"คุณชายน้อยบ้านไหนกัน ช่างงามพร้อมนักรูปหล่อเพียงนี้มิรู้ว่ามีแม่สื่อแม่ชักแล้วหรือยัง"
"นั่นสิข้าก็มิเคยเห็นคนผู้นี้มาก่อนหรือว่าเขาจักมาจากเมืองอื่น"
เสียงชาวบ้านร้านตลาดที่ได้ยลโฉมจ้าวหนิงหลงต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ นอกจากหน้าตาที่งดงามของเขาแล้วท่าทางที่ดูร่ำรวยก็ยิ่งเรียกสายตาของผู้พบเห็น
"หรือจักเป็นจอมยุทธน้อยจากเมืองอื่นกัน ลูกเจ้าสำนักตระกูลไหน"
"มิรู้แน่ ที่แน่ๆ สาวๆ ในเมืองนี้ต่างจับจ้องมองเพียงเขา"
"ว่ามิได้เถอะหาได้มีเพียงหญิงสาวไม่ที่เฝ้ามองคนผู้นี้ แม้บุรุษด้วยกันเองยังคงต้องเหลียวหลัง ใครกันช่างงามสง่านัก"
ขณะที่ผู้คนค่อนเมืองต่างพากันแอบมองคุณชายน้อยผู้งดงาม แม้ว่าเจ้าตัวจะพอรู้สึกอยู่บ้างแต่เขาก็ค่อนข้างเคยชิน เพราะทุกครั้งที่ออกมาก็มักตกเป็นเป้าสายตาอยู่เสมอ ดังนั้นตอนนี้ฮ่องเต้หนุ่มจึงมิได้ให้ความสนใจผู้คนที่แอบมองดูเขาแม้แต่น้อยกลับกันเขากลับเดินสำรวจดูบ้านเมืองอย่างสนใจเสียมากกว่า
ฮ่องเต้หนุ่มเดินนำเหล่าองครักษ์สองสามนายที่เขาพาติดตามมาด้วยเดินชมบรรยากาศร้านค้าในเมืองอย่างสนใจ ร้านค้ามากมายในเมืองหลวงตอนนี้กำลังทำการค้าขายกันอย่างคึกคักอย่างน้อยกิจการเหล่านี้ก็ดูมีชีวิตชีวากว่าแต่ก่อน เป็นข้อดีข้อหนึ่งและแสดงให้เห็นว่าการปกครองของเขาในตอนนี้ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
จ้าวหนิงหลงเดินชมตลาดอย่างเพลิดเพลินขณะที่กำลังเลือกดูหวีไม้แกะสลักจากร้านค้าริมทางร้านหนึ่งนั้นกลับมีมือสังหารกลุ่มใหญ่โผล่ขึ้นมาขัดอารมณ์ หนึ่งในคนร้ายพุ่งดาบเข้าหาจ้าวหนิงหลงอย่างรวดเร็วในระยะประชิด ในตอนนั้นเขาเพียงเบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยก็พ้นอันตรายมาโดยง่าย คนร้ายเหล่านั้นไม่สามารถสัมผัสได้แม้เพียงชายเสื้อของจ้าวหนิงหลงเสียด้วยซ้ำ กระทั่งพวกมันรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่รุมล้อมเข้ามาองครักษ์ที่ติดตามจ้าวหนิงหลงมาก็เร่งเข้าไปจัดการพวกมันในทันที
ช่วงเวลาชุลมุนนั้นจ้าวหนิงหลงถูกดันให้ออกมาจากความวุ่นวาย ก่อนที่องครักษ์เงาที่ซ่อนตัวอยู่จะออกมาช่วยจัดการศัตรู แต่เพราะพวกมันมีมากไปจึงทำให้คนของเขาถูกศัตรูรุมล้อมจนทำให้ไม่อาจมาคุ้มกันฮ่องเต้หนุ่มที่ถูกผลักออกมาจากการต่อสู้ได้ จ้าวหนิงหลงยืนมองดูสถานการณ์อย่างใจเย็นเพราะเห็นว่าคนของตนมีฝีมือมากพอที่จะจัดการคนร้ายเหล่านั้น ดังนั้นเขาจึงมิได้รู้สึกหวาดหวั่นสิ่งใด
ทว่าในช่วงเวลานั้นเองขณะที่เขากำลังยืนดูสถานการณ์อยู่กลับถูกนักฆ่าคนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาทางด้านหลังหมายลอบโจมตีจ้าวหนิงหลงที่กำลังเผลอ เสี้ยวเวลานั้นเองก่อนที่ปลายดาบจะถึงตัวจ้าวหนิงหลงก็ล่วงรู้ถึงการโจมตี เขาเตรียมจะเบี่ยงตัวหลบแต่ช่วงเวลานั้นกลับมีหญิงสาวคนหนึ่งปราดเข้ามารับมือกับคนร้ายแล้วเอาตัวเองขวางเขาเอาไว้
"คุณชายระวัง" นางเอ่ยเพียงนั้นก่อนจะผลักเขาออกไปให้พ้นทาง ส่วนตนเองก็พุ่งเข้าใส่คนร้ายในทันที
ใบหน้างดงามของนางที่เขาเฝ้าถวิลหามาตลอดต่อให้ตายจ้าวหนิงหลงก็ไม่มีวันจะลืมเลือน หญิงสาวร่างอรชรที่มีดวงหน้าหวานหยดงดงามดั่งจันทราพุ่งทะยานออกมาดั่งวิหคน้อยทว่ากลับแข็งแกร่งว่องไวดั่งเจ้าแห่งเวหา
