“เป็นอะไรอีก ดูทำหน้าทำตาเข้าดิ นี่งานสังคมชั้นสูงเลยนะอิ้ง มึงไม่ไว้หน้าป๊ากับม๊ามึงบ้างเหรอ ที่ลูกชายคนโตผู้สืบทอดคาสิโนที่หรูหราที่สุดในประเทศทำหน้าเหมือนอยากจะตายตลอดเวลาแบบเนี่ย” อิ้งปรายหางตาเฉี่ยวมองเพื่อนสนิทตรงหน้า
คนตัวเล็กถอนหายใจเบื่อๆออกมา ช่วงนี้อิ้งรู้สึกว่าเขาไม่เป็นตัวของตัวเองโคตรๆ หลังจากที่เดินออกมาจากห้องของเฮียมาในวันนั้น ผู้ชายร่างสูงใหญ่เจ้าของใบหน้าเรียบเฉยหลอกหลอนอยู่ในหัวสมองเขาแทบจะตลอดเวลา ถึงแม้จะรู้ว่าอยู่คอนโดเดียวกันห่างกันแค่ไม่กี่ชั้น แต่เขาก็ไม่สามารถไปเจอเฮียมาได้อย่างที่ใจต้องการได้อีกเลย
ทำไมวันนั้นเขาไม่หน้าด้านใจกล้าท้าทายเฮียมามากกว่านี้วะ ไม่น่าเดินออกมาแบบนั้นง่ายๆเลย อุตสาได้บุกเข้าถ้ำเสือแล้วแท้ๆแต่ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือออกมาเลย! คิดแล้วอิ้งก็เจ็บใจที่เฮียมาทำเขาเสียความมั่นใจหลายๆอย่างไปซะหมด ด้วยรูปหน้าไร้ความรู้สึกและคำพูดที่โคตรจะเย็นชา
“ได้โปรดเถอะเพื่อนรัก มึงก็เห็นหนิว่าคืนนี้ป๊ากับม๊าไม่ได้พากูออกงานแค่คนเดียว” อิ้งตอบซันด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเบื่อหน่ายที่สุด สายตาก็มองไปยังกลุ่มคนที่กำลังยืนพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลเท่าไร
ในกลุ่มนั้นมีป๊ากับม๊าเขาที่พา ‘อันอัน’ น้องสาวคนกลางและไอ้น้องชาย
คนสุดท้องอย่าง… “ถ้าหน้ากูแย่ แล้วหน้าอาโปเรียกว่าอะไร”
“หน้าน้องมึงไง อาโปอะ” ซันตอบอย่างไม่คิดอะไรมาก “หรือเป็นอะไรที่มากกว่าน้อง”
“ไร้สาระ นั่นน้องกู”
“เอาจริงนะ ตั้งแต่กูรู้จักมึงมาเนี่ย กูยังไม่เคยเห็นอาโปทำตัวเหมือนเป็นน้องมึงเลย จะศัตรูก็ไม่ใช่จะรักก็ไม่เชิง ยิ่งโตก็ยิ่งทำตัวมีลับลมคมใน เหมือนบนใบหน้าหล่อๆแสนจะนิ่งเฉยมันวางแผนชั่วร้ายไว้ตลอดเวลาอะ ยิ่งเฉพาะกับมึงนะ ดูมีซัมติงมากเกินว่าคำว่าพี่น้องโคตร ไม่ใช่แค่กูนะเว้ยที่คิดไอ้ทีมกับคนอื่นๆก็คิดเหมือนกัน”
“ก็มันประสาทไง” อิ้งตอบ น้ำเสียงเริ่มไม่สบอารมณ์ขึ้นเรื่อยๆ ที่งานวันนี้มันน่าเบื่อจนเขาอยากจะหนีออกไปเที่ยวกับไอ้ทีม อาจจะเป็นเพราะป๊ากับม๊าหนีบอาโปมาด้วยก็ได้ มันเห็นหน้าเขามันก็บ่นเขาเรื่องชุดสูทสีแดงสดที่แหวกช่วงอกลึกทันที สายตามันแทบจะจ้องจับผิดเขาตลอดเวลา ถ้าป๊ากับม๊าไม่ลากมันไปแนะนำให้ผู้ใหญ่ในงานรู้จัก มันอาจจะมายืนตีหน้ายักษ์เฝ้าเขาไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียวก็ได้
“เลิกสนใจมันได้ไหม ในงานนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยหรือไง รู้งี้กูไปปาร์ตี้ดีกว่าอีกโคตรน่าเบื่อ”
“แล้วถ้ามีเฮียอยู่ด้วยหนูอิ้งจะเบื่อไหมคะ” เสียงแหบทรงเสน่ห์ดังใกล้ใบหูขาว เจ้าของใบหูสะอาดตาอย่างอิ้งทำแค่เหลือบหางตาไปมองเท่านั้น ก่อนจะกลอกตามองบนเมื่อรู้ว่าใครคือเจ้าของเสียง
“น่าเบื่อคูณร้อยเท่าเลยละเฮีย”
คนถูกเฉยเมยใส่ไม่แยแสท่าทางเบื่อหน่ายของคู่สนทนา ร่างสูงขยับแนบชิดเบียดกายเข้าหาร่างเพรียวบาง โน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบพูดให้ใกล้มากกว่าที่เพิ่งกระทำไป
“แต่เฮียไม่เบื่อนะ ยิ่งเห็นหนูอิ้งมางานนี้ด้วยเฮียยิ่งดีใจ อยากจะอยู่จนจบงานเลยถ้าไม่ติดว่าคืนนี้มีภารกิจด่วนมาก”
เพี๊ยะ!
