แม่ค้าวัยกลางคนเอ่ยทักทาย ทำเอาน้องสาวหันมามองหน้าพี่ชายทีแม่ค้าที "ครับ พาน้องสาวมากินส้มตำไก่ย่างครับ/สงสัยอะไร ไปนั่งไป เดี๋ยวสั่งให้ ที่นี่เค้ามีน้ำใบเตยนะหอมดีใส่น้ำแข็งเย็น ๆ" มานพตอบเจ้าของร้านอย่างคนรู้จักกัน แล้วพาน้องสาวไปนั่ง จัดการเทน้ำเปล่าที่มีกลิ่นหอมใบเตยใส่ในแก้วที่มีน้ำแข็งหลอดเกือบเต็มแก้ว แล้วเลื่อนไปตรงหน้าน้องสาว "ขอบคุณค่ะ..อื้มหอมชื่นในจริงแหละ แล้วพี่ออกมาแบบนี้เจ้านายพี่ไม่ว่าเหรอ" หญิงสาวหันไปยิ้มอย่างเป็นมิตรกับแม่ค้าวัยกลางคนแต่ก็อดที่จะเอ่ยถามอย่างนึกเป็นห่วงพี่ชายไม่ได้ "ไม่ว่าหรอก ขออนุญาตแล้ว แต่อยู่ได้ไม่นานต้องรีบกลับ" มานพตอบไปอย่างตรงไปตรงมา "เหรอ งั้นรีบกินเถอะพี่ จะได้รีบกลับ" "อือ.. นั้นไงส้มตำไก่ย่างมาละ ลุยเลย" มานพเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปรับจานไก่ย่างส้มตำจากแม่ค้าแล้วเลื่อนไปตรงหน้าน้องสาว "อื้ม..ลุย.." จากนั้นมานิดาจ้วงช้อนตักเส้นมะละกอเข้าปากแล้วต้องตาลุกวาว แล้วใช้ส้อมจิ้มชิ้นไก่ย่างเข้าปากตาม "เผ็ดเหรอ เหงื่อแตกเชียว" มานพยื่นกระดาษชำระให้น้องสาวยิ้ม ๆ "เผ็ดค่ะ แต่อร่อยมาก" "อืม..รีบกินเถอะ จะได้รีบกลับ" อีกด้านของคนที่ตามมา ชายหนุ่มเลือกที่จะนั่งอยู่ในรถยนต์ใต้ร่มไม้เฝ้าสังเกตการณ์คนตัวเล็กมุมปากยกยิ้ม เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องตาม ต้องเป็นห่วงสองพี่น้องนี้ด้วย แต่อีกใจก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาบ้างที่ยัยตัวเล็กเรืองแสงเลือกที่จะมาอยู่กับพี่ชาย อย่างน้อยก็พอปลอดภัย เมื่อเห็นว่าสองพี่น้องกินอิ่มและทำท่าว่าจะกลับเขาจึงกลับบ้าง เช้าวันใหม่ มานิดาตื่นขึ้นมาในตอนเวลาเช้าตรู่และออกมาจากห้องมาเคาะห้องของพี่แต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงลองเปิดประตูดูพบว่าห้องว่างเปล่าจึงรีบกลับเข้าไปในห้องทำธุระส่วนตัวและออกมาจากห้องอีกครั้งและตรงมาที่ห้องครัวทันที "อ้าวหนูนาง มองหาพี่ชายหรือคะ นู่นอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านนู่นค่ะ พาคุณเปรมกิจเดินสูดอากาศยามเช้าค่ะ" วาดแม่บ้านวัยกลางคนกล่าวยิ้ม ๆ "อ้อ เหรอคะ ให้หนูช่วยอะไรมั๊ยคะ หนูอยากช่วย" มานิดาอาสาเพราะไม่อยากอยู่เฉย ๆ "อ๋อ ช่วยล้างผัก ก็ได้ค่ะ" แม่บ้านวัยกลางคนเอ่ยยิ้ม ๆ พลางนึกชื่นชมเด็กสาวอยู่ในใจระคนสงสารเพราะพอจะทราบประวัติของสองพี่น้องอยู่บ้าง "วันนี้ป้าทำอะไรหรือคะ ทำไมใช้ผักเยอะจัง" "ผัดผักรวมมิตร กินกับข้าวต้มค่ะ" แม่บ้านวัยกลางคนกล่าว "หืม น่ากินจัง เมื่อก่อนตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ พ่อชอบทำผัดผักบุ้ง พริกซอยน้ำปลา แล้วก็ข้าวต้มกุ๊ยค่ะ แค่นี้ก็อร่อยแล้ว" หญิงสาวพูดยิ้ม ๆ ในใจก็นึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยว่าคนรวยเค้ากินกันแบบนี้เหรอ "เมื่อก่อนนี้จะเป็นอาหารฝรั่งค่ะ แต่ตั้งแต่คุณกฤษล้มป่วยลง คุณท่านก็สั่งให้กินอาหารแบบบ้าน ๆ มีน้ำพริกไข่ต้ม ผักต้มบ้าง ต้มปลาบ้าง แกงจืดบ้าง หมุนเวียนกันไปค่ะ" แม่บ้านวัยกลางคืนอธิบายต่อ "ดีจัง หนูรู้สึกว่าบรรยากาศเหมือนที่บ้านเลย อาหารก็คุ้นเคย ไม่หวือหวาดีค่ะ" มานิดาล้างผักไปก็พูดไปโดยไม่ทันมองว่ามีใครเดินเข้ามา "ตื่นเช้าจัง ทำอะไรน่ะเราไม่ไปสังเกตการณ์ที่โรงพยาบาลกับพี่ ๆ เค้าเหรอ" เปรมมนัสเอ่ยถามยิ้ม ๆ ทำให้หญิงสาวหันกลับแทบคอเคล็ด "อ้าว สวัสดีค่ะ พอดีหนูไม่มีอะไรทำเลยมาของานป้าเค้าทำค่ะ แฮร่.." มานิดายิ้มแหย ๆ พลางนึกกังวลในใจว่าจะถูกตำหนิหรือเปล่า "อือ ทำไปเถอะ อยากกินอะไรก็บอกป้าวาดแกนะ อยากกินขนมปังก็มีนะ" "ป้าวาดครับ ผมขอกาแฟดำหน่อยซิครับ" "ได้ค่ะคุณนัทเดี๋ยวป้าเอาไปให้ที่ห้องอาหารนะคะ" "ครับ ขอบคุณครับ" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วเดินออกไป

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD