Chapter 10

1538 Words
Chapter 10            พย็องชัง เกาหลีใต้ : 10 FEB 2018, 8:30 PM            - Black Out Time -            “นี่คุณ... ตกลงเป็นหมอ... จริงเรอะ?” เสียงหวานอ้อแอ้ถามคนข้างกาย มือสั่นเทาใต้ถุงมือไหมพรมสีขาวของหญิงสาวรินน้ำใสลงแก้วใบเล็กจิ๋ว มันหกเรี่ยราดบนโต๊ะสีน้ำเงินเข้ม ทว่าแก้วขนาดพอดีมือจับได้แค่ปลายนิ้วชี้และนิ้วโป้งก็ถูกเติมจนเต็ม            “คุณอริสาเมาแล้วนะ... เลิกกินเถอะ เดี๋ยวโค้ชคุณก็ว่าผมหรอก”            “ฉัน... ดูแลตัวเองได้... ไม่ต้องการหมอ” ในท่าทีมั่นอกมั่นใจตรงข้ามความเป็นจริง ใบหน้าสดสวยแดงก่ำเพราะความเมา ตั้งแต่หน้าตู้เบียร์ด้วยเบียร์เกาหลีแค่กระป๋องเดียว! จากนั้นก็เดินโซเซฝ่าหิมะมาจบลงที่ร้านโซจูในเต็นท์ริมทางถนน            พื้นถนนเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนนั้นซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เมืองแห่งฤดูหนาวยาวนานไม่ได้ทำให้รู้สึกหนาวสักเท่าไร แต่อย่างน้อยเธอก็จำได้ว่าเขาบอก... ว่าเป็นหมอ            “เป็นหมอไรอ่ะ หมอดูป่ะ...?”            “หมอ... ไอเลิฟยูครับ” เขาพูดแล้วยิ้มขึ้นมา อีกคนหัวเราะคิกคัก ก่อนที่ความสดใสจะหายไปจากใบหน้าสดสวยโดยสิ้นเชิง            “แหม... เล่นมุก ทำไมหมอไม่กิน...? ไม่มีมารยาท”            “ถ้าผมเมา... ใครจะไปส่งคุณอริสา?”            คำพูดของเขามีเหตุผล อริสาดันรู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผลเพราะความไร้สติ ยกแก้วใบเล็กขึ้นกระดก            ดวงตาคู่คมเข้มจรดอยู่ตรงน้ำในแก้วที่หายวับไปกับตา มันถูกเติมเต็มหลายรอบ จากคนตัวเล็กความสูงแค่ระดับบ่าของเขาเท่านั้น ด้วยความที่กลัวว่าคนเมาจะตกเก้าอี้หัวทิ่มไปซะก่อนจึงเลือกที่นั่งติดกัน            “คุณมานั่งกินเหล้ากับผู้ชายแปลกหน้าแบบนี้ ไม่กลัวหรือไง?”            หญิงสาวทำเป็นไม่ได้ยิน ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองขวาง ด้วยสัมปชัญญะที่พร่าเลือนลงเรื่อย ๆ กลับนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมา            “หมอ... หน้าเหมือนพี่ชาย... คนหนึ่ง... ของฉันเลยนะ”            “พี่ชายที่ไหนครับ? ผมว่าคุณเมามากแล้วล่ะ ให้ขวดสุดท้ายนะ...” สิ้นคำ รอยยิ้มระรื่นขึ้นวงหน้าหล่อเหลา เขาพยายามที่จะเพิกเฉยคำพูดนั้น โดยไม่รู้ว่าหญิงสาวในดวงใจเป็นคนช่างประชดประชัน เธอฉีกยิ้มกว้างหวานเพียงครู่            “อาจุมม่า โซจู!”            ได้ยินเสียงเรียกดัง หญิงสาวรุ่นราวคราวป้าในชุดผ้ากันเปื้อนลายหวาน ยกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีฉลากลายผลไม้ข้างขวดสีเขียวใสมาให้ถึงโต๊ะด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสก่อนจากไป            ความเป็นทั้งแฟนคลับและผู้หวังดี เขาคงไม่สามารถขัดใจหญิงสาวที่อยากทำความใฝ่ฝันตามปากบอก            “ตามรอยติ่งซีรีส์... โซจูรสพีช... อร๊อย... อร่อย...” เสียงแหลมเล็กเอ่ย