“เฮียจะแอ่วใครเราไม่ว่านะแต่เลือกสถานที่ได้ไหม นี่มันงานที่บ้านเรากับเฮียจัดร่วมกันนะ รักษาข้อตกลงหน่อยดิ” ซันกลายเป็นคนที่ทนกับการกระทำของคนโตกว่าไม่ไหวก่อนอิ้งเสียอีก เลยตีท่อนแขนกำยำไปหนึ่งทีแรงๆ แต่แรงของซันคงไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าสะเทือนอะไรมากมาย
‘เฮียเทา’ ที่ซันและอิ้งเรียกกันติดปาก หรือ ‘เทาเย่’ ชื่อเต็มที่วงการธุรกิจขาวดำรู้จักจิ๊ปากขัดใจเล็กน้อย ที่โดนคนเด็กกว่ามาดุกลางงานสังคมแบบนี้ แต่ก็เลือกที่จะหยุดทำตัวรุ่มร่ามกับอิ้ง แล้วเปลี่ยนมารุ่มร่ามใส่คนที่ขึ้นชื่อว่า ‘คู่หมั้น’ ปลอมๆ(?)แทน
“หึงเฮียเหรอคะ อย่ารู้สึกอะไรนอกเหนือข้อตกลงของเราสิหนูซัน เดี๋ยวหนูจะเจ็บเอานะ แล้วจะบอกว่าเฮียไม่เตือนทีหลังไม่ได้แล้วนะคะ”
“เฮียแม่งหลงตัวเองวะ ที่เราบอกเพราะไม่อยากให้คนอื่นเอาไปพูดไม่ดีต่างหาก อย่าคิดว่าเราไม่รู้ไม่เห็นนะที่เฮียไปขึ้นเตียงจับใครต่อใครถ่างขาน่ะ จะทำอะไรช่วยนึกถึงสัญญาของผู้ใหญ่ด้วย” ซันตีหน้านิ่งดุคนพี่
ระหว่างเขากับเฮียเทามันคือข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างผู้ใหญ่สองบ้าน ถ้าหากเขากับเฮียเทาแต่งงานกันธุรกิจมันก็จะเติบโตและไปด้วยกันได้ดีทั้งสองฝ่าย เฮียเทาไม่ขัดอะไรกับการประกาศงานหมั้น แล้วเด็กอายุ15อย่างเขาตอนนั้นจะมีสิทธิ์คัดค้านอะไรได้ นอกจากยินยอมตามคำพูดผู้ใหญ่
แต่ใครมันจะรู้ล่ะว่าไอ้เฮียเทามันจะร้ายลึก แอบย่องมาทำข้อตกลงลับๆกับเขาลับหลังผู้ใหญ่กันสองต่อสองแบบนั้น ต้องโทษคำหว่านล้อม ความเจ้าเล่ห์เพทุบาย หรือความไร้เดียงสาของตัวเขาดี ที่เขายอมเออออตกลงไปแบบนั้น ทั้งๆที่ตัวเองคือคนเสียเปรียบทั้งหมดแท้ๆ
“เฮียก็นึกถึงและทำตามอยู่นี่ไงคะ สัญญาระหว่างผู้ใหญ่น่ะ” เทาเย่ตอบ
อุ้งมือหนาก็เลื่อนผ่านแผ่นหลังบางลงมาประคองบั้นเอวเพรียวของคู่หมั้นเอาไว้หลวมๆ แต่สายตากลับมองหญิงสาวสวยในงานไม่วางตา
“เฮียจะตอแหลใส่ใครก็ได้แต่อย่ามาทำกับเรา เราไม่ได้โตมาด้วยหญ้านะเฮีย”
อิ้งมองกรอบหน้าเรียวของเพื่อนสนิทที่พยายามจะปกปิดความรู้สึกตัวเอง พลางจิบแชมเปญไปด้วย ก่อนจะขยับไปยืนชิดซันแล้วพูดด้วยเสียงกระซิบให้ได้ยินแค่สองคนเท่านั้น
“มึงหรือเขากันแน่ที่ตอแหล กูมองสายตามึงออกนะซัน”
คนถูกจับได้เถียงไม่ออก ทำได้แค่ยืนนิ่งเก็บอารมณ์ทุกอย่างไว้เหมือนเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเฮียเทาสักนิดเดียว ทั้งที่ใจทั้งดวงมันยกให้คนโตกว่าไปหมดแล้ว
“หนูอิ้งดูมีความลับเยอะจังเลยนะ เฮียชอบนะแบบนี้อะ ยิ่งดูมีความลับมากเท่าไร เฮียยิ่งอยากเปิด…ความลับ”
“นี่ขนาดนึกถึงข้อตกลงนะเฮีย ช่วยเก็บสายตาหื่นกามเอาไว้หน่อย” ซันได้แต่ดุคู่หมั้นปลอมๆพอเป็นพิธีไปเท่านั้น ตามจริงเขาก็ไม่ได้อยากจะแสดงความรู้สึกหึงหวงผ่านสายตาให้เฮียเทารู้เท่าไรหรอก แต่ไอ้สายตาที่คนโตกว่าใช้มองเพื่อนเขาเมื่อครู่มันหื่นกามจริงๆ โดยเฉพาะจังหวะที่ลากสายตามองรอยแหวกผ่าลึกของคอปกเสื้อสูทที่อิ้งใส่น่ะ
“แล้วทำไมเฮียมาช้าแบบนี้ล่ะ ตามจริงเฮียควรจะมาช่วยเราต้อนรับแขกตั้งแต่ตอนค่ำแล้วนะ ช่วยทำตัวเป็นคู่หมั้นที่ดีกว่านี้หน่อยได้ไหมเฮีย ถึงเราจะไม่ได้รักกันก็เถอะ”
“เฮียจำข้อตกลงระหว่างเราได้ดีค่ะ แต่เฮียได้ยินมาว่าคนแถวนี้อยากจะกินเหยื่อชิ้นโต เฮียก็เลยไปหามาให้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปล่าให้เหนื่อย” เทาเย่ตอบคำถามของคนในอ้อมแขน ทว่าสายตาจดจ้องคนที่ยืนฝั่งตรงข้าม ก่อนจะยื่นแก้วไวน์สีเข้มเข้าไปขอชน “ดื่มกับเฮียสักแก้วแล้วเฮียจะบอก”
“ถ้าเฮียตุกติกนะ โกดังเก็บของริมแม่น้ำกระจุยแน่” คนโตกว่าไม่ตอบโต้อะไร มีแค่รอยยิ้มร้ายๆที่ยกขึ้นตรงมุมปากเท่านั้น แล้วพยักหน้าให้อีกคนหันกลับไปมองด้านหลังของตัวเอง
ท่าทียียวนของเฮียเทามันสร้างความหงุดหงิดให้อิ้งได้ไม่น้อย ร่างบางทดเอาไว้ในใจเลยว่าถ้าหันกลับไปแล้วไม่มีอะไรน่าดูน่าสนใจ เขาจะไประเบิดโกดังริมแม่น้ำของเฮียเทาแม่งให้สิ้นซากตั้งแต่คืนนี้เลย
แต่ทันทีที่สายตาเขาได้สบเข้ากับร่างสูงกำยำที่กำลังเดินเข้ามาในงาน ความคิดของอิ้งก็ต้องเปลี่ยนไปทั้งหมด เขาคงต้องตบรางวัลเฮียเทาอย่างงามแทนซะมากกว่าแล้วมั้ง
อิ้งแสดงรอยยิ้มที่โคตรจะพึงพอใจทันที ที่เห็นว่าในงานคืนนี้มีเฮียมาที่เขาใฝ่ฝันหามาด้วย อีกฝ่ายยังสะกดให้เขาอยากมองได้ไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นตอนแรกที่เจอกันหรือจะเป็นตอนนี้ ตอนที่อีกฝ่ายอยู่ในชุดสูททักสิโด้สีดำสนิท ดูสง่า มีภูมิฐาน รังสีของคนที่มีอิทธิพลแผ่กระจายรอบกายสูง ไม่ว่าใครในงานก็ต้องหลบทางเดินให้ ผู้ชายแบบนี้สิที่เหมาะจะยืนเคียงข้างกับเขา
“ถ้าอิ้งได้กินเหยื่อชิ้นนี้ อิ้งจะตบรางวัลเฮียอย่างงามเลย”
“เฮียช่วยหนูอิ้งได้เยอะเลยนะ ถ้าเป็นเรื่องของมาเฟีย ขอแค่หนูอิ้งช่วยอำนวยความสะดวกให้เฮียนิดๆหน่อยๆช่วงสิ้นเดือนนี้แค่นั้นเอง เฮียจะโยนมาเฟียขึ้นเตียงให้หนูก็ยังได้” คนเด็กกว่าหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย กะไว้แล้วเชียวคนที่เห็นแต่ผลประโยชน์อย่างเฮียเทาไม่มีทางเอาเฮียมามาให้เขาฟรีแน่ๆ
“ขอมากไปหรือเปล่าเฮีย”
“แลกกับมาเฟียผู้ชายทรงอิทธิพลแบบนั้นเฮียว่ามันคุ้มนะ ทั้งคอนเนคชั่น ทั้งธุรกิจขาวดำมากมาย ทั้งในและนอกประเทศอีกตั้งเยอะ เฮียวิน หนูอิ้งวิน ไม่คุ้มตรงไหนคะ”
“อิ้ง มึงอย่ามาเสี่ยงกับเฮียเทาได้ไหม คุณมาเฟียเขาน่ากลัวจะตายไป เขาไม่ใช่คนที่มึงควรจะไปเล่นด้วยนะ” ซันเตือนสติเพื่อนสนิท
เฮียเทาเป็นพวกหว่านล้อมคนเก่ง ใครก็พ่ายแพ้ให้กับลูกล่อลูกชนคำพูดเฮียมันหมดนั่นแหละ ซันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะเขารู้จักเฮียเทาดี รู้จักมาตั้งแต่เด็ก ผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนี้ไม่มีทางที่จะทำอะไรแล้วไม่ขาดทุนหรือเสียผลประโยชน์แน่นอน ต่อให้เฮียเทาจะแสดงออกว่าพึงพอใจอิ้งมากแค่ไหน แต่อะไรที่ทำแล้วตัวเองได้เปรียบคนอย่างเฮียเทาก็พร้อมจะทำหมด โดยไม่สนใจว่าผลสุดท้ายจะมีใครเจ็บปวดหรือเสียมิตรภาพจากใครไปบ้าง
“แล้วใครว่ากูเล่น กูจริงจัง อิ้งดีล” คำเตือนของซันไร้ความหมายเมื่ออิ้งยื่นแก้วเข้าไปชนกับเฮียเทาแล้วเรียบร้อย “แต่ว่าเฮียมาต้องเป็นของอิ้งก่อนถึงสิ้นเดือน แล้วอิ้งจะทำตามข้อตกลงที่เฮียต้องการ”
“ดีลค่ะ คนสวย”
.
มาเฟียชะงักฝีเท้าทันทีเมื่อเห็นว่าทางที่กำลังเดินตรงไปข้างหน้ามีใครกำลังยืนรอเขาอยู่ ร่างเล็กสูงแค่แผ่นอกกำลังยืนพูดคุยด้วยท่าทางที่เขาต้องยอมรับเต็มปากเลยว่า ‘เจ้าเล่ห์’ มาก แถมไอ้คนที่อยู่ในวงสนทนาก็ยังเป็นเทาเย่ เพื่อนของ
‘เฉิน’ เพื่อนที่เขาสนิทที่สุดอีกด้วย
เขาไม่ได้สนิทอะไรกับเทาเย่มากขนาดนั้น แค่รู้จักกันผ่านเฉินและบังเอิญอยู่ในวงการธุรกิจเดียวกัน ถึงจะไม่สนิทมากแต่เขาก็พอจะมองออกว่าเทาเย่มันเจ้า
เล่ห์มากแค่ไหน แล้วลองคิดดูสิว่าคนเจ้าเล่ห์เพทุบายสองคนกำลังคุยกัน โดยที่มองมาที่เขามันจะสื่อถึงอะไรได้บ้าง…
เจ้าของชุดสูทสีแดงเข้มแหวกลึกถึงกลางแผ่นอกขาวหันมาสบตากับเขา มาเฟียไม่รู้ว่านี่มันคือแผนที่เด็กคนนั้นตั้งใจวางไว้หรือเปล่า ให้เทามาตีสนิทกับเขาแล้วชวนเขามางานคืนนี้ เพื่อจะสรรหาวิธีเข้าถึงตัวเขาให้มากที่สุด และสิ่งที่ร่างสูงจะทำได้ตอนนี้คือเปลี่ยนทิศทางเดินไปทางอื่น เอาตัวเองออกห่างจากเรือนกายเย้ายวนสายตาเพศเดียวกันของอิ้งให้ห่างไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เขามันขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลอันตรายทั้งในและนอกประเทศนี้ ส่วนเด็กที่เขากำลังเลี่ยงที่จะเจอคือบุคคลที่ ‘อันตราย’ ต่อทุกต่อมความรู้สึกบนร่างกายของเขา
“แบบนี้มันเสียมารยาทนะรู้ไหมมาเฟีย”
ทุกความคิดเรื่องอิ้งจบลงเพราะเสียงทักทายหวานหูจากหญิงสาวสวยตรงหน้า เมื่อครู่เขาเอาแต่คิดเรื่องอิ้งมากเกินไป เลยไม่ได้มองเลยว่าตรงหน้ามีคนมายื่นแก้วไวน์ให้ มาเฟียไม่ได้รับมันมาดื่มเพื่อรักษามารยาทอย่างที่ควรทำ เขาเลือกที่จะมองมันนิ่งๆและปล่อยให้อีกฝ่ายยื่นมันค้างไว้แบบนั้น
“ตามมางานนี้ด้วยเหรอ”
“ไอก็ไม่ได้อยากจะตามยูมานักหรอก แต่ระหว่างเรามันมีอะไรเกี่ยวพันกันอยู่ ยูอย่าลืมสิ” ‘เวโรนิก้า’ พูดเสียงติดขำที่มาเฟียทำสีหน้านิ่งเฉยกับความสัมพันธ์ของเธอกับเขา ตามจริงคืนนี้เขาควรจะควงเธอมาออกงานนี้ด้วยซ้ำ ไม่ใช่มาถามว่าเธอก็มาด้วยเหรอ
หญิงสาวข่มอารมณ์โมโหไว้ในใจ และแสดงออกมาแต่ใบหน้าสวยหวาน ยิ้มแย้มสดใสจนใครต่อใครก็เหลียวหลังมอง ทว่าภายในใจกลับขบฟันแน่นข่มอารมณ์ขุ่นเคืองผู้ชายไร้อารมณ์ ไร้ความรู้สึกอย่างมาเฟียที่แสดงออกกับเธอแบบนี้
“ปล่อยให้ไอยืนคอยนานๆแบบนี้ ไอไม่แฮปปี้นะมาเฟีย” หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง แต่น้ำเสียงลอดไรฟันบ่งบอกว่าใกล้หมดความอดทนกับมาเฟียเต็มทีแล้ว
“ถ้าเฮียมาไม่อยากดื่ม อิ้งดื่มให้เองนะครับ” จู่ๆเสียงที่สามก็แทรกเข้ามาในบทสนทนา
มาเฟียไม่รู้ว่าเด็กที่เขาพยายามถอยตัวออกห่างมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร แต่พอรู้ตัวว่าอิ้งมาอยู่ใกล้เด็กคนนี้ก็รับแก้วจากเวโรนิก้ายกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้วไปแล้ว แถมยังคว่ำแก้วที่ไร้หยดเครื่องดื่มโชว์ให้อีกฝ่ายดูอีกด้วย นาทีนี้เขาทำอะไรไม่ได้ นอกจากปล่อยให้เด็กที่ชอบเอาชนะท้าทายคู่ต่อสู้ต่อไป
เวโรนิก้าเลื่อนสายตาสำรวจคนที่มาแย่งแก้วไปจากมือของเธอ รูปร่างก็จัดว่าสมส่วน เอวบางร่างน้อยจนผู้หญิงบางคนยังต้องอาย ใบหน้าหมดจด ดูดีไม่มีที่ติ โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มันแสดงความเย่อหยิ่ง มีแต่ความอยากเอาชนะจนเธอเริ่มชักจะสนุกขึ้นมาแล้วสิ
“พอใจแล้วนะครับ” อิ้งถาม ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มแต่ดวงตาไม่ได้ยิ้มตาม เขามองว่าผู้หญิงตรงหน้าคือคู่ต่อสู้คนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แล้วอีกฝ่ายก็ไม่ได้ปกปิดเลยว่าเธอเองก็ต้องการมาเฟียเช่นกัน
“ไฮ…ไอ เวโรนิก้า” หญิงสาวเป็นฝ่ายเริ่มแนะนำตัวเองก่อน
“ครับ ผมอธิกร อริยกูล” อิ้งแนะนำตัวกลับ แล้วหลุบสายตามองฝ่ามือบางที่อีกคนยื่นมาทำความรู้จัก ก่อนจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นปล่อยให้เวโรนิก้ายื่นมือเก้ออยู่ฝ่ายเดียว
มาเฟียแอบลอบมองการกระทำของอิ้งเกือบจะทุกนาที อยู่ดีๆมุมปากมันก็ยกยิ้มเอ็นดูกับการกระทำที่เหนือความคาดหมายที่อีกฝ่ายแสดงออกมา เขารู้อยู่หรอกว่าเด็กคนนี้แสดงท่าทีอยากจะได้เขาจนทำอะไรบ้าๆมาแล้วบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะใจกล้าขนาดที่กล้าท้าทายคนมีอำนาจอย่างเวโรนิก้าได้แบบไม่กลัว หรือต้องเป็นเขากับเวโรนิก้าหรือเปล่าที่ต้องกลัวเด็กน้อยแบบอิ้ง
“อริยกูล เจ้าของคาสิโนรายใหญ่นั่นใช่ไหมคะ” เวโรนิก้าทวนนามสกุลอิ้ง อีกรอบ คำถามที่ถูกเอ่ยออกมาเหมือนจะถามคู่สนทนา ทว่าสายตากลับมองไปหาคนที่ยืนมองนิ่งๆแทน “หรูหรามีระดับมากจริงๆ สมแล้วที่เป็นมาเฟีย”
“คุยกันจบยังจะได้ไปสักที” มาเฟียไม่ตอบโต้อะไรกลับไป เขาเลือกที่จะฉุดข้อมือบางให้เดินหนีออกมาจากเวโรนิก้า เขาไม่ได้กลัวว่าหญิงสาวจะพูดอะไรให้เด็กน้อยระแคะระคายใจ แต่กลัวว่าอิ้งจะขว้างระเบิดสมองให้เวโรนิก้าสติแตกก่อนเสียมากกว่า
คนตัวสูงพาเด็กน้อยเดินมายังมุมเงียบๆมุมหนึ่งในงาน ซึ่งผู้คนไม่ค่อยมาสนใจมุมอับๆตรงนี้สักเท่าไร ร่างสูงพาอิ้งมายืนตรงนี้แล้วปล่อยมือที่จับออกทันทีเพื่อจะเดินหลบเข้างานไปอีกทาง แต่ใครจะคิดว่าเด็กที่ตัวเล็กจนสามารถกอดให้จมอกเขาได้ จะกระชากเขาที่กำลังเดินให้เซถอยหลังกลับมาหาได้อย่างง่ายดาย
“วันนี้ผมไม่มีเวลาเล่น ผมมาเพื่องาน คุณควรแยกแยะเวลาให้ถูกนะอิ้ง อย่าเล่นเป็นเด็กๆ”
“ทำไมเฮียมาชอบมองว่าอิ้งเด็ก อิ้งคุมคาสิโนใหญ่โตได้มีลูกน้องเกรงกลัวเป็นร้อยคน อิ้งไม่เด็กแล้วนะ” คนพี่ฟังแล้วพยักหน้าตาม ใช่ เขาจำคืนที่ร่างบางยืนถือปืนจ่อหัวคนในคาสิโนได้ดี ดูจริงจัง น่าเกรงขาม แต่ทำไมเวลาอยู่กับเขาถึงได้เซ้าซี้ เอาแต่ใจไม่ต่างจากเด็กงอแงเก่งคนหนึ่งก็ไม่รู้
“ถ้าไม่เด็กแล้วจะมาขึ้นเสียงเพราะคำพูดแค่นี้ทำไม คนที่โตแล้วเขาไม่ทำกัน”
คำพูดที่แฝงมากับคำว่าตักเตือนไม่ได้ทำให้อิ้งสลดลงแต่อย่างใด คนตัว
เล็กขยับร่างกายเข้าหาคนตรงหน้ามากขึ้นอีกนิด ปลายรองเท้าหนังเขย่งขึ้นสูงให้ใบหน้าเรียวเข้าใกล้โครงหน้าคมให้มากที่สุด มากจนทั้งคู่สามารถได้กลิ่นลมหายใจของกันและกันได้ ริมฝีปากอวบอิ่มน่าประทับจูบยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
“ก็อิ้งอยากเป็นเด็กดื้อให้เฮียมากำราบไงครับ”
“แต่ผมไม่ชอบเด็ก”
“แต่เด็กแบบอิ้งชอบเฮียมานี่ครับ ชอบมาก และอยากได้มากด้วย” คำพูดที่แสดงเจตจำนงอย่างตรงไปตรงมาของอิ้งทำคนฟังลมแทบจับ ไม่ว่าจะเจอกันกี่ครั้งเด็กตรงหน้าก็เอาแต่พูดว่าอยากจะได้เขา ชอบเขามาก ทั้งๆที่เราเพิ่งเจอกันได้ไม่กี่ครั้ง นิสัยช่างเหมือนเด็กอย่างที่เขาพูดไว้จริงๆ
เด็กเจออะไรที่แปลกใหม่ก็คิดแต่อยากจะได้ เอาแต่ใจเรียกร้องไม่เลิก
“แล้วถามผมบ้างหรือเปล่า ว่าอยากได้ไหม”
“ไม่จำเป็นต้องถาม เพราะยังไงอิ้งก็จะทำให้เฮียมาอยากได้อิ้งได้อยู่ดี”
“เอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้น” มาเฟียหยั่งเชิงถามกลับไป
คนตัวสูงเพิ่งรู้ตัวเมื่อกี้นี้เอง ว่าตอนนี้ใบหน้าเขากับคนเด็กกว่าอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ กลิ่นไวน์อ่อนๆอบอวลไปทั่วเมื่ออีกฝ่ายหายใจเข้าออก อยากจะขยับตัวถอยหลังหนี แต่ดวงตาสีเข้มที่แสนจะท้าทายมันสะกดให้เขาหยุดยืนอยู่กับที่ แล้วจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น ว่าคำพูดที่เหมือนกับเกมเดิมพันเมื่อครู่เขาหรือคนตัวบางใครกันที่เป็นฝ่ายชนะ
“แล้วเฮียมาล่ะครับ เอาอะไรมามั่นใจว่าอิ้งจะทำให้เฮียชอบอิ้งไม่ได้”
“….” มาเฟียถึงกับเงียบ ไม่มีคำตอบให้กับคำถามที่เขาเองก็ไม่มั่นใจในตัวเองสักนิด ว่าถ้าหากเขาเปิดโอกาสให้คนเด็กกว่าเข้าหาจริงๆแล้วเขาจะต้านไหว
“ไหนๆเราก็เจอกันตั้งหลายครั้งแล้วอิ้งจะบอกเฮียมาให้นะ ว่าตั้งแต่อิ้งได้มาเป็น อธิกร อริยกูล ไม่มีอะไรที่อิ้งอยากได้แล้วไม่ได้”
“งั้นคุณคงเป็นเด็กที่เอาแต่ใจและร้ายมาก”
“หึ!” คนถูกย้ำว่าเป็นเด็กเอาแต่ใจคลี่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ดวงตาที่แสนจะเคยเย่อหยิ่งตอนนี้มีแต่ความซุกซน เมื่อได้มองใบหน้าคมคามของคนที่ตัวเองหมายตา “นรกยังไม่กล้าต้อนรับอิ้งเลยแหละ รู้จักอิ้งนานกว่านี้เฮียมาก็จะรู้ว่าที่เจอมามันยังไม่ถึงครึ่งที่อิ้งร้ายเลย”
“ถ้างั้นคุณเองก็ควรจะรู้ด้วย ว่าผมไม่ใช่ผู้ชายที่คุณจะมาเล่นด้วยได้” มาเฟียพยายามเตือนอีกฝ่ายให้เลิกพยายามเข้าหาเขาซะ เขามันไม่ใช่คนที่ใครควรจะเข้าใกล้หรือคลุกคลีด้วยสักเท่าไร ผู้คนรอบตัวเขามันมีแต่อันตราย คนที่อยู่รอบข้างจ้องจะทำร้ายกันตลอดเวลา
เพราะชีวิตเขามันมีแต่ความอันตรายแบบนี้ ครั้งหนึ่งเขาเลยเคยทำพลาด ทำให้เด็กคนหนึ่งที่ไร้เดียงสาต้องพบจุดจบของชีวิตที่สุดแสนจะน่าสงสาร เขาเลยไม่อยากปล่อยตัวให้ใครก็ได้เข้ามาใกล้ชิด หรือผูกมิตรกับใครให้เกิดความรู้สึกผูกพัน
“โชคดีไป เพราะอิ้งไม่ได้เล่น อิ้งจริงจังครับ จริงจังมากด้วย”
แผล็บ!
“..!!..”
อิ้งระบายยิ้มอ่อนที่สามารถทำให้ผู้ชายที่แสนจะไร้ความรู้สึกใดๆยืนนิ่งงันเพราะการกระทำอุกอาจเมื่อครู่ได้ การเข้าถึงเนื้อถึงตัวขั้นสุดท่ามกลางงานเลี้ยงคืนนี้
ปลายลิ้นเรียวสีสดกวาดเลียไปตามปลายคางได้รูป เนื้อผิวสากระคาย
เพราะหนวดเคราที่โกนไม่เกลี้ยงดีนัก พอให้เจ้าของลิ้นที่ได้สัมผัสรู้สึกจั๊กจี้ ความอ่อนนุ่มของปลายลิ้นร้อนทิ้งความเย็นและร่องรอยเปียกฉ่ำไว้เป็นที่ระลึก เมื่ออีกฝ่ายถอยกายออกห่าง
คนตัวโตมองเด็กน้อยที่ยืนยิ้มร้ายตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ ว่าอีกฝ่ายจะกล้าเข้าหาเขาถึงขั้นนี้ในสถานที่ที่ไม่ได้เป็นส่วนตัวอะไรเลย มันโจ่งแจ้งยิ่งกว่าตอนที่จูบกับเขาในห้องน้ำคืนนั้นซะอีก
“อิ้งเลียแค่ปลายคางเฮียมายังอึ้งขนาดนี้ ถ้าโดนอิ้งเลียตรงอื่นเฮียมาจะอึ้งขนาดไหนกันครับ”
“ผมเตือนคุณแล้วนะอิ้ง ว่าไม่ควรมายุ่งกับผม” มาเฟียเริ่มใช้น้ำเสียงเข้มดุดันใส่เด็กที่ชอบทำอะไรเอาแต่ใจตัวเอง
ทว่าคำเตือนของมาเฟียมันไม่ได้ทำให้อิ้งอยากหยุดหรืออยากไปจากอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เพราะยิ่งมาเฟียปิดโอกาสให้กับเขามากเท่าไร อิ้งก็ยิ่งอยากจะสร้างโอกาสระหว่างเขากับเฮียมามากขึ้นเท่านั้น ยิ่งอีกฝ่ายไม่อยากให้เข้าใกล้ เขายิ่งอยากเข้าหา โดยเฉพาะยิ่งอีกฝ่ายไม่อยากได้เขา เขายิ่งอยากทำให้เฮียมาเป็นของเขา และต้องเป็นของเขาแค่คนเดียวเท่านั้น
“แล้วไงครับ”
“s**t!” คนโตกว่าถึงขั้นสบทออกมาเป็นภาษาบ้านเกิด ตอนนี้เหมือนเขากับอิ้งกำลังคุยกันคนละเรื่องไม่มีผิด ยิ่งคุยยิ่งไม่เข้าใจ
ร่างสูงยืนเอามือเท้าเอว ดวงตาสองข้างปิดสนิท พยายามระงับสติอารมณ์ที่มันอยากจะระเบิดออกมา เพราะถูกอีกฝ่ายกระตุ้นด้วยความเจ้าเล่ห์และความยียวนในการพูดการจาทุกคำ จนกระทั่งนึกขึ้นได้ว่าถ้าเขาคุยกับอิ้งไม่รู้เรื่องทำไมเขาไม่พาตัวเองเดินออกไปจากตรงนี้ซะล่ะ จะมัวยืนคุยอยู่ทำไมตั้งนานแต่
กว่าจะรู้ตัว ลืมตาขึ้นมาเขาก็เห็นใบหน้าสวยยืนยิ้มให้ด้วยความรู้ทันไปซะแล้ว
Shit! เขาตกหลุมพรางที่เด็กมันขุดทิ้งไว้ จนเด็กมันรู้จนได้ว่าข้างในลึกๆเขาก็อยากจะพูดคุยด้วย แต่ลึกของเขามันคือก้นบึ้งของความคิดที่ไม่เคยมีใครขุดขึ้นมาได้ นอกจากคนที่ยืนยิ้มพอใจอยู่ตอนนี้
“เฮียมาจำสัมผัสลิ้นของอิ้งไว้ให้ดีนะครับ เพราะอีกไม่นานหรอก ลิ้นของอิ้งจะไปเลียเฮียทั้งตัว”
คำพูดของคนตัวเล็กทำคนฟังร้อนวูบวาบได้ไม่ยากเลย คำพูดมันไม่ได้ทำให้มาเฟียรู้สึกอะไรมากขนาดนั้น แต่ดวงตาสีเข้มที่ค่อยๆไล่มองร่างกายกำยำของเขาทีละจุดต่างหากที่ชวนให้ร้อนรุ่ม อิ้งไม่ได้มองเขาแค่ผ่านๆหรือมองแบบยั่วยุ แต่อิ้งกลับมองเขาด้วยแววตาที่แสดงออกว่าหลงใหลในตัวเขามาก ชนิดที่เขายังอ่อนยวบเมื่อได้เห็นสายตาแบบนั้น สมกับทุกคำพูดที่เคยบอกว่าอยากได้เขาซะเหลือเกิน
มาเฟียเก็บทุกความคิดไว้ในหัว ทำเป็นเมินให้กับสายตาที่เมื่อครู่หลงมองไปแล้วเกิดการเสียอาการ ร่างสูงกระแอมเสียงดังเรียกสติและความมั่นใจของตัวเองขึ้นมาใหม่ ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจร่างบอบบางที่ยืนยิ้มให้เขาแล้วเดินเบี่ยงหนีออกมา แต่ก็ยังไม่วายถูกอิ้งยั่วยุแม้กระทั่งวินาทีสุดท้ายที่เดินเฉียดแขนกัน
ปลายนิ้วก้อยเล็กขยับยื่นออกมาเกลี่ยกับนิ้วก้อยของเขา เมื่อเขากำลังเดินเบี่ยงหลบออกไป คนตัวเล็กแอบขำในลำคอที่เห็นคนโดนสะกิดนิ้วก้อยแอบสะดุ้ง ตอนที่เขาเกลี่ยนิ้วเข้าหาโดยไม่ทันตั้งตัว
“ถ้าอิ้งอยากได้เฮียมาเฟียคืนนี้เลย เฮียเทาจัดการให้อิ้งได้ไหม” อิ้งหันหน้ากลับไปถามผู้ที่ยืนดูเหตุการณ์ระหว่างเขากับเฮียมามาได้สักระยะ เพราะมาเฟียยืนหันหลังให้กับมุมเสาเลยไม่เห็นว่าเทาเย่ยืนดูพร้อมกับจิบไวน์ในมือไปด้วย ต่างจากคนที่หันประจันหน้าแบบอิ้ง ที่เห็นสายตาเจ้าเล่ห์หวังผลประโยชน์ของเฮีย
เทามันเต็มๆเลยแหละ
“อย่าใจร้อนสิคะ เฮียชักอยากรู้แล้วสิว่าไอ้มาเฟียเนี่ยมันมีดีอะไร คนสวยของเฮียถึงอยากได้มากขนาดนี้”
“มีเยอะเลยแหละเฮีย เยอะจนปล่อยให้เป็นของใครไม่ได้ จะต้องเป็นของอิ้งคนเดียวเท่านั้น แล้วถ้าเฮียทำให้อิ้งพลาดจากเฮียมาละก็…ทั้งเฮียทั้งเฮียมาจะไม่มีใครได้ใช้ชีวิตสงบแน่” เทาเย่ได้แต่ยืนฟังนิ่ง
สำหรับคนอื่นอาจจะคิดว่าคนตัวเล็กน่าทะนุถนอมคนนี้อาจจะแค่ขู่ให้กลัว แต่สำหรับเขาที่รู้จักอิ้งมาพอๆกับที่รู้จักซันเขาย่อมรู้ดีว่าสิ่งที่อิ้งพูดมาทั้งหมด เด็กคนนี้มันกล้าทำแน่ๆและอาจจะทำมากกว่าที่พูดไว้ด้วย
“ถ้าเร็วที่สุดที่เฮียจะจัดการให้หนูอิ้งได้คือคืนวันศุกร์นี่นะ ที่โรงแรมXX งานระดับสมาชิกVVIPของสายงานเฮีย หนึ่งในนั้นมีมาเฟียด้วย แต่เฮียทำได้แค่เปิดโอกาสให้อยู่กับมันแค่สองคนนะคะ ถ้ามากกว่านั้นตอนนี้เฮียยังทำให้ไม่ได้ แต่เสน่ห์เหลือร้ายอย่างหนูอิ้งนี่...ไอ้มาเฟียไม่น่าจะต้านทานไหวนะคะ”
“แน่แหละ ถ้าเราอยากจะโปรยเสน่ห์ให้ใคร มีใครจะไม่หลงบ้างล่ะ” เทาเย่กระตุกยิ้ม เขาล่ะโคตรชอบอะไรที่ท้าทายแบบอิ้งที่สุดเลย แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายเป็นเพื่อนคู่หมั้นที่เป็นว่าที่ภรรยาของเขาในอนาคตอันใกล้นี่เสียได้