ซุนเฟยหรงที่นำของมาขายในตลาดบังเอิญได้เห็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้น กระทั่งนางได้พบเห็นคุณชายรูปงามท่าทางดั่งบัณฑิตหนุ่มผู้หนึ่งกำลังตกอยู่ในอันตราย ด้วยสัญชาตญาณของจอมยุทธหญิงที่ชอบผดุงคุณธรรมจึงทำให้นางทึกทักไปเองว่าชายหนุ่มผู้งดงามหมดจดคนนั้นคงมิมีวรยุทธ ท่าทางเขาคงจะถูกปล้นชิงหรือไม่ก็ถูกศัตรูตามทำร้ายเอา ดังนั้นในฐานะชาวยุทธจึงทำให้นางไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะเข้าไปช่วยเหลือ
โดยหารู้ไม่ว่าจ้าวหนิงหลงเองนั้นก็มีฝีมือเก่งกาจไม่น้อยกว่าผู้ใด จนอาจเรียกได้ว่าหากเขาเป็นอันดับสองคงไม่มีใครกล้าขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง แม้แต่ฝีมือของนางเองก็ยังเป็นรองเขาอยู่มากจนเรียกได้ว่าเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำ
จ้าวหนิงหลงมองดูนางแสดงฝีมืออย่างเผลอไผล ซุนเฟยหรงมีฝีมือดีไม่น้อยเลยในสายตาเขา กระบี่ของนางนั้นว่องไวรวดเร็วปานสายลมและรุนแรงดั่งพายุที่โหมกระหน่ำใส่ศัตรู จนทำให้คนเหล่านั้นไม่อาจต้านฝีมือนางได้เพียงต่อสู้กันไม่กี่เพลง พวกมันก็ล้วนล้มระเนระนาดไปจนสิ้น
ซุนเฟยหรงจัดการคนร้ายเสร็จก็ออกแรงจับข้อมือเรียวของชายหนุ่มรูปงามที่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้นแล้วลากพาเขาออกวิ่งไปเพื่อให้พ้นจากกลุ่มคนร้ายและคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ทันที
ชายหนุ่มวิ่งตามนางไปอย่างว่าง่าย มองแผ่นหลังเล็กของหญิงสาวผู้งดงามตรงหน้าด้วยความรู้สึกอิ่มเอมในหัวใจราวกับได้อยู่ในความฝันที่เป็นจริงและทำตามที่นางสั่งทุกอย่างโดยไม่ขัดขืน ก่อนที่ร่างโปร่งของเขาจะถูกซุนเฟยหรงผลักเขาเข้าไปในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่งแล้วเอาตัวเองบังอีกฝ่ายไว้ในระยะประชิด
ระยะที่ห่างกันเพียงหนึ่งฝ่ามือกั้นนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้จ้าวหนิงหลงจะรู้สึกใจเต้นเร็วขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะความรู้สึกขัดเขินที่เกิดขึ้นมาชั่วครู่ ก่อนที่จะถูกคนตรงหน้าหันมามองหน้ากันอีกครั้งจนเขาแทบไม่กล้าขยับหรือแม้แต่หายใจ
ซุนเฟยหรงชะโงกหน้าออกไปมองด้านนอกอีกครั้งหนึ่งเพื่อดูให้แน่ชัดว่าปลอดภัยแล้วจึงค่อยหันกลับมามองชายตรงหน้าอีกครั้ง
"ดูเหมือนว่าจะปลอดภัยแล้ว" นางเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะปล่อยมือที่ดันแผ่นอกของอีกฝ่ายเอาไว้โดยไม่ตั้งใจออก
จ้าวหนิงหลงแทบจะมิได้ฟังสิ่งที่นางพูดแม้แต่น้อยกลับกันตอนนี้สายตาคมเข้มกับจ้องมองหญิงสาวเบื้องหน้าด้วยหัวใจที่กำลังพองฟู ในที่สุดเขาก็ได้พบนางอีกครั้งหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่านางจะจำเขาไม่ได้สักนิด
ใบหน้างดงามของนางตอนนี้ยังคงเหมือนเดิมเช่นเมื่อครั้งยังเยาว์วัย ซึ่งมันคือใบหน้าที่เขาไม่เคยคิดลืมเลือนเลยสักครา แม้นางจะอยู่ในชุดหญิงชาวบ้านซอมซ่อแค่ไหนทว่าก็ไม่อาจปกปิดความงดงามเหนือผู้คนเอาไว้ได้ นางยังคงชอบช่วยเหลือคนอื่นเหมือนเช่นครั้งแรกที่พบกันจนทำให้ครั้งนี้เราได้หวนมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง
ยังไม่ทันที่เขาจะอ้าปากพูดสิ่งใดนางก็กลับเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ในตอนนั้นปลอดภัยแล้ว
"เช่นนั้นจากนี้เจ้าก็ระมัดระวังตัวด้วยข้าไปล่ะ" นางกล่าวลาอย่างรวดเร็วก่อนจะเร้นกายหายไปในกลุ่มผู้คนจนทำให้จ้าวหนิงหลงที่มัวนิ่งอึ้งอยู่ตามไม่ทัน นั่นเป็นอีกครั้งของนางและเขาที่หวนกลับมาพบกัน และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสามารถนำนางกลับมาอยู่ข้างกายตนเองได้สำเร็จหลังจากนั้นไม่นาน