มือยกกระดกแก้วใสใบเล็กไม่รู้ว่าเป็นแก้วที่เท่าไร ลักษณะของมันไม่ต่างจากน้ำเปล่า หากพอรสชาติหวานนุ่มละมุนลิ้นกลิ่นหอมไหลลงคอแห้งผาก ก็คอยจะต้องหลับตาปี๋ เพราะความแสบซ่านของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้นตำรับของชาวเกาหลี            “Very good! คัมซา ฮัมนีดา” เธอขอบคุณพร้อมโบกไม้โบกมือ ส่งยิ้มให้คุณป้าที่ทำงานอยู่แต่ก็เอี้ยวคอมองกลับมา แม้กระทั่งคนเมายังรับรู้ได้ว่าคนที่นี่อัธยาศัยดี            คุณป้าคุณลุงเจ้าของร้านเนื้อย่างเกาหลีริมทาง ดูแลลูกค้าในร้านทุกโต๊ะด้วยใจรัก นำเสนอเมนูเด็ดให้นักท่องเที่ยวได้ชิมอาหารรสชาติดี ๆ หลังจากเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม บางครั้งพวกเขาจะยืนรอถามว่าอร่อยไหม            “ดีจัง... หนาว ๆ แบบนี้เนอะ หมอ...” ว่าแล้วก็ซบหน้าลงบนไหล่กว้าง กลิ่นหอมอ่อนของโคโลญจน์บุรุษจากเสื้อโค้ทตัวโตสีดำสนิทสีเดียวกันกับเธอลอยมาแตะจมูก พาให้นึกถึงความทรงจำซึ่งจำมันได้ไม่ถนัดนัก            “ฉันเคยนอนโรงพยาบาลนาน ๆ เพราะพ่อ... เอ... พี่คนนั้น... เขาหายไปไหนนะ?”            หัวใจของเขาเต้นตึกรุนแรง นัยน์ตาคู่หวานคมหลุบมองคนที่อิงแอบกาย ถือวิสาสะเอื้อมแขนขึ้นโอบประคองเอวบางใต้เสื้อโค้ทกันหนาว ก่อนจะถามทั้งที่รู้คำตอบดี...            “พี่ชายคนนั้น... หน้าเหมือนผมหรือครับ?”            ไม่มีคำตอบจากร่างบางที่นิ่งสนิทไป เป็นอีกเสียงหนึ่ง... โทรศัพท์สั่นดังจากกระเป๋าเสื้อโค้ทสีดำสนิทของหญิงสาวทำให้เขาต้องล้วงหยิบมันขึ้นมา            คุณหมอหนุ่มออกจะเป็นคนมีมารยาทอยู่สักหน่อย เขาจึงพยายามสะกิดเธอให้ตื่นมารับโทรศัพท์ของพ่อและโค้ชของเธอก่อน ทั้งสองคนคงกำลังเป็นห่วง ขณะที่เจ้าตัวกลับกลายเป็นผู้หญิงเกรี้ยวกราดขึ้นมา ยังโวยวายเสียงดังลั่นร้านว่าไม่หมั้น ไม่แต่งไม่หมั้นกับใครอะไรสักอย่าง            สุดท้ายแล้วเขาจึงต้องแบกเธอขึ้นหลังไปที่รถยนต์ซึ่งเช่ามาสำหรับการท่องเที่ยวทริปนี้ แน่ว่าค่าเหล้าบนโต๊ะนั้นเขาเป็นคนจ่าย!            หาเหาใส่หัวหรือหาปัญหาใส่ตัวคงไม่ต่างกันสักเท่าไร...            ขากลับไปโรงแรม เขาต้องโทรถามจากทางโค้ชว่าอยู่ตรงไหน เป็นโชคดีที่มันไม่ไกลเกินสิบนาทีเดินทางโดยรถยนต์ แต่กลับเป็นโชคร้ายเมื่อโค้ชหนุ่มใหญ่อายุราว ๆ สักห้าสิบปีมายืนรอเปิดประตูห้องพักนักกีฬาหญิงให้ด้วยท่าทางหงุดหงิด            “เอ้า... หนีไปเที่ยวกับแฟนก็ไม่บอก คนเขาตามหากันแทบแย่ ตามสบายละกัน ห้องนี้เขากลับเที่ยงคืน ยังแข่งกันไม่เสร็จ” พูดแล้วก็ตัดความรำคาญใจด้วยการยัดกุญแจใส่กระเป๋าเสื้อโค้ทของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ก่อนเดินจากไปไม่มีแม้คำลา            คุณหมอหนุ่มไม่ทันได้อ้าปากพูด ยืนงงเป็นไก่ตาแตก ก่อนจะพาคนที่แบกอยู่บนหลังเข้าห้องไป ผลักประตูให้ปิดลงด้วยปลายเท้า            ในความคิดของเขา อริสาคงไม่ได้หลับสนิทดีนัก จากที่ตื่นมาบ่นพึมพำเป็นพัก ๆ ตั้งแต่ตอนนอนอยู่ในรถยนต์ เรื่องปืน เรื่องม้า เรื่องคู่หมั้นอะไรสักอย่าง เขาจึงใช้ความระวังเป็นอย่างมากขณะวางร่างบางลงอย่างเบามือบนที่นอนนุ่มเตียงซ้ายสุดเกือบจะติดกำแพง            “ผมไปแล้วนะ...” พูดเท่านั้น            หมับ! สองแขนเรียวรัดลำคอแกร่งไว้แน่น ร่างหนาที่ถูกดึงรั้งไว้ยันข้อศอกลงบนเตียงนุ่ม กดปลายเข่ามนลงกลางหว่างขาเรียว เตียงก็ยุบยวบตามน้ำหนักของเขาและเธอ แม้ว่าไม่ได้ตั้งใจ            “ไอ้โค้ช... เฒ่า... ฉัน.. มันตัวถ่วง... ใช่ไหม?”            “โค้ชคุณเขาเดินไปตั้งนานเป็นชาติแล้วครับ ปล่อยผมก่อน...” พูดแล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมา ด้วยความรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบอีกครั้ง นอกจากเธอจะไม่ปล่อยแล้วมือเล็กข้างหนึ่งเคลื่อนลงที่ต่ำ            ใต้เสื้อโค้ทตัวโตของชายหนุ่มมีแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวครีม กางเกงสแล็คดำ และเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ติดกระดุมเสื้อชั้นนอกไว้ให้มิดชิด มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่อีกคนจะลูบผ่านหน้าท้องเป็นลอนหนาไปถึงจุดหมาย กำเข้าหมับ!            “อืม... สมิธแอนด์เวลสัน... รีวอลเวอร์ .38”            “อย่าจับ...! อันนั้นไม่ใช่ปืน” ความสุภาพของคุณหมอหนุ่มยังคงอยู่อย่างเต็มกลืน มือหนาเลื่อนลงจับมือเล็กให้เลิกเล่นซุกซน ทว่ามือของเธอก็ดูจะเหนียวแน่นเหลือเกิน            เขาเองก็ไม่ใช่ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ยังใช้การได้ดี!            “อา... อริสา ปล่อยผมก่อน... ครับ” เสียงทุ้มพร่ากึ่งคำรามอยู่ในลำคอ มือแข็งแรงอ่อนเปลี้ย พ่ายแพ้ให้กับอ้อมกอดอันทรงพลัง ชายหนุ่มขบกรามกรอดแน่นจนเห็นสันกราม เมื่อมือนุ่มนิ่มเริ่มขยับไปมาอย่างเอ็นดูราวกับว่ามันคือ สมิธแอนด์เวลสัน รีวอลเวอร์ .38!            “ปืนเก่า... มากเลยนา..” วงหน้าหวานระบายยิ้มบาง ๆ ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น เธอกำลังคิดถึงปืนเก่าอย่างสมิธแอนด์เวลสัน รีวอลเวอร์ มรดกตกทอดจากแม่ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2518            แต่ทำไมมันเปียก?            อาจเพราะแอลกอฮอล์ที่วิ่งวนอยู่ในกระแสเลือด ความสงสัยนั้นเธอสามารถลืมเลือนไปได้อย่างง่ายดาย เปลือกตาขาวปรือขึ้นมองเพดานสีขาวละลานตา ก่อนพริ้มตาปิดลงอีกครั้ง            สัมผัสร้อนจากไปพร้อมเสียงผ่อนลมหายใจสม่ำเสมอ คุณหมอหนุ่มจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เลื่อนมือขึ้นจับแขนเรียวเล็กที่พันรอบคอออกอย่างเสียดาย ค่อย ๆ สอดปลายนิ้วเข้ากุมมือเล็กที่มีถุงมือของเขาครบทุกง่ามนิ้ว ยกขึ้นแตะริมฝีปากครั้งหนึ่ง            การได้อยู่เคียงข้างหญิงสาวเช่นนี้ มันคงไม่ต่างจากความฝัน หากทว่าเขาทำได้แค่เก็บความรู้สึกปั่นป่วนพลุ่งพล่านไว้ใต้สีหน้าสงบนิ่ง            “ผมไปแล้วนะ... อริสา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD